JJNY : โรงเรียนเตรียมทหารสอบ‘เรือเอก’│ศักดาเผยคนสนิท รมต.ร่วมยื่นประกัน│ชี้ 'นิสสัน-ฮอนด้า'ควบรวม│สหรัฐลั่นรัสเซียยอมรับ

ฉาวไม่หยุด! โรงเรียนเตรียมทหาร สอบ ‘เรือเอก’ นักกายภาพ อนาจาร นตท. 18 นายในสถาบัน
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4961233
  
 
ฉาว! อนาจาร นักเรียนเตรียมทหาร 18 นาย โรงเรียน เต้นตั้งคณะกรรมการสอบนักกายภาพยศเรือเอก
 
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม มีรายงานข่าวว่า โรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหลังเกิดเหตุ นายทหารยศเรือเอกรายหนึ่ง เป็น นักกายภาพ ทำอนาจาร นักเรียนเตรียมทหาร จำนวน 18 นาย หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองนักเรียน

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดภายหลังที่นักเรียนเตรียมทหาร กลับมาจากการฝึกภายในโรงเรียน และมีอาการปวดเมื่อย และเข้ารับการรักษา กายภาพบำบัด ภายในโรงเรียน
 
โดยทาง โรงเรียนเตรียมทหาร ยืนยันกับผู้ปกครอง จะเร่งดำเนินการตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรม หากพบว่าได้กระทำความผิดจริง จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญา
 
สำหรับ นักเรียนเตรียมทหารนั้นมีอายุระหว่าง 16-18 ปี
 


ศักดา นพสิทธิ์ เล่านาทีเฉียดตาย ถูกยิงโหด 4 นัด เผยคนสนิทรัฐมนตรี ร่วมยื่นประกันมือปืน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4961092
 
 
‘ศักดา นพสิทธิ์’ เล่านาทีเฉียดตาย ถูกยิงโหด 4 นัด เผยคนสนิทนักการเมืองร่วมยื่นประกันมือปืน
 
รู้สึกที่ท้องถูกบีบอัด แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองลอยอยู่ในจักรวาล ไม่รู้หรอกว่าจักรวาลเป็นอย่างไร แต่วูบแรกคือ รอบข้างมืดไปหมด เหงื่อแตกทั้งตัว เจ็บแปลบที่ท้อง นาทีนั้นรู้แล้วว่าพี่ถูกยิง” นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตเลขานุการ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และเป็นบิดาของ น.ส.วรรณิดา นพสิทธิ์ ส.ส.พรรคประชาชน เล่าวินาทีที่ถูกยิง ที่บริเวณหลังร้านข้าวต้มบางปะกง 3 จ.ชลบุรี ให้กับ ทีมข่าว มติชนออนไลน์ฟัง เป็นที่แรก หลังจากรอดชีวิต และนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู โรงพยาบาลชลบุรี เป็นเวลา 5 คืน

นายศักดา กล่าวว่า คืนที่ถูกยิงนั้น มีนัดกินข้าวกับผู้ใหญ่ ที่กรุงเทพ กินข้าวเสร็จประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง หลังจากนั้น ก็ขับรถกลับชลบุรี พร้อมลูกชาย และลูกสาว น.ส.วรรณิดา ถึงชลบุรีประมาณเที่ยงคืน แวะกินข้าวต้มกับลูกๆร้านข้างทาง กินเสร็จ ลูกๆกลับบ้านไปก่อน หลังจากนั้น ตนขับรถไปจอดที่อาการพาณิชย์ ที่ซื้อไปทำธุรกิจ ซัก อบ รีด อยู่ใกล้ๆกับร้านที่เกิดเหตุ โดยห่างกันประมาณ 100 เมตร โดยได้โทรศัพท์ไปบอกภรรยาว่าจะนอนที่ร้าน เพราะมีห้องนอนอยู่ด้วย วางหูจากภรรยาก็เดินไปที่ร้านข้าวต้มบางปะกง 3 สั่งเบียร์มากิน 1 ขวด
 
