อ.พรสันต์ ยก 2 เหตุผล ดัน ‘พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้พ.ร.บ.อุ้มหาย’ ขัดรธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3851662
 
 
อ.พรสันต์ ยก 2 เหตุผล ดัน ‘พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้พ.ร.บ.อุ้มหาย’ ขัดรธน.
 
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 
 
ภายใต้รัฐบาลคุณประยุทธ์ การออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อเลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในกรณีกฎหมายซ้อมทรมาน-อุ้มหายนะครับ แต่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วกับกฎหมายส่งเสริมสถาบันครอบครัวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา
 
ผมคิดว่าหากพูดกันตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้ว การตรา พ.ร.ก. ทำนองนี้น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ (Unconstitutional) และสอดคล้องตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติและหลักการที่อาจอธิบายโดยสรุปได้ดังนี้
 
1. การตรา พ.ร.ก. โดยคณะรัฐมนตรีเพื่อเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน-อุ้มหาย ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ กล่าวคือ ม.172 กำหนดให้ต้องเป็นกรณีฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้เท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่ากฎหมายได้ให้ช่วงเวลากับทางเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องได้เตรียมตัวราว 4 เดือนก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้จริงนับตั้งแต่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น จึงย่อมมิอาจกล่าวได้ว่า จะเป็นการฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนอย่างไรตามเงื่อนไขในการตรา พ.ร.ก. ตามรัฐธรรมนูญ

2. รัฐบาลต้องเข้าใจหลักการใช้อำนาจของตนเองเพื่อตรา พ.ร.ก. ด้วยว่า ตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้ว กรณีนี้เป็นการใช้อำนาจตรากฎหมายแทนฝ่ายนิติบัญญัติในเบื้องต้นอันเป็น “อำนาจตรากฎเกณฑ์กรณีพิเศษ” (Special decree-making power) ซึ่งรัฐธรรมนูญจะจำกัดการใช้อำนาจนี้โดยอนุโลมให้กระทำได้ก็เมื่อแต่เฉพาะเท่าที่จำเป็นและฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่สามารถใช้อำนาจในการประกาศใช้ พ.ร.ก. ประหนึ่งว่าเป็นอำนาจออกกฎหมายของตนเองแบบปกติทั่วไปได้
 
การออก พ.ร.ก. ของรัฐบาลที่ไม่ถูกต้องลักษณะเช่นนี้ เราควรต้องนำมาอธิบายและตักเตือนกัน มิฉะนั้นจะกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญอันจะเป็นการกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ

อนึ่ง ประเด็นว่าด้วยการใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีในการตรา พ.ร.ก. ตามหลักการทางรัฐธรรมนูญที่ถูกต้องนั้นอาจยังไม่มีการพูดถึงกันอย่างครบถ้วนลึกซึ้งมากนัก ซึ่งผมเองกำลังเขียนคำอธิบายอยู่ หากเสร็จแล้วจะได้ทำการนำเสนอให้ทุกท่านทราบต่อไปนะครับ

https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/10161074326855979

---

“สุทิน” หวังศาลรธน.ชี้ขาดแบ่งเขตเป็นธรรมสังคมยอมรับ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_509775/

“สุทิน”มองแบ่งเขตเป็นเครื่องมือเอาเปรียบ หวังศาลรธน.ชี้ขาดให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ เตือนกกต.ระมัดระวังให้มาก หากไม่เป็นธรรมปัญหาตามมาไม่จบ ฉะ 2 ลุงบลัฟประชานิยทำการเมืองน่าห่วง
 
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยื่นให้ตีความเรื่องจำนวนราษฎร ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ มองว่า การแบ่งเขตทำให้ได้เปรียบ-เสียเปรียบ และเป็นเครื่องมือเอาเปรียบด้วย ดังนั้น กกต. ต้องระมัดระวังเรื่องนี้ ทั้งนี้ ไม่ว่าศาลจะชี้ขาดออกมาอย่างไร หากผลออกมาไม่สอดคล้องกับพื้นฐานสากล แต่เชื่อว่า ศาลต้องออกมาในรูปแบบที่ทุกฝ่ายสบายใจ ยอมรับได้ อธิบายสังคมได้
 
