โพสต์หาเสียงพรรค พปชร. ปี 62 กลายเป็นไวรัลขึ้นมา ชาวเน็ตแห่ถาม ‘จะลบอันนี้ด้วยไหม’
https://www.catdumb.com/thai-news/82474
ย้อนไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้เกิดเป็นกระแสพูดถึงอย่างมากในโซเชียล หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก พรรคพลังประชารัฐ ได้ลบโพสต์นโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่เคยหาเสียงไว้เมื่อปี 2562 ออกจากเพจ
ซึ่งต่อมา นาย
ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าของพรรคก็ออกมาบอกว่า ที่ลบไปเพราะมันคือโฆษณาที่ควรลบออกตั้งแต่หลังโฆษณา 1 ปีแล้ว รวมถึงกำลังปรับระบบโซเชียลเพื่อรองรับการเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า
แต่เมื่อวานนี้ นาย
ไพบูลย์ ได้ออกมาแก้ข่าวอีกครั้งว่าไม่ได้ลบโพสต์เพื่อปรับปรุงระบบ เพราะพอไปถามทีมงานแล้วได้คำยืนยันมาว่าไม่ได้ลบโพสต์ใดๆ ออกจากเพจ
นอกจากนี้ระบุอีกว่า พรรคไม่เคยโพสต์นโยบายนี้ลงเพจ อาจทำขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายว่าพรรคลบออกไป กำลังหาข้อเท็จจริงว่าเป็นการตัดต่อหรือไม่
และล่าสุดครับ จากประเด็นดังกล่าวก็ได้ทำให้ช่วงคืนวานนี้มาจนถึงวันนี้ (28 พฤษภาคม) มีชาวเน็ตแห่ไปคอมเมน์บนโพสต์นโยบายหาเสียงบนเพจพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกโพสต์มาเมื่อปี 2562
จนทำให้โพสต์ดังกล่าวเกิดเป็นกระแสไวรัลขึ้นมาอีกครั้งบนโซเชียล โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ได้มาถามว่าจะลบโพสต์นี้อีกไหม รวมถึงวิจารณ์ถึงนโยบายของพรรคที่บางอันก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาจริงหลังพรรคได้เป็นรัฐบาล
โพสต์ดังกล่าวที่พรรคโพสต์นโยบาย พร้อมบอกว่า ‘ทำได้จริง ไม่ขายฝัน’
https://www.facebook.com/PPRPThailand/posts/pfbid0a7jw2HRwnCvyzULpiyRftWa3JYF7Zpb2Q5cMf2VzF2s4TswsQSHXxSBQKHYECRMKl
ท็อปคอมเมนต์จากชาวเน็ต
นอกจากนี้ชาวเน็ตยังไปคอมเมนต์ในแต่ละภาพนโยบายด้วย เริ่มจาก
นโยบายบัตรประชารัฐ (บัตรคนจน)
https://www.facebook.com/photo/?fbid=560685931104747&set=pcb.560686257771381
นโยบายมารดาประชารัฐ
https://www.facebook.com/photo?fbid=560685964438077&set=pcb.560686257771381
นโยบายเอื้อชาวนา
https://www.facebook.com/photo?fbid=560686011104739&set=pcb.560686257771381
นโยบายที่ดิน ส.ป.ก. 4.0
https://www.facebook.com/photo?fbid=560686084438065&set=pcb.560686257771381
นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน
https://www.facebook.com/photo?fbid=560686147771392&set=pcb.560686257771381
นโยบายเกษตรประชารัฐ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=560686204438053&set=pcb.560686257771381
เมื่อโพสต์กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากนี้โพสต์นี้จะถูกลบหายไปด้วยหรือไม่
ก็ต้องรอติดตามดูกันครับ…
https://www.facebook.com/PPRPThailand/posts/pfbid0a7jw2HRwnCvyzULpiyRftWa3JYF7Zpb2Q5cMf2VzF2s4TswsQSHXxSBQKHYECRMKl
เพื่อไทย เตรียม 40 ขุนพล อภิปรายงบ’66 จองกฐินกลาโหม ชำแหละเงินซื้ออาวุธ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3370672
“ประเสริฐ” เผย “เพื่อไทย” เตรียมขุนพลอภิปรายงบ’66 ร่วม 40 คน กำลังเจรจาขอเลื่อน กม.ลูกขึ้นถกก่อน พ.ร.บ.ตำรวจ เพื่อยื่นซักฟอกไวขึ้น
