ไขปริศนาของจักรวาล คนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เหมือนมีหลุมดำในกระเพาะ ร่างกายเขาเป็นยังไงกันแน่ !! 🤔

📚 งานนี้เป็นการศึกษา เพื่อดูว่าคนที่สุขภาพดี รูปร่างผอม ที่ว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเนี่ย จริงๆแล้วกลไกภายในร่างกายเป็นยังไงบ้าง ระบบเผาผลาญ (Metabolism) ดีจัดหรือยังไง ทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน มันเป็นไงกันแน่ เอาวิทยาศาสตร์มาวงดูสิ


👩🏼‍🔧 เป็นการศึกษาในคนจีน ในปักกิ่งนะครับ ในแง่ของเผ่าพันธุ์น่าจะใกล้เคียงที่จะเอามาดูกับเราๆได้อยู่บ้าง โดยเขาก็นำคนสุขภาพดีที่มี BMI ต่ำกว่า 18.5 (Healthy underweight, HU) มาทำการวิจัย 150 คนนะครับ แล้วก็เปรียบเทียบกับคนที่ BMI 21.5-25 ซึ่งเป็นเกณฑ์น้ำหนักปกติมาอีก 173 คน โดยปริมาณก็ถือว่าเยอะใช้ได้เลยนะครับเนี่ย ทุกคนไม่มีปัญหาการกินผิดปกติ ไม่มีโรคอะไรต่างๆ ที่ทำให้น้ำหนักลดผิดปกติ

📝 จากการศึกษาข้อมูลต่างๆ ในเบื้องต้นก็พบว่ากลุ่ม HU นี่ เป็นผู้หญิงถึง 83% เมื่อเทียบกับผู้หญิงในกลุ่มปกติที่ 46.8% อายุเฉลี่ยทั้งหมด 26-27 ปี นะครับ

🔥 พอมาดูที่การใช้พลังงานรวม Total Energy Expenditure (TEE) เนี่ยกลุ่ม HU มี TEE ประมาณ 1700 แคล/วัน น้อยกว่ากลุ่มปกติที่ใช้พลังงานราว 2031 แคล/วัน ในระหว่างการวิจัยทุกคนไม่มีใครน้ำหนักขึ้นหรือลงผิดปกตินะครับ ก็ประมาณว่าเป็นช่วงที่ทานระดับสมดุลย์ (Maintain) นั่นแหละ 

🔎 TEE ในงานมาจากไหน ?? เขาใช้การประเมินด้วยวิธี Doubly Labeled Water ซึ่งก็เป็นโคตรพ่อโคตรแม่ Gold standard สำหรับการวัดค่าการใช้พลังงานในงานวิจัย ใครบอกว่าเราวัดการใช้พลังงานจริงๆไม่ได้ ให้จับนั่งมัดกับเก้าอี้ แล้วเอากางเกงในเปียกดีดปากมันจนกว่าจะแห้ง

📝 เขาก็ลองเอา TEE ที่วัดได้จริงๆ มาเปรียบเทียบกับ TEE ที่ได้จากการคำนวณตามสูตร (Expected TEE) ที่ใช้สัดส่วนมวลกาย FM และ FFM ของ Pontzer มาคิดเทียบกันด้วย ผลก็คือว่าค่าการใช้พลังงานจริงของกลุ่ม HU เมื่อเทียบกับการคำนวณ ค่อนข้างใกล้เคียงกัน 99.1% ส่วนกลุ่มน้ำหนักปกติ TEE ที่วัดได้คิดเป็น 90.4% ของค่าที่ได้จากการคำนวณ 

🐒 ส่วนพลังงานขณะพัก (Resting Energy Expenditure, REE) กลุ่ม HU ใช้พลังงาน 1340 แคล/วัน กลุ่มน้ำหนักปกติ 1493 แคล/วัน ตรงพวกนี้รายละเอียดก็ค่อนข้างเยอะนะครับ โดยสรุปก็คือเขาศึกษาเพื่อดูค่าพลังงาน แต่ละ component ของแต่ละกลุ่มออกมา ทั้ง TEE, REE , PA ต่างๆ