ขณะเดียวกัน หากผลออกมา แต่การแบ่งเขตของ กกต. ยังไม่เป็นธรรมนั้น อาจมีคนไปยื่นร้องเรียนอีก โดยเชื่อว่า การแบ่งเขตไม่จบง่ายๆ แม้กระทั่งหลังการเลือกตั้ง
  
นอกจากนี้ นายสุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของพรรครวมไทยสร้างชาติ ลุงตู่ 1,000 และพรรคพลังประชารัฐ ลุงป้อม 700 ว่า ถือเป็นภาพสะท้อนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 2 คนนี้ มาด้วยกัน ซึ่งเคยดูแคลนนักการเมือง และโครงการประชานิยม
 
มักถามกลับเสมอว่าเอาเงินมาจากไหน แต่กลับเสนอนโยบายเสียเอง ในลักษณะเกทับกัน ทำให้เป็นการคิดนโยบายที่ไม่ได้ใช้สมอง คิดว่าทำตัวเลขแล้วง่าย ส่งผลให้ระบบการเมืองไม่พัฒนา พร้อมชี้ให้เห็นว่า เรื่องแค่นี้ยังเอาชนะกัน แล้วเรื่องใหญ่ระดับประเทศในอนาคตถือว่า “น่าห่วง”
  

---

 
ประชาธิปัตย์ งานเข้า อดีตกกต.ชี้ MV เช้าวันใหม่ ส่อผิดระเบียบหาเสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3851576
 
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำเอ็มวี เพลง เช้าวันใหม่ เพื่อใช้หาเสียงเลือกตั้ง โดยมีเนื้อหาดังนี้

“น่าจะเป็น อดีต กกต.ที่แย่ที่สุดจริง
 
มีผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ผมเป็นอดีต กกต.ที่แย่ที่สุด ไม่รู้เรื่องราว กฎหมายใด ๆ แล้วชอบออกมาแสดงความคิดเห็น ให้กลับอ่านกฎหมายเยอะ ๆ
 
ผมน้อมรับคำแนะนำ เลยกลับไปอ่านกฎหมายให้มากขึ้น พอไปอ่านระเบียบการเลือกตั้ง ของ กกต. ก็เลยพบว่า MV ของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงของ กกต.
 
ระเบียบการหาเสียงข้อ 18 บอกว่า ห้ามผู้สมัคร ที่เป็นนักร้อง ใช้ความสามารถทางวิชาชีพของตนเพื่อเอื้อประโยชน์หาเสียงให้แก่ผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมือง แต่ยกเว้นให้กรณีไม่มีอุปกรณ์การแสดง

สิ่งที่ปรากฏใน MV คือ
1. มีนักร้องคือ คุณ เมธี ลาบานูน เป็นผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนราธิวาส ของพรรคประชาธิปัตย์
2. MV. ดังกล่าว มีคุณเมธี เป็นผู้ร้อง และมีจังหวะดนตรี พร้อมอุปกรณ์การแสดง คือ ชุดกลอง และกลองสะบัดไชย
3. คนตีกลองชุด ผมไม่รู้จัก แต่คนตีกลองสะบัดไชย ที่ร่วมแสดงมหรสพ นั้นคล้ายคุณ ชวน หลีกภัยมาก
ผิดไม่ผิด ไม่ทราบ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของพรรคช่วยตอบเป็นความรู้ด้วย ก่อนที่จะมีคนไปร้อง กกต. ครับ
 
Cr.ภาพ : MV พรรคประชาธิปัตย์

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02ZKbEVXVxCaoV5WVLr1zYvwP1HgSE6kMi5GZYBKEjrmxdnq94Es2BsDvHrgdZH1nSl