ประมาณ ตี 1 ภรรยาเดินมาตาม บอกให้กลับบ้าน ยังไม่ทันพูดอะไร แต่ลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะไปฉี่ ก็เดินไปหลังร้าน ระหว่างนั้น ลูกชายเจ้าของร้าน คนที่ยิงผม เดินตามมา ถามผมว่า มาทำอะไร ผมตอบว่า เดินมาฉี่ เขาสวนมาว่า นี่ไม่ใช่ที่ฉี่ แต่ผมไม่สนใจ ฉี่จนเสร็จ เขาถามต่อ ว่า เป็นใคร ผมตอบว่า ไม่รู้จักกูเหรอ กูศักดา ขาดคำว่าศักดา มันต่อยผมเลย จนผมล้ม เขาก็ล้ม แต่ลุกขึ้นก่อนผม แล้วชักปืนออกมา ทำท่าจะเลื่อนแมกกาซีน โดยเลื่อนสไลด์เพื่อเตรียมยิง ผมเห็นก็เลยรีบลุกขึ้นแล้วกระโดดเตะ เขาล้มลง ผมก็ล็อกตัวเขาเอาไว้ ปืนอยู่ในมือเขา แย่งกันไปมา พลิกตัวไปพลิกตัวมา ปืนที่ขึ้นลำเอาไว้แล้ว พอได้จังหวะ เขาก็ยิงผมเลย เข้าที่ท้อง” นายศักดา กล่าว
 
อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตอนถูกยิง เหมือนอะไรมาบีบอัด เหมือนเชือกมารัดตัว รอบข้างมืดสนิท ตัวเย็น เหงื่อนแตก เจ็บแปลบ แต่มันพอมีสติอยู่ ผมบอกว่า “ถ้าวางปืน กูจะไม่เอาเรื่อง” แต่เขาไม่ฟัง ยิง ต่ออีก 3 นัด แต่ด้วยแม็กกาซีน ถูกกดอยู่ หรืออะไรไม่ทราบ แทนที่กระสุนจะออกมา มันกลับไปค้างที่ลำเพลิงไม่ออกมา ปืนแตก มือ เขาก็แตกด้วย
 
“ในช่องแม็กกาซีนมีปืน 12 นัด ซองปืนหลุดออกจากท้ายปืน กระสุนหล่นร่วง คนยิงวิ่งหนีไป คนในร้านก็เริ่มมามุง มูลนิธิมาประมาณ ตี สาม หรือ ตี สี ใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่ผมรู้สึกว่ายาวนานมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิ เอาผมขึ้นเปล ไม่ได้ทำอะไร เพราะต้องรอให้ตำรวจมาก่อน ซึ่งจากร้าย สถานีตำรวจ สภ.เสม็ดนั้นห่างกันแค่ ไม่เกิน 200 เมตร ตำรวจมาเขาจึงเอาผมส่งหมอ ผมรู้สึกตัวตลอดเวลา”นายศักดา กล่าว
นายศักดา กล่าวว่า อาการของผมคือ กระสุนเข้าท้องทะลุด้านหลัง โดยเฉี่ยวลำไล้เล็ก ถลอก 3 จุด หมอตัดลำไส้เล็กทิ้งประมาณ 1 นิ้ว ส่วนตัวผู้ต้องหาที่หนีไป มามอบตัว แต่ 2 วันก็ได้รับการประกันตัวออกไปด้วยเงิน 3 แสนบาท
 
ถามว่าการที่ผมถูกยิงเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ ผมคิดว่า ก็ไม่เชิง เพราะลูกน้องผมบอกว่า วันที่ญาติเขามาขอประกันตัวนั้นมีคนสนิทของ รัฐมนตรีคนหนึ่งตามมาด้วย ผมกับเขาไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเขาเป็นลูกน้องของนักการเมืองคนดังกล่าวจริงอาจจะอยากแสดงความเก๋าให้ลูกพี่เห็นจะได้อัพเกรดขึ้นมา ว่าตัวเองเจ๋ง ซึ่งตามคดีแล้ว ผมก็คงต้องเอาเรื่องถึงที่สุด อ้างว่าป้องกันตัวไม่ได้ เพราะป้องกันตัวยิงแค่นัดเดียวพอแล้ว นี่ยิง 4 นัดเลย ตอนนี้ผมยังไม่ได้ให้ปากคำกับตำรวจ อาจจะออกจากโรงพยาบาลก่อนน่าจะใช้เวลาอีก 4-5 วัน นี่คุยกับมติชนเป็นที่แรกหลังออกจากไอซียู” นายศักดา กล่าว
 


'ส.อ.ท.' ชี้ 'นิสสัน-ฮอนด้า' ควบรวม แตกไลน์ผลิตอีวี ดันเศรษฐกิจจ้างงานเพิ่ม
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1158482

