JJNY : 5in1 ชาวแม่สายรวมตัว│‘ทักษิณ’ไม่คุย‘วิรัช-ป้อม’│พท.แนะยกหูหาผู้นำเมียนมา│‘โรม’ขอศาลแจง│เศรษฐีจีนถูกรบ.ไล่กำราบ

อยู่ไม่ได้แล้ว! ชาวแม่สาย รวมตัวเรียกร้องภาครัฐ แก้ไข PM 2.5 อย่างจริงจังเสียที
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7581718

อยู่ไม่ได้แล้ว! ชาวแม่สาย รวมตัวเรียกร้องภาครัฐ แก้ไข PM 2.5 อย่างจริงจังเสียที ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทุกวันนี้ชาวบ้านอยู่อย่างลำบาก
 
27 พ.ค. 2566 – ที่ลานหน้าที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวแม่สายได้รวมตัวกันประมาณ 200 คน โดยมี นายเศวตยนต์ ศรีสมุทร รองประธานหอการค้าเชียงราย นายรชต ไชยวรรณ์ และ นายตระสัก ศรีธิพรรณ์ ตัวแทนเครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน อ.แม่สาย จัดกิจกรรมเรียกร้องให้แก้ไขไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน
 
โดยมีการรับบริจาคอุปกรณ์ น้ำดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อ นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันที่รุนแรงในขณะนี้ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมต้องการให้ภาครัฐเจรจาหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน ผลักดันให้เป็นวาระอาเซียน รวมผลักดันให้ภาคเอกชนที่ไปส่งเสริมทำการเกษตรได้แก้ไขปัญหาเพื่อลดการเผาป่าจนเกิดเป็นฝุ่นละอองพิษ
 
การเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ในช่วงนี้ ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปี นับตั้แต่เกิดปรากฎการณ์ฝุ่นหนาแน่นเมื่อปี 2554 เป็นต้นมา ดังนั้นจึงทำให้ชาวแม่สายไม่อาจจะทนอยู่ได้อีกต่อไปเพราะถ้าปล่อยเอาไว้ไม่ทำสิ่งใดปัญหาก็จะเกิดขึ้นทุกปีและอาจจะหนักยิ่งขึ้นไปอีก กิจกรรมครั้งนี้จึงคาดหวังให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญด้วย
 
นายสมยศ​ นิตยโรจน์ ชาวแม่สาย กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีนี้ปัญหาหมอกควันหนักมาก อยากให้รัฐเข้ามาแก้ไขแบบถาวร ไม่ใช่ว่ามาแก้เฉพาะหน้าแล้วปีหน้ามีอีก ถ้าไม่แก้ถาวรปีหน้าเราก็ออกมาเรียกร้องแบบนี้อีก ทุกวันนี้ชาวแม่สายอยู่อย่างทรมาน ทั้งเด็กและคนชราอยู่อย่างยากลำบาก
 
น.ส.ผกามาศ เวียร์รา รองประธารหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตอนนี้ต้องมาดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เกิดการจากเผาในประเทศเพื่อนบ้านหรือในประเทศของเรา ต้องมาคุยกัน อย่างในเรื่องการเผาวัชพืชจะต้องให้ความรู้ชาวบ้าน และรณรงค์ไม้ให้มีการเผาอย่างจริงจัง ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน  หลายภาคส่วนจะต้องคุยกันเพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกัน เราไม่สามารถแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเราเองได้
 
ทั้งนี้หลังจากยื่นหนังสือต่อทางนายอำเภอแม่สายแล้ว มวลชนมีแผนว่าจะเดินรณรงค์ไปยังบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย แต่เนื่องจากฝุ่นละอองหนาแน่นโดยกรมควบคุมมลพิษรายงานว่าที่ อ.แม่สาย มีค่า PM 2.5 หนาแน่นถึงระดับ 543 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงให้งดการเดินในที่โล่งเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ทำให้กลุ่มพลังมวลชนใช้รถยนต์ขับรณรงค์และสลายตัว


 
‘ทักษิณ’ ไม่คุย ‘วิรัช-ป้อม’ นานแล้ว!เพื่อไทยไม่โง่ยกตำแหน่งนายกฯให้ใคร
https://www.dailynews.co.th/news/2148012/

"ทักษิณ" ยืนยันไม่ได้คุย "วิรัช-ป้อม" นานแล้ว! เชื่อว่า "เพื่อไทย" ไม่โง่ยกตำแหน่งนายกฯ ให้ใคร.

