ลอยกระทง 8 พ.ย. คึกคักรอบ 5 ปี สะพัด 9.7 พันล้าน วอนรัฐลดค่าครองชีพ-เพิ่มทุน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3654950
ลอยกระทง 8 พ.ย. คึกคักรอบ 5 ปี สะพัด 9.7 พันล้าน วอนรัฐลดค่าครองชีพ-เพิ่มทุน
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นาย
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยพฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันลอยกระทง 2565 ปีนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายนว่า ผลสำรวจส่วนใหญ่ 76% ระบุว่าจะไปลอยกระทงและทำกิจกรรมอื่นๆ นอกบ้าน เพราะต้องการคลายความเครียด ร่วมประเพณี และขอพร โดย 43.3% ระบุใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะของแพง และ 60.2% มองว่าลอดยกระทงปีนี้จะสนุกสนานกว่าปีก่อน เพราะปีนี้เปิดประเทศแล้ว จึงประเมินว่าลอยกระทงปีนี้จะมีมูลค่าใช้จ่ายประมาณ 9.7 พันล้านบาท และขยายตัวประมาณ 6% ถือเป็นมูลค่ากับมาบวกอีกครั้งในรอบ 5 ปี และมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี แต่ในแง่อัตราขยายตัวสูงรอบใน 10 ปี
เมื่อสอบถามถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆ ประชาชนมีมุมมองต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น จากเดิมกลุ่มสำรวจมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2566 สำรวจรอบนี้ส่วนใหญ่มองฟื้นตัวไตรมาส 2/2566 โดยเศรษฐกิจปี 2566 ขยายตัว 3.5% จากปี 2565 คาดขยายตัวเกิน 3% ผลต่อเนื่องจากความกังวลต่อโรคโควิดลดลง ปรับตัวกับการเป็นโรคประจำถิ่น เปิดประเทศ มีการเดินทางมากขึ้น การใช้จ่ายในห้างต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น น้ำมันดิบโลกทรงตัวไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ค่าบาทอ่อนจูงใจเที่ยวไทยและดีต่อส่งออก จากนี้ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยว เข้าไทยเดือนละ 1.5-2 ล้านคน
นาย
ธนวรรธน์กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังกังวลต่อเรื่องค่าครองชีพสูง ธุรกิจยังกลับมาไม่เต็มที่ จึงอยากให้รัฐช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะค่าครองชีพไม่สอดคล้องกับรายได้ สร้างความเท่าเทียมกันของคนในสังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนในประเทศ และช่วยเหลือเงินทุนสำหรับธุรกิจที่มีเงินทุนน้อย
“ดูจากผลสำรวจสะท้อนได้ว่าลอยกระทงปีนี้จะกลับมาคึกคักในรอบ 5 ปี แต่ยังอยู่ในโหมดของการระมัดระวังการใช้จ่าย เชื่อว่าสัญญาณการใช้จ่ายตามเทศกาลจากนี้จะดีขึ้นต่อเนื่อง และกลับมาฟื้นตัวถึงปีใหม่” นาย
ธนวรรธน์กล่าว
ชาวนาโคราชประกาศเลิกทำนาหลังน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องหาเงินจ่ายหนี้กว่า 2 หมื่นบาททุกปี
https://www.matichon.co.th/region/news_3654746
ชาวนาโคราชประกาศเลิกทำนาหลังน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องหาเงินจ่ายหนี้กว่า 2 หมื่นบาททุกปี
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 นาย