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นเรื่องการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พรรค พท.จะมีหมัดเด็ดหรือพุ่งเป้าที่จะอภิปรายงบส่วนใดเป็นพิเศษหรือไม่ว่า มี เช่นงบกระทรวงกลาโหมที่เห็นได้ชัดว่า การซื้ออาวุธยังมีอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยจะต้องมีการอภิปรายถึงเรื่องความจำเป็นต่างๆ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิด-19 เรื่องความเหลื่อมล้ำ ที่ในการจัดสรรงบประมาณยังไม่ได้ชี้ให้เห็นชัดว่า นำงบประมาณไปเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างไร มีการตั้งงบประมาณโดยราชการ ทั้งนี้ ได้มีการวางตัวผู้อภิปรายหลักในการชี้ประเด็นต่างๆ ประมาณ 10 คน และมีผู้อภิปรายสนับสนุนประมาณ 40 คน
เมื่อถามถึง การยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะยื่นญัตติให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ในขณะนี้เรามีร่าง พ.ร.บ.ตำรวจค้างอยู่และตามด้วยกฎหมายลูก 2 ฉบับ ใจเราอยากจะยื่นหลังกฎหมายลูกผ่านวาระ 3 ก่อน เราจึงจะคุยกับฝ่ายรัฐบาลว่าหากจะเลื่อนกฎหมายลูก 2 ฉบับขึ้นไปพิจารณาก่อนกฎหมายตำรวจ เพื่อขยับการยื่นอภิปรายให้เร็วขึ้นด้วย ซึ่งก็กำลังเจรจากันอยู่
‘ปิยบุตร’ ขึ้นเหนือ เดินสายชวนประชาชน ร่วมลงชื่อรื้อรธน. ยุติรัฐราชการรวมศูนย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3370843
ลำปาง – ขึ้นเหนือ! “ปิยบุตร” เลขาฯ คณะก้าวหน้า เดินสายชวน ปชช.ลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกถิ่น
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมเอื้องหลวง อาคาร 52 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้บรรยายพิเศษในกิจกรรมเสวนา “
ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจสู่ท้องถิ่น” โดยมีนักการเมืองท้องถิ่น ประชาชนชาวลำปาง และนักศึกษาในพื้นที่ จ.ลำปาง เข้าร่วมรับฟัง
ทั้งนี้ ภายในกิจกรรมยังมีการเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อ เพื่อสมัครใจเข้าร่วมชื่อเสนอกฎหมายร่างพระราชบัญญัติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … เกี่ยวการปลดล็อกท้องถิ่น ที่มี นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล กับคณะ เป็นผู้เสนอ
นาย
ปิยบุตรเปิดเผยว่า มา จ.ลำปาง ครั้งนี้ เพื่อมารณรงค์และเชิญชวนชาวลำปางเข้าร่วมโครงการ “
ขอคนละชื่อ เพื่อปลดล็อกท้องถิ่น” ซึ่งอยากให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 14 องค์กรท้องถิ่น เราต้องการ 50,000 รายชื่อ เพื่อนำเข้ารัฐสภา ซึ่งการแก้ไขในหมวดนี้จะแก้ไขในเรื่องการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยที่ผ่านมากว่า 25 ปี ก็ยังไม่สมบูรณ์
(ชมคลิป)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คลิปอยู่ในข่าวต้นทาง
“ฉะนั้น เราจึงอยากเข้าไปแก้ไข ในเรื่องของอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มีอำนาจมากขึ้น และมีอำนาจทั่วไป ในการบริการสาธารณะในพื้นที่ของตนเองได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นการลดปัญหาซ้ำซ้อน ระหว่างอำนาจของส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการดูแลพื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากกว่าส่วนกลางและภูมิภาค นอกจากนี้ ยังจะเข้าไปแก้ไขงบประมาณ รายได้ ที่ท้องถิ่นได้น้อยมาก ซึ่งการเข้าไปแก้ไข จะขยับทำให้ท้องถิ่นมีงบประมาณรายได้ 50 ต่อ 50 กับส่วนกลาง”
นาย
