JJNY : รัฐสภาถกร่างแก้ปลดล็อกท้องถิ่น|คนกทม.อ่วม"บีทีเอส"ปรับค่าโดยสาร| โพล"ส.อ.ท."วอนตรึงค่าไฟ|ยุติล็อกดาวน์เจิ้งโจว

รัฐสภาถกร่างแก้รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น ‘ธนาธร’ ขอให้ดูประชาชนเป็นหลัก
https://www.dailynews.co.th/news/1737048/

“รัฐสภา” ถกร่างแก้รธน.ปลดล็อกท้องถิ่นแล้ว "ธนาธร"เบรกก่อน “ไม่ชอบผมไม่เป็นไร ให้ดูประชาชนเป็นหลัก” ย้ำกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นแก้ปัญหา-พัฒนาพื้นที่ "ปิยบุตร" ย้ำไม่มีประเด็นแบ่งแยกดินแดน ไม่ยุ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน วอนรัฐสภาโหวตรับหลักการ

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 30 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภา โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้เข้าสู่วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. เกี่ยวกับหมวดการปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  หัวหน้าคณะก้าวหน้า และประชาชน 76,591 คนเสนอ
 
ทั้งนี้ก่อนการพิจารณาสาระ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หารือต่อที่ประชุมถึงการใช้เวลาอภิปราย โดยกำหนดเวลาให้ฝ่ายละ 2 ชั่วโมง คือ ตัวแทนประชาชนที่นำเสนอร่าง 2 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 2 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง ฝ่ายวุฒิสภา 2 ชั่วโมง รวม 8 โมง จากนั้นจะใช้เวลาในการลงมติอย่างเปิดเผยด้วยการขานชื่อ จำนวน 2 ชั่วโมง ซึ่งปรากฏว่าในการเสนอดังกล่าว ได้รับการคัดค้านจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ได้คัดค้านเนื่องจากเป็นการปิดกั้นการอภิปรายของสมาชิก พร้อมเสนอให้เปิดกว้างกับการอภิปราย และหากลงมติไม่แล้วเสร็จในวันที่ 30 พ.ย.ได้ ก็สามารถเลื่อนการลงมติในการประชุมรัฐสภาครั้งถัดไปได้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือเรื่องเวลาดังกล่าวไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนในที่ประชุม ทำให้ วิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ขอหารือนอกรอบอีกครั้ง จากนั้นได้เข้าสู่การนำเสนอสาระร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
 
โดยนายธนาธร ได้นำเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ… ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นฉบับปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อทำให้อำนาจและอิสระต่อการบริหาร งบประมาณ รวมถึงประชามติปรับโครงสร้างการบริหารประเทศครั้งใหญ่ โดยยังยึดหลักการพื้นฐานอำนาจเป็นของประชาชน และประชาชนเป็นผู้เลือกตัวแทน ทั้งนี้จะมีความชัดเจนในอำนาของการให้บริการสาธารณะออกแบบพัฒนาชุมชนของตนเอง เพื่อพัฒนาจังหวัดไปข้างหน้าตอบสนองความต้องการของประชาชนในชุมชน ขณะที่งบประมาณ กำหนดให้จัดสรรงบประมาณเป็นธรรม เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ท้องถิ่นได้รับงบ ร้อยละ 30 ไปเป็น ร้อยละ 50
 
