ตั้งแต่กลับมาทำงานที่บริษัทเดิมกว่า 4 ปี
เจ้านายคนสิงคโปร์เป็นคนชอบกินชอบเที่ยวเหมือนกัน
ผลัดกันสรรหาร้านอร่อยไปลิ้มลองกันโดยผลัดกันเป็นเจ้ามือ
พักหลังเฟซบุ๊กมักจะเด้งเพจของร้าน Ayoi Sushi Tengoku ซึ่งกดถูกใจไว้
เพราะเคยไปกินอาหารในโรงยิมหลายครั้ง ถูกใจในวัตถุดิบ รสชาติและราคา
"เที่ยวไปกินไป by laser @ Ayoi Sushi Tengoku"
https://ppantip.com/topic/41079997
มีรายการอาหารซึ่งอยู่ในช่วงทดลองขายโดยยังไม่กำหนดราคา เป็น Donburi หรือข้าวหน้าต่าง ๆ
ที่ทางร้านเรียกว่า "Special Don" หรือด้งหน้าล้น ซึ่งเมื่อได้ลองแล้ว ต้องเรียกว่า "ด้งสวรรค์"
วันศุกร์ที่ 9-9-22 คืนก่อนหน้าฝนตกหนักทั้งคืน รอบบริษัทน้ำท่วมหนัก
รถเล็กรวมถึงมอเตอร์ไซค์ถึงกับเครื่องดับต้องเข็น
ฟังข่าวสถาณการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ท่วมหนักหลายแห่ง
โทรฯ ไปถามทางร้านถนนเกษตร-นวมินทร์น้ำไม่ท่วม
11.11 น.ออกจากบริษัทโดยใช้รถตรวจการยกสูงไม่น็อกน้ำ
น้ำในคลองรังสิตฯ เกือบล้นตลิ่ง เทศบาลนครรังสิตปักธงแดง
แพก๋วยเตี๋ยวเรือต้องหยุดขายเพราะไม่ปลอดภัย
เลี้ยวขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ มีการอนุโลมให้นำนำรถมาจอดช่วงต้นหนีน้ำชั่วคราว
ส่วนรถของทางบริษัทและรถพนักงาน ต้องไปเช่าที่จอดรถชั้นดาดฟ้า
ของศูนย์การค้าเชียร์ รังสิต แล้วนั่งรถบรรทุกของบริษัทมาทำงาน
มองไปทางกรุงเทพฯ กลุ่มเมฆฝนปกคลุมหนาแน่นน่าหวั่นใจ
ลงจากทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ที่ทางลงถนนงามวงวาน
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามวงวาน ลอดอุโมงค์ข้ามแยกเกษตรเข้าถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ)
ผ่านแถวตอม่อซึ่งแต่ละตอม่อห่างกันประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางด่วน
ขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 จากถนนนวมินทร์ ผ่านถนนเสรีไทย ถนนรามคำแหง และเบนลงใต้ ข้ามถนนกรุงเทพกรีฑา
ก่อนบรรจบกับทางด่วนศรีรัช ส่วน D (ทางด่วนขั้นที่ 2) ระยะทาง 10.4 กม.ที่ทิ้งค้างไว้กว่า 10 ปี
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/185376
จนเข้าใจกันว่าอาจเป็น "Monument of Shame" หรือ "อนุสาวรีย์แห่งความอัปยศ" อีกแห่ง เหมือนโครงการโฮปเวลล์
มีทั้งหมด 281 ต้น แต่ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่า จะปรับให้เป็นรถไฟฟ้า "สายสีน้ำตาล"
ช่วงแคราย-ลำสาลี ระยะทาง 21.6 กม.เริ่มต้นจาก แครายวิ่งบนถนนงามวงศ์วาน
ข้ามไปถนนเกษตร-นวมินทร์ ไปจนถึงลำสาลี มีทั้งหมด 22 สถานี
ลักษณะรถไฟฟ้าเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา หรือโมโนเรล เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่แคราย
รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ถนนรัตนาธิเบศร์ รถไฟฟ้าสายสีแดงที่เรือนจำบางเขน
และรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
https://www.sanook.com/money/160405/
เมื่อเลขตอม่อถึงเลข 80+ เริ่มชิดขวาเพื่อเตรียมตัวกลับรถ ที่แยกเกษตร-เสนา
ร้านอยู่ติดกับร้านอบอร่อย สาขาเกษตร-นวมินทร์
ทางเข้าร้านไม่เด่นชัดอาจขับเลย แต่ยังดีที่ขับย้อนเข้าด้านทางออกได้
จอดรถที่หน้าร้าน หรือเลี้ยวขวาไปจอดลานจอดรถขนาดใหญ่ ที่ใช้ร่วมกับร้านอื่นในบริเวณเดียวกันก็ได้
ร้านตกแต่งใหม่ดูมีบรรยากาศญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่เตรียมเปิดเป็นคอร์สโอมากาเสะ
มุมกาแฟที่ต้องแยกจ่ายต่างหากเพราะมาแบ่งเช่าที่
เลือกนั่งที่โต๊ะขาวท้ายสุดของร้านเพราะสว่างกว่าส่วนอื่น
ที่เมื่อกลับมากินอีกครั้งในอีก 4 วันถัดมา จึงรู้ว่าเป็นการเลือกที่ผิด
เพราะอยู่ติดกับครัว ซึ่งทำให้มีกลิ่นอาหารจากครัวร้อนติดผมติดเสื้อผ้า
เหมือนกับร้านสุกี้ในสมัยก่อน อีกทั้งการเป็นโต๊ะสุดท้ายท้ายร้าน
แม้พนักงานจะรวมตัวกันอยู่ที่หน้าครัว แต่ก็ไม่ค่อยมองมาที่โต๊ะ
รายการอาหารส่วนใหญ่เหมือนเดิม
ที่ปรับเปลี่ยน คือ ราคาบางรายการ ชุดปลาดิบเพิ่ม 250 บาท
เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาวัตถุดิบบางตัวขึ้นไปสูงมาก
เช่น แซลม่อน ถึงขนาดที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ขายบัตรบุฟเฟต์แซลม่อนไม่อั้นต้องเทลูกค้าปิดร้านหนึ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอูนิไข่หอยเม่น ที่ราคาปรับสูงขึ้นมากจนต้องยกเลิก
แต่บางอย่างก็มีราคาพิเศษ เช่น หัวปลาแซลม่อนต้มซีอิ๊ว จาก 180 บาทเหลือ 99 บาท
และแก้มปลาฮามาจิ ทั้งย่างเกลือและต้มซีอิ๊ว จาก 750 บาท เหลือ 450 บาท
เสียดายวันนี้ไม่มีคิงแซลม่อน ที่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง
เครื่องดื่มเป็นชาเขียวข้าวฟ่างร้อนรีฟิล 80 บาท
เริ่มด้วยวากิวโรล 300 บาท
โรลใส้แน่นหุ้มด้วยเนื้อวากิวนุ่ม ๆ ราดซอสรสเค็มหวาน
เวลากินกรุบกรอบด้วยแผ่นหอมเจียวทอดกรอบ
หยอดด้วยไข่ปลาแซลม่อนไร้คาวที่วางอยู่ด้านบน
ซูชิปลาไหลย่าง 150 บาท
คำข้าวมาตรฐานน้ำหนัก 10-12 กรัมให้กินหมดในคำเดียว
ปลาไหลย่างเนื้อนุ่มเข้ากับซอสอมหวานเล็กน้อย
สั่งข้าวผัดกระเทียม เข้าใจว่าคงเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป
แต่ของที่ที่นี่เป็นข้าวผัดกระเทียมมันเนื้อโรยด้วยหอมเจียวกรอบ 80 บาท
มีความฉ่ำหอมของน้ำมันเนื้อ มีความกรอบกรุบกริบของเนื้อติดมันทอดกรอบ
ฟูโตมากิ 300 บาท
เป็นข้าวห่อสาหร่ายม้วนใหญ่ไส้เจ็ดอย่าง อาจกล่าวได้ว่าเป็นอาหารมงคล
ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ที่หมายถึงเทพเจ้าแห่งโชคลาภของญี่ปุ่นทั้งเจ็ดองค์
หน้าตาคล้ายกับคิมบับของเกาหลี แต่การเตรียมและไส้ต่างกัน
พูดถึงคิมบับแล้วก็อยากลอง เพราะดูซีรียส์เกาหลีเรื่อง "Extraordinary Attorney Woo อูยองอู ทนายอัจฉริยะ"
ที่ตัวเอกของเรื่องเป็นทนายสาวออทิสติก ผู้หลงไหลในวาฬ และกินคิมบับที่ต้องจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบทุกมื้อ
ครั้งที่แล้วกินต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน
ครั้งนี้ลองต้มแซ่บเนื้อน่องลายตุ๋นแบบญี่ปุ่น 120 บาท
เป็นลูกผสมไทย-ญี่ปุ่น เพราะเป็นต้มแซ่บแบบไทย
แต่น้ำแกงเป็นแบบทงคตซึเคี่ยวรีดไขกระดูกหมูแบบญี่ปุ่น
เนื้อน่องลายขิ้นหนาเต็มปากเต็มคำตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม
น้ำแกงเผ็ดเปรี้ยวถึงรสต้มแซ่บ
ซูชิเอ็นกาวะเบิร์นลนไฟ 180 บาท
ชิ้นสั้นหยิบใส่ปากหมดในคำเดียว
แต่ชั้นยาวคำเดียวไม่หมดไข่ปลาแซลม่อนร่วง
ต้องวางบนช้อนน้ำแกง แลัวใช้ตะเกียบโกยเข้าปาก
แล้วก็มาถึงนางเอกของวันนี้ Special Donburi หรือด้งหน้าล้น
ซึ่งส่วนตัวขอเรียกว่า "ด้งสวรรค์" ชามละ 999 บาท
ครั้งแรกว่าจะสั่งชามเดียวกินคนเดียวไม่แบ่ง
แต่ถึงรอบเลี้ยงเจ้านายสักที่เดียวน่าเกลียด จึงจัดไปเลยคนละชาม
ชื่นชมความงามของนางเอก โดยจับนางเอกหมุนวนไปรอบ ๆ
ในหนึ่งชาม ปกติประกอบไปด้วย
เนื้อปลาไหลย่างซีอิ๊ว 1 ชิ้นอยู่ด้านบนสุด
ปิดทองคำเปลวบริสุทธิ์โรยด้วยไข่ปลาแซลม่อน
บลูฟินทูนาส่วนชูโทโร่ 2 ชิ้น
แต่เนื่องจากวันนี้ส่วนชูโทโร่หมด ได้อั๊พเกรดเป็นส่วนโอโทโร่ 2 ชิ้น
ส่วนเนื้อแดงอากะมิ 2 ชิ้น
โฮตาเตะชิ้นหนา 2 ชิ้น
แต่วันนี้ได้ 4 ชิ้น เพราะฮามาจิที่ควรมี 2 ชิ้นหมด
แซลมอน 4 ชิ้น แต่ได้ 5 ชิ้น
เอ็นกาวะครีบปลาตาเดียว 1 ชิ้น แต่ได้ 2 ชิ้น
ปลาเนื้อขาวที่ซ่อนอยู่ด้านใน 3 ชิ้น
และอิคูระไข่ปลาแซลม่อนเม็ดโตประมาณ 20 กรัม
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ Ayoi Sushi Tengoku : ด้งสวรรค์หน้าล้น
เจ้านายคนสิงคโปร์เป็นคนชอบกินชอบเที่ยวเหมือนกัน
ผลัดกันสรรหาร้านอร่อยไปลิ้มลองกันโดยผลัดกันเป็นเจ้ามือ
พักหลังเฟซบุ๊กมักจะเด้งเพจของร้าน Ayoi Sushi Tengoku ซึ่งกดถูกใจไว้
เพราะเคยไปกินอาหารในโรงยิมหลายครั้ง ถูกใจในวัตถุดิบ รสชาติและราคา
"เที่ยวไปกินไป by laser @ Ayoi Sushi Tengoku" https://ppantip.com/topic/41079997
มีรายการอาหารซึ่งอยู่ในช่วงทดลองขายโดยยังไม่กำหนดราคา เป็น Donburi หรือข้าวหน้าต่าง ๆ
ที่ทางร้านเรียกว่า "Special Don" หรือด้งหน้าล้น ซึ่งเมื่อได้ลองแล้ว ต้องเรียกว่า "ด้งสวรรค์"
วันศุกร์ที่ 9-9-22 คืนก่อนหน้าฝนตกหนักทั้งคืน รอบบริษัทน้ำท่วมหนัก
รถเล็กรวมถึงมอเตอร์ไซค์ถึงกับเครื่องดับต้องเข็น
ฟังข่าวสถาณการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ท่วมหนักหลายแห่ง
โทรฯ ไปถามทางร้านถนนเกษตร-นวมินทร์น้ำไม่ท่วม
11.11 น.ออกจากบริษัทโดยใช้รถตรวจการยกสูงไม่น็อกน้ำ
น้ำในคลองรังสิตฯ เกือบล้นตลิ่ง เทศบาลนครรังสิตปักธงแดง
แพก๋วยเตี๋ยวเรือต้องหยุดขายเพราะไม่ปลอดภัย
เลี้ยวขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ มีการอนุโลมให้นำนำรถมาจอดช่วงต้นหนีน้ำชั่วคราว
ส่วนรถของทางบริษัทและรถพนักงาน ต้องไปเช่าที่จอดรถชั้นดาดฟ้า
ของศูนย์การค้าเชียร์ รังสิต แล้วนั่งรถบรรทุกของบริษัทมาทำงาน
มองไปทางกรุงเทพฯ กลุ่มเมฆฝนปกคลุมหนาแน่นน่าหวั่นใจ
ลงจากทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ที่ทางลงถนนงามวงวาน
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามวงวาน ลอดอุโมงค์ข้ามแยกเกษตรเข้าถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ)
ผ่านแถวตอม่อซึ่งแต่ละตอม่อห่างกันประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางด่วน
ขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 จากถนนนวมินทร์ ผ่านถนนเสรีไทย ถนนรามคำแหง และเบนลงใต้ ข้ามถนนกรุงเทพกรีฑา
ก่อนบรรจบกับทางด่วนศรีรัช ส่วน D (ทางด่วนขั้นที่ 2) ระยะทาง 10.4 กม.ที่ทิ้งค้างไว้กว่า 10 ปี
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/185376
จนเข้าใจกันว่าอาจเป็น "Monument of Shame" หรือ "อนุสาวรีย์แห่งความอัปยศ" อีกแห่ง เหมือนโครงการโฮปเวลล์
มีทั้งหมด 281 ต้น แต่ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่า จะปรับให้เป็นรถไฟฟ้า "สายสีน้ำตาล"
ช่วงแคราย-ลำสาลี ระยะทาง 21.6 กม.เริ่มต้นจาก แครายวิ่งบนถนนงามวงศ์วาน
ข้ามไปถนนเกษตร-นวมินทร์ ไปจนถึงลำสาลี มีทั้งหมด 22 สถานี
ลักษณะรถไฟฟ้าเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา หรือโมโนเรล เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่แคราย
รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ถนนรัตนาธิเบศร์ รถไฟฟ้าสายสีแดงที่เรือนจำบางเขน
และรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
https://www.sanook.com/money/160405/
เมื่อเลขตอม่อถึงเลข 80+ เริ่มชิดขวาเพื่อเตรียมตัวกลับรถ ที่แยกเกษตร-เสนา
ร้านอยู่ติดกับร้านอบอร่อย สาขาเกษตร-นวมินทร์
ทางเข้าร้านไม่เด่นชัดอาจขับเลย แต่ยังดีที่ขับย้อนเข้าด้านทางออกได้
จอดรถที่หน้าร้าน หรือเลี้ยวขวาไปจอดลานจอดรถขนาดใหญ่ ที่ใช้ร่วมกับร้านอื่นในบริเวณเดียวกันก็ได้
ร้านตกแต่งใหม่ดูมีบรรยากาศญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่เตรียมเปิดเป็นคอร์สโอมากาเสะ
มุมกาแฟที่ต้องแยกจ่ายต่างหากเพราะมาแบ่งเช่าที่
เลือกนั่งที่โต๊ะขาวท้ายสุดของร้านเพราะสว่างกว่าส่วนอื่น
ที่เมื่อกลับมากินอีกครั้งในอีก 4 วันถัดมา จึงรู้ว่าเป็นการเลือกที่ผิด
เพราะอยู่ติดกับครัว ซึ่งทำให้มีกลิ่นอาหารจากครัวร้อนติดผมติดเสื้อผ้า
เหมือนกับร้านสุกี้ในสมัยก่อน อีกทั้งการเป็นโต๊ะสุดท้ายท้ายร้าน
แม้พนักงานจะรวมตัวกันอยู่ที่หน้าครัว แต่ก็ไม่ค่อยมองมาที่โต๊ะ
รายการอาหารส่วนใหญ่เหมือนเดิม
ที่ปรับเปลี่ยน คือ ราคาบางรายการ ชุดปลาดิบเพิ่ม 250 บาท
เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาวัตถุดิบบางตัวขึ้นไปสูงมาก
เช่น แซลม่อน ถึงขนาดที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ขายบัตรบุฟเฟต์แซลม่อนไม่อั้นต้องเทลูกค้าปิดร้านหนึ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอูนิไข่หอยเม่น ที่ราคาปรับสูงขึ้นมากจนต้องยกเลิก
แต่บางอย่างก็มีราคาพิเศษ เช่น หัวปลาแซลม่อนต้มซีอิ๊ว จาก 180 บาทเหลือ 99 บาท
และแก้มปลาฮามาจิ ทั้งย่างเกลือและต้มซีอิ๊ว จาก 750 บาท เหลือ 450 บาท
เสียดายวันนี้ไม่มีคิงแซลม่อน ที่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง
เครื่องดื่มเป็นชาเขียวข้าวฟ่างร้อนรีฟิล 80 บาท
เริ่มด้วยวากิวโรล 300 บาท
โรลใส้แน่นหุ้มด้วยเนื้อวากิวนุ่ม ๆ ราดซอสรสเค็มหวาน
เวลากินกรุบกรอบด้วยแผ่นหอมเจียวทอดกรอบ
หยอดด้วยไข่ปลาแซลม่อนไร้คาวที่วางอยู่ด้านบน
ซูชิปลาไหลย่าง 150 บาท
คำข้าวมาตรฐานน้ำหนัก 10-12 กรัมให้กินหมดในคำเดียว
ปลาไหลย่างเนื้อนุ่มเข้ากับซอสอมหวานเล็กน้อย
สั่งข้าวผัดกระเทียม เข้าใจว่าคงเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป
แต่ของที่ที่นี่เป็นข้าวผัดกระเทียมมันเนื้อโรยด้วยหอมเจียวกรอบ 80 บาท
มีความฉ่ำหอมของน้ำมันเนื้อ มีความกรอบกรุบกริบของเนื้อติดมันทอดกรอบ
ฟูโตมากิ 300 บาท
เป็นข้าวห่อสาหร่ายม้วนใหญ่ไส้เจ็ดอย่าง อาจกล่าวได้ว่าเป็นอาหารมงคล
ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ที่หมายถึงเทพเจ้าแห่งโชคลาภของญี่ปุ่นทั้งเจ็ดองค์
หน้าตาคล้ายกับคิมบับของเกาหลี แต่การเตรียมและไส้ต่างกัน
พูดถึงคิมบับแล้วก็อยากลอง เพราะดูซีรียส์เกาหลีเรื่อง "Extraordinary Attorney Woo อูยองอู ทนายอัจฉริยะ"
ที่ตัวเอกของเรื่องเป็นทนายสาวออทิสติก ผู้หลงไหลในวาฬ และกินคิมบับที่ต้องจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบทุกมื้อ
ครั้งที่แล้วกินต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน
ครั้งนี้ลองต้มแซ่บเนื้อน่องลายตุ๋นแบบญี่ปุ่น 120 บาท
เป็นลูกผสมไทย-ญี่ปุ่น เพราะเป็นต้มแซ่บแบบไทย
แต่น้ำแกงเป็นแบบทงคตซึเคี่ยวรีดไขกระดูกหมูแบบญี่ปุ่น
เนื้อน่องลายขิ้นหนาเต็มปากเต็มคำตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม
น้ำแกงเผ็ดเปรี้ยวถึงรสต้มแซ่บ
ซูชิเอ็นกาวะเบิร์นลนไฟ 180 บาท
ชิ้นสั้นหยิบใส่ปากหมดในคำเดียว
แต่ชั้นยาวคำเดียวไม่หมดไข่ปลาแซลม่อนร่วง
ต้องวางบนช้อนน้ำแกง แลัวใช้ตะเกียบโกยเข้าปาก
แล้วก็มาถึงนางเอกของวันนี้ Special Donburi หรือด้งหน้าล้น
ซึ่งส่วนตัวขอเรียกว่า "ด้งสวรรค์" ชามละ 999 บาท
ครั้งแรกว่าจะสั่งชามเดียวกินคนเดียวไม่แบ่ง
แต่ถึงรอบเลี้ยงเจ้านายสักที่เดียวน่าเกลียด จึงจัดไปเลยคนละชาม
ชื่นชมความงามของนางเอก โดยจับนางเอกหมุนวนไปรอบ ๆ
ในหนึ่งชาม ปกติประกอบไปด้วย
เนื้อปลาไหลย่างซีอิ๊ว 1 ชิ้นอยู่ด้านบนสุด
ปิดทองคำเปลวบริสุทธิ์โรยด้วยไข่ปลาแซลม่อน
บลูฟินทูนาส่วนชูโทโร่ 2 ชิ้น
แต่เนื่องจากวันนี้ส่วนชูโทโร่หมด ได้อั๊พเกรดเป็นส่วนโอโทโร่ 2 ชิ้น
ส่วนเนื้อแดงอากะมิ 2 ชิ้น
โฮตาเตะชิ้นหนา 2 ชิ้น
แต่วันนี้ได้ 4 ชิ้น เพราะฮามาจิที่ควรมี 2 ชิ้นหมด
แซลมอน 4 ชิ้น แต่ได้ 5 ชิ้น
เอ็นกาวะครีบปลาตาเดียว 1 ชิ้น แต่ได้ 2 ชิ้น
ปลาเนื้อขาวที่ซ่อนอยู่ด้านใน 3 ชิ้น
และอิคูระไข่ปลาแซลม่อนเม็ดโตประมาณ 20 กรัม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น