ปิยบุตรกล่าวอีกว่า จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมของพลเมืองท้องถิ่นให้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อร่วมบริหารจัดการบ้านเมืองของตนเองให้ดีขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่าเข้าสู่สภาการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าสู่สภา และผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาจะทำให้ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การทำงานรัฐบาลจะไปทำเรื่องใหญ่ๆ ระดับชาติ ส่วนเรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน ทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ น้ำไหล ไฟสว่าง การกำจัดขยะจะเป็นเรื่องของท้องถิ่น ทั้งนี้ ยังเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการเมืองเชิงอุปถัมภ์ และเรื่องคอร์รัปชั่นได้ ประชาชนจะสามารถตรวจสอบได้
“ในอนาคตการเมืองท้องถิ่นจะเปิดกว้างมากขึ้น คนรุ่นใหม่จะเข้ามาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง จึงขอโอกาสนี้ ฝากไปถึงพี่น้องประชาชนใน จ.ลำปาง และทั่วประเทศว่า ร่วมกันรณรงค์ และเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น สำหรับเรื่องนี้ ไม่ใช่วาระขององค์กร หรือพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อที่ให้เกิดเป็นฉันทามติของสังคม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า มีกำหนดเดินสายขึ้นจังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อร่วมรณรงค์และเชิญชวนประชาชน เข้าร่วมชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งก่อนที่จะมายัง จ.ลำปาง ได้เดินทางไปยัง จ.น่าน และมาพบปะประชาชนในพื้นที่ จ.ลำปาง จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง จ.พะเยา โดยในทุกจังหวัด ก็มีคนในแวดวงการเมืองท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจมารอต้อนรับ และร่วมกิจกรรมรับฟังการบรรยายพิเศษ ตลอดจนร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นกันอย่างคึกคัก
กทม.อ่วม! พาเหรดผัก-เนื้อสัตว์ ขึ้นราคา ‘เรือข้ามฟาก’ ปรับขึ้นอีก 50 สตางค์ เริ่ม 1 มิ.ย.นี้
https://ch3plus.com/news/economy/weekend/293251
ร.ต.
จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกระแสข่าวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ ได้ปรับขึ้นราคาซองละ 10 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำแล้ว ได้รับการยืนยันว่า ในเดือนนี้ยังไม่ได้มีการปรับราคาตามที่เป็นข่าว แต่กำลังจะมีการปรับลดส่วนลดในการค้าส่ง ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการในทางธุรกิจ แต่กรมฯ ได้ย้ำจะต้องไม่กระทบถึงราคาขายปลีกที่ผู้บริโภคเนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาต จึงจะปรับราคาขายปลีกได้
กรมการค้าภายใน เผยราคาสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบผักกาดหอม คัด ปรับขึ้น 10 บาท/กก. (80-85 บาท) ผักชี คัด ปรับขึ้น 10 บาท/กก.(160-170 บาท) ผักบุ้งไทย (10 กำ) ปรับขึ้น 10 บาท/กก. (90-100 บาท) ต้นหอม คัด ปรับขึ้น 5 บาท/กก. (85-95 บาท) ไก่สดชำแหละ (เนื้อสันใน) ปรับขึ้น 5 บาท/กก. (90-100 บาท) ปลาดุก พันธุ์บิ๊กอุย ปรับขึ้น 5 บาท/กก. (75-85 บาท)
ด้านนาย
