'โทนี่' ฟันธง 7 ก.พ.66 รมต.ลาออกย้ายพรรคเกินครึ่ง ลั่นซื้อเสียงก็เอาเพื่อไทยไม่อยู่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7402051

‘โทนี่’ ฟันธง 7 ก.พ.66 รมต.ลาออกย้ายพรรคเกินครึ่ง คนให้กล้วยต้องรับลิงกลับบ้าน ลั่นซื้อเสียงหัวละ 1,000 ก็เอาเพื่อไทยไม่อยู่ เชื่อชาวบ้านเลือกอนาคต
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือพี่โทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse หัวข้อ “คิดใหม่ ทำใหม่” ถึง “คิดใหญ่ ทำเป็น” กรณีสถานการณ์การเมืองหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับแล้วว่า การเมืองหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้น เห็นที่คุณสมชัย ศรีสุทธิยากร บอกว่าวันที่ 7 ก.พ.66 จะเป็นวันสุดท้ายที่ ส.ส.จะย้ายพรรคตามกฎหมายได้ หากพล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบ
“ถ้าคุณประยุทธ์ไม่ยุบสภาฯ ก่อน 7 ก.พ. คงจะมี ส.ส.ลาออกกันเป็นแถว เป็นกระบวนการย้ายพรรคครั้งใหญ่ พวกที่เอากล้วยให้ลิงกินไว้ก็ต้องรับลิงกลับบ้าน วันนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว พอถึงวันที่ 7 ก.พ.66 จะมีรัฐมนตรีลาออกครึ่งหนึ่งเพื่อย้ายพรรค ก็ไม่รู้จะบริหารอย่างไร แต่นายกฯ คงอยากจะอยู่ครบเทอม”
“คราวหน้า Money politic ที่ต้องหาเงินเยอะๆ ไปซื้อจะเจ็บตัวหมด วันนี้ชาวบ้านมีความรู้ เขาใช้สมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว เขามีความรู้ว่าอะไรที่เป็นอนาคตของเขา ตังค์เขารับแน่นอน ต้องขอบคุณที่ฟากรัฐบาลหลายพรรคมีสตางค์ที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนก็จะอิ่มหน่อย อิ่มแค่วันสองวัน แต่ระยะยาวเขาก็จะเลือกในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นอนาคตของเขา และความเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยที่พูดแล้วทำได้หมดทำเป็น คิดเป็น แล้ววันนี้คิดใหญ่ด้วย น่ากลัวนะพรรคเพื่อไทยคราวนี้ Money politic เอาไม่อยู่ ผมก็ไม่รู้ว่าพวกซื้อหัวละ 1,000 จะเอาพรรคเพื่อไทยอยู่ไหม เชื่อว่าเอาไม่อยู่” นายทักษิณ กล่าว
สุทิน เย้ย มิ่งขวัญ ขายไม่ออกต้องซบ พปชร. ชี้สินค้าดี แต่แพ็กเกจไม่ดี ราคาก็ตก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7402439
สุทิน เชื่อ คนๆ เดียวแก้ปัญหากลุ่มคนไม่ได้ ชี้ สินค้าดี แต่แพ็กเกจไม่ดี ราคาก็ตก เย้ย “มิ่งขวัญ” ถ้าตัวเองขายได้ คงไม่ย้ายไปพรรคอื่น ลั่น ไม่กลัวพปชร.
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัว นาย
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ว่า ตนคิดว่าคนคนเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาคนกลุ่มความคิดเดิมๆ ได้ และคนที่เข้าไปอาจจะเสียด้วย
“
วัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องใหญ่ คนเก่งขนาดไหนหากไปอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ใช่ ก็จะลดทอนความสามารถของคนลง หากวัฒนธรรมองค์กรดีๆ ถึงคนจะไม่เก่งเข้าไปอยู่ก็จะส่งเสริมทำให้คนเก่งขึ้น” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า นาย
มิ่งขวัญยังสามารถขายได้ในสนามเลือกตั้งหรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า นาย
มิ่งขวัญตั้งพรรคเองมา 2 ครั้ง หากเขาคิดว่าตัวเขาเองขายได้ ก็คงไม่ย้ายไปพรรคอื่น
“
ผมถึงบอกสินค้าอาจจะดีแต่ถ้าไปอยู่ในแพ็กเกจที่ไม่ดีมันก็ไม่ได้ คนเก่งไปอยู่ในองค์กรที่ไม่เก่งอาจจะถูกริดรอน ราคาอาจจะตกก็ได้ ท่านก็เคยตั้งพรรคตัวเองแล้ว ท่านก็น่าจะรู้ว่าจะไปได้หรือไม่ได้ อันนั้นคือคำตอบ” นาย
สุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวใช่หรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า วันนี้เราคิดว่าไม่น่ากลัวหรอก เพราะมันพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโพล หรือการตอบรับ เรามั่นใจว่าประชาชนได้รับการกดดันมา 8 ปี ตนคิดว่าประชาชนต้องหาทางออกให้ได้ และเราก็เสนอทางออกให้เขาแล้ว
‘รัฐสภา’ คว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น ‘ส.ว.’ ปิดประตูกระจายอำนาจ เห็นด้วยแค่ 6 คน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3713215
‘
รัฐสภา’ คว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น ‘ส.ว.’ ผนึกเสียงปิดประตูกระจายอำนาจ โหวตเห็นด้วยแค่ 6 คน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา ที่มี นาย
ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการโหวตร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ ร่างปลดล็อกท้องถิ่น ที่เสนอโดย นายธ
นาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เป็นผู้เสนอ ในวาระ 1 ด้วยวิธีการขานชื่อ
โดยเริ่มลงมติด้วยการขานชื่อเรียงตามตัวอักษร สำหรับ ส.ส.ฝ่ายค้าน โหวต รับหลักการ ยกเว้น ส.ส.ที่ประกาศตัวจะย้ายพรรคไปอยู่กับพรรครัฐบาล
ด้าน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เปิดให้ฟรีโหวต แต่ละพรรคโหวตไปคนละทิศทาง เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่วนใหญ่โหวตไม่เห็นด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่วนใหญ่งดออกเสียง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส่วนใหญ่โหวตเห็นด้วย
ทั้งนี้ ส.ว. ซึ่งอภิปรายคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น แสดงความชัดเจน โหวตไม่เห็นด้วย มีเพียง ส.ว.ไม่กี่คนเท่านั้นที่โหวตเห็นด้วย
ต่อมา เวลา 11.35 น. เมื่อเปิดให้สมาชิกขานชื่อโหวตจนครบแล้ว นาย
ชวนได้เปิดให้สมาชิกที่มาโหวตไม่ทันในช่วงต้นเรียงแถวที่โพเดียมจุดอภิปราย ซึ่งจัดไว้ให้ขานชื่อเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
คราวนี้นาย
ชวนแจ้งว่ามีจำนวนมากเป็นพิเศษ ถึงร้อยกว่าคน จึงให้สมาชิกยืนเป็นแถวสวมหน้ากากอนามัย เดินเข้ามาในตู้และขานชื่อพร้อมเลขประจำตัวเพื่อสะดวกต่อการนับคะแนน
ในช่วงที่ นาย
พัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ถูก นาย
ศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรค ภท.และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ปราศรัยกล่าวหาว่าโง่ ได้กล่าวขานชื่อด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นว่า “
239 พัฒนา สัพโส ไอ้โง่ รับหลักการครับ”
จากนั้นเวลา 12.10 น. นายชวนที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้ประกาศผลการลงมติ โดยที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นด้วย คะแนน 254 ต่อ 245 คะแนน งดออกเสียง 129 คะแนน
และแจ้งเพิ่มเติมว่า คะแนนรับหลักการมีจำนวนน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา คือน้อยกว่า 361 คน ในจำนวนนี้มีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบ จำนวน 6 คะแนน ถือว่าน้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือน้อยกว่า 83 คะแนน
ดังนั้น จึงถือว่ามติที่ประชุมรัฐสภาไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นฉบับนี้
JJNY : 'โทนี่'ฟันธง 7ก.พ.66 | สุทินเย้ยมิ่งขวัญขายไม่ออก| ‘รัฐสภา’คว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น| สำรวจราคาผลไม้-อาหารทะเลโคราช
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7402051
‘โทนี่’ ฟันธง 7 ก.พ.66 รมต.ลาออกย้ายพรรคเกินครึ่ง คนให้กล้วยต้องรับลิงกลับบ้าน ลั่นซื้อเสียงหัวละ 1,000 ก็เอาเพื่อไทยไม่อยู่ เชื่อชาวบ้านเลือกอนาคต
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือพี่โทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse หัวข้อ “คิดใหม่ ทำใหม่” ถึง “คิดใหญ่ ทำเป็น” กรณีสถานการณ์การเมืองหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับแล้วว่า การเมืองหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้น เห็นที่คุณสมชัย ศรีสุทธิยากร บอกว่าวันที่ 7 ก.พ.66 จะเป็นวันสุดท้ายที่ ส.ส.จะย้ายพรรคตามกฎหมายได้ หากพล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบ
“ถ้าคุณประยุทธ์ไม่ยุบสภาฯ ก่อน 7 ก.พ. คงจะมี ส.ส.ลาออกกันเป็นแถว เป็นกระบวนการย้ายพรรคครั้งใหญ่ พวกที่เอากล้วยให้ลิงกินไว้ก็ต้องรับลิงกลับบ้าน วันนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว พอถึงวันที่ 7 ก.พ.66 จะมีรัฐมนตรีลาออกครึ่งหนึ่งเพื่อย้ายพรรค ก็ไม่รู้จะบริหารอย่างไร แต่นายกฯ คงอยากจะอยู่ครบเทอม”
“คราวหน้า Money politic ที่ต้องหาเงินเยอะๆ ไปซื้อจะเจ็บตัวหมด วันนี้ชาวบ้านมีความรู้ เขาใช้สมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว เขามีความรู้ว่าอะไรที่เป็นอนาคตของเขา ตังค์เขารับแน่นอน ต้องขอบคุณที่ฟากรัฐบาลหลายพรรคมีสตางค์ที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนก็จะอิ่มหน่อย อิ่มแค่วันสองวัน แต่ระยะยาวเขาก็จะเลือกในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นอนาคตของเขา และความเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยที่พูดแล้วทำได้หมดทำเป็น คิดเป็น แล้ววันนี้คิดใหญ่ด้วย น่ากลัวนะพรรคเพื่อไทยคราวนี้ Money politic เอาไม่อยู่ ผมก็ไม่รู้ว่าพวกซื้อหัวละ 1,000 จะเอาพรรคเพื่อไทยอยู่ไหม เชื่อว่าเอาไม่อยู่” นายทักษิณ กล่าว
สุทิน เย้ย มิ่งขวัญ ขายไม่ออกต้องซบ พปชร. ชี้สินค้าดี แต่แพ็กเกจไม่ดี ราคาก็ตก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7402439
สุทิน เชื่อ คนๆ เดียวแก้ปัญหากลุ่มคนไม่ได้ ชี้ สินค้าดี แต่แพ็กเกจไม่ดี ราคาก็ตก เย้ย “มิ่งขวัญ” ถ้าตัวเองขายได้ คงไม่ย้ายไปพรรคอื่น ลั่น ไม่กลัวพปชร.