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @ThaksinLive ตอบโต้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่ามีบางคนไปดีลกับพรรค พปชร. และให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นนายกฯ ระบุว่า 

ตอบวิรัช “เรื่องยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม” 

1. ผมไม่ได้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทย 
2. ผมไม่เคยสื่อสารกับคุณวิรัชมานานมากแล้ว อีกทั้งไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร มา 17 ปีแล้ว 
3. ผมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง เชื่อว่า พรรคไม่โง่พอที่จะยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม
 
https://twitter.com/ThaksinLive/status/1640261777433985024
 

 
เพื่อไทยแนะ ‘นายกฯ’ ยกหูหาผู้นำเมียนมา คุมการเผา ชง 7 ข้อรีบแก้ฝุ่น หากเห็นใจ ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3895625
 
‘เพื่อไทย’ เสนอ 7 ทางออกแก้ฝุ่น PM2.5 แนะ ‘ประยุทธ์’ สายตรงโทรหา ‘ผู้นำประเทศเมียนมา’ สั่งควบคุมการเผาในเมียนมาแก้ฝุ่นข้ามพรมแดน ลั่นหากเป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาทันที
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม พรรค พท. และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค พท. ร่วมแถลงข่าวกรณี PM2.5 กำลังฆ่าคนไทย ส่วนเกี่ยวข้องต้องเคลื่อนไหว ปล่อยตามมีตามเกิดไม่ได้
 
นายปลอดประสพกล่าวว่า พรรค พท.รู้สึกเป็นห่วงพี่น้องชาวภาคเหนือเป็นอย่างมาก วันนี้ถือเป็นวิกฤตทางมลภาวะทางอากาศที่ประเทศไทยได้ประสบมา ฝุ่น PM2.5 สูงถึง 656 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นตัวเลขที่อันตรายถึงชีวิต โดยฝุ่น PM2.5. ตอนนี้มาจากประเทศเมียนมาทั้งหมด ตามข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ พรรค พท.มีความเห็นว่าวิกฤตครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งระยะสั้นและระยะยาว จึงมีความจำเป็นที่จะสื่อสารไปถึงนายกรัฐมนตรี พรรคการเมือง หน่วยราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อเสนอ ดังนี้ 
 
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องโทรศัพท์ไปถึงผู้นำประเทศเมียนมาและผู้นำประเทศอื่นที่อยู่ใกล้กับ จ.เชียงราย โดยเฉพาะแม่สาย เพื่อขอร้องให้เมียนมาควบคุมการเผาที่ส่งผลให้เกิดฝุ่น PM2.5
 
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า
2. กระทรวงสาธารณสุขต้องแจกหน้ากากอนามัยคุณภาพดีให้ทั่วถึงโดยทันที
3. กระทรวงมหาดไทยต้องสั่งหยุดงาน ปิดโรงเรียน และประกาศห้ามออกนอกบ้านโดยสิ้นเชิง
4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาพัดลมให้ประชาชนเพื่อพัดฝุ่น PM2.5 ออกจากบ้าน
5. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องใช้ความเด็ดขาดและใช้อำนาจตามกฎหมายกับบริษัทต่างๆ เพื่อคุยให้ชัดเจนอย่างตรงไปตรงมา ถึงข้อตกลงที่มาที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะหรือความเสียหายต่อประเทศ
 
นายปลอดประสพกล่าวว่า 
6. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องสั่งการกรมอุทยานแห่งชาติให้ยุติการอนุญาตเลี้ยงวัว 15 ฝูงขนาดใหญ่ ในอุทยานแห่งชาติทันที เพราะกลุ่มผู้เลี้ยงวัวเหล่านี้คือกลุ่มผู้ที่เผาเพื่อให้ได้หญ้ามาเลี้ยงวัว และต้องสั่งห้ามเข้าไปเก็บเห็ดในอุทยาน เพราะผู้ที่เผาทำเพื่อให้เห็ดเกิดขึ้น 
และ 7. คณะกรรมกการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องมีการประชุมทบทวน เพื่อเปิดทางให้อุปกรณ์ช่วยเหลือฝุ่น PM2.5 เหล่านี้ไปยังประชาชนผ่านทางราชการ เพราะเวลานี้เป็นเรื่องเป็นเรื่องตาย
 
สิ่งที่ผมเรียนไปจำเป็นต้องดำเนินการทันทีในพื้นที่แม่สาย หรือพื้นที่ใดที่มี PM2.5 เกินกว่า 450 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต้องทำเหมือนกัน หวังว่านายกรัฐมนตรีจะเห็นใจและสงสารประชาชน ซึ่งถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้” นายปลอดประสพกล่าว
 
ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า ค่า PM2.5 ในประเทศไทยสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ พรรค พท.ห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพี่น้อง จ.เชียงราย  ได้พุ่งสูงไปถึง 600 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พล.อ.ประยุทธ์เมื่อได้ยินเสียงของพรรค พท.แล้วต้องรีบดำเนินการประสานงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยด่วน ทั้งนี้ มลภาวะทางอากาศเป็นปัญหาสำคัญ พรรค พท.ได้บรรจุนโยบายแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 นี้ไว้แล้ว หากได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขทันที


 
‘โรม’ ขอศาลแจง มีคนหนุนหลัง ‘อุปกิต’ หรือไม่ สงสัยปมส่งหลักฐานฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3895505
 
‘โรม’ ขอศาลแจง เหตุสงสัย ‘อุปกิต’ มีคนหนุนหลัง แอบส่งหลักฐานฟ้อง ‘พ.ต.ท.มานะพงษ์’
 
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ก.ก. แถลงถึงความคืบหน้ากรณี นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ อดีตสารวัตร กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.มานะพงษ์ใช้เอกสารหลักฐานที่มีการแปลเป็นเท็จในการยื่นขอหมายจับนายอุปกิตว่า ตนตั้งข้อสงสัยว่านายอุปกิตทราบได้อย่างไรว่าเอกสารที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ไปยื่นต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับตัวเองมีรายละเอียดอะไรบ้าง เพราะโดยปกติแล้วคนที่ทราบมีแค่ตำรวจกับศาลเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกจากมีคนอยู่เบื้องหลังคอยให้ความช่วยเหลือนายอุปกิต อยู่ตลอดเวลา และทำให้ตำรวจน้ำดีที่พยายามทำคดีนี้กลายเป็นคนที่ถูกดำเนินคดีเสียเอง

นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าวันนั้นไม่เกิดการถอนหมายจับ คำถามคือถ้าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ หากวันข้างหน้ามีพ่อค้ายาเสพติดที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพล ตำรวจน้ำดีที่ไหนจะกล้าทำคดีแบบนี้อีก ทั้งนี้ แม้ตนจะเชื่อมั่นว่า พ.ต.ท.มานะพงษ์จะสามารถสู้คดีได้ด้วยพยานหลักฐานต่างๆ และเจตนาที่บริสุทธิ์ในการทำหน้าที่ แต่ก็ไม่ควรที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นนี้
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ในกรณีนี้ศาลควรออกมาชี้แจงด้วยว่าในศาลมีใครเอาข้อมูลที่มีการยื่นขอหมายจับไปบอกนายอุปกิตด้วยหรือไม่ ไม่เช่นนั้นนายอุปกิตจะนำหลักฐานมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พ.ต.ท.มานะพงษ์ได้อย่างไร นอกจากนี้ หลักฐานที่อ้างว่ามีการแปลไม่ถูกต้องนั้น เท่าที่ตนตรวจสอบได้ พบว่าหลักฐานจำนวนมากเป็นภาพจากการแชตที่ภาษาอังกฤษไม่ได้ยาก และยังมีหลักฐานที่เป็นแชตภาษาไทยด้วย ส่วนที่มีการแปลผิดนั้นไม่ใช่สาระสำคัญที่จะทำให้ข้อเท็จจริงว่านายอุปกิตเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการฟอกเงินถูกลบล้างไปได้แต่อย่างใด ตนยังยืนยันได้ว่าจากหลักฐานที่มีอยู่สามารถนำไปดำเนินคดีและออกหมายจับ นายอุปกิตได้
 
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ยังคงรอความชัดเจนจากอัยการอยู่ว่าจะมีการยื่นฟ้องต่อนายอุปกิตหรือไม่ หลังจากไปติดตามที่สำนักงานอัยการมาก่อนหน้านี้ และได้รับคำตอบว่าสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะมีความชัดเจนในคดีของ นายอุปกิต ซึ่งตนอยากให้ทั้งสื่อมวลชนและสาธารณชนร่วมกันติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้คดีนี้เงียบหายไปเหมือนที่ผ่านมา
 
คดีนี้ ตุน มิน ลัต และอีกหลายๆ คน ถูกออกหมายจับ ดำเนินคดี และคัดค้านการประกันตัวไปแล้ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับการดำเนินการตามกฎหมายหมด แล้วทำไมเหลือเพียง ส.ว.ทรงเอคนเดียวที่ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากบุคคลอื่น หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ จึงอยากให้อัยการคิดถึงเรื่องนี้ให้ดี ไม่เช่นนั้นสังคมก็จะยังคงตั้งคำถามต่อไป” นายรังสิมันต์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่