สุธีย์ สุภาพร ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมเรือไทยและผู้ให้บริการท่าเรือข้ามฟาก เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ เรือข้ามฟาก จำนวน 8 ท่า จะปรับขึ้นค่าโดยสาร อีก 50 สตางค์ต่อเที่ยว หลังกรมเจ้าท่า อนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสารเรือข้ามฟากตามที่ทางสมาคมร้องขอ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงได้ อีกทั้งจำนวนผู้โดยสารก็ลดลงเหลือ ประมาณ 500 คนต่อวันจากก่อนโควิด บางท่าเรือมีผู้โดยสาร วันละ 5,000 - 6,000 คน
ทั้งนี้ ค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ควรเก็บที่ 5 บาทต่อเที่ยว เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน และในอนาคตหากน้ำมันดีเซลปรับขึ้นถึง 35 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการก็จะขอขึ้นค่าโดยสารเพิ่มอีก
ขณะที่ วานนี้ (วันที่ 27 พ.ค.) นาย
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นฟู แต่ยังคงมีความเปราะบาง และกำลังเผชิญกับพายุเศรษฐกิจ 5 สูง ประกอบด้วย เงินเฟ้อสูง หนี้ครัวเรือนสูง ราคาพลังงานสูง ต้นทุนสินค้าสูง และราคาสินค้าสูง และยังเสี่ยงเผชิญกับ Stagflation หรือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
จึงจำเป็นต้องเร่งเครื่องเดินหน้าเศรษฐกิจให้โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่าพายุเศรษฐกิจ 5 สูง ไปให้ได้ โดยเห็นว่าภาคค้าปลีกและบริการจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นเครื่องจักรสำคัญ ที่จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยภาคการท่องเที่ยวมี SMEs ของค้าปลีกและบริการอยู่ถึง 2.4 ล้านราย คิดเป็น 80% ของ SMEs ทั้งประเทศ มีการจ้างงานกว่า 13 ล้านราย
โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้เสนอ 3 มาตรการ ดันเศรษฐกิจไทยให้ติดปีก คือ ช่วยเหลือ SMEs ในระบบ "THAI SME" ให้เข้าถึงเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนการจ้างงานผ่านโครงการ Co-Payment ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นเมืองปลอดภาษี สำหรับนักท่องเที่ยว และอัดเงินเข้าระบบผ่านโครงการช้อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง และไทยเที่ยวไทย ยาวถึงสิ้นปี เพื่อรับมือกับพายุเศรษฐกิจ และดันเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง
รับชมทางยูทูบที่ :
https://youtu.be/8ETjk0e0K-g
JJNY : 5in1 โพสต์พปชร.ชาวเน็ตแห่ถาม│พท.จองกฐินกลาโหม│ปิยบุตรชวนปชช.ลงชื่อรื้อรธน.│กทม.อ่วม!│ค้านรัฐออกกม.ควบคุมรวมกลุ่ม
https://www.catdumb.com/thai-news/82474
แต่เมื่อวานนี้ นายไพบูลย์ ได้ออกมาแก้ข่าวอีกครั้งว่าไม่ได้ลบโพสต์เพื่อปรับปรุงระบบ เพราะพอไปถามทีมงานแล้วได้คำยืนยันมาว่าไม่ได้ลบโพสต์ใดๆ ออกจากเพจ
นอกจากนี้ระบุอีกว่า พรรคไม่เคยโพสต์นโยบายนี้ลงเพจ อาจทำขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายว่าพรรคลบออกไป กำลังหาข้อเท็จจริงว่าเป็นการตัดต่อหรือไม่
และล่าสุดครับ จากประเด็นดังกล่าวก็ได้ทำให้ช่วงคืนวานนี้มาจนถึงวันนี้ (28 พฤษภาคม) มีชาวเน็ตแห่ไปคอมเมน์บนโพสต์นโยบายหาเสียงบนเพจพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกโพสต์มาเมื่อปี 2562
จนทำให้โพสต์ดังกล่าวเกิดเป็นกระแสไวรัลขึ้นมาอีกครั้งบนโซเชียล โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ได้มาถามว่าจะลบโพสต์นี้อีกไหม รวมถึงวิจารณ์ถึงนโยบายของพรรคที่บางอันก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาจริงหลังพรรคได้เป็นรัฐบาล
