นพดล อัดพวกบิดเบือน พท.เอี่ยวตู้ห่าว หวังโยงการเมือง สกัดแลนด์สไลด์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3708574
นพดล อัดพวกบิดเบือน พท.เอี่ยวตู้ห่าว หวังโยงการเมือง สกัดแลนด์สไลด์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
นพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค พท. แถลงว่า จากกรณีที่มีการตั้งข้อกล่าวหาต่อ นาย
หาวเจ๋อตู้ หรือ
ตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน และพวกว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย และให้ข้อมูลว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติกว้านซื้อบ้านในบางโครงการ และพยายามโยงเรื่องนี้มาบิดเบือนใส่ร้าย พท.และแกนนำพรรคให้เสียหายนั้น พรรคขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ อยู่ในขณะนี้ พรรค พท.เห็นว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มีอยู่ตามกฎหมายได้อยู่แล้ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับพรรค พรรคไม่ขัดขวางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอย้ำว่า พท.ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนาย
ตู้ห่าว และนาย
ตู้ห่าวก็ไม่เคยบริจาคเงินให้พรรค พท. ข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องหาก็เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกิจในช่วงเวลาหลายปี
“
ที่ผ่านมาที่เพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลซึ่งเป็นเวลาเกือบ 8 ปีแล้ว หากจะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายในช่วงเวลานี้ในประเทศไทย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลสามารถไปตรวจสอบว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทำนองเดียวกันนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าเบี่ยงเบนประเด็น” นาย
นพดลกล่าว
นาย
นพดลกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พยายามโยงว่าชาวต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเสท และพาดพิง น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผู้ถือหุ้นในบริษัทนั้น ตนเห็นว่าการพาดพิง และกระจายข่าวต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ขอเรียนว่า น.ส.
แพทองธาร ไม่ได้รู้จักกับนายตู้ห่าว และเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายบ้านให้บุคคลใดๆ นอกจากนั้น บริษัทเอสซี แอสเสท ได้แถลงไปแล้วว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลโดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังขายให้คนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น และในการชำระค่าบ้าน ผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร ตนขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดของบุคคลกลุ่มนี้ มีบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินที่ซื้อจากหลายโครงการ หลายบริษัท กระจายไป ไม่ใช่ซื้อจากบริษัทเอสซี แอสเสท อย่างเดียว
“
ช่วงเวลานี้ ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นพรรคต่างๆ นำเสนอนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อไทยขอเชิญชวนให้ช่วยกันนำเสนอนโยบายและหาทางออกให้ประเทศ และยุติการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอที่เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายฝ่ายอื่นด้วยความเท็จ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ดังนั้น ขอให้พวกที่พยายามตีกินหรือพยายามโยงให้เพื่อไทยเสียหาย ขอให้ยุติการดำเนินการไม่เช่นนั้นเราขอสงวนสิทธิ์ปกป้องเกียรติภูมิและชื่อเสียงของพรรคในกรอบของกฎหมายต่อไป” นาย
นพดลกล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการโจมตีทางการเมืองเพื่อหวังผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นาย
นพดลกล่าวว่า ตนคิดว่าการบิดเบือนมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองค่อนข้างชัดเจน พท.เป็นสถาบันทางการเมืองที่พร้อมที่จะต่อสู้กันตามกฎกติกาและการนำเสนอนโยบายแข่งกัน ตนคิดว่าการที่มีการบิดเบือนบุคคลต่างๆ ก็พอจะดูออกว่ามีวัตถุประสงค์ทางการเมือง แต่ พท.สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นและไม่มีอะไรที่จะซ่อนไว้
ถามต่อว่า ที่บอกว่าจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายจะฟ้องหรืออย่างไร นาย
นพดลกล่าวว่า ปกติคนไทยทุกคนถ้าถูกใส่ร้ายป้ายสีหรือถูกหมิ่นประมาทก็มีสิทธิ์ที่จะคุ้มครองสิทธิ์ของตัวเองอยู่แล้ว โดยหลักแล้วพรรคการเมืองหรือนักการเมืองไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับใครถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่ถ้ามีการกล่าวเท็จใส่ร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราก็เป็นบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เราก็สามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คิดหรือตัดสินใจที่จะดำเนินคดีใดๆ ซึ่งหวังว่าทุกคนจะเห็นประโยชน์ของบ้านเมืองไม่ใส่ร้ายป้ายสีเราต่อ
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับ น.ส.
แพทองธารหรือไม่ว่ากังวลกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด นาย
นพดลกล่าวว่า ตนได้พูดคุยแล้ว น.ส.
แพรทองธารก็ไม่ได้กังวล เพราะเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และ น.ส.
แพทองธาร ก็ไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือกระทำการที่มีพิรุธ หรือไม่ชอบมาพากลแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรที่ทำให้เชื่อว่าเรื่องนี้หวังผลทางการเมือง นาย
นพดลกล่าวว่า ช่วงนี้นางแบก นายแบก ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องและอยู่ฝ่ายความคิดเห็นทางการเมืองที่อาจจะตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย ก็พยายามออกมากระหน่ำกัน แล้วมีอยู่ท่านหนึ่งที่ตนขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่าเรื่องตู้ห่าวจะดับแลนด์สไลด์ของ พท.ตรงนี้ก็โยงการเมืองชัดเจนอยู่แล้ว
“
เรื่องแลนด์สไลด์กับตู้ห่าวไม่เกี่ยวข้องกัน ผมคิดว่าเราไม่สามารถประเมินวิจารณญาณหรือความคิดของประชาชน พท.จะแลนด์สไลด์หรือไม่อยู่ที่พี่น้องประชาชน ซึ่งเราเคารพเอกสิทธิ์ที่พี่น้องประชาชนจะกาบัตรในอนาคต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตู้ห่าว” นาย
นพดลกล่าว
ด้าน น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษก พท.กล่าวว่า ถ้าสังเกตผลการสำรวจของประชาชนที่มีให้กับพรรคการเมืองหรือผู้ที่จะเสนอตนเป็นนายกฯ จะเห็นว่า พท.มาเป็นที่หนึ่ง รวมถึงบุคคลของ พท.ด้วย ฉะนั้นการสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนที่จะทำให้ พท.ไม่ได้รับคะแนนเสียงใดๆ นั่นคือวิธีการของฝั่งตรงข้ามที่ต้องการดิสเครดิตเรา เราจึงมีความจำเป็นต้องให้ประชาชนได้รับทราบข่าวสารมากที่สุด และจับตาการทำงานของทุกๆ พรรคการ เมือง และต้องย้ำว่าหน้าที่การตรวจสอบผู้ที่ทำผิดในประเทศไทยคือรัฐบาล และเราตรวจสอบรัฐบาลอีกชั้นหนึ่ง
นพดล เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ยังมีพื้นที่ ‘จิรายุ’ ได้สานต่องาน อยากให้อยู่ต่อเหตุกำลังสำคัญคนหนึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3708601
นพดล เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ยังมีพื้นที่ ‘จิรายุ’ ได้สานต่องานที่ทำไว้ รับอยากให้อยู่ต่อเพราะเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่ง แจง ปม ‘เรืองไกร’ ร้องป.ป.ช.หวังฟัน ‘ศราวุธ’ ไม่ถึงขั้นยุบพรรค เหตุเป็นเรื่องส่วนบุคคล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
นพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงกรณีนาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรค พท. ระบุว่าจะขอทบทวนเส้นทางการเมืองหลังพรรคจะส่งนาย
ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเคยเป็นโจทก์เก่าของนาย
จิรายุ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง พรรค พท. ว่า นายจิรายุเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพคนหนึ่งของพรรค และทำงานหนักในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตนยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนาย
จิรายุ แต่เชื่อมั่นว่าพรรค พท.ยังมีพื้นที่และมีโอกาสให้นาย
จิรายุได้ทำงานทางการเมืองสานต่อคุณภาพการเมืองที่เขาทำไว้ต่อ ซึ่งคงจะมีโอกาสได้หารือกัน ทั้งนี้ พรรคการเมืองก็เหมือนเรือที่อยู่ในทะเล ก็จะเจอคลื่นลมเป็นเรื่องปกติแต่เราต้องมีกระบวนการในการระงับความไม่พอใจหรือความขัดแย้งได้
“
ผมมั่นใจว่านายจิรายุจะเห็นถึงผลประโยชน์ของพรรคและประเทศ เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็กำลังเดินหน้าสู่ชัยชนะแลนด์สไลด์เพื่อสร้างโอกาสในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน นายจิรายุก็เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งจึงอยากให้เขาอยู่ในพรรค พท.ต่อ แต่ความไม่พอใจหรือความน้อยใจก็เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งในส่วนตัวผมคิดว่าสามารถเคลียร์กันได้ เพราะนายจิรายุก็เป็นคนที่รับฟังเหตุผล” นาย
นพดล กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นาย
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีเงินลงทุนของนาย
ศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคพท.กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ว่า ได้ยื่นบัญชีเงินลงทุนในบริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ของนาง
นุดีพร เพชรพนมพร มูลค่า 7,500,000 บาท โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ นาย
นพดล กล่าวว่า เป็นสิทธิของนาย
เรืองไกรที่จะยื่นตรวจสอบ และเป็นสิทธิของนาย
ศราวุธที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งพรรคก็ถือว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนจะถึงขั้นเป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคหรือไม่นั้น ไม่สามารถโยงไปยุบพรรคได้ เพราะเป็นเรื่องความรับผิดชอบส่วนบุคคลของแต่ละบุคคลเนื่องจากเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินของส.ส.ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค ซึ่งนาย
ศราวุธอาจจะยื่นไปแล้ว แต่ตนไม่ทราบ
JJNY : นพดลอัดพวกบิดเบือน│นพดลเชื่อยังมีพื้นที่ ‘จิรายุ’│‘ชลน่าน’ย้ำ 6 ธ.ค. ยังไม่มีเปิดแคนดิเดตฯ│ชาวสวนชุมพรโอดน้ำท่วม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3708574
นพดล อัดพวกบิดเบือน พท.เอี่ยวตู้ห่าว หวังโยงการเมือง สกัดแลนด์สไลด์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค พท. แถลงว่า จากกรณีที่มีการตั้งข้อกล่าวหาต่อ นายหาวเจ๋อตู้ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน และพวกว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย และให้ข้อมูลว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติกว้านซื้อบ้านในบางโครงการ และพยายามโยงเรื่องนี้มาบิดเบือนใส่ร้าย พท.และแกนนำพรรคให้เสียหายนั้น พรรคขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ อยู่ในขณะนี้ พรรค พท.เห็นว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มีอยู่ตามกฎหมายได้อยู่แล้ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับพรรค พรรคไม่ขัดขวางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอย้ำว่า พท.ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว และนายตู้ห่าวก็ไม่เคยบริจาคเงินให้พรรค พท. ข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องหาก็เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกิจในช่วงเวลาหลายปี
“ที่ผ่านมาที่เพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลซึ่งเป็นเวลาเกือบ 8 ปีแล้ว หากจะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายในช่วงเวลานี้ในประเทศไทย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลสามารถไปตรวจสอบว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทำนองเดียวกันนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าเบี่ยงเบนประเด็น” นายนพดลกล่าว
นายนพดลกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พยายามโยงว่าชาวต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเสท และพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผู้ถือหุ้นในบริษัทนั้น ตนเห็นว่าการพาดพิง และกระจายข่าวต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ขอเรียนว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้รู้จักกับนายตู้ห่าว และเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายบ้านให้บุคคลใดๆ นอกจากนั้น บริษัทเอสซี แอสเสท ได้แถลงไปแล้วว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลโดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังขายให้คนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น และในการชำระค่าบ้าน ผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร ตนขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดของบุคคลกลุ่มนี้ มีบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินที่ซื้อจากหลายโครงการ หลายบริษัท กระจายไป ไม่ใช่ซื้อจากบริษัทเอสซี แอสเสท อย่างเดียว
“ช่วงเวลานี้ ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นพรรคต่างๆ นำเสนอนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อไทยขอเชิญชวนให้ช่วยกันนำเสนอนโยบายและหาทางออกให้ประเทศ และยุติการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอที่เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายฝ่ายอื่นด้วยความเท็จ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ดังนั้น ขอให้พวกที่พยายามตีกินหรือพยายามโยงให้เพื่อไทยเสียหาย ขอให้ยุติการดำเนินการไม่เช่นนั้นเราขอสงวนสิทธิ์ปกป้องเกียรติภูมิและชื่อเสียงของพรรคในกรอบของกฎหมายต่อไป” นายนพดลกล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการโจมตีทางการเมืองเพื่อหวังผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ตนคิดว่าการบิดเบือนมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองค่อนข้างชัดเจน พท.เป็นสถาบันทางการเมืองที่พร้อมที่จะต่อสู้กันตามกฎกติกาและการนำเสนอนโยบายแข่งกัน ตนคิดว่าการที่มีการบิดเบือนบุคคลต่างๆ ก็พอจะดูออกว่ามีวัตถุประสงค์ทางการเมือง แต่ พท.สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นและไม่มีอะไรที่จะซ่อนไว้
ถามต่อว่า ที่บอกว่าจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายจะฟ้องหรืออย่างไร นายนพดลกล่าวว่า ปกติคนไทยทุกคนถ้าถูกใส่ร้ายป้ายสีหรือถูกหมิ่นประมาทก็มีสิทธิ์ที่จะคุ้มครองสิทธิ์ของตัวเองอยู่แล้ว โดยหลักแล้วพรรคการเมืองหรือนักการเมืองไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับใครถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่ถ้ามีการกล่าวเท็จใส่ร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราก็เป็นบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เราก็สามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คิดหรือตัดสินใจที่จะดำเนินคดีใดๆ ซึ่งหวังว่าทุกคนจะเห็นประโยชน์ของบ้านเมืองไม่ใส่ร้ายป้ายสีเราต่อ
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับ น.ส.แพทองธารหรือไม่ว่ากังวลกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด นายนพดลกล่าวว่า ตนได้พูดคุยแล้ว น.ส.แพรทองธารก็ไม่ได้กังวล เพราะเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และ น.ส.แพทองธาร ก็ไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือกระทำการที่มีพิรุธ หรือไม่ชอบมาพากลแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรที่ทำให้เชื่อว่าเรื่องนี้หวังผลทางการเมือง นายนพดลกล่าวว่า ช่วงนี้นางแบก นายแบก ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องและอยู่ฝ่ายความคิดเห็นทางการเมืองที่อาจจะตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย ก็พยายามออกมากระหน่ำกัน แล้วมีอยู่ท่านหนึ่งที่ตนขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่าเรื่องตู้ห่าวจะดับแลนด์สไลด์ของ พท.ตรงนี้ก็โยงการเมืองชัดเจนอยู่แล้ว
“เรื่องแลนด์สไลด์กับตู้ห่าวไม่เกี่ยวข้องกัน ผมคิดว่าเราไม่สามารถประเมินวิจารณญาณหรือความคิดของประชาชน พท.จะแลนด์สไลด์หรือไม่อยู่ที่พี่น้องประชาชน ซึ่งเราเคารพเอกสิทธิ์ที่พี่น้องประชาชนจะกาบัตรในอนาคต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตู้ห่าว” นายนพดลกล่าว
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษก พท.กล่าวว่า ถ้าสังเกตผลการสำรวจของประชาชนที่มีให้กับพรรคการเมืองหรือผู้ที่จะเสนอตนเป็นนายกฯ จะเห็นว่า พท.มาเป็นที่หนึ่ง รวมถึงบุคคลของ พท.ด้วย ฉะนั้นการสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนที่จะทำให้ พท.ไม่ได้รับคะแนนเสียงใดๆ นั่นคือวิธีการของฝั่งตรงข้ามที่ต้องการดิสเครดิตเรา เราจึงมีความจำเป็นต้องให้ประชาชนได้รับทราบข่าวสารมากที่สุด และจับตาการทำงานของทุกๆ พรรคการ เมือง และต้องย้ำว่าหน้าที่การตรวจสอบผู้ที่ทำผิดในประเทศไทยคือรัฐบาล และเราตรวจสอบรัฐบาลอีกชั้นหนึ่ง
นพดล เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ยังมีพื้นที่ ‘จิรายุ’ ได้สานต่องาน อยากให้อยู่ต่อเหตุกำลังสำคัญคนหนึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3708601
นพดล เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ยังมีพื้นที่ ‘จิรายุ’ ได้สานต่องานที่ทำไว้ รับอยากให้อยู่ต่อเพราะเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่ง แจง ปม ‘เรืองไกร’ ร้องป.ป.ช.หวังฟัน ‘ศราวุธ’ ไม่ถึงขั้นยุบพรรค เหตุเป็นเรื่องส่วนบุคคล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรค พท. ระบุว่าจะขอทบทวนเส้นทางการเมืองหลังพรรคจะส่งนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเคยเป็นโจทก์เก่าของนายจิรายุ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง พรรค พท. ว่า นายจิรายุเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพคนหนึ่งของพรรค และทำงานหนักในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตนยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนายจิรายุ แต่เชื่อมั่นว่าพรรค พท.ยังมีพื้นที่และมีโอกาสให้นายจิรายุได้ทำงานทางการเมืองสานต่อคุณภาพการเมืองที่เขาทำไว้ต่อ ซึ่งคงจะมีโอกาสได้หารือกัน ทั้งนี้ พรรคการเมืองก็เหมือนเรือที่อยู่ในทะเล ก็จะเจอคลื่นลมเป็นเรื่องปกติแต่เราต้องมีกระบวนการในการระงับความไม่พอใจหรือความขัดแย้งได้
“ผมมั่นใจว่านายจิรายุจะเห็นถึงผลประโยชน์ของพรรคและประเทศ เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็กำลังเดินหน้าสู่ชัยชนะแลนด์สไลด์เพื่อสร้างโอกาสในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน นายจิรายุก็เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งจึงอยากให้เขาอยู่ในพรรค พท.ต่อ แต่ความไม่พอใจหรือความน้อยใจก็เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งในส่วนตัวผมคิดว่าสามารถเคลียร์กันได้ เพราะนายจิรายุก็เป็นคนที่รับฟังเหตุผล” นายนพดล กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีเงินลงทุนของนายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคพท.กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ว่า ได้ยื่นบัญชีเงินลงทุนในบริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ของนางนุดีพร เพชรพนมพร มูลค่า 7,500,000 บาท โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายเรืองไกรที่จะยื่นตรวจสอบ และเป็นสิทธิของนายศราวุธที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งพรรคก็ถือว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนจะถึงขั้นเป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคหรือไม่นั้น ไม่สามารถโยงไปยุบพรรคได้ เพราะเป็นเรื่องความรับผิดชอบส่วนบุคคลของแต่ละบุคคลเนื่องจากเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินของส.ส.ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค ซึ่งนายศราวุธอาจจะยื่นไปแล้ว แต่ตนไม่ทราบ