.
ขอตั้งข้อสังเกต 3 เรื่อง
1. เรื่องไทย - กัมพูชา ประเด็น MOU 44
เป็นเรื่องไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถอธิบายได้ ไร้สาระที่จะนำเรื่องนี้มากล่าวหารัฐบาล
แต่รัฐบาลเอง กลับไม่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้ เอาแต่หยิบยกเรื่องผลประโยชน์ใต้ทะเลมาอ้าง
พฤติกรรมแบบนี้ ชัดว่า มีอะไรในกอไผ่แน่ ๆ คิดไม่ซื่อ ไม่พยายามให้เป็นประเด็น เพราะกลัวจะลามถึงเรื่องที่มีวาระซ่อนเร้นอยู่
2. เรื่องปราบผู้มีอิทธิพล
ประเด็นนี้ชัด ว่าสิ่งที่ทักษิณทำ คือ ปราบผู้มีอิทธิพลที่เป็นคนละพวก
แต่ไม่แตะต้องผู้มีอิทธพลที่เป็นพวกเดียวกัน แบบใครสยบคบกันไป ใครไม่สยบก็รบด้วยอำนาจรัฐที่ตัวเองครอบอยู่
ไม่เท่านั้น ไม่แค่ไม่แตะพวกเดียวกัน ยังพยายามสร้างพวกเดียวกันให้เป็นผู้มีอิทธิพลใหม่เพื่อไล่ผู้มีอิทธิพลเก่า
เรียกว่า สร้าง "บ้าน่ใหม่" เพื่อไล่ "บ้านใหญ่" หนุนบ้านใหม่ให้ใหญ่กว่าบ้านใหญ่เดิม ดูที่ปราจีนวันนี้ ชัดที่สุด
แบบนี้ กี่โ่มงครับ การเมืองไทยจะพ้นน้ำเน่า จะสิ้นวงจรอุบาทว์ จะปราบผู้มีอิทธิพลได้
3. เรื่องพลังงานไฟฟ้า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ผลประโยชน์มหาศาล
ตอนนี้ รัฐบาลกำลังจะทำสัญญากับทุนพลังงานไฟฟ้าแบบผูกขาด ไม่มีการประมูล
จะลงนามทำสัญญาซื้อไฟฟ้า 3600 เมกกะวัติจากกลุ่มทุน ด้วยระยะเวลา 25 ปี
เรื่องนี้ มีการทักท้วงจากฝ่ายค้าน รมว.กระทรวงพลังงานก็ค้าน แต่นายกฯทำเฉยเมย
รมว.พลังงานท้วงติงไปแล้ว ไม่มีอำนาจทำอะไรได้มากกว่านี้
อำนาจเด็ดขาดอยู่ที่ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)
ประธาน กพช. ก็คือ แพทองธาร นายกรัฐมนตรี
ธนาธรเคยทำจดหมายเปิดผนึกทักท้วงถึงนายกฯไปเมื่อสองเดือนก่อน
ปฏิกิริยาของนายกฯคือ พูดสั้น ๆ แค่ว่าจดหมายยังมาไม่ถึง ทั้งที่ประชาชนรับรู้เนื้อหาจดหมายกันทั่วไปแล้ว
ฝ่ายค้านพยายามตั้งกระทู้ถามในสภาฯ แต่นายกฯเอาแต่หนีสภาฯ ไม่ยอมเข้าตอบเรื่องนี้
ตั้งแต่สมัยประชุมที่แล้ว จนถึงสมัยประชุมนี้ที่นายกฯก็ยังหนีตอบกระทู้
หากนายกฯไม่ระงับ การลงนามทำสัญญาจะเกินขึ้น 30 ธันวาคม นี้
ซึ่งหากทำสัญญาแล้ว เลิกไม่ได้ หากเลิกต้องจ่ายชดเชยกลุ่มทุนมหาศาล
การทำสัญญาซื้อไฟฟ้าครั้งนี้ แพงกว่าการประมูลประมาณปีละ 4100 ล้านบาท
ระยะเวลาตามสัญญาคือ 25 ปี ทำให้รัฐบาลจ่ายแพงเกินไปแสนกว่าล้านบาท
ภาระนี้ ก็จะถูกผลักมาสู่ประชาชน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคนไทยใช้ไฟฟ้าแพงจัง
พฤติกรรมนี้ ชัดว่า เอื้อนายทุนด้วยเงินประชาชน ทำเนียน ปล่อยให้เรื่องและเวลาเดินไป
ถึงเวลาก็คงตั้งคณะกรรมการทำสัญญา นายกฯในฐานะประธานลอยตัว
ผลประโยชน์นี้ แสนกว่าล้านนี้ จะตกแก่ใครบ้าง ???
.
ขอตั้งข้อสังเกตแค่ 3 เรื่อง (มีอีกหลายเรื่อง)
จึงสงสัยว่า ห่วงบ้านห่วงเมืองจริงหรือ ?
