ต่อจากกระทู้ก่อนหน้า ประสบการณ์ทำงานของเราคือทำหลังบ้านมาตลอด แต่เราได้รับโอกาสจากบริษัทปัจจุบันคือทำงานรับลูกค้าที่เราชอบทั้งๆที่ไม่มีประสบการณ์เลย แต่เมื่อเราเข้ามาทำงานยังไม่ทันเป็นงาน หัวหน้าก็ลาออก เราเองก็เครียดเพราะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ตอนนี้เครียดกว่าเดิมอีกเพราะหัวหน้าเราเปลี่ยนไปค่ะ
เราเข้ามาในตำแหน่งดูแลลูกค้า ซึ่งเดือนแรกหัวหน้าก็สอนงานเราดี แล้วก็ให้เราไปช่วยงานหลังบ้าน เราเองก็มองว่าทีมเดียวกัน และเป็นงาน Ad hoc ที่ทำงานหลังบ้านย้อนหลังเดือนเก่าๆ เราก็ช่วยทำไม่มีเกี่ยงงอน แต่พอปริมาณเริ่มเยอะขึ้น เราก็เริ่มคุยกับหัวหน้าซึ่งหัวหน้าก็รับปากว่าเดือนถัดไปจะให้เราดูแลลูกค้า 100% หัวหน้ารับปากเราและพูดย้ำแบบนี้หลายครั้งตลอดทั้งเดือน สรุปเดือนแรกเราทำลูกค้าประมาน 30% และทำงานหลังบ้าน 70% ของเวลาทำงานทั้งหมด
เดือนถัดมาหัวหน้าได้งานใหม่และยื่นลาออกล่วงหน้าแล้ว หัวหน้าก็มีงาน Ad hoc มาให้เราอีก โดยหัวหน้าแจ้งว่าให้เราดูแลลูกค้า 100 % รวมถึงแจ้งผู้บริหารไปตามนั้นด้วย ส่วนงานหลังบ้านทั้งหมดเป็นงาน Ad hoc ไม่ใช่งานของเรา แต่ปริมานของงาน Ad hoc ที่เขาสั่งนั้นจะคิดเป็น 75% ในขณะที่มีเวลาทำงานตนเองเพียง 25% เท่านั้น หัวหน้าเราได้งานใหม่ที่ดีกว่าและกำลังจะไปในไม่ช้า เขาไม่สนใจเราอีกต่อไปและนิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาใช้วิธีเล่นคำซึ่งเรามองว่าเราไม่โอเคกับการทำแบบนี้
เราพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมหัวหน้าทำแบบนี้กับเรา เราเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับหัวหน้ามาก่อน เราพยายามคิดว่าหัวหน้าอาจจะมองว่าเราทำลูกค้าไม่ได้เลยย้ายไปทำหลังบ้านเพราะเคยมีประสบการณ์หรือเปล่า แต่งานหลังบ้านของบริษัทเราก็มีความซับซ้อนมากกว่างานของลูกค้าด้วย ซึ่งหัวหน้าทราบเรื่องนี้ดีค่ะ หัวหน้าให้เหตุผลว่าเขาให้เราทำงานนี้เพราะสั่งงานคนที่รับผิดชอบหลังบ้าน ใครในทีมก็ทำไม่เสร็จ มีเราทำเสร็จคนเดียวก็เลยต้องให้เราทำ
เรารู้สึกหัวหน้าพยายามทำให้เราเกลียดพี่ในทีมที่ทำงานไม่เสร็จ แต่เราไม่เกลียดพี่เขาเลย เรารู้ว่าพี่เขาทำงานเก่งมาก และทำงานเร็วกว่าเราหลายเท่า แต่ที่พี่เขาทำไม่ทันเพราะปริมานงานของพี่เขามันเยอะมากจริงๆ เขาเลยเหลืองานส่วนนี้ไว้เพราะเป็นส่วนที่เร่งน้อยสุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่น สุดท้ายพี่ที่ทำหลังบ้านก็บอกเราว่างานทั้งหมดที่นายมาสั่งเรา เขาจะทำเองทั้งหมด เรารู้สึกขอบคุณพี่เขามากๆค่ะ
เราแค่อยากระบายความเครียด ตอนนี้เราก็จะพยายามเรียนรู้ ทำงาน และ ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด
เราประทับใจหลายๆอย่างในบริษัทนี้ และคิดว่าเราชอบผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เราจะสู้ต่อไปค่ะ
หัวหน้างานเปลี่ยนไปตั้งแต่เขาได้งานใหม่ที่ดีกว่า
เราเข้ามาในตำแหน่งดูแลลูกค้า ซึ่งเดือนแรกหัวหน้าก็สอนงานเราดี แล้วก็ให้เราไปช่วยงานหลังบ้าน เราเองก็มองว่าทีมเดียวกัน และเป็นงาน Ad hoc ที่ทำงานหลังบ้านย้อนหลังเดือนเก่าๆ เราก็ช่วยทำไม่มีเกี่ยงงอน แต่พอปริมาณเริ่มเยอะขึ้น เราก็เริ่มคุยกับหัวหน้าซึ่งหัวหน้าก็รับปากว่าเดือนถัดไปจะให้เราดูแลลูกค้า 100% หัวหน้ารับปากเราและพูดย้ำแบบนี้หลายครั้งตลอดทั้งเดือน สรุปเดือนแรกเราทำลูกค้าประมาน 30% และทำงานหลังบ้าน 70% ของเวลาทำงานทั้งหมด
เดือนถัดมาหัวหน้าได้งานใหม่และยื่นลาออกล่วงหน้าแล้ว หัวหน้าก็มีงาน Ad hoc มาให้เราอีก โดยหัวหน้าแจ้งว่าให้เราดูแลลูกค้า 100 % รวมถึงแจ้งผู้บริหารไปตามนั้นด้วย ส่วนงานหลังบ้านทั้งหมดเป็นงาน Ad hoc ไม่ใช่งานของเรา แต่ปริมานของงาน Ad hoc ที่เขาสั่งนั้นจะคิดเป็น 75% ในขณะที่มีเวลาทำงานตนเองเพียง 25% เท่านั้น หัวหน้าเราได้งานใหม่ที่ดีกว่าและกำลังจะไปในไม่ช้า เขาไม่สนใจเราอีกต่อไปและนิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาใช้วิธีเล่นคำซึ่งเรามองว่าเราไม่โอเคกับการทำแบบนี้
เราพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมหัวหน้าทำแบบนี้กับเรา เราเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับหัวหน้ามาก่อน เราพยายามคิดว่าหัวหน้าอาจจะมองว่าเราทำลูกค้าไม่ได้เลยย้ายไปทำหลังบ้านเพราะเคยมีประสบการณ์หรือเปล่า แต่งานหลังบ้านของบริษัทเราก็มีความซับซ้อนมากกว่างานของลูกค้าด้วย ซึ่งหัวหน้าทราบเรื่องนี้ดีค่ะ หัวหน้าให้เหตุผลว่าเขาให้เราทำงานนี้เพราะสั่งงานคนที่รับผิดชอบหลังบ้าน ใครในทีมก็ทำไม่เสร็จ มีเราทำเสร็จคนเดียวก็เลยต้องให้เราทำ
เรารู้สึกหัวหน้าพยายามทำให้เราเกลียดพี่ในทีมที่ทำงานไม่เสร็จ แต่เราไม่เกลียดพี่เขาเลย เรารู้ว่าพี่เขาทำงานเก่งมาก และทำงานเร็วกว่าเราหลายเท่า แต่ที่พี่เขาทำไม่ทันเพราะปริมานงานของพี่เขามันเยอะมากจริงๆ เขาเลยเหลืองานส่วนนี้ไว้เพราะเป็นส่วนที่เร่งน้อยสุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่น สุดท้ายพี่ที่ทำหลังบ้านก็บอกเราว่างานทั้งหมดที่นายมาสั่งเรา เขาจะทำเองทั้งหมด เรารู้สึกขอบคุณพี่เขามากๆค่ะ
เราแค่อยากระบายความเครียด ตอนนี้เราก็จะพยายามเรียนรู้ ทำงาน และ ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด
เราประทับใจหลายๆอย่างในบริษัทนี้ และคิดว่าเราชอบผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เราจะสู้ต่อไปค่ะ