🩸 เมื่อดูที่ REE และดูที่ฮอร์โมนไทรอยด์กลุ่ม HU มีค่า Free T4 ที่สูงกว่า ส่วน T4, Free T3 ก็มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วน T3 และ TSH ไม่แตกต่างกัน ตรงนี้น่าจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้การเผาผลาญเมื่อเทียบกับแบบคำนวณ กลุ่ม HU มีค่าสูงกว่า

🕺 เมื่อดูที่กิจกรรมทางกาย (Physical activity, PA) ก็พบว่าในกลุ่ม HU เนี่ย ไม่ค่อย active เท่าไหร่นะครับ พวกการวัดกิจกรรมต่างๆ จาก Accelerometry เนี่ยพบว่าน้อยกว่ากลุ่มน้ำหนักปกติ 23% ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และพอเทียบว่ามีช่วงไหนมากกว่าบ้างมั้ย ก็พบว่าน้อยกว่าตลอดเวลาทั้งวัน

🍜 และจากพลังงานที่วัดได้จริงๆ กับการที่น้ำหนักเปลี่ยนแปลงในช่วง 2 สัปดาห์ เขาก็คำนวณออกมาได้ว่าแต่ละคนนั้นกินอาหาร (Intake) ในช่วงนั้นไปเท่าไหร่ ละเอียดแหละเอาจริงแม่นกว่า Food Record หรือวิธีอื่น อีกนะ

🔎 ซึ่งจากข้อมูลที่เขาพบเนี่ยในเรื่องของการกิน กลุ่ม HU นี่ทานน้อยกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติอยู่ 12% อันนี้เขาไม่ได้กำหนดการกินนะครับ ในทุกกลุ่ม ก็คือกินตามปกติของแต่ละคนเลย แต่พอมาดูว่าทานไปเท่าไหร่ ก็พบว่าไอ้ที่คิดว่าจะกินเยอะ จริงๆคือกินน้อยกว่าคนน้ำหนักปกติ

🩸 เมื่อดูค่า Lipid  ระดับไตรกลีเซอรัล , LDLในกลุ่ม HU นั้นน้อยกว่าอีกกลุ่ม ในขณะที่ HDL นั้นสูงกว่า ซึ่งก็อาจจะเป็นผลมาจากรูปแแบบการทานอาหาร และความที่น้ำหนักตัวน้อยกว่า อาจจะมีผลมากกว่าเพราะว่าถ้าดูจาก PA กลุ่ม HU นี่ Active น้อยกว่า แต่พวกผล Lipid ดีกว่า 

📌 สรุปก็คือจากข้อมูลที่เขาศึกษาอย่างละเอียด พวกคนที่กินยังไงก็ไม่อ้วน หรือกินเยอะแล้วไปออกกำลังกายหมด เนี่ย ก็ไม่ได้มีอยู่จริง เพราะว่าพอมาดูละเอียดแล้วพบว่าคนที่ไม่อ้วน ก็กินน้อยนั่นเองครับ ส่วนที่จะบอกว่าคนกลุ่มนี้ กินเยอะออกเยอะ ก็ไม่ใช่ด้วย เพราะว่าเขาก็ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือมีกิจกรรมที่หนักกว่าอีกกลุ่ม

😎 ย้ำอีกรอบ คนกลุ่มที่น้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ที่มองกันว่ากินยังไงก็ไม่อ้วน จริงๆแล้วพบว่า กินน้อยกว่า 12% มีกิจกรรมทางกายที่น้อยกว่า 23.3% ค่าพลังงานรวมไม่ได้สูงกว่าคนน้ำหนักตัวปกติ แต่พลังงานขณะพักมีสัดส่วนสูงกว่า กิจกรรมของฮอร์โมนไทรอยด์มีมากกว่า 


เลิกเชื่อเรื่องหลุมดำในกระเพาะกันได้แล้วนะครับ เอาจริงถ้าเขากินเยอะมากกว่าที่ร่างกายใช้ เขาก็อ้วนได้เหมือนกันอ่ะแหละ บางคนที่เขาคิดว่าเขากินเยอะแล้วทำไมน้ำหนักไม่ขึ้น เท่าที่เคยเจอมาเอ็งยังกินห่างไกลคำว่าน้อยของข้ามากไอ้น้อง ๕๕๕ 😎

ที่มาและแหล่งอ้างอิง
https://www.fatfighting.net/article-2022-07-18-higher-than-predicted-resting-energy-expenditure-and-lower-physical-activity-in-healthy-underweight/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่