ธวัช แก้วจันอัด อายุ 66 ปี ชาวนาในตำบลจันอัด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา รายหนึ่งได้บอกว่า ตัวเองมีพื้นที่ทำนาปลูกข้าว จำนวน 70 ไร่ แต่ในปัจจุบันนี้ พื้นที่นาทั้งหมดได้เปิดให้คนอื่นมาเช่าทำนา โดยคิดค่าเช่าไร่ละ 1,000 บาท เนื่องจากตัวเองลงทุนทำนาปลูกข้าวเองแล้ว ขาดทุนทุกปี แถมเป็นหนี้ทุกปีเช่นเดียวกัน สาเหตุเกิดจากต้นทุนในการทำนาปลูกข้าวสูงขึ้นทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าไถนา ค่าปุ๋ย ค่ายากำจัดวัชพืช ค่ารถเกี่ยว ค่าแรงงานคน ส่วนใหญ่แล้วเป็นรายจ่ายในการลงทุนทำนาทั้งสิ้น และ ที่สำคัญคือ สถานการณ์น้ำท่วม เป็นปัญหาซ้ำซากทุกปี โดยหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จแล้ว พบว่า ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ
“
ตัวเองต้องเป็นหนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ เป็นเงินกว่า 2 หมื่นบาทแทบทุกปี จึงตัดสินใจเลิกทำนาปลูกข้าว จึงปล่อยที่นาให้คนอื่นเช่าทำนา โดยคิดค่าเช่าไร่ละ 1,000 บาท โดยนำเอาเงินค่าเช่านาเก็บไว้ซื้อข้าวกินประหยัดกว่าการลงทุนทำนาปลูกข้าวด้วยตนเอง” นาย
ธวัชกล่าว
นาย
ธวัชกล่าวว่า โดยเฉพาะในปีนี้ พื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่ ในอำเภอโนนสูง ได้ประสบกับอุทกภัยน้ำท่วม ทำให้ข้าวที่กำลังออกรวง และใกล้ที่จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวนาในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ตนเองในฐานะตัวแทนของชาวนาจึงอยากฝากทางภาครัฐ หาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวและราคาปุ๋ย ให้กับชาวนาด้วยเพราะถือว่า เป็นปัจจัยหลักในการลงทุนทำนาปลูกข้าว
‘จิรายุ’ เหน็บพรรคร่วม รบ.อย่ามัวทะเลาะกัน เร่งทำนโยบายที่โม้ไว้ ฝ่ายค้านตรวจสอบตลอด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3654991
‘จิรายุ’ ฝากพรรคร่วมรัฐบาลรบกวนอย่าทะเลาะกันบ่อย อยากเห็นปรองดองทำนโยบายที่เคยขี้โม้ไว้ เผย 2 สัปดาห์ที่แล้วยื่นเอกสารดีเอสไอ-ป.ป.ช.ฟัน รมต. เหน็บยื่นตั้ง 4 พันหน้า ไม่ใช่ 4 หน้า ลั่นไม่ว่า ‘บิ๊กตู่’ ยุบสภาตอนไหนฝ่ายค้านก็จะตรวจสอบทุกวินาที
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาล ฉะนั้น จึงขอฝากเตือนไปยังรัฐมนตรีหลายคนอย่าคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงนอนหลับ เพราะฝ่ายค้านทำงานตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรวบรวมข้อมูลซึ่งแน่นอนว่าจะนำไปสู่การเปิดเผยในสภาและเวทีนอกสภา ทั้งนี้ การตรวจสอบไม่ใช่แค่การอภิปราย ไม่ใช่แค่การใช้วาจาในสภาเท่านั้น มีการจับจริงเกิดขึ้นมาแล้วในหลายเรื่อง
นาย
จิรายุกล่าวว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไป 5 สำนวน ตนไปร้องไม่ได้มีกระดาษแค่ 4 แผ่น แต่ไปร้องเป็นหนังสือ เอกสาร พยานหลักฐานสำคัญกว่า 4,000 หน้า จึงขอฝากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ท่านผู้นำประเทศอย่าได้นิ่งนอนใจ นอกจากนี้ จะมีสำนวนสำคัญอีก 2-3 สำนวนส่งเข้าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรที่ตนเป็นประธานอยู่
นาย
จิรายุกล่าวต่อว่า ขอเตือนไปยังรัฐบาลอย่าลักหลับในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ไม่ว่าท่านจะวางแผนยุบสภาหรือไม่ หรือแม้กระทั่งที่ท่านบอกว่าจะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งผมไม่สบายใจอย่างยิ่งที่เมื่อวานนี้ (3 พฤศจิกายน) มีสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลพูดต่อกรรมาธิการว่า พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยุบสภาภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยไม่รออยู่ครบวาระ ซึ่งผมก็บอกว่าผมไม่รู้ ผมไม่เชื่อ เพราะผมเคยเจอ พล.อ.