โพสต์ดังกล่าวที่พรรคโพสต์นโยบาย พร้อมบอกว่า ‘ทำได้จริง ไม่ขายฝัน’
https://www.facebook.com/PPRPThailand/posts/pfbid0a7jw2HRwnCvyzULpiyRftWa3JYF7Zpb2Q5cMf2VzF2s4TswsQSHXxSBQKHYECRMKl
ท็อปคอมเมนต์จากชาวเน็ต
นอกจากนี้ชาวเน็ตยังไปคอมเมนต์ในแต่ละภาพนโยบายด้วย เริ่มจาก
นโยบายบัตรประชารัฐ (บัตรคนจน)
https://www.facebook.com/photo/?fbid=560685931104747&set=pcb.560686257771381
นโยบายมารดาประชารัฐ
https://www.facebook.com/photo?fbid=560685964438077&set=pcb.560686257771381
นโยบายเอื้อชาวนา
https://www.facebook.com/photo?fbid=560686011104739&set=pcb.560686257771381
นโยบายที่ดิน ส.ป.ก. 4.0
https://www.facebook.com/photo?fbid=560686084438065&set=pcb.560686257771381
นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน
https://www.facebook.com/photo?fbid=560686147771392&set=pcb.560686257771381
นโยบายเกษตรประชารัฐ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=560686204438053&set=pcb.560686257771381
เมื่อโพสต์กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากนี้โพสต์นี้จะถูกลบหายไปด้วยหรือไม่
ก็ต้องรอติดตามดูกันครับ…
https://www.facebook.com/PPRPThailand/posts/pfbid0a7jw2HRwnCvyzULpiyRftWa3JYF7Zpb2Q5cMf2VzF2s4TswsQSHXxSBQKHYECRMKl
เพื่อไทย เตรียม 40 ขุนพล อภิปรายงบ’66 จองกฐินกลาโหม ชำแหละเงินซื้ออาวุธ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3370672
“ประเสริฐ” เผย “เพื่อไทย” เตรียมขุนพลอภิปรายงบ’66 ร่วม 40 คน กำลังเจรจาขอเลื่อน กม.ลูกขึ้นถกก่อน พ.ร.บ.ตำรวจ เพื่อยื่นซักฟอกไวขึ้น
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นเรื่องการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พรรค พท.จะมีหมัดเด็ดหรือพุ่งเป้าที่จะอภิปรายงบส่วนใดเป็นพิเศษหรือไม่ว่า มี เช่นงบกระทรวงกลาโหมที่เห็นได้ชัดว่า การซื้ออาวุธยังมีอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยจะต้องมีการอภิปรายถึงเรื่องความจำเป็นต่างๆ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิด-19 เรื่องความเหลื่อมล้ำ ที่ในการจัดสรรงบประมาณยังไม่ได้ชี้ให้เห็นชัดว่า นำงบประมาณไปเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างไร มีการตั้งงบประมาณโดยราชการ ทั้งนี้ ได้มีการวางตัวผู้อภิปรายหลักในการชี้ประเด็นต่างๆ ประมาณ 10 คน และมีผู้อภิปรายสนับสนุนประมาณ 40 คน
เมื่อถามถึง การยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะยื่นญัตติให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ในขณะนี้เรามีร่าง พ.ร.บ.ตำรวจค้างอยู่และตามด้วยกฎหมายลูก 2 ฉบับ ใจเราอยากจะยื่นหลังกฎหมายลูกผ่านวาระ 3 ก่อน เราจึงจะคุยกับฝ่ายรัฐบาลว่าหากจะเลื่อนกฎหมายลูก 2 ฉบับขึ้นไปพิจารณาก่อนกฎหมายตำรวจ เพื่อขยับการยื่นอภิปรายให้เร็วขึ้นด้วย ซึ่งก็กำลังเจรจากันอยู่
‘ปิยบุตร’ ขึ้นเหนือ เดินสายชวนประชาชน ร่วมลงชื่อรื้อรธน. ยุติรัฐราชการรวมศูนย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3370843
ลำปาง – ขึ้นเหนือ! “ปิยบุตร” เลขาฯ คณะก้าวหน้า เดินสายชวน ปชช.ลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกถิ่น
