ควบรวม true-dtac ผู้ประกอบการเห็นแก่ตัว หรือผู้บริโภคเห็นแก่ได้ ตัดสินอย่างไรให้เป็นธรรม

มีผู้บริโภคจำนวนมากที่คัดค้านการควบรวมของ true-dtac เพราะกลัวจะเสียประโยชน์ กลัวค่าโทรค่าบริการจะแพงขึ้น ตัวเองจะไม่ได้ใช้ของถูก แต่ก็มีผู้บริโภคอีกหลายคนที่เข้าใจสถานการณ์ของผู้ประกอบการว่า อยู่ในสภาพเช่นไร ก็น่าจะวัดเสียงผู้บริโภคที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และเฉยๆกับเหตุการณ์ครั้งนี้

    และดูเสียงผู้ประกอบการทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อยว่า เห็นด้วยกับการควบรวมมากน้อยแค่ไหน มีเหตุผลอะไรถึงต้องควบรวม เพราะทางภาครัฐจะเน้นเอาเสียงผู้บริโภคมาเป็นเครื่องชี้วัดใหญ่ไม่ได้หรอก  ไม่เป็นธรรม
   ตอนประมูลคลื่นและลงทุนโครงข่าย ผู้บริโภคไม่ได้ออกตังค์ช่วยประมูลและลงทุนโครงข่ายด้วยนี่ มีแต่ออกเสียงเชียร์ให้กดประมูลในราคาสูงๆ แล้วก็รอแต่ใช้เน็ตราคาถูกๆกัน 

   เพราะฉะนั้นจะตัดสินอะไร ต้องฟังความเห็นจากทุกฝ่าย หาความเป็นธรรมทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้เจอ ทำให้พบกันครึ่งทาง ให้เกิดความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

   ผู้ประกอบการต้องการกำไรตามเป้าหมาย เพื่อให้ทำธุรกิจได้ในระยะยาว ผู้บริโภคก็ต้องการเน็ต+โทรที่ราคาไม่แพง และมีคุณภาพ แต่จริงๆค่าเน็ตของเราก็ถูกเป็นอันดับต้นๆของโลกนะ โดยเฉพาะเน็ตบ้านนี่ถูกสุด

   เพราะฉะนั้น การควบรวมนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมองว่า ผู้ประกอบการเอาเปรียบแต่ผู้บริโภค มันต้องดูสถานะของผู้ประกอบการด้วยว่า อยู่ในสภาพเช่นไร ทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการอยู่ได้อย่างมั่นคงในระยะยาว ซึ่งผู้บริโภคหลายคนก็ไม่ได้สนใจจุดนี้หรอก ให้ผู้ประกอบการเจ๊งไปก็ไม่มาช่วยรับผิดชอบหรอก  เพราะตอนกดประมูลคลื่น ผู้บริโภคก็ได้แต่เชียร์ให้กดประมูลในราคาแพงๆกัน แล้วรอใช้เน็ตในราคาถูก ถ้าผู้ประกอบการเจ๊ง ผู้บริโภคก็ไม่ได้มาจ่ายเงินอะไรให้ผู้ประกอบการหรอก เพราะฉะนั้นภาครัฐจะไปฟังเสียงผู้บริโภคทุกคนคงไม่ได้ ต้องฟังเสียงทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ผลประโยชน์ทั้งคู่

    เมื่อผู้ประกอบการได้ควบรวมแล้วจะทำอย่างไรถึงรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคได้ ให้ได้ใช้เน็ต+โทรที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่