🧡มาลาริน🧡ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงเป้าจีดีพีโต 3.7% มองวิกฤตแบงก์ยืดเยื้อแต่ไม่รุนแรง ท่องเที่ยวขยับดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์

เพี้ยนแคปเจอร์ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดมุมมองทิศทางเศรษฐกิจ คงประมาณการจีดีพีปี 2566 ที่ 3.7% ขณะที่ปรับลดตัวเลขส่งออกลงจากเดิมที่ -0.5% มาที่ -1.2% ด้านการท่องเที่ยวขยับดีขึ้นตามสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี ประเมินวิกฤตธนาคารชาติตะวันตกต่อไทยอยู่ในกรอบจำกัด

*ปรับส่งออกติดลบเพิ่ม-รับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอ**

น.ส.ณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น คาดการณ์ว่าปัญหาภาคธนาคารจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าเดิม และมีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยบางไตรมาสในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งภาพความกังวลข้างต้นสะท้อนผ่านโมเมนตัมการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งล่าสุด (วันที่ 21-22 มีนาคม) ที่ผ่อนคันเร่งลงด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากช่วงก่อนเกิดปัญหาภาคธนาคารสหรัฐฯ ที่ตลาดมองว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 0.50% ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอลงมากกว่าเดิมน่าจะมีผลกระทบต่อไทยผ่านช่องทางการค้า โดยเฉพาะภาคการส่งออก ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อของไทยทยอยปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาพลังงานที่ลดลงตามการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับลดประมาณการเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 ลงมาที่ 2.8% จากเดิมที่ 3.2%

อย่างไรก็ตาม ไทยมีปัจจัยบวกที่ช่วยต้านผลกระทบข้างต้น คือ ภาคการท่องเที่ยว ที่น่าจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2566 ที่อาจสูงกว่าที่คาดไว้เดิมที่ 25.5 ล้านคน มาที่ 28.5 ล้านคน ทำให้ในภาพรวมแล้วจึงยังคงประมาณการจีดีพีสำหรับทั้งปี 2566 ไว้ที่ 3.7% ทั้งนี้ ทิศทางเศรษฐกิจไทยยังเต็มไปด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก จึงยังเป็นประเด็นที่ยังคงติดตามต่อไป

"ในรอบนี้เรายังคงประมาณการจีดีพีที่ 3.7% แต่ถ้าถามว่ามี down side หรือไม่ จะขึ้นอยู่กับปัจจัยในต่างประเทศที่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเสถียรภาพของธนาคารสหรัฐฯ-ยุโรป และปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มหดตัวเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในช่วงไตรมาส 2 ถือเป็นการถดถอยทางเทคนิค แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นเป็นวิกฤต ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีทิศทางลดลงตามราคาพลังงาน และค่าไฟฟ้าที่ขึ้นน้อยกว่าโดยได้ปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อมาที่ 2.8% จากเดิมที่ 3.2%"

https://mgronline.com/stockmarket/detail/9660000027170

เพี้ยนปักหมุด ยุบสภาแล้ว  เหตุการณ์ก็ยังไม่มีอะไรน่ากังวลนะคะ

เศรษฐกิจประเทศไทย การันดีโดยองค์กรต่างชาติ ว่าแข็งแกร่งไม่มีทางล้ม

ฝีมือรัฐบาลลุงตู่นี่แหละค่ะ....นานาเยี่ยม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่