ไม่ใช่เรื่อง บ้านใหญ่ ตระกูลโต พรรคนิยม พรรคดัง อะไรทั้งนั้น ชี้วัดกันที่ pm 2.5 
อบจ. มีหน้าที่ต้องบูรณาการได้ ถ้าไม่ได้ก็เรียกว่าทำงานไม่เป็น เพราะประชาชนเลือกป่าไม้ นายอำเภอ ผู้ว่าไม่ได้ ที่ใหญ่ที่สุดที่ให้เลือกได้และมีหน้าที่บริหารจังหวัดโดยตรงก็คือ อบจ.
1 เรื่อง pm 2.5 เชียงใหม่มีมานาน หรือถ้านับเป็นผลงาน คงเป็นผลงานของเก่าที่ทำอะไรไม่ได้สักเท่าไร ถ้าคนใหม่ๆมีนโยบายที่ทำได้ดีกว่า ก็มีโอกาสขนะเลือกตั้งมากกว่า แม้เพียงแค่คำพูดที่สวยหรู ก็ยังเอาไปฝันได้มากกว่า คนที่เคยทำไมใด้เลย
2 แล้วจังหวัดภาคเหนืออื่นๆ เช่นเชียงราย เจอ pm 2.5 หนักกว่าเชียงใหม่ ไม่เกี่ยวกับ นายก อบจ.หรอ??? 
--------จังหวัดภาคเหนืออื่นๆ เค้าเฉยๆกับ pm 2.5 ดังนั้น บ้านใหญ่ ตระกูลโต จึงมีผลมากกว่า และที่ผ่านมา มีเพียงแค่จังหวัดเดียวในปiะเทศนี้คือเชียงใหม่ ที่กล้าฟ้องลุงตู่ ในช่วงที่ลุงตู่ เป็นนายก จนชนะคดี https://www.youtube.com/watch?v=2aOW_kVjESg ศาลปกครองเชียงใหม่ พิพากษาภาคปชช.ชนะคดีฟ้อง ‘บิ๊กตู่-กก.สิ่งแวดล้อมฯ’ ละเลยหน้าที่แก้ปัญหาฝุ่นล่าช้า   ส่วนจังหวัดอื่น ไม่มี ไม่เคยฟ้อง เรียกว่าไม่สนใจก็คงได้
3 วัดที่ฝีมือ อบจ. มากกว่ารัฐบาล รัฐบาลลุงทหารทุกคนเห็นฝีมือแล้ว รัฐบาลลุงนิดท่านก็มาเปิดหน้าปั่นจักรยาน ทานข้าวโชว์ตัว แป้บๆ แล้วท่านก็กลับแล้ว เพราะบ้านของท่านๆ ไม่ได้อยู้เชียงใหม่ ท่านไม่ต้องอยู่ 24 ชั่วโมง อยู่กันเป็นเดือนๆอย่างคนเขียงใหม่ หากรัฐบาลแอ็คชั่นน้อยเกิน ประชาชนจะพึ่งใครได้อีกถ้าไม่ใช่ อบจ.
4  ตัวจังหวัดเชียงใหม่เอง ก็เผาไม่น้อยกว่าใคร จะมาอ้างลอยมาจากที่อื่น คงไม่ได้ 

            ถ้าผู้สมัครนายก อบจ.หน้าใหม่ๆ หาเสียงด้วยนโยบายจัดการ pm2.5 ได้เน้นๆ ก็อาจมีหวังชนะได้ โดยไม่ต้องไปกลัว  บ้านใหญ่ ตระกูลโต พรรคนิยม พรรคดัง อะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้เห็นยังเงียบๆอยู่ ออกมาเน้นให้ดังๆหน่อย ถ้านายก อบจ.เชียงใหม่ คนใหม่ ลดปัญหา pm2.5 ได้ ก็จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ นำประเทศเข้าสู่การเมืองรัฐไทยสมัยใหม่ได้แน่นอน