ต้องบอกก่อนนะคะว่าเมนูแกงส้ม นี่ขึ้นอยู่ที่สูตรบ้านใครบ้านมันจริงๆค่ะ เพราะบางคนก็ใส่กระชาย บางคนก็ไม่ใส่กระชาย
อย่างแกงส้มที่บ้านแม่สามีของเราทำ เขาก็จะไม่เน้นน้ำข้นมาก และจะนำเนื้อปลาขูด มาปั้นเป็นก้อนให้เหมือนลูกชิ้น แล้วใส่ลงไปในแกงส้มแบบนั้น รวมถึงจะฉีกใบมะกรูดอ่อน ใส่ลงไปด้วยค่ะ
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่คนในบ้านชอบกินแบบไหน ก็ทำแบบนั้นค่ะ
เอาที่บ้านเราชอบ อยากกินผักอะไรก็ใส่ลงไป ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ค่ะ
รอบนี้เราทำแกงส้มแบบที่ทางบ้านเราชอบกินนะคะ
และแกงส้มบ้านนี้ จะใส่น้ำปลาร้าลงไปด้วยนิดนึง
เราก็ไม่รู้ว่าใส่ทำไม เพราะถ้าไม่บอกว่าใส่ปลาร้า เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ค่ะ เพราะกลิ่นไม่ออกเลย แต่เราโตมากับการที่เห็นย่าเราทำแบบนี้ตลอด แล้วสุดท้ายแกงส้มมันก็อร่อยถูกปากเรา ก็เลยจำวิธีการปรุงแบบนี้มาโดยปริยาย
จริงๆย่าของเราเป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนปู่เราเป็นคนอยุธยา
และครอบครัวทางฝั่งแม่ของเราเป็นคนภาคเหนือค่ะ
แต่เราเอง อาศัยหลักๆอยู่กับทางปู่ย่า ก็เลยเติบโตมาในจังหวัดโซนภาคกลาง ส่วนแกงส้มใส่น้ำปลาร้านี่เป็นสูตรทางบ้านปู่เราเอง แต่ขอไม่บอกอำเภอนะคะ เพราะบางบ้านก็อาจจะไม่เหมือนกัน เลยไม่อยากจะเหมารวม หรือสร้างความเข้าใจผิด อย่างที่บอกค่ะ มันแล้วแต่บ้านจริงๆ อย่างน้ำยากะทิที่ใช้กินกับขนมจีน บ้านปู่เราก็จะใส่ปลาเค็ม(ปลาอินทรีย์) เป็นวัตถุดิบนึงของการทำน้ำยากะทิเหมือนกัน
แกงส้มมะละกอรอบนี้ จริงๆ เป็นอาหารมื้อเย็น ( ของเมื่อวาน ) แต่ทำหม้อใหญ่ไว้ค่ะ พอแกงเหลือค้างคืน เช้านี้เลยอุ่นแล้วกินต่อได้อีก ยิ่งอุ่นยิ่งอร่อยค่ะสำหรับเมนูแกงส้ม
.
.
.
.
และสำหรับแกงส้มครั้งนี้ ก็ตำพริกแกงเองเหมือนเดิมค่ะ
น้ำพริกแกงส้ม เป็นพริกแกงอีกอย่างนึงที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไร วัตถุดิบเกือบทั้งหมดที่จะใช้ทำ ก็มีติดครัว ติดตู้เย็นอยู่แล้ว ที่ซื้อเพิ่มเติมมาก็แค่มะละกอ ดอกแค และชะอมค่ะ
ส่วนกุ้งไม่ได้ใส่ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินกุ้งกันเท่าไหร่ อีกอย่างสมัยเด็กๆ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่เป็นสิบคน ที่บ้านเวลาแกงส้ม มื้อปกติๆกินธรรมดาก็ไม่ได้ใส่กุ้งค่ะ แต่จะใส่เป็นปลานิลทอดแทน หรือกินคู่กับปลาแดดเดียวทอด
ที่ไม่ใส่กุ้ง เพราะสมัยนั้นตลาดแถวบ้านไม่ค่อยมี อีกอย่างด้วยความเป็นครอบครัวใหญ่ มันเปลืองค่ะ จะได้กินกุ้ง กินของทะเลกันทีนึง ก็ต้องเป็นโอกาสพิเศษเท่านั้นค่ะ
ตอนเด็กเข้าครัวกับย่าบ่อยมาก เป็นลูกมือคอยโขลกเครื่องแกง รู้สึกสนุกนะคะ ยิ่งโดนผู้ใหญ่ยอว่าโขลกเก่ง ก็บ้าโขลกใหญ่ จะรู้เรื่องก็ตอนโตนี่แหละว่าถูกหลอกใช้ ยิ่งเวลามีงานบุญ หน้าที่ปอกหอมแดง ปอกกระเทียม ยิ่งไม่พ้นค่ะ แต่อย่างน้อยก็ได้ผ่านหูผ่านตามาบ้างเน้อะ ถือว่าไม่โดนหลอกเสียเปล่าค่ะ 😅
🔪 วัตถุดิบสำหรับการทำน้ำพริกแกงส้มของเรา ก็จะมี...
