‘อิ๊ง’ นำทัพ บุกปากน้ำ อ้อนเลือก เพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ รับปากปีหน้าค่าแรงขึ้นแน่
https://www.matichon.co.th/election66/news_3898351
‘อิ๊ง’ นำทัพ ‘เพื่อไทย’ บุกปากน้ำอ้อนเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ รับปากปีหน้าค่าแรงขึ้นแน่ ‘ชลน่าน’ เหน็บ 3 ป. ปากบอกก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่เป็นต้นตอเอง ขณะที่ ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ โผล่ร่วมเวทีแรก
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ศาลากลาง จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นาย
พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นาย
สุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นาย
สมศักดิ์ เทพสุทิน นาย
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รวมทั้งนาย
วรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการทั้ง 8 เขต ประกอบด้วย 1.น.ส.
แพรวพรรณ พุกพิบูลย์ 2.นาย
ภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ 3.นาย
ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย 4.นาง
สัมฤทธิ์ เหมะ 5.นาย
นิธิพล บุญเพ็ชร 6.น.ส.
นฤมล ธารดำรงค์ 7.นาย
ประชา ประสพดี 8.นาง
สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ โดยมีประชาชนสวมเสื้อแดงร่วมฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่
โดย นพ.
ชลน่านปราศรัยว่า วันนี้พรรค พท.ยกชุดใหญ่มา จ.สมุทรปราการ นำโดย น.ส.
แพทองธาร คนที่พี่น้องอยากให้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีมากที่สุดจากทุกโพล ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม เป็นโอกาสของพี่น้อง ถ้าพวกเรารักประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ เตรียมปากกา กา พท.ทั้งคนทั้งพรรค ถ้าเราไม่ใช้โอกาสนี้ตัดสินชะตาอนาคตประเทศและพวกเราเอง ถ้าเราเลือกผิด คิดผิด ไม่คิดใหญ่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราจะกลับไปอยู่กับ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพวก พี่น้องต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ไม่มีคำว่ารักพี่เสียดายน้อง ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่มีเลือกคนอื่น แล้วอีกใบเลือกพรรค พท. เลือกพ่วงเราจะร่วงกันทั้งหมด ดังนั้น 14 พฤษภาคมเข้าคูหากา พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
“
ตอนนี้พรรคเพื่อไทยชนะทุกโพลแต่ได้เพียง 164 เสียง ดังนั้น พี่น้องต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถึงเป้า 310 เสียง ที่ผ่านมาเราได้รับโอกาสจากพี่น้องสมุทรปราการมาโดยตลอด ยกเว้นปี 2562 เกิดอะไรขึ้นเราไม่ทราบด้วยกฎหมายหรือวิธีการต่างๆ แต่ปีนี้เราหมายมั่นปั้นมือ ในเวทีนี้ผมขอประกาศเป็นคำมั่น ว่าผู้สมัครทั้ง 8 คนของสมุทรปราการจะเข้าไปทำงาน เข้าถึงเพื่อรับใช้พี่น้อง และเข้าไปเลือกแคนดิเดตของพรรคไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เราต้องกล้าเปลี่ยน เอา 3 ป.ออกไป ซึ่งเขาทำท่าทีขัดแย้งแยกพรรคกัน แล้วประกาศว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ถามว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต้นเหตุก็มาจาก 3 ป.ทั้งนั้น” นพ.
ชลน่านกล่าว
ขณะที่ น.ส.