นายธนาธร กล่าวว่าตนเชื่อว่าการแบ่งสรรอำนาจ จัดสรรงบที่เป็นธรรมตามร่างปลดล็อกท้องถิ่นจะทำให้เป็นจริงได้ ภายใน 10-15 ปี ทั้งนี้ร่างนี้เสนอให้ทำประชามติภายใน 5 ปี ต่อการยกเลิก ควบรวมราชการส่วนภูมิภาคเข้ากับส่วนท้องถิ่น ซึ่งระยะเวลา 5 ปีจะเป็นช่วงที่สังคมไทยถกเถียงในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ดีมีตัวอย่างจากรัฐรวมศูนย์ที่ชัดเจน คือ การหารือของส.ส.ที่หารือในสภาถึงปัญหาเชิงพื้นที่ เพื่อให้ผู้มีอำนาจแก้ปัญหา ข้อมูลพบว่าร้อยละ 65 ข้อหารือเป็นปัญหาเชิงพื้นที่ที่แก้ได้ด้วยท้องถิ่นหากได้รับงบประมาณที่เพียงพอและได้รับอำนาจเพื่อแก้ปัญหา ตอบสนองปัญหาให้ประชาชนได้ ดังนั้นหากท้องถิ่นละประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ งบประมาณ และประเทศร่วมกันจะแก้ไขปัญหาได้
 
ท่านอาจไม่ชอบผมไม่เป็นไร แต่ขอให้ดูผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ร่างปลดล็อกท้องถิ่น ผมไม่ได้รับประโยชน์อะไร แต่ประชาชนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ หากเห็นด้วยในทิศทางและหลักการในการกระจายอำนาจ หากไม่เห็นด้วยรายละเอียดบางประเด็นขอให้รับหลักการ เพื่อหาทางประนีประนอม ข้อสรุปที่ยอมรับได้ในวาระต่อไปเพื่อให้เราเท่าทันปัญหาของประเทศ” นายธนาธร กล่าว
 
ทางด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล ตัวแทนผู้ชี้แจง อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภาโดยย้ำถึงสาระของร่างรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น ว่า รับรองหลักการกระจายอำนาจ ปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของคนท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 เพื่อยืนยันการกระจายอำนาจในประเทศไทย อยู่ภายใต้หลักความเป็นราชอาณาจักร และรัฐเดียว มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อป้องกันปัญหาคนตีความพิสดาร หรือเข้าใจกลุ่มตนผิดว่าต้องการแบ่งแยกดินแดน นอกจากนั้นยังมีหลักการสำคัญ คือ ประชาชนต้องมีสิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น
 
ประเทศไทยเป็นรัฐเดี่ยว ท้องถิ่นและส่วนกลางต้องมีการเกาะเกี่ยว ผ่านการกำกับดูแล ดังนั้นร่างปลดล็อกท้องถิ่นได้กำหนดให้มีการกำกับดูแลภายหลังจากที่ท้องถิ่นดำเนินการไปแล้ว และพบการทำผิดกฎหมาย ขณะที่การมีส่วนร่วมของพลเมือง กำหนดให้เข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น,ถอดถอน และเติมให้ทำประชามติในระดับท้องถิ่นในการทำโครงการ เพื่อต้องการสรางสภาพลเมือง ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ่วงดุลนายกท้องถิ่น ฐานะฝ่ายบริหารท้องถิ่นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการกำหนดให้มีการเปิดเผยการประชุมสภาท้องถิ่น สัญญา จัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส นอกจากนั้นประชาชนจะมีสิทธิในการกำหนดงบประมาณในการทำโครงการที่ประชาชนต้องการ
 
นายปิยบุตรอภิปรายถึงการโอนถ่ายส่วนราชการภูมิภาคที่จะกำหนดกรอบการถ่ายโอนที่ชัดเจน ขณะที่การออกเสียงประชามติในการถ่ายโอน ยุบราชการภูมิภาค ที่กำหนดโรดเม็พฟังความเห็นในระยะ 5 ปี หากประชาชนเห็นด้วย ส่วนราชการไม่ได้ถูกยุบ แต่จะย้ายไปสังกัดท้องถิ่นเท่านั้น ที่สำคัญร่างปลดล็อกท้องถิ่นไม่ยุ่งกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตนคาดหวังว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปลดล็อกท้องถิ่นจะได้รับการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง และวุฒิสภา ซึ่งพบว่ามีความคิดสนับสนุนกระจายอำนาจ
 
