ที่ผ่านมา การสื่อสารมีการลงทุนที่หนักๆมาตลอด เพราะคิดว่าการที่ได้เงินประมูลมากๆ จะเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ
แต่เป็นผลประโยชน์ต่อทุกฝ่ายจริงหรือเปล่า ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และประชาชนต่างก็ต้องการผลประโยชน์กันทั้งนั้น ต่างฝ่ายต่างมองผลประโยชน์ของตนเอง ไม่มองผลประโยชน์ของผู้อื่น ไม่คิดว่าจะทำอย่างไรดีที่จะเกิดผลประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย ผลเลยออกมาอย่างที่เห็น
จริงๆแล้ว ก็อยากให้ลุยกัน 3 เจ้าเหมือนเดิมนั่นแหละ ใจก็ชอบบรรยากาศเดิมๆ แต่ดูจากคุณภาพการแข่งขันแล้ว การแข่งขันที่มีหลายเจ้าแล้วจะได้ของมีคุณภาพคงไม่สามารถเกิดขึ้นจริงในบางกรณี ถ้าได้ลองเล่นเน็ตแต่ละค่ายจะรู้สึกถึงความแตกต่างชัดเจนทั้งความครอบคลุม ความเร็ว ความเสถียร เพราะจะลงทุนทำอะไรก็ล้วนต้องใช้เงิน เงินที่ได้ก็ไม่ได้โปรยลงมาจากท้องฟ้า ต้องรอลูกค้าจ่าย พอจ่ายได้ไม่นานเท่าไร ภาครัฐก็หาทางสูบเงินผู้ประกอบการจากการประมูลคลื่นอีก มันทำให้ผู้ประกอบการล้า การลงทุนมีข้อจำกัดและต้องหาหนทางเพื่อความอยู่รอด
คิดถึงญี่ปุ่นที่ให้คลื่น 5G ฟรีไปเลย มาเลเซียก็เลื่อนการประมูล 5G เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีหนทางในการหาเงินที่เหมาะสม อย่างงี้ถูกต้องแล้ว เพราะผู้ประกอบการก็เป็นประชาชนที่ต้องการผลประโยชน์เหมือนผู้บริโภค ไม่ควรให้ผู้ประกอบการแบกรับความเสี่ยงในการลงทุนฝ่ายเดียว
พวกที่เรียกร้องว่า การควบรวมไม่ควรเกิดขึ้น ทำไมถึงไม่เรียกร้องบ้างว่า จะทำอย่างไรดีถึงจะทำให้การสื่อสารในไทยน่าลงทุนเหมือนต่างประเทศ ไม่ใช่จะเอาแค่ผลประโยชน์เอาความคิดของตัวเองฝ่ายเดียว
ถ้ามี 3 เจ้า คือ ais+jas true dtac+nt ซึ่งทำให้ dtac มีเน็ตบ้าน+เน็ตมือถือ อย่างนี้จะดูสวยกว่า การแข่งขันจะสูสีเท่าเทียม มีอาวุธต่างๆที่สู้กันได้สบาย
Jas นี่ดูระยะยาวไม่น่ารอด ส่วน dtac กับ true ระยะยาวก็ไม่น่าไปได้สวย ดูจากนโยบายการลงทุนจากภาครัฐ คุณภาพโครงข่ายจะยิ่งห่างชั้นกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็คงไม่รอดทั้ง 2 ค่าย
ภาครัฐดูมีท่าทีที่เฉยต่อการควบรวมก็ถูกต้องแล้ว เพราะรัฐก็มีส่วนที่ทำให้การสื่อสารออกมาเป็นอย่างนี้เอง ก็ควรรับผิดชอบด้วยการไม่คัดค้านเมื่อผู้ประกอบการจะหาทางออกเพื่อความอยู่รอด
นึกถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งพอจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ ที่เขาจะให้มีการจัดฟุตบอลโลกทุก 2 ปีเพื่อผลประโยชน์หลายด้าน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้ผู้เล่นในทีมชาติกรำศึกใหญ่เยอะเกินไป แบกความเสี่ยงเกินไป จนสภาพร่างกายนักเตะล้าส่งผลเสียต่อการแข่งขันน้อยใหญ่ในระยะยาว นี่แสดงให้เห็นถึงการเห็นใจและรู้จักรับผิดชอบร่วมกันระหว่างฟีฟ่าผู้จัดการแข่งขัน และทีมชาติผู้เข้าแข่งขัน ไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันต้องอ่อนล้าเกินกว่าเหตุ จนต้องเสียการแข่งขันต่างๆไป
ประเทศเรา การสื่อสารนี้ ภาครัฐคือผู้จัดการแข่งขันการประมูล ผู้ประกอบการคือ ผู้เข้าแข่งขัน ให้ผู้ประกอบการแบกรับความเสี่ยงการลงทุนเอง ใครไม่เข้าประมูลก็อยู่ไม่รอด
ภาครัฐจัดการประมูลอยู่เรื่อย ใช้เวลาไม่นานก็ประมูลรอบใหม่อีกแล้ว ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของผู้ประกอบการอ่อนล้า ต้องหาหนทางเอาตัวรอด
ถึงตอนนี้ ภาครัฐมีท่าทีเฉย ก็ถูกต้องแล้ว เพราะที่ผ่านมา มีนโยบายต่างๆที่การลงทุนของผู้ประกอบการเป็นแบบนี้เอง
และที่มีกลุ่มชวนย้ายค่ายเพราะต่อต้านการควบรวม จริงๆไม่ต้องชวนย้ายก็ได้ ถ้าควบรวมแล้ว เกิดผลเสียจริง สิ่งที่โฆษณาไว้ไม่เกิดจริง ค่อยชวนย้ายก็ได้
หรือจะช่วยเรียกร้องให้การสื่อสารไทยมีเงื่อนไขที่น่าลงทุนกว่านี้ก็จะดูสวยงามกว่า
ถ้าจะไม่ให้มีการควบรวม true-dtac น่าจะปรับเปลี่ยนให้สื่อสารน่าลงทุนมากกว่านี้