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมเอื้องหลวง อาคาร 52 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้บรรยายพิเศษในกิจกรรมเสวนา “ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจสู่ท้องถิ่น” โดยมีนักการเมืองท้องถิ่น ประชาชนชาวลำปาง และนักศึกษาในพื้นที่ จ.ลำปาง เข้าร่วมรับฟัง
ทั้งนี้ ภายในกิจกรรมยังมีการเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อ เพื่อสมัครใจเข้าร่วมชื่อเสนอกฎหมายร่างพระราชบัญญัติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … เกี่ยวการปลดล็อกท้องถิ่น ที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล กับคณะ เป็นผู้เสนอ
นายปิยบุตรเปิดเผยว่า มา จ.ลำปาง ครั้งนี้ เพื่อมารณรงค์และเชิญชวนชาวลำปางเข้าร่วมโครงการ “ขอคนละชื่อ เพื่อปลดล็อกท้องถิ่น” ซึ่งอยากให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 14 องค์กรท้องถิ่น เราต้องการ 50,000 รายชื่อ เพื่อนำเข้ารัฐสภา ซึ่งการแก้ไขในหมวดนี้จะแก้ไขในเรื่องการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยที่ผ่านมากว่า 25 ปี ก็ยังไม่สมบูรณ์
(ชมคลิป)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
“ฉะนั้น เราจึงอยากเข้าไปแก้ไข ในเรื่องของอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มีอำนาจมากขึ้น และมีอำนาจทั่วไป ในการบริการสาธารณะในพื้นที่ของตนเองได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นการลดปัญหาซ้ำซ้อน ระหว่างอำนาจของส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการดูแลพื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากกว่าส่วนกลางและภูมิภาค นอกจากนี้ ยังจะเข้าไปแก้ไขงบประมาณ รายได้ ที่ท้องถิ่นได้น้อยมาก ซึ่งการเข้าไปแก้ไข จะขยับทำให้ท้องถิ่นมีงบประมาณรายได้ 50 ต่อ 50 กับส่วนกลาง”
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมของพลเมืองท้องถิ่นให้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อร่วมบริหารจัดการบ้านเมืองของตนเองให้ดีขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่าเข้าสู่สภาการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าสู่สภา และผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาจะทำให้ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การทำงานรัฐบาลจะไปทำเรื่องใหญ่ๆ ระดับชาติ ส่วนเรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน ทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ น้ำไหล ไฟสว่าง การกำจัดขยะจะเป็นเรื่องของท้องถิ่น ทั้งนี้ ยังเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการเมืองเชิงอุปถัมภ์ และเรื่องคอร์รัปชั่นได้ ประชาชนจะสามารถตรวจสอบได้
“ในอนาคตการเมืองท้องถิ่นจะเปิดกว้างมากขึ้น คนรุ่นใหม่จะเข้ามาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง จึงขอโอกาสนี้ ฝากไปถึงพี่น้องประชาชนใน จ.ลำปาง และทั่วประเทศว่า ร่วมกันรณรงค์ และเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น สำหรับเรื่องนี้ ไม่ใช่วาระขององค์กร หรือพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อที่ให้เกิดเป็นฉันทามติของสังคม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า มีกำหนดเดินสายขึ้นจังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อร่วมรณรงค์และเชิญชวนประชาชน เข้าร่วมชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งก่อนที่จะมายัง จ.ลำปาง ได้เดินทางไปยัง จ.น่าน และมาพบปะประชาชนในพื้นที่ จ.ลำปาง จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง จ.พะเยา โดยในทุกจังหวัด ก็มีคนในแวดวงการเมืองท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจมารอต้อนรับ และร่วมกิจกรรมรับฟังการบรรยายพิเศษ ตลอดจนร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นกันอย่างคึกคัก
