สภาโคม่าหนัก! ล่มทุกวัน ทำงานเปลืองภาษีประชาชน องค์ประชุมขาดถึง 70 คน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7467606
  
 
สภาล่มทุกวัน ทำงานเปลืองภาษีประชาชน พิจารณาพ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีฯ องค์ประชุมขาดถึง 70 คน สุชาติ แก้เกี้ยวเอาไว้ลงมติคราวหน้า
 
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2566 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่าย ซึ่งพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. และร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระ 1 การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น และเมื่อถึงช่วงตรวจสอบองค์ประชุม มีเพียง 217 เสียง ซึ่งเกินองค์ประชุมมาเพียง 1 เสียง และใช้เวลารอนานกว่าองค์ประชุมจะครบ รวมถึงช่วงการลงมติคะแนนก็เกินองค์ประชุมเพียง 1 เสียงเช่นกัน และใช้เวลานานในการเรียกสมาชิก ทั้งกดออด และขอให้สมาชิกไปตามส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) เข้ามาในห้องประชุมเพื่อช่วยให้มาลงมติให้ครบองค์ประชุม
  
กระทั่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. …. ก็ยังติดปัญหาในช่วงนับองค์ประชุมเช่นกัน โดยนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม แต่ดูเหมือนว่าจะยังขาดอีกจำนวนมาก
ทำให้ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พูดขึ้นว่า ความน่าจะเป็นไม่เกิดขึ้นเลย ตอนนี้มีสมาชิกแค่ 150 คนเอง นายสุชาติ จึงพูดขึ้นว่า “ขาดอีกเพียง 70 คนเอง” จนเรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกบางส่วน
  
ต่อมา นายสุชาติ จึงพูดขึ้นว่า “คงจะกลับบ้านเร็วอีกวันหนึ่งแล้ว เอาไว้ลงมติคราวหน้า” จากนั้นปิดการประชุมในเวลา 17.04 น.
  

---

‘อนุสรณ์’ แนะ ‘บิ๊กตู่’ อบรมลิ่วล้อ ‘ทิพานัน’ หยุดบิดเบือน เลิกการเมืองน้ำเน่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3779321

‘อนุสรณ์’ แนะ ‘บิ๊กตู่’ อบรมลิ่วล้อ ‘ทิพานัน’ หยุดบิดเบือน เลิกการเมืองน้ำเน่า อัด การสื่อสารการเมืองควรเป็นผู้ใหญ่ อย่าบิดเบือน

เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า หลังจาก น.ส.ทิพานัน โดนฟ้องหมิ่นประมาท เอาผิดทั้งอาญาและร้องกกต.เหตุใส่ร้ายพรรค พท. ก็คิดว่าจะสลดไปพักใหญ่ เพราะรายการไหนเชิญมาดีเบตกับคนของพรรค พท.ก็ไม่กล้ามา ปฏิเสธตลอด แต่กลับปากกล้าขาสั่น ออกมาส่งข่าวบิดเบือนสร้างความสับสน ทั้งนี้ น.ส.ทิพานัน จะชื่นชอบผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็เป็นสิทธิ แต่การสื่อสารการเมืองควรเป็นผู้ใหญ่ อย่าบิดเบือน อย่าทำการเมืองแบบน้ำเน่า เขวี้ยงงูไม่พ้นคอ

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ตลอด 8 ปี แปดเปื้อนของรัฐบาลประยุทธ์ ล้มเหลวในการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน ตัวเลขสถิติไม่เคยหลอกใคร หลบหลังหน้ากากคนดีย์ แต่การทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มสูงขึ้นดูได้จากคะแนน CPI ดัชนีรับรู้การทุจริตตกต่ำลงเรื่อยๆ จากปี 2548 ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย อยู่ในอันดับที่ 59 ปี 2564 ประเทศไทยได้ 35 คะแนน อยู่อันดับ 110 ของโลก แบบนี้ถือว่าประเทศไทยในยุคประยุทธ์ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ และการกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผลักดันและสนับสนุนเครือญาติให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นความตื้นเขินและจงใจบิดเบือน น.ส.ทิพานัน จะชื่นชอบศรัทธาการยึดอำนาจทำรัฐประหารก็ชอบไป แต่ต้องไม่ลืมว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะยกให้ใครหรือไม่ให้ใครเป็น และไม่ใช่อยากได้อำนาจก็เอารถถังมายึดอำนาจของประชาชนไป ฐานอำนาจนายกรัฐมนตรีที่มาจากปลายปากกาในคูหาเลือกตั้ง มาจากความยินยอมพร้อมใจของประชาชน สง่างามกว่ารัฐบาลยึดอำนาจด้วยปลายกระบอกปืน
 