ประยุทธ์ แต่ไม่เคยไปจับเข่าคุยกับเขา ซึ่งสมาชิกฝ่ายรัฐบาลคนนั้นก็ยังยืนยันว่า พล.อ.
ประยุทธ์อยู่ไม่ครบวาระ เนื่องจากมีเงื่อนไข 180 วัน เพราะหากยุบสภาก่อนก็จะต้องไปใช้อีกกฎหมายหนึ่ง แต่ถ้ายุบวันที่ 23 มีนาคม ก็จะครบตามที่กฎหมายบังคับคือ 180 วัน ไม่ว่าท่านจะยุบเร็วหรือยุบช้าก็เรื่องของท่าน แต่เรื่องของฝ่ายค้านคือการติดตามตรวจสอบในทุกวินาทีจนกว่าท่านจะยุบสภาหรือท่านจะอยู่ครบวาระก็ตาม
“
ฉะนั้น ขอให้ท่านมั่นใจ ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีมั่นใจก็ขอให้ลงสมัครเป็นเบอร์หนึ่งของพรรคพลังประชารัฐไปเลย แล้วพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ก็รบกวนเบาๆ เรื่องการทะเลาะกันหน่อย ผมอยากจะเห็นท่านปรองดองกันและทำนโยบายที่ขี้โม้ไว้ตั้งแต่ต้นหลายอย่าง ซึ่ง 4 ปีมานี้ไม่ได้ทำเยอะแยะเลย และฝ่ายค้านตรวจสอบในเว็บก็พบว่ามีพรรครัฐบาลแอบไปลบนโยบายกันเยอะ ไม่อายกันเองก็อายประชาชนบ้าง
“วันนี้ขอบอกว่าไม่ใช่เวลาที่รัฐบาลจะมาทะเลาะกันเอง ควรจะเป็นเวลาที่ท่านจะทำนโยบายต่างๆ ให้เป็นผลสัมฤทธิ์ให้กับพี่น้องประชาชนในช่วง 3-4 เดือนสุดท้าย” นาย
จิรายุกล่าว
JJNY : ลอยกระทง คึกคักรอบ 5 ปี|ชาวนาโคราชประกาศเลิกทำนา|‘จิรายุ’ เหน็บพรรคร่วม|'ก้าวไกล'ขอเบรกค่าโกง 6.8 หมื่นล้าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3654950
ลอยกระทง 8 พ.ย. คึกคักรอบ 5 ปี สะพัด 9.7 พันล้าน วอนรัฐลดค่าครองชีพ-เพิ่มทุน
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยพฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันลอยกระทง 2565 ปีนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายนว่า ผลสำรวจส่วนใหญ่ 76% ระบุว่าจะไปลอยกระทงและทำกิจกรรมอื่นๆ นอกบ้าน เพราะต้องการคลายความเครียด ร่วมประเพณี และขอพร โดย 43.3% ระบุใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะของแพง และ 60.2% มองว่าลอดยกระทงปีนี้จะสนุกสนานกว่าปีก่อน เพราะปีนี้เปิดประเทศแล้ว จึงประเมินว่าลอยกระทงปีนี้จะมีมูลค่าใช้จ่ายประมาณ 9.7 พันล้านบาท และขยายตัวประมาณ 6% ถือเป็นมูลค่ากับมาบวกอีกครั้งในรอบ 5 ปี และมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี แต่ในแง่อัตราขยายตัวสูงรอบใน 10 ปี
เมื่อสอบถามถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆ ประชาชนมีมุมมองต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น จากเดิมกลุ่มสำรวจมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2566 สำรวจรอบนี้ส่วนใหญ่มองฟื้นตัวไตรมาส 2/2566 โดยเศรษฐกิจปี 2566 ขยายตัว 3.5% จากปี 2565 คาดขยายตัวเกิน 3% ผลต่อเนื่องจากความกังวลต่อโรคโควิดลดลง ปรับตัวกับการเป็นโรคประจำถิ่น เปิดประเทศ มีการเดินทางมากขึ้น การใช้จ่ายในห้างต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น น้ำมันดิบโลกทรงตัวไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ค่าบาทอ่อนจูงใจเที่ยวไทยและดีต่อส่งออก จากนี้ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยว เข้าไทยเดือนละ 1.5-2 ล้านคน
นายธนวรรธน์กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังกังวลต่อเรื่องค่าครองชีพสูง ธุรกิจยังกลับมาไม่เต็มที่ จึงอยากให้รัฐช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะค่าครองชีพไม่สอดคล้องกับรายได้ สร้างความเท่าเทียมกันของคนในสังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนในประเทศ และช่วยเหลือเงินทุนสำหรับธุรกิจที่มีเงินทุนน้อย
“ดูจากผลสำรวจสะท้อนได้ว่าลอยกระทงปีนี้จะกลับมาคึกคักในรอบ 5 ปี แต่ยังอยู่ในโหมดของการระมัดระวังการใช้จ่าย เชื่อว่าสัญญาณการใช้จ่ายตามเทศกาลจากนี้จะดีขึ้นต่อเนื่อง และกลับมาฟื้นตัวถึงปีใหม่” นายธนวรรธน์กล่าว
ชาวนาโคราชประกาศเลิกทำนาหลังน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องหาเงินจ่ายหนี้กว่า 2 หมื่นบาททุกปี
https://www.matichon.co.th/region/news_3654746
ชาวนาโคราชประกาศเลิกทำนาหลังน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องหาเงินจ่ายหนี้กว่า 2 หมื่นบาททุกปี
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 นายธวัช แก้วจันอัด อายุ 66 ปี ชาวนาในตำบลจันอัด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา รายหนึ่งได้บอกว่า ตัวเองมีพื้นที่ทำนาปลูกข้าว จำนวน 70 ไร่ แต่ในปัจจุบันนี้ พื้นที่นาทั้งหมดได้เปิดให้คนอื่นมาเช่าทำนา โดยคิดค่าเช่าไร่ละ 1,000 บาท เนื่องจากตัวเองลงทุนทำนาปลูกข้าวเองแล้ว ขาดทุนทุกปี แถมเป็นหนี้ทุกปีเช่นเดียวกัน สาเหตุเกิดจากต้นทุนในการทำนาปลูกข้าวสูงขึ้นทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าไถนา ค่าปุ๋ย ค่ายากำจัดวัชพืช ค่ารถเกี่ยว ค่าแรงงานคน ส่วนใหญ่แล้วเป็นรายจ่ายในการลงทุนทำนาทั้งสิ้น และ ที่สำคัญคือ สถานการณ์น้ำท่วม เป็นปัญหาซ้ำซากทุกปี โดยหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จแล้ว พบว่า ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ
“ตัวเองต้องเป็นหนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ เป็นเงินกว่า 2 หมื่นบาทแทบทุกปี จึงตัดสินใจเลิกทำนาปลูกข้าว จึงปล่อยที่นาให้คนอื่นเช่าทำนา โดยคิดค่าเช่าไร่ละ 1,000 บาท โดยนำเอาเงินค่าเช่านาเก็บไว้ซื้อข้าวกินประหยัดกว่าการลงทุนทำนาปลูกข้าวด้วยตนเอง” นายธวัชกล่าว
นายธวัชกล่าวว่า โดยเฉพาะในปีนี้ พื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่ ในอำเภอโนนสูง ได้ประสบกับอุทกภัยน้ำท่วม ทำให้ข้าวที่กำลังออกรวง และใกล้ที่จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวนาในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ตนเองในฐานะตัวแทนของชาวนาจึงอยากฝากทางภาครัฐ หาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวและราคาปุ๋ย ให้กับชาวนาด้วยเพราะถือว่า เป็นปัจจัยหลักในการลงทุนทำนาปลูกข้าว
‘จิรายุ’ เหน็บพรรคร่วม รบ.อย่ามัวทะเลาะกัน เร่งทำนโยบายที่โม้ไว้ ฝ่ายค้านตรวจสอบตลอด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3654991
‘จิรายุ’ ฝากพรรคร่วมรัฐบาลรบกวนอย่าทะเลาะกันบ่อย อยากเห็นปรองดองทำนโยบายที่เคยขี้โม้ไว้ เผย 2 สัปดาห์ที่แล้วยื่นเอกสารดีเอสไอ-ป.ป.ช.ฟัน รมต. เหน็บยื่นตั้ง 4 พันหน้า ไม่ใช่ 4 หน้า ลั่นไม่ว่า ‘บิ๊กตู่’ ยุบสภาตอนไหนฝ่ายค้านก็จะตรวจสอบทุกวินาที
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาล ฉะนั้น จึงขอฝากเตือนไปยังรัฐมนตรีหลายคนอย่าคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงนอนหลับ เพราะฝ่ายค้านทำงานตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรวบรวมข้อมูลซึ่งแน่นอนว่าจะนำไปสู่การเปิดเผยในสภาและเวทีนอกสภา ทั้งนี้ การตรวจสอบไม่ใช่แค่การอภิปราย ไม่ใช่แค่การใช้วาจาในสภาเท่านั้น มีการจับจริงเกิดขึ้นมาแล้วในหลายเรื่อง
นายจิรายุกล่าวว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไป 5 สำนวน ตนไปร้องไม่ได้มีกระดาษแค่ 4 แผ่น แต่ไปร้องเป็นหนังสือ เอกสาร พยานหลักฐานสำคัญกว่า 4,000 หน้า จึงขอฝากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ท่านผู้นำประเทศอย่าได้นิ่งนอนใจ นอกจากนี้ จะมีสำนวนสำคัญอีก 2-3 สำนวนส่งเข้าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรที่ตนเป็นประธานอยู่
นายจิรายุกล่าวต่อว่า ขอเตือนไปยังรัฐบาลอย่าลักหลับในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ไม่ว่าท่านจะวางแผนยุบสภาหรือไม่ หรือแม้กระทั่งที่ท่านบอกว่าจะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งผมไม่สบายใจอย่างยิ่งที่เมื่อวานนี้ (3 พฤศจิกายน) มีสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลพูดต่อกรรมาธิการว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยุบสภาภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยไม่รออยู่ครบวาระ ซึ่งผมก็บอกว่าผมไม่รู้ ผมไม่เชื่อ เพราะผมเคยเจอ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เคยไปจับเข่าคุยกับเขา ซึ่งสมาชิกฝ่ายรัฐบาลคนนั้นก็ยังยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ไม่ครบวาระ เนื่องจากมีเงื่อนไข 180 วัน เพราะหากยุบสภาก่อนก็จะต้องไปใช้อีกกฎหมายหนึ่ง แต่ถ้ายุบวันที่ 23 มีนาคม ก็จะครบตามที่กฎหมายบังคับคือ 180 วัน ไม่ว่าท่านจะยุบเร็วหรือยุบช้าก็เรื่องของท่าน แต่เรื่องของฝ่ายค้านคือการติดตามตรวจสอบในทุกวินาทีจนกว่าท่านจะยุบสภาหรือท่านจะอยู่ครบวาระก็ตาม
“ฉะนั้น ขอให้ท่านมั่นใจ ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีมั่นใจก็ขอให้ลงสมัครเป็นเบอร์หนึ่งของพรรคพลังประชารัฐไปเลย แล้วพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ก็รบกวนเบาๆ เรื่องการทะเลาะกันหน่อย ผมอยากจะเห็นท่านปรองดองกันและทำนโยบายที่ขี้โม้ไว้ตั้งแต่ต้นหลายอย่าง ซึ่ง 4 ปีมานี้ไม่ได้ทำเยอะแยะเลย และฝ่ายค้านตรวจสอบในเว็บก็พบว่ามีพรรครัฐบาลแอบไปลบนโยบายกันเยอะ ไม่อายกันเองก็อายประชาชนบ้าง
“วันนี้ขอบอกว่าไม่ใช่เวลาที่รัฐบาลจะมาทะเลาะกันเอง ควรจะเป็นเวลาที่ท่านจะทำนโยบายต่างๆ ให้เป็นผลสัมฤทธิ์ให้กับพี่น้องประชาชนในช่วง 3-4 เดือนสุดท้าย” นายจิรายุกล่าว