JJNY : ‘กูรูไพศาล’ถามดังๆ│‘เรืองไกร’ร้องศาลรธน.สอบ‘มีชัย’│‘ชลน่าน’เหน็บขนาดทำงานกับส.ว.ยังปิดสวิตช์│ลูกค้ารถอีวีผวา

‘กูรูไพศาล’ ถามดังๆข้อแก้ตัวให้อาจารย์มีชัยทำไมป้อแป้ เชยแหลก ฟังไม่ขึ้น!
https://www.dailynews.co.th/news/1456856/
 
'ไพศาล พืชมงคล' ชี้ข้อแก้ตัวให้ท่านอาจารย์มีชัยป้อแป้ เชยแหลก ฟังไม่ขึ้น เพราะมีรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษร อาจารย์มีชัย รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 500 ถูกต้องโดยไม่มีการแก้ไข คนที่ไม่เกี่ยวข้องจะมาแก้ตัวเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร
 
 
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก paisal  puechmongkol หัวข้อ “ข้อแก้ตัวให้ท่านอาจารย์มีชัย ทำไมป้อแป้จัง” มีรายละเอียดดังนี้
  
ข้อแก้ตัวให้ท่านอาจารย์มีชัย ทำไมป้อแป้จัง
 
ช่วง 2 วันนี้มีการแก้ตัวให้ท่านอาจารย์มีชัย เกี่ยวกับรายงานการประชุมเรื่องเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรค 4 โดยอ้างเหตุผล 4 ข้อ

1.ข้อแรกอ้างว่าการประชุมครั้งที่ 500 นั้นไม่ใช่เป็นการประชุมแต่เป็นการนั่งพูดจาหารือกัน แต่เอกสารดังกล่าวระบุชัดเจนว่าเป็น “รายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500” ซึ่งมีการเบิกเบี้ยประชุมตามระเบียบ
 
2.อ้างว่าการประชุมนั้นไม่มีการบันทึกชวเลขทุกคำพูด จึงอาจคลาดเคลื่อนได้ การบันทึกรายงานการประชุมนั้นทำได้หลายวิธี แต่โดยสรุปก็ต้องทำเป็น “รายงานการประชุม” เป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้นจะบันทึกชวเลขหรือไม่จึงไม่มีความสำคัญ ความสำคัญอยู่ที่เอกสาร “รายงานการประชุม”
 
3.อ้างว่าการบันทึกการประชุมอาจจะไม่ครบถ้วนตามความจริง เชยแหลก! เรื่องนี้คาดเดาเอาเองไม่ได้ เพราะมีรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษร โดยรายงานการประชุม ครั้งที่ 500 ได้รับการรับรองโดยการประชุม ครั้งที่ 501 ซึ่งท่านอาจารย์มีชัยนั่งเป็นประธานอยู่ด้วย!!! ก็ท่านอาจารย์มีชัยท่านรับรองแล้วว่าถูกต้องโดยไม่มีการแก้ไข คนที่ไม่เกี่ยวข้องจะมาแก้ตัวเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร

4.อ้างว่าการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเรื่องเจตนารมณ์ได้ทำขึ้นหลังจากรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้แล้ว
 
ก็เป็นปกติอยู่แล้วที่การจัดทำเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจะต้องกระทำภายหลังจากรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว จะไปทำก่อนหน้าได้อย่างไร ที่สำคัญคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังคงทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง คือเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จในหมวดใดก็ประชุมทำเจตนารมณ์ของหมวดนั้นตามไปด้วย มีการประชุมจัดทำเจตนารมณ์ต่อเนื่องมาโดยลำดับเป็นเวลาร่วม 20 เดือน สำหรับการประชุมครั้งที่ 501 ก็แสดงอยู่ในตัวว่า มีการประชุมเรื่องเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญถึง 501 ครั้งในระยะเวลาแค่ 20 เดือน ซึ่งหมายความว่าเดือนหนึ่งประชุม 25 ครั้ง เป็นการประชุมต่อเนื่องไม่ขาดตอนเลย จึงยกข้อนี้ขึ้นลบล้างเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นไม่ได้
  