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การโกงอำนาจคือสุดยอดของการโกงทั้งปวง ถ้าไม่เข้าใจว่าโกงอำนาจคืออะไร ให้ไปอ่านจดหมายที่เปลือยประยุทธ์ล่อนจ้อนของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังยึดอำนาจก็เขียนรัฐธรรมนูญให้ตัวเองได้เปรียบและเอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ 8 ปีแปดเปื้อนไม่พอ ยังพยายามจะปลดล็อกให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ถือเป็นสุดยอดการโกงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อในยุทธการมุ่งโจมตี 2 อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรค พท. เพื่อกลบความล้มเหลวตกต่ำของรัฐบาลตัวเอง ไม่ได้ทำให้รัฐบาลประยุทธ์ดูแย่น้อยลง วิธีนี้ผ่านการพิสูจน์มาหลายครั้งว่าไม่ได้ผล ประชาชนยังคงชื่นชอบจดจำผลงานและเลือกพรรค พท.มาเป็นที่ 1 การยกวาทกรรมโครงการจำนำข้าว ต้องระมัดระวัง เพราะเป็นโครงการที่ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง และศาลไม่เคยมีคำตัดสินว่านโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ผิด
 
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค พปชร.วันดีคืนดีลาออกไปสังกัดพรรคใหม่แล้วไม่คิดจะรับผิดชอบอะไร เหมือนกับประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร้าง รัฐมนตรีพาเหรดไปหาเสียง สภาล่มทุกสัปดาห์ ส.ส.แห่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์ จะตะแบงไปแบบนี้ไม่ได้ ไร้ศักดิ์ศรี ไร้ความสง่างาม ประชาชนสะท้อนผ่านโพลต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา แทนที่ลิ่วล้อจะช่วยปกป้องกลบเกลื่อนแล้วถูลู่ถูกังไปกันต่อ ควรบอกความจริงกับพล.อ.ประยุทธ์ ถ้ามั่นใจก็ให้ยุบสภา รัฐบาลประยุทธ์ ทำประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท้วม หนี้สาธารณะพุ่งสูง หนี้ครัวเรือนพุ่งพรวด ดัชนีการโกงพุ่งสูง การกระจายอำนาจถอยหลัง เป็นรัฐราชการรวมศูนย์ การปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปตำรวจล้มเหลว วิกฤติราคาพลังงาน ค่าครองชีพแพงค่าแรงถูก ยาเสพติดแพร่ระบาด คุณภาพชีวิตคนไทยตกต่ำลง
 
“พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยบอกว่า ผมพอแล้ว นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังทำงานมา 5 ปี โดยให้เหตุผลว่า ถึงเวลาแล้วที่จะลงจากตำแหน่ง ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ทำรัฐประหารยึดอำนาจมา 8 ปีจนแปดเปื้อน ยังดิ้นรนกระกระสนขอเป็นต่อ พอไม่เป็น และพยายามจะปลดล็อกให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปเรื่อยๆ ทำประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส พล.อ.ประยุทธ์ ควรเรียกน.ส.ทิพานันไปอบรมอย่าทำการเมืองน้ำเน่า หากน.ส.ทิพานันหาพรรคใหม่สังกัดได้แล้ว ให้ตั้งหลักตั้งสติใหม่ ไปบอกคนในพรรคว่าการทำงานการเมืองควรแข่งขันกันที่นโยบาย ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าทำการเมืองโบราณย้อนยุค ในลักษณะกล่าวหา ข้าชั่ว เอ็งก็เลว อีกเลย หวังว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศประเทศไทย ต้องไปต่อ คงไม่ได้หมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ คือประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ที่พร้อมจะแลกทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปเรื่อยๆ” นายอนุสรณ์ กล่าว
 

---

ไก่อู ขึ้นเขียง กมธ.มีมติฟัน ม.157 ส่อทุจริตก่อสร้างอาคาร ส่งป.ป.ช.
https://twitter.com/MatichonOnline/status/1615948915655999491
 
กมธ.ป.ป.ช.’ มีมติฟัน ‘อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์’ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่-ส่อทุจริต ก่อสร้างอาคาร จ่อชงเรื่องให้ ‘ป.ป.ช.’ ตรวจสอบต่อไป
 
