จตุพร ชี้ วันศาลรธน.วินิจฉัยปม 8 ปี 'บิ๊กตู่' คือจุดแตกหัก 3 ป.-สังคมไทย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7248062
 
“จตุพร” มาตามนัด ชุมนุมหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ย้ำจุดยืนไม่เอา 3 ป. ขออย่าวัดจำนวนคน ชี้ วันศาลรธน.วินิจฉัยชี้ขาด 8ปี นายกฯ เป็นจุดแตกหักสังคมไทย
  
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2565 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ นำคณะหลอมรวมประชาชน ชุมนุมที่บริเวณบันไดลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ หลังขออนุญาตห้างฯ ในการใช้พื้นที่บริเวณลานด้านหน้า แต่ไม่ได้รับอนุญาต โดยชุมนุมภายใต้หัวข้อ “ปลุกสามัคคีประชาชน ลุกตื่นจัดการ 3 ป.” โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีมวลชนทยอยเดินทางมาเข้าร่วม แต่จำนวนไม่มากเท่าที่ลานคนเมือง มีการปิดถนนเพียงเลนเดียว เพื่อจอดรถเครื่องขยายเสียง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเท่านั้น
 
นายจตุพร กล่าวว่า ตนต้องการมาต่อสู้กับ [เผล่ะจัง] เพราะมีความคาดหวังที่จะหยุดอำนาจ 3 ป. เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย อยากให้ติดตามในวันที่ 6-7 ก.ย.นี้ จะมีการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งเชื่อว่าไม่สามารถที่ปิดสวิตช์ ส.ว.ได้ แม้เสียงส.ส.จะเกินครึ่ง แต่เสียงส.ว.จะไม่ถึง 1 ใน 3 กฎหมายจะถูกคว่ำอย่างแน่นอน
 
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนที่ช่วงนี้เห็นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการการแทนนายกฯ มีความคล่องแคล่ว เพราะได้ยาดีที่เรียกว่า นายกรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าเราจะไม่เอาทุก ป. เพราะอยู่ในอำนาจก็สร้างแต่ความเสียหาย แตกแยก และเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน 3 ป. ก็เหมือน 3 ทรราช พรรคการเมืองต่างๆ ถูกต้มว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่ไม่มีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ เพราะกำลังอินกับการเป็นนายกฯ
 
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขออย่ายึดติดกับจำนวนคน คณะหลอมรวมประชาชนได้หารือกันมาตลอด เรากำหนดเองว่าจะให้คนมาแค่ไหน เราจงใจที่จะนำคนมาเพียงเท่านี้ ขณะนี้เป็นช่วงระหว่างทาง ไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนมาก แต่ต้องการให้เห็นถึงปัญหา และอยากจะบอกนักการเมืองว่ากำลังถูกหลอก ไม่มีการเลือกตั้ง และ 3 ป.จะครองอำนาจต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจุดแตกหักกับ 3 ป.จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 ปี

“ภารกิจหลักของคณะหลอมรวมประชาชน คือ ไม่เอาแม้แต่ป.เดียว และนับ 1 ประเทศไทย เรามีบทเรียนและประสบการณ์จากการชุมนุมที่มีคนหลายหมื่นหลายแสนคน แต่ก็ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ เพราะไม่ใช่วันเวลาที่เหมาะสม” นายจตุพร กล่าว
 
นายจตุพร กล่าวต่อว่า การชุมนุมจะจัดขึ้นที่ลานคนเมือง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล ต่างจังหวัด รวมถึงพื้นที่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงาน ยืนยันว่าเราพร้อมไปในทุกที่ แต่ต้องรอวันเวลาที่มันใช่ คือ หลังจากมีการวินิจฉัยวาระ 8 ปีนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบ จะเป็นวันแตกหักของสังคมไทย
 
“ยืนยันว่าเราจะไม่กดดันศาลรัฐธรรมนูญ และเราจะรอผลวันนั้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น ว่าคนไทยจะคิดอ่านอย่างไรกับพล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับว่าวันนี้คนไทยตื่นขึ้นยาก แต่ถ้าหากตื่นขึ้นมาแล้ว จะเอาเรื่อง และการสู้กับเผด็จการชุดนี้ไม่ได้ตรงไปตรงมา โกหกตลอดชีวิต จึงต้องใช้ฝีมือในการจัดการมากกว่าปกติทั่วไป” นายจตุพร กล่าว
 