- พริกจินดาแห้ง
(เพื่อให้รสชาติเผ็ด)
- พริกชี้ฟ้าแห้ง
(พริกนี้จะไม่เผ็ด แต่จะให้สีสันออกแดงสวยค่ะ)
- เนื้อปลาทูสดต้ม
(แกะก้างทิ้งเอาแต่เนื้อ ส่วนตัวแล้วเราลอกหนังปลาออกไปด้วยค่ะ)
- หอมแดง
- กระชาย
- กระเทียม
- ข่า
- กะปิ
.
.
.
.
🤏 วัตถุดิบการไข่ทอดชะอม
- ชะอม
- ไข่ไก่
** ใช้กระทะต่อจากการทอดปลาแดดเดียวค่ะ แต่เปลี่ยนน้ำมันลงไปใหม่ แต่ใส่ไปนิดนึงแล้ววนกระทะให้น้ำมันเคลือบให้ทั่ว ทีนี้แม้จะใช้น้ำมันเพียงนิดเดียว ของที่ใช้ทอดก็จะไม่ติดกระทะแล้วค่ะ เมื่อทอดไข่ชะอมเสร็จ ก็ทำการใช้ตะหลิวสับไข่ได้เลย จะได้ไม่ต้องเปื้อนมีด เปื้อนเขียงค่ะ 😅
.
.
.
.
🔪 วัตถุดิบ และเครื่องปรุงสำหรับการทำแกงส้มของเรา จะมี...
- มะละกอ
- ดอกแค (แกะและดึงก้านเกสรด้านในออกทิ้งแล้ว)
- ไข่ทอดชะอม
- น้ำพริกแกงส้ม
- น้ำปลา
- น้ำปลาร้า
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำมะขามเปียก
- เกลือ ( สำรองไว้ )
** สำหรับเกลือนั้น ใช้สำหรับปรุงเพิ่มเติมตอนหลัง ถ้าหากแกงส้มของเรามีรสชาติเค็มอ่อนไป หลังจากที่เราปรุงเครื่องปรุงอื่นเป็นปกติไปแล้ว เพราะถ้าปรุงความเค็มเพิ่ม ด้วยการใส่น้ำปลาหรือน้ำปลาร้ามากจนเกินไป โดยเฉพาะน้ำปลา อาจทำให้น้ำแกงเรามีกลิ่นน้ำปลาแรงได้ค่ะ
.
.
.
.
🥄 วิธีทำ...
ด้วยความที่รอบนี้ทำช่วงเย็นเกือบๆหัวค่ำ เลยถ่ายภาพเบลอไม่ค่อยชัดค่ะ เพราะในครัวแสงน้อย แต่ด้วยความที่ทุกอย่างเตรียมไว้เสร็จแล้ว ขั้นตอนการแกงจริงๆ จึงไม่ได้มีอะไรมากค่ะ
เริ่มต้นที่...
ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่มะละกอลงไป (พอดีที่บ้านชอบเนื้อมะละกอ ออกนิ่มๆค่ะ เลยเลือกต้มมะละกอก่อน )
เมื่อผ่านไปสัก 10-15นาที ก็ใส่น้ำพริกแกงส้มตามลงไป
ค่อยๆคนจนละลายผสมกับน้ำจนหมด จากนั้นเริ่มทำการปรุงรสชาติค่ะ ด้วยการปรุงเค็ม และหวานก่อน โดยการใส่น้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำตาลมะพร้าว (เพราะแกงส้มมะละกอบ้านเรา ไม่ได้เน้นเปรี้ยวปรี๊ดค่ะ)
ทำการชิมดู ถ้าเค็มหวานกลมกล่อมแล้ว (แต่ให้รสชาติหนักไปทางเข้มข้นหน่อยนะคะ เพราะเดี๋ยวเราใส่ดอกแค และไข่ทอดชะอมลงไปอีก รสชาติจะได้พอดี ไม่จางจนเกินไป )
ทีนี้ก็ทำการปรุงรสเปรี้ยว ด้วยน้ำมะขามเปียกได้เลยค่ะ
ปรุงลงไปทีละนิดๆ และหมั่นชิมเอา เมื่อได้รสเปรี้ยวระดับที่เราต้องการก็พอก่อนค่ะ
จากนั้นใส่ดอกแค แล้วกดให้จมน้ำแกงค่ะ ผ่านไปสัก 3-5นาที ก็ทำการใส่ไข่ทอดชะอมลงไป แล้วชิมน้ำแกงดูอีกรอบ ถ้าขาดรสชาติอะไร ก็เติมลงไปค่ะ
แต่ถ้าขาดเค็ม แนะนำให้เพิ่มด้วยเกลือนะคะ
ได้ที่ปุ๊บ ปิดไฟเตาแก๊สได้เลยค่ะ เดี๋ยวผักของเราจะระอุและสลดลงอีกค่ะ
เมื่อหัวค่ำแกงไว้หม้อใหญ่ เช้ามานี้ เหลือถ่ายเอามาใส่หม้อเล็กได้เท่านี้แล้วค่ะ ถ้ามาถ่ายช้าอีกนิดคงจะเหลือก้นหม้อ ไม่ทันถ่ายรูปแล้วนะคะ 😅
.
.
.
.
🧡หน้าตาแกงส้มของบ้านเราก็จะประมาณนี้ค่ะ 🧡
💚 กินคู่กันกับปลาแดดเดียวฝีมือสามีเราทำเอง ยิ่งอร่อยค่ะ 💚
.
.
🥄 แต่ละบ้านชอบกินแกงส้มแบบไหนกันคะ
แต่วันนี้มาหม่ำๆด้วยกันก่อนค่ะ 😋
... แกงส้มมะละกอใส่ดอกแค สไตล์คนชอบน้ำแกงเข้มข้นๆ ❤️🧡💛
อย่างแกงส้มที่บ้านแม่สามีของเราทำ เขาก็จะไม่เน้นน้ำข้นมาก และจะนำเนื้อปลาขูด มาปั้นเป็นก้อนให้เหมือนลูกชิ้น แล้วใส่ลงไปในแกงส้มแบบนั้น รวมถึงจะฉีกใบมะกรูดอ่อน ใส่ลงไปด้วยค่ะ
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่คนในบ้านชอบกินแบบไหน ก็ทำแบบนั้นค่ะ
เอาที่บ้านเราชอบ อยากกินผักอะไรก็ใส่ลงไป ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ค่ะ
รอบนี้เราทำแกงส้มแบบที่ทางบ้านเราชอบกินนะคะ
และแกงส้มบ้านนี้ จะใส่น้ำปลาร้าลงไปด้วยนิดนึง
เราก็ไม่รู้ว่าใส่ทำไม เพราะถ้าไม่บอกว่าใส่ปลาร้า เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ค่ะ เพราะกลิ่นไม่ออกเลย แต่เราโตมากับการที่เห็นย่าเราทำแบบนี้ตลอด แล้วสุดท้ายแกงส้มมันก็อร่อยถูกปากเรา ก็เลยจำวิธีการปรุงแบบนี้มาโดยปริยาย
จริงๆย่าของเราเป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนปู่เราเป็นคนอยุธยา
และครอบครัวทางฝั่งแม่ของเราเป็นคนภาคเหนือค่ะ
แต่เราเอง อาศัยหลักๆอยู่กับทางปู่ย่า ก็เลยเติบโตมาในจังหวัดโซนภาคกลาง ส่วนแกงส้มใส่น้ำปลาร้านี่เป็นสูตรทางบ้านปู่เราเอง แต่ขอไม่บอกอำเภอนะคะ เพราะบางบ้านก็อาจจะไม่เหมือนกัน เลยไม่อยากจะเหมารวม หรือสร้างความเข้าใจผิด อย่างที่บอกค่ะ มันแล้วแต่บ้านจริงๆ อย่างน้ำยากะทิที่ใช้กินกับขนมจีน บ้านปู่เราก็จะใส่ปลาเค็ม(ปลาอินทรีย์) เป็นวัตถุดิบนึงของการทำน้ำยากะทิเหมือนกัน
แกงส้มมะละกอรอบนี้ จริงๆ เป็นอาหารมื้อเย็น ( ของเมื่อวาน ) แต่ทำหม้อใหญ่ไว้ค่ะ พอแกงเหลือค้างคืน เช้านี้เลยอุ่นแล้วกินต่อได้อีก ยิ่งอุ่นยิ่งอร่อยค่ะสำหรับเมนูแกงส้ม
น้ำพริกแกงส้ม เป็นพริกแกงอีกอย่างนึงที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไร วัตถุดิบเกือบทั้งหมดที่จะใช้ทำ ก็มีติดครัว ติดตู้เย็นอยู่แล้ว ที่ซื้อเพิ่มเติมมาก็แค่มะละกอ ดอกแค และชะอมค่ะ
ส่วนกุ้งไม่ได้ใส่ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินกุ้งกันเท่าไหร่ อีกอย่างสมัยเด็กๆ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่เป็นสิบคน ที่บ้านเวลาแกงส้ม มื้อปกติๆกินธรรมดาก็ไม่ได้ใส่กุ้งค่ะ แต่จะใส่เป็นปลานิลทอดแทน หรือกินคู่กับปลาแดดเดียวทอด
ที่ไม่ใส่กุ้ง เพราะสมัยนั้นตลาดแถวบ้านไม่ค่อยมี อีกอย่างด้วยความเป็นครอบครัวใหญ่ มันเปลืองค่ะ จะได้กินกุ้ง กินของทะเลกันทีนึง ก็ต้องเป็นโอกาสพิเศษเท่านั้นค่ะ
ตอนเด็กเข้าครัวกับย่าบ่อยมาก เป็นลูกมือคอยโขลกเครื่องแกง รู้สึกสนุกนะคะ ยิ่งโดนผู้ใหญ่ยอว่าโขลกเก่ง ก็บ้าโขลกใหญ่ จะรู้เรื่องก็ตอนโตนี่แหละว่าถูกหลอกใช้ ยิ่งเวลามีงานบุญ หน้าที่ปอกหอมแดง ปอกกระเทียม ยิ่งไม่พ้นค่ะ แต่อย่างน้อยก็ได้ผ่านหูผ่านตามาบ้างเน้อะ ถือว่าไม่โดนหลอกเสียเปล่าค่ะ 😅
เริ่มต้นที่...
ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่มะละกอลงไป (พอดีที่บ้านชอบเนื้อมะละกอ ออกนิ่มๆค่ะ เลยเลือกต้มมะละกอก่อน )
เมื่อผ่านไปสัก 10-15นาที ก็ใส่น้ำพริกแกงส้มตามลงไป
ค่อยๆคนจนละลายผสมกับน้ำจนหมด จากนั้นเริ่มทำการปรุงรสชาติค่ะ ด้วยการปรุงเค็ม และหวานก่อน โดยการใส่น้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำตาลมะพร้าว (เพราะแกงส้มมะละกอบ้านเรา ไม่ได้เน้นเปรี้ยวปรี๊ดค่ะ)
ทำการชิมดู ถ้าเค็มหวานกลมกล่อมแล้ว (แต่ให้รสชาติหนักไปทางเข้มข้นหน่อยนะคะ เพราะเดี๋ยวเราใส่ดอกแค และไข่ทอดชะอมลงไปอีก รสชาติจะได้พอดี ไม่จางจนเกินไป )
ทีนี้ก็ทำการปรุงรสเปรี้ยว ด้วยน้ำมะขามเปียกได้เลยค่ะ
ปรุงลงไปทีละนิดๆ และหมั่นชิมเอา เมื่อได้รสเปรี้ยวระดับที่เราต้องการก็พอก่อนค่ะ
จากนั้นใส่ดอกแค แล้วกดให้จมน้ำแกงค่ะ ผ่านไปสัก 3-5นาที ก็ทำการใส่ไข่ทอดชะอมลงไป แล้วชิมน้ำแกงดูอีกรอบ ถ้าขาดรสชาติอะไร ก็เติมลงไปค่ะ
แต่ถ้าขาดเค็ม แนะนำให้เพิ่มด้วยเกลือนะคะ
ได้ที่ปุ๊บ ปิดไฟเตาแก๊สได้เลยค่ะ เดี๋ยวผักของเราจะระอุและสลดลงอีกค่ะ
เมื่อหัวค่ำแกงไว้หม้อใหญ่ เช้ามานี้ เหลือถ่ายเอามาใส่หม้อเล็กได้เท่านี้แล้วค่ะ ถ้ามาถ่ายช้าอีกนิดคงจะเหลือก้นหม้อ ไม่ทันถ่ายรูปแล้วนะคะ 😅