JJNY : ต้องกินกี่ไม้ถึงจะอิ่ม?│‘พิจารณ์’ ชี้ประชุมล่มลากยาวแน่│บุกร้อง แรมโบ้ หลอกวิ่งเต้น│“อ.สุขุม”ฟันธง ปีกก้าวหน้าแรง

ต้องกินกี่ไม้ถึงจะอิ่ม? หนุ่มซื้อไก่ย่าง ไม้ละ 5 บาท ลั่น! นิ้วโป้งผมยังใหญ่กว่าอีก
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7490289
 
 
ต้องกินกี่ไม้ถึงจะอิ่ม? หนุ่มซื้อไก่ย่าง ไม้ละ 5 บาท ลั่น! นิ้วโป้งผมยังใหญ่กว่าอีก ชาวเน็ตเอ็นดูทั้งลูกค้า-แม่ค้า แถมแซว ขยันหนีบไก่ด้วยนะ
 
กลายเป็นไวรัลฮิต ชาวเน็ตแห่เอ็นดู เมื่อมีผู้ใช้บัญชี TIKTOK รายหนึ่งโพสต์ประสบการณ์ซื้อไก่ย่างไม้ละ 5 บาท แต่ไซซ์มินิเหลือเกิน พร้อมแคปชั่น “พิกัดไม่บอก ไม่ต้องมาตำกันนะ ไก่ย่าง 5 บาท
 
ซึ่งในคลิปเจ้าตัวก็หยิบไก่ย่างขึ้นมาโชว์พร้อมพูดไปขำไป “นี่คือไก่ย่าง 5 บาทนะครับ 5 บาทจริงไหม?(ขำ) ไอเxี้ย นิ้วโป้งกูยังใหญ่กว่าอีก ไอxิบหายเอ๊ย (ขำ) ไม่บอกพิกัดนะครับ ไม่ต้องมาตำกันนะ 5 บาทเอ้า โอเค ใหญ่กว่านิ้วโป้งนิดเดียว
 
ชาวเน็ตบอกทำใจ ยุคนี้ของแพง อะไรๆก็แพง ต้นทุนมันสูง แถมยังมีเอ็นดูแม่ค้าว่า “ขยันหนีบไก่ซะด้วย” เพราะลักษณะไก่เป็นแบบหนีบไม้ แล้วใช้ลวดรัด ไม่ใช่แบบเสียบ ซึ่งวิธีการหนีบไก่ ต้องใช้เวลาในการทำ ซึ่งชาวเน็ตก็มีวิเคราะห์ให้ด้วย ค่าไม้ค่าลวด 2 บาท ค่าไก่ 3 บาท ครบพอดี 5 บาท แซวกันสนุกสนาน งานฝีมือ สงสัยแพงค่าผูกลวด
 
ความคิดเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต :
• เขาก็ขยันเสียบไม้เนอะ
• น่ารัก
• แม่ค้าขยันแท้
• ตะมุตะมิ
• มีแต่หนังไม่มีเนื้อเลย
• ประเด็นหลักไม้หนีบด้วยนะ ไม่ใช่ไม้เสียบ ขยันเกิน
 


‘พิจารณ์’ ชี้ประชุมล่มลากยาวแน่ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ ยังวางเกมไม่นิ่ง ทู่ซี้ไม่ยุบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3804656

‘พิจารณ์’ ชี้ประชุมล่มลากยาวแน่ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ ยังวางเกมไม่นิ่ง เลยทู่ซี้ไม่ยุบสภา
 
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา คนที่ 2 และ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมสภา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เสนอให้นายกฯยุบสภา เพราะ ส.ส.และรัฐมนตรี ไม่เข้าประชุมจนทำให้สภาล่มต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้จนกว่าจะปิดสมัยประชุมสภาหรือไม่ว่า แน่นอนว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ไปตลอด แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังทู่ซี้ เพราะพรรค รทสช.ไม่พร้อมเลือกตั้ง รวมถึงกระบวนการ หรือเทคนิคทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งยังไม่พร้อม เช่น การแบ่งเขต และระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงยังไม่สามารถยุบสภาได้
  
นายพิจารณ์กล่าวต่อว่า การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของฝ่ายรัฐบาลก็ไม่มีเหลือแล้ว พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็แตกพรรคออกมาเป็นพรรค รทสช. จึงไม่สามารถควบคุมเสียงในสภาได้ ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง ก็ถูกนำมาใช้เป็นเกมทางการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่ง มากกว่าจะเป็นการพิจารณาเนื้อหาของกฎหมาย จึงกระทบต่อปัญหาองค์ประชุม นอกจากนี้ ในการประชุมสภาวันพฤหัสบดี ส.ส. ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเข้าประชุม เพราะจะมุ่งไปที่การลงพื้นที่เพื่อเตรียมตัวเลือกตั้ง
 
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.กังวลว่าเหตุการณ์สภาล่มจะกระทบต่อ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของตัวเองหรือไม่ นายพิจารณ์กล่าวว่า พรรค ก.ก.มีวิธีการหาเสียงและทำการเมืองที่แตกต่าง เพราะไม่มีฐานเสียงจัดตั้ง หรือการสร้างบุญคุณอะไรบางอย่างผ่านหัวคะแนน พรรค ก.ก.มีฐานเสียงออร์แกนิค หรือหัวคะแนนแบบธรรมชาติ ดังนั้น เราจึงพยายามรณรงค์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาเลือกตั้งให้มากที่สุด เพื่อเป็นผลดีกับฐานเสียงของพรรค ก.ก. ทั้งนี้ เหตุการณ์สภาล่มบ่อย จะส่งผลกระทบด้านลบต่อสภา ซึ่งเป็นเรื่องเอกภาพของรัฐบาล เป็นเหมือนอาหารที่หมดอายุแล้วแต่ยังต้องกินต่อไป
 