---

  
โคราช 'คนละครึ่งเฟส 5' สุดเหงา รอบนี้เงินน้อย ชาวบ้านเลือกจ่ายแค่ของที่จำเป็น
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7247760
 
โคราช ‘คนละครึ่งเฟส 5’ สุดเหงา รอบนี้เงินน้อย ชาวบ้านเลือกจ่ายแค่ของที่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกส่วนที่ยืนยันสิทธิ์ไม่ผ่าน

4 ก.ย. 2565 – ผู้สื่อข่าว รายงานบรรยากาศตามร้านจำหน่ายของชำในตลาดสด เทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งเฟส 5” พบว่ามีประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมาใช้บริการค่อนข้างเงียบเหงาผิดความคาดหมาย

โดยบางร้านตั้งแต่เช้า เพิ่งมีคนมาใช้สิทธิ์คนละครึ่งซื้อของเพียง 2 รายเท่านั้น ขณะที่บางร้านยังไม่มีแม้แต่รายเดียว ซึ่งแตกต่างจากเฟส 1-4 ที่ผ่านมา แต่ละวันจะมีคนใช้สิทธิ์คนละครึ่งซื้อของเฉลี่ยวันละ 1-2 พันบาท
 
จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ พบว่าบางคนยังยืนยันสิทธิ์ไม่ผ่าน บางคนจะเซฟเงินไว้ซื้อของที่จำเป็น เพราะรอบนี้ยอดเงินโครงการคนละครึ่งลดเหลือเพียง 800 บาท น้อยกว่าทุกรอบที่ผ่านมา ขณะที่อีกสาเหตุที่ “คนละครึ่งเฟส 5” รอบนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เป็นเพราะส่วนใหญ่ประชาชนยังยืนยันสิทธิ์ไม่ผ่านด้วย
 

---

 
‘สมคิด’ ฉะ ‘วิษณุ’ เลิกอ่านข้อหลีกเลี่ยง กม. เอาข้อเท็จจริงมาคุยกัน ปม ‘บิ๊กตู่’ บอกคนไทยนับ 8 ปีทั้งนั้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_3543879
 
“สมคิด” ฉะ “วิษณุ” เลิกอ่านข้อหลีกเลี่ยงกม. เอาข้อเท็จจริงมาคุยกัน ปม “บิ๊กตู่” บอกคนไทยนับ 8 ปีทั้งนั้น ลั่น จะหนีวงเวียนข้อเท็จจริงไม่ได้
 
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าไม่ได้นับรวมตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดว่าควรเริ่มนับตั้งแต่เมื่อไร ว่า วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ คนไทยเขานับ 8 ปีกันทั้งนั้น ซึ่งมีการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องมา นายวิษณุจะมองข้อกฎหมายอย่างไร แต่ตนมองข้อเท็จจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีจริงๆ ปฏิเสธอะไรไม่ได้ คนไทยเขารู้
 
“แนวทางของผมคือเลิกอ่านกฎหมาย เลิกอ่านข้อหลีกเลี่ยงกฎหมายได้แล้ว เอาข้อเท็จจริงมาตัดสินเลยว่าอะไรคืออะไร ซึ่งท่านจะหนีวงเวียนข้อเท็จจริงไม่ได้ สังคมเขามองเช่นนั้นแล้ว หากท่านอยู่ต่อท่านก็จะเสียหาย ไม่มีทางดีขึ้นมีแต่เสียกับเสีย ปฏิบัติตาม 8 ปีเถอะ ท่านดำรงตำแหน่ง 8 ปีจริงๆ” นายสมคิดกล่าว
 
เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับประเด็นที่นายวิษณุระบุหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า “ไม่เห็นด้วย แต่เราก็ไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร ผมก็คิดอย่างปกติธรรมดาอย่างคนในสังคม ไม่ได้คิดเรื่องรัฐธรรมนูญข้อกฎหมายอะไร เพราะเรื่องกฎหมายก็พูดกันมาเยอะแล้ว เอาข้อเท็จจริงมาพูดเลยว่าท่านอยู่ 8 ปีหรือไม่ แค่นั้น”

