'นพดล'อโหสิกรรมให้โดนด่าขายชาติคดีพระวิหารตลอด
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ แถลงว่า ตนขอความเป็นธรรม หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่า ขายชาติ และถูกปิดเบือนใส่ร้ายมา 6-7 ปี ซึ่งคำตัดสินศาลโลกในวันที่ 11 พ.ย. ทำให้ประชาชนรู้ว่าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ไม่ได้ตกเป็นของกัมพูชา และสิ่งที่รัฐบาลสมัครทำเป็นการปกป้องดินแดนไม่ใช่ขายชาติ แต่ปกป้องชาติ ทุกฝ่ายควรหยุดโกหกเรื่องปราสาทพระวิหาร ในหลายประเด็น ทั้งนี้ คำตัดสินได้ทำให้ความจริงปรากฏดังนี้
1. ยืนยันชัดเจนว่า ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชามา 51 ปีแล้ว
2. ปี 2549 ช่วงรัฐบาล คมช. กัมพูชายื่นเอาตัวปราสาทพระวิหาร บวกพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก
3. ปี 2551 รัฐบาลสมัคร ที่มีตนเป็น รมว.การต่างประเทศคัดค้านและบังคับให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ออก และห้ามไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก
นายนพดล กล่าวด้วยว่า
4. กัมพูชา ขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้เฉพาะตัวปราสาท และไม่รวมพื้นที่พิพาทไทยกัมพูชา
5. คณะต่อสู้คดีที่มีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจํา กรุงเฮก เป็นหัวหน้าต้องการใช้คำแถลงการณ์ร่วมของตนในการต่อสู้คดี
6. สรุปว่า คำตัดสินของศาลโลก ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า คำแถลงการณ์ร่วมไม่ได้ทำให้ไทยเสียดินแดนใด ๆ แต่ได้ช่วยปกป้องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ไม่ให้ตกเป็นของกัมพูชา
7. อโหสิกรรมนักการเมืองกลุ่มที่ใส่ร้ายตนมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อฝุ่นจางลง ความจริงก็ปรากฏ แต่เวลานานเกินไปที่ฝุ่นจะจาง
8. คำพิพากษาศาลโลกจะทำให้การบิดเบือนใส่ร้ายทำได้ยากขึ้นเพราะประชาชนเข้าใจ ว่าฝ่ายใดทำอะไรไว้ ใครใช้ประเด็นปราสาทพระวิหารมาล้มรัฐบาลสมัคร และใส่ร้ายตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและใครคือผู้ปกป้องดินแดน
นายนพดล กล่าวอีกว่า
และ
9. ฝ่ายต่าง ๆ ควรหยุดวิจารณ์คำตัดสินศาลโลกเพื่อหวังผลทางการเมืองได้แล้ว แต่ควรให้ข้าราชการมืออาชีพทำงาน เลิกสร้างปัญหา แต่ควรร่วมมือแก้ปัญหา
ทั้งนี้ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ก็ใส่ร้ายป้ายสีว่าตนทำให้เสียดินแดน ก็ขออโหสิกรรม นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ประชาธิปัตย์และ กลุ่ม 40 ส.ว. หยุดวิพากษ์ วิจารณ์ได้แล้ว แล้วปล่อยให้นายวีรชัย และทีมทนายได้ทำหน้าที่.
http://www.thairath.co.th/content/pol/383401
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
17 พฤศจิกายน 2556, 15:40 น.
'นพดล'อโหสิกรรมให้โดนด่าขายชาติคดีพระวิหารตลอด
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ แถลงว่า ตนขอความเป็นธรรม หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่า ขายชาติ และถูกปิดเบือนใส่ร้ายมา 6-7 ปี ซึ่งคำตัดสินศาลโลกในวันที่ 11 พ.ย. ทำให้ประชาชนรู้ว่าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ไม่ได้ตกเป็นของกัมพูชา และสิ่งที่รัฐบาลสมัครทำเป็นการปกป้องดินแดนไม่ใช่ขายชาติ แต่ปกป้องชาติ ทุกฝ่ายควรหยุดโกหกเรื่องปราสาทพระวิหาร ในหลายประเด็น ทั้งนี้ คำตัดสินได้ทำให้ความจริงปรากฏดังนี้
1. ยืนยันชัดเจนว่า ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชามา 51 ปีแล้ว
2. ปี 2549 ช่วงรัฐบาล คมช. กัมพูชายื่นเอาตัวปราสาทพระวิหาร บวกพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก
3. ปี 2551 รัฐบาลสมัคร ที่มีตนเป็น รมว.การต่างประเทศคัดค้านและบังคับให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ออก และห้ามไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก
นายนพดล กล่าวด้วยว่า
4. กัมพูชา ขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้เฉพาะตัวปราสาท และไม่รวมพื้นที่พิพาทไทยกัมพูชา
5. คณะต่อสู้คดีที่มีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจํา กรุงเฮก เป็นหัวหน้าต้องการใช้คำแถลงการณ์ร่วมของตนในการต่อสู้คดี
6. สรุปว่า คำตัดสินของศาลโลก ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า คำแถลงการณ์ร่วมไม่ได้ทำให้ไทยเสียดินแดนใด ๆ แต่ได้ช่วยปกป้องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ไม่ให้ตกเป็นของกัมพูชา
7. อโหสิกรรมนักการเมืองกลุ่มที่ใส่ร้ายตนมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อฝุ่นจางลง ความจริงก็ปรากฏ แต่เวลานานเกินไปที่ฝุ่นจะจาง
8. คำพิพากษาศาลโลกจะทำให้การบิดเบือนใส่ร้ายทำได้ยากขึ้นเพราะประชาชนเข้าใจ ว่าฝ่ายใดทำอะไรไว้ ใครใช้ประเด็นปราสาทพระวิหารมาล้มรัฐบาลสมัคร และใส่ร้ายตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและใครคือผู้ปกป้องดินแดน
นายนพดล กล่าวอีกว่า
และ 9. ฝ่ายต่าง ๆ ควรหยุดวิจารณ์คำตัดสินศาลโลกเพื่อหวังผลทางการเมืองได้แล้ว แต่ควรให้ข้าราชการมืออาชีพทำงาน เลิกสร้างปัญหา แต่ควรร่วมมือแก้ปัญหา
ทั้งนี้ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ก็ใส่ร้ายป้ายสีว่าตนทำให้เสียดินแดน ก็ขออโหสิกรรม นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ประชาธิปัตย์และ กลุ่ม 40 ส.ว. หยุดวิพากษ์ วิจารณ์ได้แล้ว แล้วปล่อยให้นายวีรชัย และทีมทนายได้ทำหน้าที่.
http://www.thairath.co.th/content/pol/383401
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
17 พฤศจิกายน 2556, 15:40 น.