กทม.อ่วม! พาเหรดผัก-เนื้อสัตว์ ขึ้นราคา ‘เรือข้ามฟาก’ ปรับขึ้นอีก 50 สตางค์ เริ่ม 1 มิ.ย.นี้
https://ch3plus.com/news/economy/weekend/293251
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกระแสข่าวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ ได้ปรับขึ้นราคาซองละ 10 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำแล้ว ได้รับการยืนยันว่า ในเดือนนี้ยังไม่ได้มีการปรับราคาตามที่เป็นข่าว แต่กำลังจะมีการปรับลดส่วนลดในการค้าส่ง ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการในทางธุรกิจ แต่กรมฯ ได้ย้ำจะต้องไม่กระทบถึงราคาขายปลีกที่ผู้บริโภคเนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาต จึงจะปรับราคาขายปลีกได้
กรมการค้าภายใน เผยราคาสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบผักกาดหอม คัด ปรับขึ้น 10 บาท/กก. (80-85 บาท) ผักชี คัด ปรับขึ้น 10 บาท/กก.(160-170 บาท) ผักบุ้งไทย (10 กำ) ปรับขึ้น 10 บาท/กก. (90-100 บาท) ต้นหอม คัด ปรับขึ้น 5 บาท/กก. (85-95 บาท) ไก่สดชำแหละ (เนื้อสันใน) ปรับขึ้น 5 บาท/กก. (90-100 บาท) ปลาดุก พันธุ์บิ๊กอุย ปรับขึ้น 5 บาท/กก. (75-85 บาท)
ด้านนายสุธีย์ สุภาพร ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมเรือไทยและผู้ให้บริการท่าเรือข้ามฟาก เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ เรือข้ามฟาก จำนวน 8 ท่า จะปรับขึ้นค่าโดยสาร อีก 50 สตางค์ต่อเที่ยว หลังกรมเจ้าท่า อนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสารเรือข้ามฟากตามที่ทางสมาคมร้องขอ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงได้ อีกทั้งจำนวนผู้โดยสารก็ลดลงเหลือ ประมาณ 500 คนต่อวันจากก่อนโควิด บางท่าเรือมีผู้โดยสาร วันละ 5,000 - 6,000 คน
ทั้งนี้ ค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ควรเก็บที่ 5 บาทต่อเที่ยว เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน และในอนาคตหากน้ำมันดีเซลปรับขึ้นถึง 35 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการก็จะขอขึ้นค่าโดยสารเพิ่มอีก
ขณะที่ วานนี้ (วันที่ 27 พ.ค.) นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นฟู แต่ยังคงมีความเปราะบาง และกำลังเผชิญกับพายุเศรษฐกิจ 5 สูง ประกอบด้วย เงินเฟ้อสูง หนี้ครัวเรือนสูง ราคาพลังงานสูง ต้นทุนสินค้าสูง และราคาสินค้าสูง และยังเสี่ยงเผชิญกับ Stagflation หรือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้เสนอ 3 มาตรการ ดันเศรษฐกิจไทยให้ติดปีก คือ ช่วยเหลือ SMEs ในระบบ "THAI SME" ให้เข้าถึงเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนการจ้างงานผ่านโครงการ Co-Payment ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นเมืองปลอดภาษี สำหรับนักท่องเที่ยว และอัดเงินเข้าระบบผ่านโครงการช้อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง และไทยเที่ยวไทย ยาวถึงสิ้นปี เพื่อรับมือกับพายุเศรษฐกิจ และดันเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8ETjk0e0K-g