ถามต่อว่า มองว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เริ่มนับรวมตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 จะส่งผลนัยยะทางการมืองทั้งในสภา และภาคประชาชนอย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า ประชาชนจะไม่มีความเชื่อมั่นกับสถาบันการเมือง องค์กรอิสระ เพราะเขารู้ว่า 8 ปีจริงๆ หากจะดันทุรังอยู่ไปก็แล้วแต่ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรเราก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่ชัดเจนอะไร เพียงแค่นายวิษณุพูดเหมือนนำร่อง พูดในแนวความเห็นของท่าน ซึ่งก็เป็นแนวความเห็นของนายวิษณุ ไม่ใช่ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเดินหน้าตาม
 

---

 
‘เพชร’ อัดอย่าตีความแบบศรีธนญชัย ปม บิ๊กตู่ นั่ง 8 ปี หากรอดคงมีม็อบต้าน แต่ไม่ถึงขั้นล้มถกเอเปค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3543997

‘เพชร’ อัดอย่าตีความแบบศรีธนญชัย ปม บิ๊กตู่ นั่ง 8 ปี หากรอดคงมีม็อบต้าน แต่ไม่ถึงขั้นล้มถกเอเปค
 
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีทีมกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยื่นคำชี้แจงจำนวน 20 หน้าต่อศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงคำร้องเกี่ยวกับวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี โดยยืนยันไม่นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ว่า เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ต้องการให้มีคนอยู่ในอำนาจนานเกินไป จะมาอ้างข้อกฎหมายปลีกย่อยแบบศรีธนญชัยไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ รับเงินเดือน มีรายได้ในตำแหน่งอะไร ถ้าตอบคำถามไม่ได้ มันก็ชัดเจนคุณคือหัวหน้าคณะปฏิวัติ แล้วหัวหน้าคณะปฏิวัติ มีเงินเดือนด้วยหรือ ซึ่งการโปรดเกล้าฯ ตั้งแต่ปี 2557 ก็มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จะมาอ้างว่าไม่ได้เป็นนายกฯ ไม่ได้ แล้วตอนนั้นเป็นอะไร เป็นคนที่ยึดอำนาจมา หรือเป็นนายกฯ สุดท้ายก็จะวนกลับมาจบที่เป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 2557 ปีนี้ 2565 ก็ครบแปดปีแล้ว ซึ่งเจตจำนงของกฎหมายคือไม่ต้องการให้มีใครอยู่สืบทอดอำนาจหรือหลงในอำนาจ
 
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาเป็นคุณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอาจค้านสายตา และอารมณ์ในสังคม จะเกิดมีการชุมนุมลากยาวไปกระทบถึงการประชุมเอเปคเดือน พ.ย. หรือไม่ นายกรุณพลกล่าวว่า เอาเข้าจริงไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาทางใด พรรค ก.ก.เคารพ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถไปควบคุมอารมณ์ของคนได้เช่นกัน โดยเฉพาะยุคโซเชียลมีเดีย แต่เชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง คงไม่มีการไปป่วนการประชุมเอเปค ประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นภายใต้ขอบเขตที่กฎหมาย จึงไม่ห่วง แต่ที่ห่วงมากกว่าก็คือ ความรู้สึกของคนที่มีต่อสถาบันความยุติธรรมของไทย ตรงนี้มองว่าการชุมนุมก็มีอยู่แล้วแต่คงไม่ถึงขั้นไปล้มการประชุมเอเปคเหมือนที่เคยเกิด เพราะขนาดการชุมนุมที่ผ่านมาของมวลชน ตำรวจยังยกกันมาเป็นกองทัพ มีรถฉีดน้ำมีอุปกรณ์ครบมือ มีแก๊สน้ำตา แล้วคิดว่าการประชุมเอเปคที่จะถึงนี้ จะมีการระดมทหาร ตำรวจเป็นหมื่นเป็นแสน ไม่มีทางที่จะทำอะไรได้ ดูง่ายๆ แค่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปตรวจน้ำท่วมที่ จ.อยุธยา ต้องนั่งรถกันกระสุน มีทหาร ตำรวจลงไปด้วยคุมด้วยเพียบ แล้วการประชุมเอเปคที่เป็นการประชุมระดับโลกที่มีผู้นำระดับโลกเข้ามา ไม่มีทาง ที่จะสร้างปัญหาให้กับทางรัฐบาลที่คุมอำนาจเบ็ดเสร็จได้ขนาดนี้ได้