โดนแล้ว! บุกร้องนายกฯ ปม แรมโบ้ หลอกวิ่งเต้นโครงการรัฐ 600 ล.-ทำร้ายร่างกาย
https://ppantip.com/topic/40599924/comment1

วีระ นำผู้เสียหาย ร้อง ‘บิ๊กตู่’ รับผิดชอบ ปม แรมโบ้ ที่ปรึกษาของนายกฯ หลอกวิ่งเต้นวืด ประกวดราคาโครงการรัฐ 600 ล้าน-ถูกล็อกคอทำร้ายร่างกาย
 
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 นายวีระ สมความคิด อดีตประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชั่นพรรคเสรีรวมไทย พร้อมผู้เสียหาย ยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อเปิดเผยพฤติกรรมคนสนิทของพล.อ.ประยุทธ์ ตามที่มีผู้มาร้องเรียนกับตนว่า ถูกหลอกว่าสามารถวิ่งเต้นให้ชนะการประกวดราคาโครงการของรัฐได้เมื่อปีงบประมาณ 2563 มูลค่าเกือบ 600 ล้านบาท แต่สุดท้ายไม่ชนะการประกวดราคาดังกล่าว แต่เมื่อทวงถามเพื่อขอเงินคืน ปรากฏว่าไม่ได้รับเงินคืน และยังถูกทำร้ายร่างกายอีก
 
นายวีระ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายเสกสกล อัตราวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกฯ ได้ให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งโทรศัพท์หาตน เพื่อเคลียร์เป็นการส่วนตัว แต่ตนยืนยันว่าไม่ขอเคลียร์ส่วนตัว เพราะคิดว่าหากไปเคลียร์ส่วนตัวแล้วจะถูกอุ้มฆ่า จะทำอย่างไร ดังนั้นตนจึงเลือกที่จะมาพบนายเสกสกล ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้โอกาสชี้แจง นำหลักฐานมาหักล้าง ส่วนประเด็นเรื่องทุจริตคืออะไรนั้น นายเสกสกลรู้ดี
 
นายวีระ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเคยยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานอื่นมาแล้ว เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย. 2565 แต่ถูกล็อบบี้ว่านายเสกสกล จะยอมจ่ายเงินคืนให้เพื่อยุติเรื่อง และวันที่นัดเคลียร์ คือวันที่นายเสกสกล ไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งผู้เสียหายไปดักรอเพื่อเคลียร์ แต่นายเสกสกล ให้ลูกน้องมาขอร้องเขาว่าอย่าเพิ่งเข้ามาร้องเรียน พร้อมรับปากจะคืนเงินให้
 
กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เจอกับนายเสกสกล ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านจตุจักร โดยนายเสกสกล ทำท่าพูดดีกับผู้เสียหาย แต่สุดท้ายเข้ามาล็อกคอ และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย จนทำให้ผู้เสียหายนั้นทนไม่ได้ จึงมาร้องเรียนกับตน
 
นายวีระ กล่าวว่า ขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ ให้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว เพราะก่อนจะแต่งตั้งนายเสกสกล เป็นที่ปรึกษาของนายกฯนั้น ก็ไม่เคยเชื่อมั่นในพฤติกรรม จึงอยากถามว่า เรื่องนี้นายกฯ จะรับผิดชอบอย่างไร อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นกกต. เพื่อขอลาออกจากสมาชิกพรรคเสรีรวมไทยแล้ว เพราะต้องการให้สังคมเห็นว่าการขับเคลื่อนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง
 
นายวีระ กล่าวว่าตนไม่ได้ใส่ความ นายเสกสกล และ ไม่เกี่ยวข้องหวังผลทางการเมือง ตนจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด จะตามไปทุกที่ที่นายเสกสกลอยู่ บ่ายนี้ นายเสกสกล แถลงข่าวที่ไหน หรือวันไหน ตนจะตามไปถามข้อเท็จจริง และไม่เข้าใจทำไมนายเสกสกล ไม่กล้ามาพบตน กลัวอะไร เป็นถึงที่ปรึกษาของนายกฯ หรือกลัวความจริง ถ้าไม่ออกมาเจอกันก็จะบอกกับคนทั้งประเทศ ที่นายเสกสกลยอมจำนนด้วยหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ตนมีเอกสาร ภาพถ่าย และคลิปเสียงทั้งหมด ที่แสดงว่า นายเสกสกล มีพฤติกรรมเรียกรับเงิน และจะนำไปยื่นต่อป.ป.ช.ให้ตรวจสอบต่อไป
 
ด้าน นายเอก(นามสมมติ) เปิดเผย ว่า ก่อนหน้านี้ตนมายื่นเรื่องศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล กรณีข้อติดขัดจากการประมูลโครงการกำจัดขยะมูลฝอย ของกทม. ซึ่งได้ไปพบนายเสกสกล และนายเสกสกล รับปากจะช่วยเหลือ ซึ่งตนต้องเสียเงินให้นายเสกสกล ประมาณ 2 ล้านบาท ที่ผ่านมาพยายามทวงถามเงิน แต่เรื่องก็เงียบ ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนไปไปดักเจอนายเสกสกล แต่กลับถูกล็อกคอแล้วก็หนีมาได้ จึงออกมาร้องเรียนต่อนายวีระ เพราะเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย และไม่ต้องการให้ใครตกเป็นเหยื่อนายเสกสกลอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสกสกล เตรียมแถลงข่าวตอบโต้ในเรื่องดังกล่าว ในเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่