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัว นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ว่า ตนคิดว่าคนคนเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาคนกลุ่มความคิดเดิมๆ ได้ และคนที่เข้าไปอาจจะเสียด้วย
“วัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องใหญ่ คนเก่งขนาดไหนหากไปอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ใช่ ก็จะลดทอนความสามารถของคนลง หากวัฒนธรรมองค์กรดีๆ ถึงคนจะไม่เก่งเข้าไปอยู่ก็จะส่งเสริมทำให้คนเก่งขึ้น” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า นายมิ่งขวัญยังสามารถขายได้ในสนามเลือกตั้งหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า นายมิ่งขวัญตั้งพรรคเองมา 2 ครั้ง หากเขาคิดว่าตัวเขาเองขายได้ ก็คงไม่ย้ายไปพรรคอื่น
“ผมถึงบอกสินค้าอาจจะดีแต่ถ้าไปอยู่ในแพ็กเกจที่ไม่ดีมันก็ไม่ได้ คนเก่งไปอยู่ในองค์กรที่ไม่เก่งอาจจะถูกริดรอน ราคาอาจจะตกก็ได้ ท่านก็เคยตั้งพรรคตัวเองแล้ว ท่านก็น่าจะรู้ว่าจะไปได้หรือไม่ได้ อันนั้นคือคำตอบ” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้เราคิดว่าไม่น่ากลัวหรอก เพราะมันพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโพล หรือการตอบรับ เรามั่นใจว่าประชาชนได้รับการกดดันมา 8 ปี ตนคิดว่าประชาชนต้องหาทางออกให้ได้ และเราก็เสนอทางออกให้เขาแล้ว
‘รัฐสภา’ คว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น ‘ส.ว.’ ปิดประตูกระจายอำนาจ เห็นด้วยแค่ 6 คน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3713215
‘รัฐสภา’ คว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น ‘ส.ว.’ ผนึกเสียงปิดประตูกระจายอำนาจ โหวตเห็นด้วยแค่ 6 คน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการโหวตร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ ร่างปลดล็อกท้องถิ่น ที่เสนอโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เป็นผู้เสนอ ในวาระ 1 ด้วยวิธีการขานชื่อ
โดยเริ่มลงมติด้วยการขานชื่อเรียงตามตัวอักษร สำหรับ ส.ส.ฝ่ายค้าน โหวต รับหลักการ ยกเว้น ส.ส.ที่ประกาศตัวจะย้ายพรรคไปอยู่กับพรรครัฐบาล
ด้าน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เปิดให้ฟรีโหวต แต่ละพรรคโหวตไปคนละทิศทาง เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่วนใหญ่โหวตไม่เห็นด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่วนใหญ่งดออกเสียง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส่วนใหญ่โหวตเห็นด้วย
ทั้งนี้ ส.ว. ซึ่งอภิปรายคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น แสดงความชัดเจน โหวตไม่เห็นด้วย มีเพียง ส.ว.ไม่กี่คนเท่านั้นที่โหวตเห็นด้วย
ต่อมา เวลา 11.35 น. เมื่อเปิดให้สมาชิกขานชื่อโหวตจนครบแล้ว นายชวนได้เปิดให้สมาชิกที่มาโหวตไม่ทันในช่วงต้นเรียงแถวที่โพเดียมจุดอภิปราย ซึ่งจัดไว้ให้ขานชื่อเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
คราวนี้นายชวนแจ้งว่ามีจำนวนมากเป็นพิเศษ ถึงร้อยกว่าคน จึงให้สมาชิกยืนเป็นแถวสวมหน้ากากอนามัย เดินเข้ามาในตู้และขานชื่อพร้อมเลขประจำตัวเพื่อสะดวกต่อการนับคะแนน
ในช่วงที่ นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ถูก นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรค ภท.และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ปราศรัยกล่าวหาว่าโง่ ได้กล่าวขานชื่อด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นว่า “239 พัฒนา สัพโส ไอ้โง่ รับหลักการครับ”
จากนั้นเวลา 12.10 น. นายชวนที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้ประกาศผลการลงมติ โดยที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นด้วย คะแนน 254 ต่อ 245 คะแนน งดออกเสียง 129 คะแนน
และแจ้งเพิ่มเติมว่า คะแนนรับหลักการมีจำนวนน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา คือน้อยกว่า 361 คน ในจำนวนนี้มีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบ จำนวน 6 คะแนน ถือว่าน้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือน้อยกว่า 83 คะแนน
ดังนั้น จึงถือว่ามติที่ประชุมรัฐสภาไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นฉบับนี้