การแก้ต่าง แก้ตัวทั้ง 4 ข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้น.

https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid02SbcbYrXnBLjhURpJ9ntbefvQYFNhtF9ecQmVGwavAZwSdMiobEryxmyTaFJM81uWl


 
วาระ8ปีพ่นพิษ! ‘เรืองไกร’ ร้องศาลรธน.สอบ ‘มีชัย’ เบิกความเท็จหรือไม่
https://www.dailynews.co.th/news/1456931/

'เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ' ร้องศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคำเบิกความ 'มีชัย' เข้าข่ายเป็นการเบิกความเท็จหรือไม่ เนื่องจากไม่สอดคล้องกับบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 และครั้งที่ 501

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ตรวจสอบ  ภายหลังปรากฏข่าวความเห็นวาระ 8 ปี นายกรัฐมนตรี ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 3 แผ่น ไม่สอดคล้องต้องกันกับบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 และ 501
 
ทั้งนี้ นายมีชัย ในฐานะประธาน กรธ. ควรถือเป็นพยานบุคคล หรือพยานผู้เชี่ยวชาญตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 และคำเบิกความดังกล่าวควรเป็นข้อสำคัญในคดี แต่คำเบิกความของนายมีชัยกลับไม่สอดคล้องต้องกันกับบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 และ 501 กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคำเบิกความดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการเบิกความเท็จ ซึ่งเป็นข้อสำคัญในคดีตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 หรือไม่ และคำเบิกความดังกล่าว ควรตกไป หรือไม่ โดยในวันนี้ ตนได้ส่งหนังสือไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบต่อไปแล้วทางไปรษณีย์ EMS.


  
‘ชลน่าน’ เหน็บ ขนาดรัฐบาลทำงานร่วมกับ ส.ว. ยังปิดสวิตช์ แต่ใช่ว่าจะได้คะแนนอย่างท่วมท้น จ่อ ดันเป็นนโยบายให้ ปชช.เลือก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3556571

เมื่อวันที่ 11 กันยายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายพรรคการเมืองเริ่มหันมาสนใจเรื่องปิดสวิตช์ ส.ว. ในช่วงก่อนมีการเลือกตั้ง มองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า หากมองว่า ส.ว.เป็นปัญหาสำหรับการเมืองไทย แม้แต่รัฐบาลเองยังใช้เงื่อนไขนี้ ก็ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ ขนาดเขาทำงานร่วมกันแล้วยังใช้เงื่อนไขนี้อยู่ ส่วนจะได้รับการตอบสนองจากประชาชนหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจเพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวที่ปิดสวิตช์ ส.ว. แล้วจะได้คะแนนอย่างท่วมท้น และพรรค พท.เราชัดเจนในแง่ที่เราเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และรณรงค์เพื่ออำนาจของประชาชนมาโดยตลอด รวมถึงมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ นโยบายต่อไปคือต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ให้ได้
 
เมื่อถามถึง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับที่ตกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีการเดินหน้าต่อหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราคงไม่คิดที่จะยื่นแก้ไขในสมัยประชุมที่ 2 ปีที่ 4 แล้ว เพราะฟังจาก ส.ว.พูดแล้วมันยาก ต้องอาศัยเสียงตั้ง 84 เสียง วิธีการเขียนกฎหมายของเสียงข้างน้อยปกครองเสียงข้างมาก  ลำบากมาก เสียงทั้ง 84 เสียงมีผลมาก หากมี 600 เสียงเห็นชอบแต่ 84 เสียงไม่ให้ผ่าน เป็นการขัดหลักการประชาธิปไตยโดยทั่วไป ฉะนั้นการที่เราจะไปสู้ตรงนั้นค่อนข้างยาก คงจะไม่เสนอในสมัยประชุมต่อไป เราจึงผลักดันเป็นนโยบายที่จะเป็นฉันทามติของประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยก็เลือกพรรค พท.เรา เพื่อไปแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยประชาชน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่