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 19 มกราคม ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) แถลงว่า ที่ประชุม กมธ.ฯ เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ได้พิจารณากรณีที่ขอให้ตรวจสอบ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติหน้าโดยไม่ชอบให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เกี่ยวกับการจัดจ้างก่อสร้างอาคารฝ่ายนิทรรศการ และศิลปกรรม ที่ส่อไปในทางทุจริต ใช้งบประมาณอย่างเร่งรีบ และมีราคากลางที่ไม่เหมาะสมกับการก่อสร้างอาคารที่ไม่สามารถใช้งานได้ และรับเงินจากบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้รับจ้าง โดยมีเจตนาต้องการให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เร่งรัดสั่งการ รวมถึงการขอแบบการออกแบบก่อสร้าง
 
นายธีรัจชัย กล่าวว่า กมธ.ฯ ​ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากบุคคลมาให้ข้อเท็จจริงประมาณ 20 คน และหลักฐาน 26 รายการ เนื่องจากการก่อสร้างใช้งบประมาณปี 2559 จำนวน 25,700,000 บาท และดำเนินการก่อสร้างจากการประกาศเชิญชวนทั่วไป ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์และว่าจ้างบริษัท ลาภกิจ อินเตอร์ จำกัด ให้ออกแบบปรับปรุงก่อสร้างอาคาร โดยทางกมธ.ฯ มีมติการจัดจ้างก่อสร้างอาคารดังกล่าว พบว่ากรมประชาสัมพันธ์ ได้ออกแบบก่อสร้างอาคารไว้อยู่แล้ว การที่อธิบดีฯ จัดให้จัดจ้างออกแบบอาคารดังกล่าว โดยมอบให้รองอธิบดีฯ ดำเนินการเพื่อให้จ่ายเงินงบประมาณจำนวน 440,000 บาท เป็นค่าจัดจ้างออกแบบ ทำให้สอดรับกับงบประมาณรายจ่ายที่จัดจ้างไว้ก่อนแล้วโดยไม่จำเป็น ถือว่าเป็นการกระทำความผิดและทุจริตต่อหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียต่อราชการ จึงมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งจากนี้ทางกมธ.ฯ จะยื่นเรื่องทั้งหมดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ​และรายงานให้สภาฯ รับทราบต่อไป
 

---

“ธีรัจชัย” จ่อรื้อคดี “นาฬิกาหรูยืมเพื่อน” จี้ ป.ป.ช. ไม่ยอมดำเนินการ
https://siamrath.co.th/n/416162

วันที่ 19 ม.ค. 66 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการรื้อฟื้นคดีนาฬิกาหรูยืมเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้พบหลักฐานใหม่ว่า ไม่มีนาฬิกาหรูดังกล่าวในบัญชีทรัพย์มรดกของ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ผู้ที่ พล.อ.ประวิตร อ้างว่า เป็นเพื่อนซึ่งยืมนาฬิกามา โดยที่ประชุมกรรมาธิการฯ ได้เชิญเลขาธิการป.ป.ช.มาเพื่อหารือกรณีการรื้อฟื้นคดีดังกล่าว ปรากฏว่า สำนักงานป.ป.ช. ยังไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้ เพราะอ้างว่า ต้องมีการร้องขึ้นมาก่อน จึงจะรื้อฟื้นคดีขึ้นใหม่ได้ ตามมาตรา 54 ของพ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.
 
นายธีรัจชัย ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ที่ ป.ป.ช ยกเรื่องมาตรวจสอบก็ไม่มีผู้ร้อง เป็นการหยิบมาตรวจสอบเอง แล้วเหตุใดในคดีนี้ ป.ป.ช.จึงไม่ขอเอกสารไปยังศาลแพ่งและกรรมาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งได้รวบรวมหลักฐานใหม่ที่สามารถรื้อฟื้นคดีดังกล่าวได้ รวมถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ได้ติดตามรหัสสินค้า หรือ Serial Number ของนาฬิกาทั้ง 22 เรือน ป.ป.ช. ก็ได้ดำเนินการผ่านกระทรวงต่างประเทศ ไปยังบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาดังกล่าวโดยตรง ซึ่งได้รับการปฏิเสธการให้ข้อมูลกลับมา ทั้งที่ควรดำเนินการตาม พ.ร.บ. ความร่วมมือในคดีอาญา ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นตัวกลางประสานข้อมูลจากประเทศต่างๆ อยู่แล้ว ทำให้ที่ประชุมกรรมาธิการฯ ได้ขอมติที่ประชุม ให้คณะกรรมาธิการฯ ทำหนังสือไปยังกรรมาธิการ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการตั้งเรื่องดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง