เราจะเห็นข่าว เกี่ยวกับเรื่องหุ่นยนต์ มากมาย ว่ามีการพัฒนา สามารถมีความคิด และทำงานได้ดีเลยที่เดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหนัง วิทยาศาสตร์ จิตนาการว่าในอนาคต จะมีหุ่นยนต์ คิดเองเป็น และมีความสามารถสุงกว่ามนุษย์ จนกระทั่งครองโลกได้
แล้วความจริงจะเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่
ถ้าเราพิจารณา ว่าหุ่นยนต์ กับมนุษย์ ต่างกันตรงไหน
หุ่นยนต์ มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือไม่
รูป ก็คือ ตัวหุ่น นั้นเอง
เวทนา อันนี้คงไม่มี สุข ทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์
สัญญา คือความจำ อันนี้มีแน่นอน ก็คือหน่วยความจำ ที่เรียกว่า RAM นั้นเอง
สังขาร การปรุงแต่ง อันนี้มีแน่นอน
วิญญาณ ก็คือการรับรู้ หุ่นยนต์จะมีตัวรับรู้ที่เรียกว่า Sensor จับภาพ เสียง ซึ่ง มนุษย์ มีตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เป็นตัว Sensor หรือที่เรียกว่า อายาตนะภายใน
มนุษย์ มีจิต ก็คือมโนวิญญาณ มีลักษณะ เป็น การประมวลผลเดี่ยว(single core) ส่วนคอมพิวเตอร์ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์สมัยเก่า ก็จะเป็น single core คอมพิวเตอร์สมัยใหม่ จะมีหลายแกนประมวลผล เช่น dual core สองแกน , quad core สี่แกนประมวลผลเป็นต้น
มนุษย์มี การโปรแกรม ข้ามภพข้ามชาติ ที่เรียกว่า อนุสัย และมีการฝึก และเรียนรู้เพิ่มเติมจากเด็กสู่ผู้ใหญ่
หุ่นยนต์ ก็มีการโปรแกรมโดยนักวิทยาศาสตร์ ให้คิดเองได้ พัฒนาตัวเองได้ ที่เรียกว่า ระบบ AI (Artificial Intelligence) คือ โปรแกรมที่ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ที่มีความฉลาดเลียนแบบสมองมนุษย์
หุ่นยนต์อาจทีร่างกายที่แข็งแรงกว่ามนุษย์ก็ได้ อยู่ที่การออกแบบ หุ่นยนต์อาจมีสมองที่ไวกว่ามีการประมวลผลที่ดีกว่า มีระบบจับสัญญาณภายนอกได้ดีกว่า มนุษย์ก็ได้
อะไรเล่าที่หุ่นยนต์ ไม่มีเหมือนมนุษย์
เวทนา ทำไมหุ่นยนต์ไม่มีเวทนา สมมุติเราไปจับของร้อนมือพุพอง เราก็จะได้รับความเจ็บ และได้รับทุกข์ ที่เรียกว่าทุกขเวทนา แต่หุ่นยนต์จับของร้อน หุ่นอาจสร้างให้รับรู้ เย็นร้อน อ่อนแข็งเหมือนมนุษย์ เพราะร้อนเกินไปก็อาจทำให้มือหุ่นเสียหายได้ แต่หุ่นไม่มีเวทนา
ในปัจจุบัน หุ่นไม่สามารถสร้าง ตลก ให้มนุษย์หัวเราะได้ แม้แต่ตัวเลขแปลกๆ ก็อ่านไม่ได้เหมือนมนุษย์ นั้นไม่ได้หมายความว่าในอนาคต จะโปรแกรมให้มีไม่ได้
หนังวิทยาศาสตร์ สร้างให้หุ่นยนต์น่ากลัว ณ วันหนึ่ง มันอาจสร้างโรงงานเอง แล้วสร้างมามากๆ มาครองโลก มาไล่เข่นฆ่ามนุษย์เป็นต้น
ในความคิดของผม สิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์ไม่มีเหมือนมนุษย์ ก็คือ นิพพานธาตุ
ปุถุชน มี จิต เจตสิก รูป นิพพาน(นิพพานที่เป็นอวิชชาธาตุ)
พระอรหันต์ มี จิต เจตสิก รูป นิพพาน(นิพพานที่เป็นวิชชาธาตุ)
ปุถุชน มีขันธ์ห้า เชื่อมโยง กับนิพพานธาตุ ด้วยกิเลสสังโยชน์ 10
พระอรหันต์ มีนิพพานธาตุ ที่เป็นนิโรธ เป็นอิสระ ที่ไม่มีกิเลสสังโยชน์ 10 (จากขันธ์ห้า) มาร้อยรัด
หุ่นยนต์ ไม่มี นิพพานธาตุ มีแต่ ขันธ์ห้าล้วนๆ
ข้อแตกต่างระหว่าง หุนยนต์กับ พระอรหันต์ ก็คือพระอรหันต์ ยังมีเวทนาทางกายอยู่ แต่หุ่นยนต์ไม่มี
จึงเป็นไปไม่ได้ที่หุ่นยนต์จะมีกิเลส เป็นไปไม่ได้เลยที่ว่าหุ่นยนต์จะครองโลก
ผู้ที่มีอำนาจ ก็มาจากกิเลสในใจล้วนๆแหละครับ
ปุถุชน มีครบหมด เพราะมีอวิชชา(นิพพานธาตุที่เป็น อวิชชาธาตุ) จึงมีสังขาร(จิตสังขาร) เพราะมีสังขาร จึงมี รูป นาม(ขันธ์ห้า) ....
เมื่อมีผัสสะ จึงมีเวทนา เมื่อมีเวทนาจึงมี ตัณหา นั้นเอง
ตัวเวทนา จึงเป็นตัวเกิดกิเลส พระอรหันต์เกิดเวทนาทางกาย จึงไม่เกิดกิเลส
หุ่นยนต์ก็เช่นกัน หุ่นยนต์ไม่มีเวทนา
อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ไม่สามารถเป็นเหมือนมนุษย์ได้ ไม่สามารถ รักโลภ โกรธหลงได้ เพราะหุ่นยนต์ไม่มีนิพพานธาตุ
ก็อย่างนั้นแหละครับ ถ้าท่านไม่เชื่อเรื่องที่ว่า ในตัวเรามีนิพพานธาตุอยู่ ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ
เขียนมาชะยืดยาว ไม่แน่อาจมีคนอ่านก็ได้
แล้วท่านเห็นเป็นอย่างไร ดีเบตกันได้(ถ้ายอมลดตัวลงมา) แต่ห้ามด่าครับ
ถ้ามีคนอ่านก็ขอบคุณครับ
หุ่นยนต์ AI จะกลายมาเป็นมนุษย์ ได้หรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหนัง วิทยาศาสตร์ จิตนาการว่าในอนาคต จะมีหุ่นยนต์ คิดเองเป็น และมีความสามารถสุงกว่ามนุษย์ จนกระทั่งครองโลกได้
แล้วความจริงจะเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่
ถ้าเราพิจารณา ว่าหุ่นยนต์ กับมนุษย์ ต่างกันตรงไหน
หุ่นยนต์ มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือไม่
รูป ก็คือ ตัวหุ่น นั้นเอง
เวทนา อันนี้คงไม่มี สุข ทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์
สัญญา คือความจำ อันนี้มีแน่นอน ก็คือหน่วยความจำ ที่เรียกว่า RAM นั้นเอง
สังขาร การปรุงแต่ง อันนี้มีแน่นอน
วิญญาณ ก็คือการรับรู้ หุ่นยนต์จะมีตัวรับรู้ที่เรียกว่า Sensor จับภาพ เสียง ซึ่ง มนุษย์ มีตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เป็นตัว Sensor หรือที่เรียกว่า อายาตนะภายใน
มนุษย์ มีจิต ก็คือมโนวิญญาณ มีลักษณะ เป็น การประมวลผลเดี่ยว(single core) ส่วนคอมพิวเตอร์ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์สมัยเก่า ก็จะเป็น single core คอมพิวเตอร์สมัยใหม่ จะมีหลายแกนประมวลผล เช่น dual core สองแกน , quad core สี่แกนประมวลผลเป็นต้น
มนุษย์มี การโปรแกรม ข้ามภพข้ามชาติ ที่เรียกว่า อนุสัย และมีการฝึก และเรียนรู้เพิ่มเติมจากเด็กสู่ผู้ใหญ่
หุ่นยนต์ ก็มีการโปรแกรมโดยนักวิทยาศาสตร์ ให้คิดเองได้ พัฒนาตัวเองได้ ที่เรียกว่า ระบบ AI (Artificial Intelligence) คือ โปรแกรมที่ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ที่มีความฉลาดเลียนแบบสมองมนุษย์
