JJNY : 5in1 ‘จาตุรนต์’เตือน‘ตู่’│ครอบครัวเพื่อไทยคุยชาวสวนยาง│‘ประเสริฐ’ชี้รอซักฟอก│เสธ.อู้ ดับฝัน│อังกฤษเตรียมส่งรถถัง

‘จาตุรนต์’ เตือน ‘บิ๊กตู่’ อาจจบไม่สวย หลัง ลิ่วล้อเคลื่อนไหวแก้ รธน.ยืดนายกฯอยู่เกิน 8 ปี
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3773128
 
 
“จาตุรนต์” เตือน “บิ๊กตู่” อาจจบไม่สวย หลัง ลิ่วล้อ เคลื่อนไหวแก้ รธน.ให้นายกฯอยู่เกิน 8 ปี หวังยืดอายุเผด็จการ อัดไม่รู้จักพอ ระบุที่ผ่านมาไม่เคยมีนายกฯจากการเลือกตั้งอยู่ถึง 8 ปีเลย
 
เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง นายก 8 ปี โดยระบุว่า 
 
“กติกาที่ห้ามนายกฯอยู่ในตำแหน่งเกิน 8 ปีนี้ คนที่เขียนกติกาคงจะต้องการเขียนขึ้นเพื่อป้องกันนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งนานเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วไม่ตรงกับปัญหาที่เป็นจริงของประเทศไทยเลยเพราะไม่มีนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งคนใดอยู่ในตำแหน่งเกิน 8 ปีแม้แต่คนเดียว
 
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมักต้องแข่งขันเข้มข้นผลัดเปลี่ยนกันเป็นนายกฯหรือไม่ก็ถูกรัฐประหารไปในเวลาสั้นๆ 90 ปีมานี้ประเทศไทยมีการรัฐประหารเฉลี่ย 7 ปีต่อครั้ง ปัญหาของประเทศไทยจึงอยู่ที่จะทำอย่างไรให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลอยู่ได้นานๆโดยไม่มีการรัฐประหารและการห้ามนายกฯอยู่ในตำแหน่งเกิน 8 ปีควรใช้กับผู้ที่มาจาการทำรัฐประหารหรือพวกเผด็จการเสียมากกว่า
 
การห้ามนายกฯอยู่ในตำแหน่งเกิน 8 ปีมาเป็นประเด็นปัญหาก็เนื่องจากการไปให้อำนาจสว.เลือกนายกฯทำให้พลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกฯทั้งๆที่ไม่ได้มาจากความเห็นชอบของประชาชน
 
การเคลื่อนไหวเพื่อแก้รัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีสามารถอยู่ในตำแหน่งได้เกิน 8 ปีเป็นความพยายามที่จะทำให้พลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจต่อไปให้ยาวที่สุด ไม่ได้คำนึงถึงหลักกงหลักการอะไรทั้งสิ้น แสดงให้เห็นว่าทั้งพลเอกประยุทธ์และพวกที่เสวยอำนาจมาด้วยกันจากการรัฐประหารไม่เคยมีความคิดที่จะคืนอำนาจให้ประชาชนและเป็นพวก “ไม่รู้จักพอ”
 
อย่ามาเที่ยวอ้าง “คนดี” เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือพวกพ้อง โจรขบถปล้นอำนาจไปจากประชาชน ทำลายประชาธิปไตยกลายเป็นคนดีไปได้อย่างไร ใช้คำว่า “คนดี” เรื่อยเปื่อยจนคำนี้เสียไปนานแล้ว หากพลเอกประยุทธ์กับพวก ส.ว.ที่พลเอกประยุทธ์ตั้งไว้เพื่อการสืบทอดอำนาจของตนยังคงพยายามที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้พลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกฯอีกอย่างไม่มีวันสิ้นสุดเช่นนี้ การเมืองไทยจะเข้าสู่จุดวิกฤตเพราะจะเป็นการฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างร้ายแรง และการดำเนินการเพื่อให้แก้รัฐธรรมนูญได้สำเร็จก็จะทำให้เกิดสภาพอัปยศในทางการเมืองอีกครั้งเนื่องจากจะต้องมีการใช้ทั้งอำนาจและเงินเพื่อให้ครบเงื่อนไขในการแก้รัฐธรรมนูญ
 
การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ผู้นำประเทศอยู่ในอำนาจได้นานๆเคยเกิดมาแล้วในบางประเทศซึ่งมักนำไปสู่จุดจบของผู้นำที่ต่ออายุให้ตัวเอง หากพลเอกประยุทธ์กับพวกยังดึงดันต่อไป พลเอกประยุทธ์เองอาจพบจุดจบที่น่าสยดสยองก็ได้
 
ที่เสนอความเห็นมานี้ไม่ได้เพราะเป็นห่วงพลเอกประยุทธ์และก็ไม่ได้กลัวว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้พลเอกประยุทธ์ได้เปรียบ ทำกันแบบนี้ พรรคที่ไม่เอาประยุทธ์ยิ่งชนะการเลือกตั้งและเพื่อไทยยิ่งแลนด์สไลด์ แต่ที่เป็นห่วงคือการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุให้พลเอกประยุทธ์ครั้งนี้อาจทำให้บ้านเมืองวิกฤตและหากทำสำเร็จขึ้นมาพลเอกประยุทธ์กับพวกก็จะบริหารประเทศแบบไร้ประสิทธิภาพและทำให้ประเทศก้าวสู่หายนะยิ่งกว่าที่เป็นอยู่”

https://www.facebook.com/Chaturon.FanPage/posts/pfbid0C5Zq17DQUuntAstLoPzVqXE5wJLscoSMKH1edKtdft3UzcqnohvBpAu9xPgKzx3al



ครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่คุยชาวสวนยาง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_482445/

ครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่คุยชาวสวนยางฯ อุ๊งอิ๊ง บอก วันนี้พาเบบี๋ในท้องมาด้วย ลั่นหากเป็นรบ.จะแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ด้านณัฐวุฒิ อ้อนขอ 250 เสียงให้ชนะ ประยุทธ์
  
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, นายอนันต์ ศรีพันธุ์  ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และส.ส.ภาคอีสานในจ.ใกล้เคียงร่วมลงพื้นที่ พบปะประชาชนชาวสวนยางพารา ทันทีที่น.ส.แพทองธารและคณะมาถึง ได้มีประชาชนมารอต้อนรับ จากนั้นน.ส.แพทองธารได้ทดลองกรีดยางพารา ก่อนที่น.ส.แพทองธาร และคณะจะรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่
 
โดยน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่มาเจอกัน ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับครอบครัวเพื่อไทย และยังเอาเบบี๋ในท้องมาด้วย ซึ่งใกล้จะ 6 เดือนแล้ว วันนี้มีประชาชนผูกผ้าขาวม้า แต่ตนบอกว่าไม่ต้องผูกแน่นก็ได้ แต่ครั้งหน้าขอผ้าขาวม้าให้ยาวกว่านี้หน่อย เกรงว่าจะพันไม่รอบตัว ยืนยันว่าพรรค พท.พร้อมรับฟังปัญหาประชาชน ซึ่งเราได้ศึกษาหาข้อมูลแล้วว่าประชาชนกำลังประสบปัญหาอะไรบ้าง
 
ไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ยที่สูงสุด แต่ยางพารากลับขายไม่ได้ราคา รวมถึงยังมีปัญหายาเสพติดที่ทำให้พี่น้องท้อถอยหมดกำลังใจ วันนี้พรรค พท.มาแล้ว เราตั้งใจอยากทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น และเพิ่มโอกาส พวกเรามาขอให้ความหวัง ให้กำลังใจ เมื่อประชาชนเลือกเราเป็นรัฐบาล เราจะทำความหวังและความฝันให้เป็นจริง ฉะนั้น วันนี้เราจึงมารับฟังความเห็น หากได้เป็นรัฐบาลเราจะได้แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
 
จากนั้นตัวแทนเกษตรชาวสวนยางได้สอบถามวิธีแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าวันนี้เศรษฐกิจไม่ดี ราคายาเสพติดถูกกว่ามาม่าอีก ลูกหลานได้รับผลกระทบ ส่วนปัญหาเรื่องยางพารา เราจะนำเทคโนโลยีมาช่วยทำการเกษตร อย่าตกใจว่าเทคโนโลยรจะเป็นเรื่องนาก เราจะทำให้ใช้ง่าย เหมือนกับใช้ไลน์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรและจะเปิดตลาดให้กว้างคืน เพราะทุกวันนี้ขายในเมืองไทยไม่พอ ต้องไปขายต่างประเทศด้วย โดยตนขออาสาเป็นเซลล์แมนให้ รัฐบาลในอดีตในยุคของเราเคยทำราคายางพาราจากราคา 20 บาทไปถึง 100 บาท ขอถามพี่น้องว่าจะเอาอีกหรือไม่
 
ถ้าเอาต้องเลือกพรรค พท.ทั้งคนทั้งพรรค เลือกให้ชนะทั้งจังหวัดไปเลย
 
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลอยู่มา 8 ปี ไม่ขายอย่างอื่น ขายขี้หน้าอย่างเดียว วันนี้พอได้แล้ว เพราะหากบ้านเมืองจะดีมันคงดีนานแล้ว และหากจะดีขึ้นจะต้องมีการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นพรรค พท. ดังนั้น เราจำเป็นต้องเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ จะแบ่งใจไม่ได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรค พท.ไม่มีพรรคสำรอง  ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ถ้าจะชนะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเพียวๆ ให้ได้เสียงส.ส.เกิน 250 เสียง
 
ส่วนหลังยุบสภาฯ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศนโยบายแลนด์สไลด์ส่วนใครจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น ตนได้ยินมาว่าจะเสนอชื่อ 3 คนเต็ม ตามสิทธิ์ของกฏหมาย เผื่อจะโดนสอยกลางทาง และตนเข้าใจว่า 1 ใน 3 คนที่อยู่ในพื้นที่ตอนนี้ด้วย จากนั้น น.ส.แพทองธารและคณะได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง



‘ประเสริฐ’ ชี้ รอซักฟอก 152 นานผิดปกติ กังขา ‘ประยุทธ์’ สังกัด รทสช.ไร้ ส.ส.ในสภา จะยุบสภาหนีหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3773086

‘ประเสริฐ’ ชี้ รอซักฟอก 152 นานผิดปกติ กังขา ‘ประยุทธ์’ สังกัด รทสช.ไร้ ส.ส.ในสภา จะยุบสภาหนีหรือไม่ ลั่น ไม่เห็นด้วย ส.ว.แก้  รธน. เอื้อนายกฯ อยู่ต่อ

เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 15 มกราคม ที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ขณะนี้เราได้ยื่นญัตติเปิดอภิปรายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้ว ซึ่งไม่มี ส.ส.ในสภา ก็อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะยุบสภาหนีการอภิปราย ทั้งนี้ รัฐบาลได้แจ้งมาว่าจะให้มีการอภิปรายช่วงประมาณหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเราได้ยื่นญัตติดังกล่าวไปตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ระยะเวลากว่า 40 วันมันนานเกิน ปกติหลังยื่นไม่เกิน 2 สัปดาห์จะรู้ผลแล้ว แต่คราวนี้มันผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เราประเมินสถานการณ์ตลอด
 
เมื่อถามถึง กรณีที่ ส.ว.เตรียมจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญเรื่องวาระนายกรัฐมนตรี 8 ปี พรรค พท.มองอย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า แก้ให้นายกรัฐมนตรีอยู่ได้ 8 ปี พท.ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะเป็นการแก้เพื่อสืบทอดอำนาจซึ่งขัดหลักการประชาธิปไตย เราก็เข้าใจว่ามีความพยายามอยู่และเราเฝ้ามองอยู่
 
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า “เหมือนที่นายประเสริฐพูด จริงๆ อิ๊งว่ามันควรเป็นประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุด เรามีการปกครองแบบประชาธิปไตย ฉะนั้น ก็ควรยึดหลักนี้เป็นหลัก อะไรที่จะดึงประโยชน์ไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกคนควรเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วมองตรงนั้นมากกว่า



เสธ.อู้ ดับฝันปลดล็อกวาระนายกฯ 8 ปี ชี้โอกาสผ่านเท่ากับศูนย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3773104

เสธ.อู้ ดับฝันปลดล็อกวาระนายกฯ 8 ปี ชี้โอกาสผ่านเท่ากับศูนย์ ต้องเจอด่านหินโหวตวาระ 3 พ่วงทำประชามติ ใช้งบกว่า 4 พันล้าน-เปรียบ รธน. 60 เหมือนศิลาจารึก อย่าคาดหวังรื้อสำเร็จ
 
เมื่อวันที่ 15 มกราคม พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา มีแนวคิดศึกษาเสนอประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีคนเห็นต่างหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะการกำหนดคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งประเด็นนายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ไม่มีใครเห็นด้วยตั้งแต่ต้นสมัยศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เหมือนกับการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงหรือเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงแบบต่างประเทศ ดังนั้นการนำประเด็นดังกล่าวมาพูดกันตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสม เพราะว่าสร้างประเด็นเกี่ยวเนื่องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
 
พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวต่อว่า มองว่าในทางปฏิบัติโอกาสเป็นไปได้แทบจะเป็นศูนย์ เพราะเมื่อดูวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 (8) เขียนไว้เป็นข้อห้ามว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นใดบ้างที่ต้องดำเนินการทำประชามติ ซึ่งถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามตามของผู้ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญนี้จะต้องนำไปทำประชามติก่อนเมื่อผ่านการลงมติวาระ 3 แล้ว

เพราะฉะนั้นถ้าจะแก้ไขตรงนี้ไม่เฉพาะแค่แก้ไขในรัฐสภา จะต้องทำประชามติ ใช้งบประมาณ 4 พันล้านบาท และใช้เวลาอีก 4-5 เดือน และถ้าถอยหลังไปยังขั้นตอนการเสนอก่อน ส.ส.และ ส.ว.ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือประมาณ 150 คน ร่วมกันเสนอแก้ไขได้ กว่าจะบรรจุระเบียบวาระก็ไม่ทันสมัยประชุมนี้ หากยื่นแก้ไขในสมัยหน้า รัฐบาลใหม่ การนำเสนอจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 150 คน ส่วนวาระที่หินที่สุดคือวาระ 3 เพราะจะต้องมี ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และต้องมีฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 จะมีฝ่ายค้านที่ไหนยอมกัน สมมุติ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้านก็คงไม่ยอมให้แก้ไข” พล.อ.เลิศรัตน์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่