แพทองธารปราศรัยว่า วันนี้ดีใจอย่างมากที่มาเจอพี่น้องด้วยตัวเอง วันนี้ถึงร่างกายจะ 50 : 50 แต่ใจเกินร้อยแน่นอน ขอให้พี่น้องเลือกพรรค พท.สมุทรปราการทั้ง 8 เขต สมัยพรรคไทยรักไทยตอนคุณพ่อ (นาย
ทักษิณ ชินวัตร) เป็นนายกรัฐมนตรี มีโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นสนามบินก็กลายเป็นที่ต่างชาติเข้ามา เกิดอาชีพมากมายให้พี่น้อง สร้างรายได้ เราคิดใหญ่ ถ้า พท.เป็นรัฐบาล ปี 2567 ค่าแรงปรับขึ้นแน่นอน และภายใน 4 ปีค่าแรงจะปรับขึ้นเป็น 600 บาทแน่นอน นอกจากนี้เรายังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมากมาย ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวสมุทรปราการเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ไปเลย
‘พิธา’ ลุยฝั่งธนฯ ขอปชช.กาก้าวไกล เลือกคนรุ่นใหม่ ไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ
https://www.matichon.co.th/election66/movement/news_3898367
‘พิธา’ ลุยฝั่งธนฯ ขอ ปชช.กาก้าวไกล เลือกคนรุ่นใหม่ ไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ ด้าน ‘เท่าพิภพ’ ลั่น กลับเข้าสภาอีกสมัย ดันสุราก้าวหน้าเป็นจริง
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นาย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 24 ครอบคลุมเขตธนบุรี (ยกเว้นแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจี และแขวงบางยี่เรือ) เขตคลองสาน และเขตราษฎร์บูรณะ (เฉพาะแขวงบางปะกอก) ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดกระต่ายมั่งคั่ง ตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ
นาย
พิธากล่าวว่า กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ กทม.ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่อความนิยมของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนทำงานอย่างแข็งขัน และยิ่งใกล้เลือกตั้งยิ่งทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อให้เราได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้าไปเป็นฝ่ายบริหาร ผลักดันทั้ง 9 เสานโยบายให้เป็นจริง โดยทุกนโยบายล้วนผ่านกระบวนการคิดและกระบวนการออกแบบการสื่อสาร ตั้งใจเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เราเสนอว่าต้องกล้าชนกลุ่มทุนสินค้าเกษตรที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม หรือการปลดล็อกสุราก้าวหน้า ซึ่งเป็นกฎหมายที่เท่าพิภพเป็นผู้เสนอ เพื่อกระจายผลประโยชน์ในธุรกิจสุราออกจากทุนใหญ่ไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อย เชื่อว่าผลงานในสภาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จะทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจมากขึ้น เป็นสิ่งที่สื่อสารได้ดีที่สุดว่าการทำงานการเมืองแบบพรรค ก.ก. มีความแตกต่าง เป็นการทำงานที่ซื่อตรงต่อประชาชน กล้าคิด กล้าทำ กล้าดันเพดานของสังคมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างเต็มศักยภาพแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
นาย
พิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.มีแคนดิเดตนายกฯเพียงคนเดียว เรายืนยันเรื่องนี้กับพี่น้องประชาชนอย่างตรงไปตรงมาโดยตลอด ไม่มีอะไรซับซ้อน ทั้งนี้นายกฯควรเป็น ส.ส. ตามหลักการที่มาจากการต่อสู้และสละชีวิตของประชาชนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 จนทำให้เรื่องนี้ถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญ 2540
ด้าน
เท่าพิภพกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ต่อเนื่อง พี่น้องประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และหากถามความแตกต่างระหว่างการเลือกตั้งปี 2562 กับปีนี้ ตนเห็นว่าพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากผลงานที่พิสูจน์มาแล้วตลอด 4 ปี ไม่ใช่กระแสที่ฉาบฉวยแต่เป็นผลงานรูปธรรมที่ทำให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่าตนจะเป็นผู้แทนที่เข้าไปเป็นปากเสียง ทำงานคุ้มค่าเงินภาษี ส่วนที่มีบางกระแสบอกว่าเลือกพรรค ก.ก.ไปก็แพ้นั้น ตนขอว่าอย่าปล่อยให้กระแสความคิดนี้ครอบงำ ทุกคะแนนที่เลือกพรรค ก.ก.จะไม่เสียของ เพราะเราทำงานเต็มที่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสของทั้งประชาชนและพรรคการเมืองในการกำหนดทิศทางของประเทศและการเมืองไทยให้เป็นแบบที่เราอยากเห็น ดังนั้น ทุกคนเลือกพรรค ก.ก.อย่างถล่มทลาย ชัยชนะก็จะเป็นของพรรค ก.ก. ไม่มีอะไรซับซ้อน
ส.อ.ท. ทำโพลเสนอ 5 เรื่องด่วน ขอรัฐบาลใหม่ทำภายใน 90 วัน ยื่น 9 พรรคขึ้นเวทีดีเบต
https://www.matichon.co.th/economy/news_3898104
ส.อ.ท. ทำโพลเสนอ 5 เรื่องด่วน ขอรัฐบาลใหม่ทำภายใน 90 วันแรก ยื่น 9 พรรคการเมืองในเวทีดีเบต
นาย
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้มอบหนังสือเอกสารข้อสรุปผลการสำรวจความเห็นภาคอุตสาหกรรมครั้งที่ 27 (FTI Poll) จากผู้ตอบแบบสอบถาม 427 คนเรื่อง”
สิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการใน 90 วันแรก” ให้กับตัวแทน 9 พรรคการเมืองหลักในเวทีเสวนาเรื่อง “
วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย” โดย 9 พรรคการเมือง ในงานประชุมสามัญประจำปี 2566 วันที่ 28 มี.ค. เพื่อฝากเป็นการบ้านให้ช่วยพิจารณาเมื่อได้เป็นรัฐบาล โดยผลสำรวจมี 5 ประเด็นสำคัญดังนี้
1. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งแก้ไขปัญหาภาคพลังงานและค่าไฟในเรื่องใดซึ่งพบว่า 77.8% ต้องการให้ปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซฯ และปรับลดสัดส่วนเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟให้สมดุล ความเห็น 70% ต้องการให้พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft)เดือนก.ย.-ธ.ค. 66 ให้ลดลงมาเพื่อลดภาระผู้ประกอบการ 50.6% แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เอกชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาพลังงาน(กรอ.)พลังงาน เป็นต้น
2. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งแก้ไขปัญหา ต้นทุนวัตถุดิบแพงและการสร้างความปลอดภัยให้กับห่วงโซ่การผลิต(Supply Chain Security ) ในเรื่องใดโดยพบว่า 65.3% ขอให้มีการทบทวนปรับลดโครงสร้างภาษีนำเข้าในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบที่ไม่กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ,รองลงมา 58.3% ลดขั้นตอนและค่าธรรมเนียมด้านศุลกากรและส่งเสริมการใช้งานแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย, 54.6%การจัดทำแผนพัฒนาและรองรับปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ฯลฯ
3. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งแก้ไขปัญหาต้นทุนทางการเงินในภาคธุรกิจอย่างไร โดยพบว่า 60% ต้องการให้ออกมาตรการช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตให้แก่SMEsที่อยู่ในระบบภาษี เช่น ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าธรรมเนียมต่างๆ ฯลฯ รองลงมาได้แก่ ปรับปรุงเงื่อนไขการขอรับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนสำหรับSMEsให้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น,ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน ฯลฯ
4. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรแก้ไขปัญหาแรงงานอย่างไร พบว่า 65.8% สนับสนุนการจ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือและรัฐปรับปรุงระบบสวัสดิการแรงงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับแรงงาน รองลงมาคือการจัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนการเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานเพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจยุคใหม่เป็นต้น
5. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไร 74.7% ต้องการให้ปรับปรุงกฏหมายรองที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติอนุญาตภาครัฐและที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ รวมทั้งยกเลิกกฏหมายที่ล้าสมัย 62.1% ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ฮั้วประมูลเป็นต้น
สำหรับกิจกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการประชุมสามัญประจำปี 2566 ก็คือเปิดเวทีดีเบตที่ได้เชิญตัวแทน 9 พรรคการเมืองมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ได้แก่
1)นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
2) ผศ.
สันติ กีระนันทน์ กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา
3) นาย
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า
4) นาย
สุพันธุ์ มงคลสุรี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย
5) นาย
เกียรติ สิทธิ์อมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์
6) นาย
อุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ
7) นายแพทย์
พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย
8) นางสาว
ภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัครเขตดินแดง-พญาไท พรรคภูมิใจไทย
และ 9) นาย
สุชาติ ชมกลิ่น กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ
JJNY : ‘อิ๊ง’ นำทัพ บุกปากน้ำ│‘พิธา’ลุยฝั่งธนฯ ส.อ.ท. ทำโพลเสนอ 5 เรื่องด่วน│เปิดปฏิบัติการโต้กลับในฤดูใบไม้ผลิของยูเครน
https://www.matichon.co.th/election66/news_3898351
‘อิ๊ง’ นำทัพ ‘เพื่อไทย’ บุกปากน้ำอ้อนเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ รับปากปีหน้าค่าแรงขึ้นแน่ ‘ชลน่าน’ เหน็บ 3 ป. ปากบอกก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่เป็นต้นตอเอง ขณะที่ ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ โผล่ร่วมเวทีแรก
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ศาลากลาง จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รวมทั้งนายวรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการทั้ง 8 เขต ประกอบด้วย 1.น.ส.แพรวพรรณ พุกพิบูลย์ 2.นายภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ 3.นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย 4.นางสัมฤทธิ์ เหมะ 5.นายนิธิพล บุญเพ็ชร 6.น.ส.นฤมล ธารดำรงค์ 7.นายประชา ประสพดี 8.นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ โดยมีประชาชนสวมเสื้อแดงร่วมฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่
โดย นพ.ชลน่านปราศรัยว่า วันนี้พรรค พท.ยกชุดใหญ่มา จ.สมุทรปราการ นำโดย น.ส.แพทองธาร คนที่พี่น้องอยากให้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีมากที่สุดจากทุกโพล ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม เป็นโอกาสของพี่น้อง ถ้าพวกเรารักประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ เตรียมปากกา กา พท.ทั้งคนทั้งพรรค ถ้าเราไม่ใช้โอกาสนี้ตัดสินชะตาอนาคตประเทศและพวกเราเอง ถ้าเราเลือกผิด คิดผิด ไม่คิดใหญ่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราจะกลับไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพวก พี่น้องต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ไม่มีคำว่ารักพี่เสียดายน้อง ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่มีเลือกคนอื่น แล้วอีกใบเลือกพรรค พท. เลือกพ่วงเราจะร่วงกันทั้งหมด ดังนั้น 14 พฤษภาคมเข้าคูหากา พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
“ตอนนี้พรรคเพื่อไทยชนะทุกโพลแต่ได้เพียง 164 เสียง ดังนั้น พี่น้องต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถึงเป้า 310 เสียง ที่ผ่านมาเราได้รับโอกาสจากพี่น้องสมุทรปราการมาโดยตลอด ยกเว้นปี 2562 เกิดอะไรขึ้นเราไม่ทราบด้วยกฎหมายหรือวิธีการต่างๆ แต่ปีนี้เราหมายมั่นปั้นมือ ในเวทีนี้ผมขอประกาศเป็นคำมั่น ว่าผู้สมัครทั้ง 8 คนของสมุทรปราการจะเข้าไปทำงาน เข้าถึงเพื่อรับใช้พี่น้อง และเข้าไปเลือกแคนดิเดตของพรรคไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เราต้องกล้าเปลี่ยน เอา 3 ป.ออกไป ซึ่งเขาทำท่าทีขัดแย้งแยกพรรคกัน แล้วประกาศว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ถามว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต้นเหตุก็มาจาก 3 ป.ทั้งนั้น” นพ.ชลน่านกล่าว
ขณะที่ น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า วันนี้ดีใจอย่างมากที่มาเจอพี่น้องด้วยตัวเอง วันนี้ถึงร่างกายจะ 50 : 50 แต่ใจเกินร้อยแน่นอน ขอให้พี่น้องเลือกพรรค พท.สมุทรปราการทั้ง 8 เขต สมัยพรรคไทยรักไทยตอนคุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) เป็นนายกรัฐมนตรี มีโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นสนามบินก็กลายเป็นที่ต่างชาติเข้ามา เกิดอาชีพมากมายให้พี่น้อง สร้างรายได้ เราคิดใหญ่ ถ้า พท.เป็นรัฐบาล ปี 2567 ค่าแรงปรับขึ้นแน่นอน และภายใน 4 ปีค่าแรงจะปรับขึ้นเป็น 600 บาทแน่นอน นอกจากนี้เรายังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมากมาย ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวสมุทรปราการเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ไปเลย
‘พิธา’ ลุยฝั่งธนฯ ขอปชช.กาก้าวไกล เลือกคนรุ่นใหม่ ไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ
https://www.matichon.co.th/election66/movement/news_3898367
‘พิธา’ ลุยฝั่งธนฯ ขอ ปชช.กาก้าวไกล เลือกคนรุ่นใหม่ ไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ ด้าน ‘เท่าพิภพ’ ลั่น กลับเข้าสภาอีกสมัย ดันสุราก้าวหน้าเป็นจริง
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 24 ครอบคลุมเขตธนบุรี (ยกเว้นแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจี และแขวงบางยี่เรือ) เขตคลองสาน และเขตราษฎร์บูรณะ (เฉพาะแขวงบางปะกอก) ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดกระต่ายมั่งคั่ง ตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ
นายพิธากล่าวว่า กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ กทม.ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่อความนิยมของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนทำงานอย่างแข็งขัน และยิ่งใกล้เลือกตั้งยิ่งทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อให้เราได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้าไปเป็นฝ่ายบริหาร ผลักดันทั้ง 9 เสานโยบายให้เป็นจริง โดยทุกนโยบายล้วนผ่านกระบวนการคิดและกระบวนการออกแบบการสื่อสาร ตั้งใจเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เราเสนอว่าต้องกล้าชนกลุ่มทุนสินค้าเกษตรที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม หรือการปลดล็อกสุราก้าวหน้า ซึ่งเป็นกฎหมายที่เท่าพิภพเป็นผู้เสนอ เพื่อกระจายผลประโยชน์ในธุรกิจสุราออกจากทุนใหญ่ไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อย เชื่อว่าผลงานในสภาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จะทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจมากขึ้น เป็นสิ่งที่สื่อสารได้ดีที่สุดว่าการทำงานการเมืองแบบพรรค ก.ก. มีความแตกต่าง เป็นการทำงานที่ซื่อตรงต่อประชาชน กล้าคิด กล้าทำ กล้าดันเพดานของสังคมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างเต็มศักยภาพแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
นายพิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.มีแคนดิเดตนายกฯเพียงคนเดียว เรายืนยันเรื่องนี้กับพี่น้องประชาชนอย่างตรงไปตรงมาโดยตลอด ไม่มีอะไรซับซ้อน ทั้งนี้นายกฯควรเป็น ส.ส. ตามหลักการที่มาจากการต่อสู้และสละชีวิตของประชาชนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 จนทำให้เรื่องนี้ถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญ 2540
ด้านเท่าพิภพกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ต่อเนื่อง พี่น้องประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และหากถามความแตกต่างระหว่างการเลือกตั้งปี 2562 กับปีนี้ ตนเห็นว่าพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากผลงานที่พิสูจน์มาแล้วตลอด 4 ปี ไม่ใช่กระแสที่ฉาบฉวยแต่เป็นผลงานรูปธรรมที่ทำให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่าตนจะเป็นผู้แทนที่เข้าไปเป็นปากเสียง ทำงานคุ้มค่าเงินภาษี ส่วนที่มีบางกระแสบอกว่าเลือกพรรค ก.ก.ไปก็แพ้นั้น ตนขอว่าอย่าปล่อยให้กระแสความคิดนี้ครอบงำ ทุกคะแนนที่เลือกพรรค ก.ก.จะไม่เสียของ เพราะเราทำงานเต็มที่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสของทั้งประชาชนและพรรคการเมืองในการกำหนดทิศทางของประเทศและการเมืองไทยให้เป็นแบบที่เราอยากเห็น ดังนั้น ทุกคนเลือกพรรค ก.ก.อย่างถล่มทลาย ชัยชนะก็จะเป็นของพรรค ก.ก. ไม่มีอะไรซับซ้อน
ส.อ.ท. ทำโพลเสนอ 5 เรื่องด่วน ขอรัฐบาลใหม่ทำภายใน 90 วัน ยื่น 9 พรรคขึ้นเวทีดีเบต
https://www.matichon.co.th/economy/news_3898104
ส.อ.ท. ทำโพลเสนอ 5 เรื่องด่วน ขอรัฐบาลใหม่ทำภายใน 90 วันแรก ยื่น 9 พรรคการเมืองในเวทีดีเบต