หุ่นยนต์อาจทีร่างกายที่แข็งแรงกว่ามนุษย์ก็ได้ อยู่ที่การออกแบบ หุ่นยนต์อาจมีสมองที่ไวกว่ามีการประมวลผลที่ดีกว่า มีระบบจับสัญญาณภายนอกได้ดีกว่า มนุษย์ก็ได้
อะไรเล่าที่หุ่นยนต์ ไม่มีเหมือนมนุษย์
เวทนา ทำไมหุ่นยนต์ไม่มีเวทนา สมมุติเราไปจับของร้อนมือพุพอง เราก็จะได้รับความเจ็บ และได้รับทุกข์ ที่เรียกว่าทุกขเวทนา แต่หุ่นยนต์จับของร้อน หุ่นอาจสร้างให้รับรู้ เย็นร้อน อ่อนแข็งเหมือนมนุษย์ เพราะร้อนเกินไปก็อาจทำให้มือหุ่นเสียหายได้ แต่หุ่นไม่มีเวทนา
ในปัจจุบัน หุ่นไม่สามารถสร้าง ตลก ให้มนุษย์หัวเราะได้ แม้แต่ตัวเลขแปลกๆ ก็อ่านไม่ได้เหมือนมนุษย์ นั้นไม่ได้หมายความว่าในอนาคต จะโปรแกรมให้มีไม่ได้
หนังวิทยาศาสตร์ สร้างให้หุ่นยนต์น่ากลัว ณ วันหนึ่ง มันอาจสร้างโรงงานเอง แล้วสร้างมามากๆ มาครองโลก มาไล่เข่นฆ่ามนุษย์เป็นต้น
ในความคิดของผม สิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์ไม่มีเหมือนมนุษย์ ก็คือ นิพพานธาตุ
ปุถุชน มี จิต เจตสิก รูป นิพพาน(นิพพานที่เป็นอวิชชาธาตุ)
พระอรหันต์ มี จิต เจตสิก รูป นิพพาน(นิพพานที่เป็นวิชชาธาตุ)
ปุถุชน มีขันธ์ห้า เชื่อมโยง กับนิพพานธาตุ ด้วยกิเลสสังโยชน์ 10
พระอรหันต์ มีนิพพานธาตุ ที่เป็นนิโรธ เป็นอิสระ ที่ไม่มีกิเลสสังโยชน์ 10 (จากขันธ์ห้า) มาร้อยรัด
หุ่นยนต์ ไม่มี นิพพานธาตุ มีแต่ ขันธ์ห้าล้วนๆ
ข้อแตกต่างระหว่าง หุนยนต์กับ พระอรหันต์ ก็คือพระอรหันต์ ยังมีเวทนาทางกายอยู่ แต่หุ่นยนต์ไม่มี
จึงเป็นไปไม่ได้ที่หุ่นยนต์จะมีกิเลส เป็นไปไม่ได้เลยที่ว่าหุ่นยนต์จะครองโลก
ผู้ที่มีอำนาจ ก็มาจากกิเลสในใจล้วนๆแหละครับ
ปุถุชน มีครบหมด เพราะมีอวิชชา(นิพพานธาตุที่เป็น อวิชชาธาตุ) จึงมีสังขาร(จิตสังขาร) เพราะมีสังขาร จึงมี รูป นาม(ขันธ์ห้า) ....
เมื่อมีผัสสะ จึงมีเวทนา เมื่อมีเวทนาจึงมี ตัณหา นั้นเอง
ตัวเวทนา จึงเป็นตัวเกิดกิเลส พระอรหันต์เกิดเวทนาทางกาย จึงไม่เกิดกิเลส
หุ่นยนต์ก็เช่นกัน หุ่นยนต์ไม่มีเวทนา
อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ไม่สามารถเป็นเหมือนมนุษย์ได้ ไม่สามารถ รักโลภ โกรธหลงได้ เพราะหุ่นยนต์ไม่มีนิพพานธาตุ
ก็อย่างนั้นแหละครับ ถ้าท่านไม่เชื่อเรื่องที่ว่า ในตัวเรามีนิพพานธาตุอยู่ ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ
เขียนมาชะยืดยาว ไม่แน่อาจมีคนอ่านก็ได้
แล้วท่านเห็นเป็นอย่างไร ดีเบตกันได้(ถ้ายอมลดตัวลงมา) แต่ห้ามด่าครับ
ถ้ามีคนอ่านก็ขอบคุณครับ