ร่างนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวุฒิสภา แต่ร่างนี้จะเป็นสิ่งที่แสดงให้สังคมเห็นว่า วุฒิสภาไม่ได้ขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญหากเป็นประโยชน์ประชาชน” นายปิยบุตร กล่าว
 
จากนั้นได้ให้สมาชิกรัฐสภา ทั้งส.ส.-ส.ว. เริ่มอภิปรายอย่างกว้างขวาง


 
คน กทม.อ่วม "บีทีเอส" ปรับค่าโดยสารเป็น 17-47 บาท ดีเดย์ 1 ม.ค.66
https://siamrath.co.th/n/403653

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในกลุ่มบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 จะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช และสายสีลม สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน รวมส่วนต่อขยายสายสีลม กรุงธนบุรี และวงเวียนใหญ่ จากราคา 16-44 บาท ปรับเป็น 17-47 บาท โโยการปรับราคาค่าโดยสารใหม่ยังต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามสัญญาสัมปทานที่ 21.52-64.53 บาท ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการมาถึง 23 ปี ตั้งแต่ปี 42 ปรับราคาไปเพียง 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือวันที่ 1 ต.ค.60 จาก 15-42 บาท เป็น 16-44 บาท ซึ่งผ่านมากว่า 5 ปีแล้วที่ไม่ได้มีการปรับค่าโดยสาร ขณะที่สัญญาสัมปทานกำหนดให้บริษัทปรับค่าโดยสารได้ทุก ๆ 18 เดือนไม่เกินเพดานอัตราสูงสุด แต่บริษัทคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนจึงได้มีการชะลอการปรับอัตราค่าโดยสารอย่างต่อเนื่อง
  
ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ผลกระทบจากสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ราคาต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะด้านพลังงาน อัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สูงขึ้น อัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ เช่น ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ที่มีจำนวนรถไฟฟ้าให้บริการสูงสุดถึง 98 ขบวน และค่าใช้จ่ายอื่นๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบริษัทพยายามตรึงค่าโดยสารมาโดยตลอด
 
สำหรับผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card) บัตรแรบบิทบุคคลทั่วไป (Adult) บัตรแรบบิทนักเรียน นักศึกษา (Student) จะคิดอัตราเดิมจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 และจะเริ่มคิดอัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 เป็นต้นไป ส่วนบัตรแรบบิทสำหรับผู้สูงอายุ (Senior) จะยังคงได้รับส่วนลด 50% ของอัตราค่าโดยสารปกติ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยว และระยะทางต่อวัน สามารถซื้อบัตรโดยสารประเภทหนึ่งวัน (One-Day Pass) ในราคา 150 บาท  
 
นอกจากนี้ บริษัทยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่มีความหลากหลาย อาทิเช่น โปรโมชั่นสะสมพอยท์จากการเดินทางเพื่อแลกเที่ยวฟรี (บีทีเอส ชาเลนจ์) นับตั้งแต่ออกโปรโมชั่นเมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 ถึงปัจจุบัน มีผู้โดยสารแลกเที่ยวฟรีแล้วกว่า 4 ล้านเที่ยว และจะเริ่มโปรโมชั่นปีที่ 2 วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.66 ยิ่งเดินทางมาก ยิ่งได้พอยท์มาก แลกเที่ยวฟรีได้ไม่จำกัด  พิเศษ 3 เดือนแรกผู้โดยสารรับโบนัสพอยท์เพิ่มจากการเดินทางเพื่อนำไปแลกเที่ยวฟรี ซึ่งจะช่วยให้ค่าโดยสารเฉลี่ยที่จ่ายมีอัตราใกล้เคียงกับอัตราค่าโดยสารเดิม
 
ทั้งนี้บริษัทขอให้คำมั่นว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ สร้างความมั่นใจ ปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในระดับสากลอย่างต่อเนื่องต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่