“ส.อ.ท.” เผยข่าวการควบรวมกิจการของ “นิสสัน-ฮอนด้า” เดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย อาจเกิดไลน์การผลิตรถอีวีเพิ่มขึ้น มองไม่กระทบภาคแรงงาน ขอรอดูการแถลงทิศทางธุรกิจของทั้ง 2 ค่ายญี่ปุ่นอีกครั้ง
 
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณณีที่สำนักข่าวลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Nissan และ Honda ว่ากำลังพิจารณาการ “ควบรวมกิจการระหว่างกัน” เพื่อรับมือกับความท้าทายการแข่งขันทั่วโลก และอาจกลายเป็นค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่สามารถแข่งขันกับโตโยต้า มอเตอร์ ในญี่ปุ่นได้นั้น 
 
ทั้งนี้ ส.อ.ท. มองว่าน่าจะเป็นเรื่องดีกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย จากการผนึกกำลังกันภายใต้รูปแบบการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง และจะลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) นั้น ก็จะยังมีแบรนด์รถของทั้ง 2 แบรนด์นี้อยู่ และถ้ารวมกันเป็น 3 ค่ายรถญี่ปุ่นที่รวมกับ Mitsubishi ซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 24% แล้วก็มีโอกาสเป็นที่ 3 ของโลกได้
 
"ทั้ง 2 แบรนด์มีโรงงานของตัวเองในประเทศไทย และมีกำลังการผลิตของแต่ละแบรนด์อยู่แล้วที่จะผลิตแบรนด์รถของตนเอง แต่จะมีการปรับลดค่าใช้จ่ายในหลายเรื่อง แต่การร่วมมือครั้งนี้ หากดูรายละเอียดขจองข่าวเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวสู่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อสู้ตลาดตามเทรนด์โลกมากกว่า"
 
อย่างไรก็ตาม โรงงานผลิตในประเทศไทยส่วนตัวยังมองว่าคงจะไม่ได้ถึงกับต้องยุบรวมโรงงาน เพราะแต่ละโรงงานมีกำลังการผลิตที่ทำยอดตามเป้าหมาย ต่อไปก็ต้องดูยอดของการผลิตแต่ละแบรนด์อีกครั้งว่าจะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งยอมรับว่าจะให้บอกตอนนี้ก็จะเร็วจนเกินไปที่จะพูด เพราะยังไม่เห็นแผนธุรกิจที่ชัดเจนมากกว่านี้
 
"ในมุมการได้เปรียบของประเทศไทย จะเกิดการลงทุนหากมองในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อาจจะมีสายการผลิตรถอีวีเพิ่มมากขึ้น จะก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม เท่าที่ฟังยังไม่มีความชัดเจน อาจจะต้องรอดูแผนธุรกิจอีกครั้ง"
 
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้จะแถลงยอดผลิตรถเดือนพ.ย. 2567 วันที่ 24 ธ.ค. 2567 จากล่าสุดได้ลดประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2567 ลงอีก 200,000 คัน จาก 1.7 ล้านคัน เหลือ 1.5 ล้านคัน โดยปรับลดผลิตขายในประเทศจาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1.15 ล้านคัน เป็น 1.05 ล้านคัน
 
ทั้งนี้ ได้ลดยอดผลิตเป็นครั้งที่ 2 จากรอบแรกปรับไป 200,000 คัน เท่ากับปีนี้ลดลงถึง 400,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 240,000 ล้านบาท จากเป้าหมายแรกตั้งแต่ต้นปีตั้งไว้ที่ 1.9 ล้านคัน เพราะยอดขายในประเทศลดลงจากการเข้มงวดให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงิน ซึ่งยอดการผลิตดังกล่าวต่ำสุดใน 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน
 
นอกจากนี้ การส่งออกลดลงทุกตลาดจากผลกระทบสงครามอิสราเอลกับฮามาสที่อาจกระทบส่งออกตลาดดังกล่าว โดยต้องจับตาตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปเป็นพิเศษ รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบเศรษฐกิจโลกจากสงครามยูเครนกับรัสเซีย ที่อาจขยายประเทศอื่น ซึ่งยอมรับว่าสถานการณ์รถยนต์ไทยค่อนข้างสาหัส
 
“ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ลดลงมาจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์เพราะหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259.330 ล้านบาท ในเดือน ก.ค.2567 ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาส 2 ปีนี้ แค่ 2.3% และคาดว่า 2567 จะเติบโตแค่ 2.7-2.8%”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่