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้มอบหนังสือเอกสารข้อสรุปผลการสำรวจความเห็นภาคอุตสาหกรรมครั้งที่ 27 (FTI Poll) จากผู้ตอบแบบสอบถาม 427 คนเรื่อง”สิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการใน 90 วันแรก” ให้กับตัวแทน 9 พรรคการเมืองหลักในเวทีเสวนาเรื่อง “วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย” โดย 9 พรรคการเมือง ในงานประชุมสามัญประจำปี 2566 วันที่ 28 มี.ค. เพื่อฝากเป็นการบ้านให้ช่วยพิจารณาเมื่อได้เป็นรัฐบาล โดยผลสำรวจมี 5 ประเด็นสำคัญดังนี้
1. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งแก้ไขปัญหาภาคพลังงานและค่าไฟในเรื่องใดซึ่งพบว่า 77.8% ต้องการให้ปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซฯ และปรับลดสัดส่วนเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟให้สมดุล ความเห็น 70% ต้องการให้พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft)เดือนก.ย.-ธ.ค. 66 ให้ลดลงมาเพื่อลดภาระผู้ประกอบการ 50.6% แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เอกชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาพลังงาน(กรอ.)พลังงาน เป็นต้น
2. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งแก้ไขปัญหา ต้นทุนวัตถุดิบแพงและการสร้างความปลอดภัยให้กับห่วงโซ่การผลิต(Supply Chain Security ) ในเรื่องใดโดยพบว่า 65.3% ขอให้มีการทบทวนปรับลดโครงสร้างภาษีนำเข้าในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบที่ไม่กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ,รองลงมา 58.3% ลดขั้นตอนและค่าธรรมเนียมด้านศุลกากรและส่งเสริมการใช้งานแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย, 54.6%การจัดทำแผนพัฒนาและรองรับปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ฯลฯ
3. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งแก้ไขปัญหาต้นทุนทางการเงินในภาคธุรกิจอย่างไร โดยพบว่า 60% ต้องการให้ออกมาตรการช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตให้แก่SMEsที่อยู่ในระบบภาษี เช่น ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าธรรมเนียมต่างๆ ฯลฯ รองลงมาได้แก่ ปรับปรุงเงื่อนไขการขอรับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนสำหรับSMEsให้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น,ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน ฯลฯ
4. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรแก้ไขปัญหาแรงงานอย่างไร พบว่า 65.8% สนับสนุนการจ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือและรัฐปรับปรุงระบบสวัสดิการแรงงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับแรงงาน รองลงมาคือการจัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนการเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานเพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจยุคใหม่เป็นต้น
5. ท่านคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไร 74.7% ต้องการให้ปรับปรุงกฏหมายรองที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติอนุญาตภาครัฐและที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ รวมทั้งยกเลิกกฏหมายที่ล้าสมัย 62.1% ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ฮั้วประมูลเป็นต้น
สำหรับกิจกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการประชุมสามัญประจำปี 2566 ก็คือเปิดเวทีดีเบตที่ได้เชิญตัวแทน 9 พรรคการเมืองมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ได้แก่
1)นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
2) ผศ.สันติ กีระนันทน์ กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา
3) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า
4) นายสุพันธุ์ มงคลสุรี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย
5) นายเกียรติ สิทธิ์อมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์
6) นายอุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ
7) นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย
8) นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัครเขตดินแดง-พญาไท พรรคภูมิใจไทย
และ 9) นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