JJNY : วิโรจน์โดนขู่ยิง│จ่าเอ็ม เครียดหนัก│OPPO-realme แถลงปมติดตั้งแอปเงินกู้│ยูเครนจับทหาร 'เกาหลีเหนือ' ได้ 2 คน

วิโรจน์ โดน นาย ส. คนติดป้ายหาเสียง คู่แข่งชิง นายกอบจ.จันทบุรี ขู่ยิง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9585926
 
 
วิโรจน์ โดน นาย ส. คนติดป้ายหาเสียง คู่แข่งชิง นายกอบจ.จันทบุรี ขู่ยิง-ก่อนโทรมาขอโทษกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ลั่นกำลังใจยังดี ไม่อยากดำเนินคดีปชช. แต่ต้องลงบันทึกไว้
 
วันที่ 12 ม.ค.2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ความว่า 
 
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. คุณจิรวัฒน์ อินทอง (ผู้ใหญ่ไว้) ผู้สมัคร ส.อบจ. อ.มะขาม ต.วังแซ้ม ต.ปัถวี และ ต.ฉมัน ไปร่วมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดวังแซ้ม

อยู่ดีๆ นาย ส. ซึ่งเป็นผู้ติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ที่เป็นคู่แข่งขัน เข้ามาพูดจาในลักษณะข่มขู่หมายเอาชีวิตผม โดยบอกกับคุณจิรวัฒน์ว่า “เดี๋ยววิโรจน์จะถูกยิง”
 
คุณจิรวัฒน์ จึงรีบโทรศัพท์มาแจ้งให้ผมทราบเพื่อระวังตัว ผมจึงโทรศัพท์ไปปรึกษา พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี และเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธร จ.จันทบุรี ในวันที่ 11 ม.ค.68 เวลาประมาณ 20.00 น. พร้อมด้วย สส.เล็ก ญาณธิชา บัวเผื่อน และ สส.บิว วรายุทธ ทองสุข เพื่อพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 (1) ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้าย
 
ระหว่างที่กำลังปรึกษาข้อกฎหมายกับพนักงานสอบสวน พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ ได้ประสานให้นาย ส. โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับผม โดยให้พนักงานสอบสวนร่วมรับฟังเป็นพยานด้วย
 
ซึ่งนาย ส. ยอมรับว่าได้พูดกับคุณจิรวัฒน์ ในลักษณะที่รับฟังได้ว่าเป็นการข่มขู่หมายเอาชีวิตผมจริง และยอมรับว่าตนเป็นผู้ติดป้ายหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี อีกหมายเลขหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่แข่งขันจริง แต่นาย ส. อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะยิงผมตามที่ได้พูดข่มขู่ผม และได้ขอโทษในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป
 
ผมในฐานะผู้แทนราษฎร โดยปกติก็ไม่อยากจะดำเนินคดีกับประชาชนอยู่แล้ว และ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.จันทบุรี ได้รับปากว่าจะพยายามสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ ผมจึงตัดสินใจไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับนาย ส. โดยขอเพียงลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน
 
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ ผมยังคงมีกำลังใจที่ดี และยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยหาเสียงให้กับ พี่หน่อย มานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี เบอร์ 1 ของ พรรคประชาชน อย่างไม่ย่อท้อต่อไป
 
ผมเชื่อว่า คนเราถ้าเราถ้าไม่คดไม่โกง ไม่คอร์รัปชั่น กล้าที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ประชาชนจะคอยเดินเคียงข้าง และเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กปกป้องเราให้เอง
 
ขอชาว #จันทบุรี กรุณาพิจารณาความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเรา และโปรดให้โอกาสพรรคประชาชน ในการเลือกตั้งนายก อบจ. ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. นี้ ด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/wirojlak/posts/pfbid08ZKKLNMTWVYKiLfswdQi8V1ka1pxDJpkZuecmFq9eRG6rYNr9ZX4wJBvaHAisRLUl
 

 
จ่าเอ็ม เครียดหนัก ไม่พร้อมเจอแม่ จ่อสอบเข้มต่อวันนี้ โยงคนบงการ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4996045

จากกรณี นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านของกัมพูชา ดับบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ แล้วหลบหนีข้ามไปประเทศกัมพูชา ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ จ.สระแก้ว ก่อนจะถูกชุดสืบสวนนครบาลและตำรวจกัมพูชา จับตัวได้ที่ร้านอาหาร ใน ต.ปเรยสวย อ.โมงรึไทร จ.พระตะบอง ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่สน.ชนะสงคราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าบรรยากาศเป็นไปตามปกติ ยังไม่พบการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นบริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องควบคุมผู้ต้องหา
ด้าน พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายเอกลักษณ์ หรือ “จ่าเอ็ม” ผู้ต้องหาซึ่งมีท่าทีที่เคร่งเครียด แต่ยังคงให้การที่เป็นประโยชน์ในส่วนพฤติการณ์ จนสามารถทำคำรับสารภาพประกอบวิดิโอที่เล่าพฤติการณ์ในคดีอย่างละเอียดได้ครบถ้วน โดยจ่าเอ็มยืนยันว่าเป็นบุคคลตามกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ทั้งหมด แต่เมื่อสอบปากคำเชิงลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่น เช่น ผู้มีพระคุณหรือบุคคลผู้ชี้เป้า ยังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากไม่ยอมตอบคำถามและต้องการสูบบุหรี่ แม้ว่าทางตำรวจพยายามที่จะใช้หลักจิตวิทยาในการพูดคุย แต่ผู้ต้องหาก็ยังปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลในเชิงลึก รวมทั้งยังมีอาการสับสนมึนงงว่าทำอะไรลงไปและมีท่าทีวิตกกังวลกลัวว่า บุคคลอื่นที่ให้การถึงนั้น จะเดือดร้อน ทำให้พนักงานสอบสวนต้องประเมินอาการร่วมกับทนายความและแพทย์ ลงความเห็นว่า ผู้ต้องหายังมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย และเคร่งเครียด เนื่องจากภาวะพักผ่อนน้อย จึงมีสภาวะที่ยังไม่พร้อมให้ปากคำ ทางพนักงานสอบสวนจึงหยุดการสอบปากคำในเวลา 22.00 น. ของเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนคุมตัวเข้าห้องขัง
 
สำหรับการควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ตลอดทั้งคืนนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายปราบปรามและสืบสวนเฝ้าบริเวณหน้าห้องควบคุมตัวตลอดทั้งคืน พร้อมทั้งได้จัดหาผ้าห่มให้เพราะเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีอากาศหนาว โดยจ่าเอ็มสามารถนอนหลับได้ตามปกติ ไม่มีท่าทีจะทำร้ายตัวเองแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ทางตำรวจได้จัดโจ๊กเอาไว้เป็นมื้อเช้า ซึ่งก็สามารถรับประทานได้ตามปกติ
 
ทั้งนี้ จากการประเมินท่าทีด้านจิตวิทยาของจ่าเอ็มนั้น เท่าที่มีการสอบถามพูดคุยมีการผ่อนคลายได้ระดับหนึ่งในเรื่องของความปลอดภัย โดยเฉพาะการนอน จ่าเอ็มบอกกับตำรวจว่าสามารถนอนหลับได้อย่างเต็มที่โดยไร้ความวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะเนื่องจากที่ผ่านมาต้องนอนแปลกที่มาโดยตลอด
แต่อย่างไรก็ตาม จ่าเอ็มยังมีอาการวิตกกังวลและไม่พร้อมที่จะเจอแม่และญาติ จึงเป็นเหตุทำให้จ่าเอ็มแจ้งความประสงค์ที่จะไม่ขอพบญาติแต่อย่างใด เพราะขนาดเจ้าตัวเห็นข่าวในโทรทัศน์ที่แม่ของตัวเองตามไปหาถึง จ.สระแก้ว บริเวณชายแดน ก็มีอาการเครียดเป็นอย่างมากและเมื่อคืนนี้ที่ครอบครัวของไม่สามารถเข้าพบเจ้าตัวได้นั้น ยืนยันว่าเป็นเพราะความต้องการของผู้ต้องหาเองเอง ไม่ใช่เกิดจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกีดกัน ทางตำรวจจึงต้องให้โทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้เป็นเเม่ โดยจ่าเอ็มอธิบายให้ฟังเพียงแค่ว่า ยังไม่พร้อมที่จะเจอ และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป พร้อมจะรับโทษในเรือนจำ ก่อนที่จะตัดสาย เมื่อผู้เป็นแม่ได้รับฟังก็เชื่อและยอมเดินทางกลับไปแต่โดยดี ส่วนนายเอ็มหลังวางสายก็ยังมีอาการเครียดและขอบุหรี่สูบทันที
พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนในวันนี้นั้น ทางตำรวจจะประเมินอาการและดูท่าทีให้ผู้ต้องหาผ่อนคลายในช่วงเช้าก่อน แล้วในช่วงบ่ายจะประเมินดูอีกครั้งว่าพร้อมจะให้การกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งหรือไม่ เพราะยอมรับว่าตอนนี้ยังให้การที่ไม่เป็นประโยชน์ในเรื่องของบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คำรับสารภาพของจ่าเอ็มถือเป็นพยานหลักฐานชั้นดีที่สามารถใช้ประกอบสำนวนคดีได้ แม้ผู้ต้องหาจะไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพก็ตาม
 
ซึ่งหลังจากนี้ ทางตำรวจเตรียมข้อมูลเพื่อสืบสวนหาบุคคลที่เป็นผู้มีพระคุณและอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะข้อมูลจากโทรศัพท์ของจ่าเอ็ม เมื่อสามารถสืบสวนพิสูจน์ทราบได้แล้วว่าเป็นใคร ก็จะเรียกบุคคลนั้นมาสอบปากคำต่อไป
 
ทั้งนี้ในวันที่ 13 ม.ค. ทางตำรวจ สน.ชนะสงคราม จะนำตัวจ่าเอ็ม ส่งฝากขังต่อศาลอาญาในช่วงเช้าก่อนเที่ยง โดยทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม จ่าเอ็มได้แจ้งความประสงค์กับทนายความว่าจะไม่ยื่นประกันตัวและพร้อมเข้าสู่เรือนจำ เนื่องจากก่อนหน้านี้จากเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง



OPPO-realme แถลงปมติดตั้งแอปเงินกู้
https://siamrath.co.th/n/593372
 
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อ "สภาองค์กรของผู้บริโภค" ออกมาเตือนประชาชนหลังมีผู้ใช้งานหลายรายพบว่า แอปพลิเคชันกู้เงินเถื่อน "สินเชื่อความสุข" และ "Fineasy" ถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการในรูปแบบ System App บนสมาร์ทโฟน 2 ยี่ห้อ โดยไม่สามารถลบออกได้และยังเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานได้อีกด้วย 
 
ล่าสุด OPPO และ realme ประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ขอโทษเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว  โดย OPPO ได้แถลงการณ์ว่า  OPPO ขออภัยเป็นอย่างสูงในเหตุการณ์ล่าสุดที่เป็นประเด็นบนหน้าสื่อฯ ออนไลน์ โดย OPPO ตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับประสบการณ์การใช้งานและความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเสมอมา สำหรับประเด็นเกี่ยวกับซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลการกู้ยืมเงินนั้น เรากำลังทำงานกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจังและรวดเร็วที่สุด
 
ล่าสุด แอปฯ Fineasy ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคงไว้เฉพาะฟังก์ชันบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเท่านั้น นอกจากนี้ เรากำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถถอนการ ติดตั้งแอปฯ Fineasy ได้โดยเร็วที่สุด หากผู้ใช้งานต้องการถอนการติดตั้งแอปฯ ในทันที สามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้า OPPO อย่างเป็นทางการได้ทั่วประเทศ
 
นอกจากนี้ OPPO จะหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันประเภทสินเชื่อทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า รวมถึงการหยุดแนะนำแอปพลิเคชันประเภทนี้ใน APP Market อีกด้วย
 
ขณะที่ realme ได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยระบุว่า realme ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น realme ให้ความสำคัญอย่างสูงกับประสบการณ์การใช้งานและความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานทุกท่าน ดังนั้น สำหรับกรณีที่เกี่ยวข้องกับบริการสินเชื่อจากแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามในช่วงที่ผ่านมา ทางบริษัท realme กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดและจัดการอย่างจริงจังโดยเร็วที่สุด
 
โดยแอปฯ Fineasy ได้ทำการลบข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อออกทั้งหมดและคงไว้เพียงฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการในชีวิตประจำวันเท่านั้น และจะเร่งปล่อยอัปเดตสิทธิ์ให้ผู้ใช้งานให้สามารถลบแอป Fineasy และหากผู้ใช้งานต้องการลบแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทันที สามารถติดต่อศูนย์บริการ realme ได้ทั่วประเทศ
 
นอกจากนี้ realme จะหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันสินเชื่อทุกประเภทในสมาร์ตโฟนรุ่นต่อไป และหยุดการแสดงผลแอปพลิเคชันสินเชื่อเป็นแอปแนะนำใน APP Market
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่