เชื่อไม่ลงจริง ๆ
ทักษิณ ชินวัตร ห่วงบ้านห่วงเมือง หรือ หวังกินบ้านยึดเมือง
1. เรื่องไทย - กัมพูชา ประเด็น MOU 44
เป็นเรื่องไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถอธิบายได้ ไร้สาระที่จะนำเรื่องนี้มากล่าวหารัฐบาล
แต่รัฐบาลเอง กลับไม่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้ เอาแต่หยิบยกเรื่องผลประโยชน์ใต้ทะเลมาอ้าง
พฤติกรรมแบบนี้ ชัดว่า มีอะไรในกอไผ่แน่ ๆ คิดไม่ซื่อ ไม่พยายามให้เป็นประเด็น เพราะกลัวจะลามถึงเรื่องที่มีวาระซ่อนเร้นอยู่
2. เรื่องปราบผู้มีอิทธิพล
ประเด็นนี้ชัด ว่าสิ่งที่ทักษิณทำ คือ ปราบผู้มีอิทธิพลที่เป็นคนละพวก
แต่ไม่แตะต้องผู้มีอิทธพลที่เป็นพวกเดียวกัน แบบใครสยบคบกันไป ใครไม่สยบก็รบด้วยอำนาจรัฐที่ตัวเองครอบอยู่
ไม่เท่านั้น ไม่แค่ไม่แตะพวกเดียวกัน ยังพยายามสร้างพวกเดียวกันให้เป็นผู้มีอิทธิพลใหม่เพื่อไล่ผู้มีอิทธิพลเก่า
เรียกว่า สร้าง "บ้าน่ใหม่" เพื่อไล่ "บ้านใหญ่" หนุนบ้านใหม่ให้ใหญ่กว่าบ้านใหญ่เดิม ดูที่ปราจีนวันนี้ ชัดที่สุด
แบบนี้ กี่โ่มงครับ การเมืองไทยจะพ้นน้ำเน่า จะสิ้นวงจรอุบาทว์ จะปราบผู้มีอิทธิพลได้
3. เรื่องพลังงานไฟฟ้า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ผลประโยชน์มหาศาล
ตอนนี้ รัฐบาลกำลังจะทำสัญญากับทุนพลังงานไฟฟ้าแบบผูกขาด ไม่มีการประมูล
จะลงนามทำสัญญาซื้อไฟฟ้า 3600 เมกกะวัติจากกลุ่มทุน ด้วยระยะเวลา 25 ปี
เรื่องนี้ มีการทักท้วงจากฝ่ายค้าน รมว.กระทรวงพลังงานก็ค้าน แต่นายกฯทำเฉยเมย
รมว.พลังงานท้วงติงไปแล้ว ไม่มีอำนาจทำอะไรได้มากกว่านี้
อำนาจเด็ดขาดอยู่ที่ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)
ประธาน กพช. ก็คือ แพทองธาร นายกรัฐมนตรี
ธนาธรเคยทำจดหมายเปิดผนึกทักท้วงถึงนายกฯไปเมื่อสองเดือนก่อน
ปฏิกิริยาของนายกฯคือ พูดสั้น ๆ แค่ว่าจดหมายยังมาไม่ถึง ทั้งที่ประชาชนรับรู้เนื้อหาจดหมายกันทั่วไปแล้ว
ฝ่ายค้านพยายามตั้งกระทู้ถามในสภาฯ แต่นายกฯเอาแต่หนีสภาฯ ไม่ยอมเข้าตอบเรื่องนี้
ตั้งแต่สมัยประชุมที่แล้ว จนถึงสมัยประชุมนี้ที่นายกฯก็ยังหนีตอบกระทู้
หากนายกฯไม่ระงับ การลงนามทำสัญญาจะเกินขึ้น 30 ธันวาคม นี้
ซึ่งหากทำสัญญาแล้ว เลิกไม่ได้ หากเลิกต้องจ่ายชดเชยกลุ่มทุนมหาศาล
การทำสัญญาซื้อไฟฟ้าครั้งนี้ แพงกว่าการประมูลประมาณปีละ 4100 ล้านบาท
ระยะเวลาตามสัญญาคือ 25 ปี ทำให้รัฐบาลจ่ายแพงเกินไปแสนกว่าล้านบาท
ภาระนี้ ก็จะถูกผลักมาสู่ประชาชน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคนไทยใช้ไฟฟ้าแพงจัง
พฤติกรรมนี้ ชัดว่า เอื้อนายทุนด้วยเงินประชาชน ทำเนียน ปล่อยให้เรื่องและเวลาเดินไป
ถึงเวลาก็คงตั้งคณะกรรมการทำสัญญา นายกฯในฐานะประธานลอยตัว
ผลประโยชน์นี้ แสนกว่าล้านนี้ จะตกแก่ใครบ้าง ???