JJNY : น้ำมันปาล์มพุ่ง70 ดีเซลจ่อขึ้น│‘แชมพู-สบู่สมุนไพร’ขึ้นราคา│ดับฝันส.ว.│‘สหรัฐฯ’เตรียมแต่งตั้งผบ.เหล่าทัพหญิงคนแรก

ขึ้นไม่หยุด! ราคาน้ำมันปาล์มพุ่งแตะขวดละ 70 บาท ส่วนดีเซลจ่อขึ้น อีก 1 บาท
https://ch3plus.com/news/economy/morning/291465
 
 
ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก สำหรับปัญหาราคาน้ำมันปาล์มพุ่ง ซึ่งสะท้อนได้ดีจากผู้ใช้น้ำมันตัวจริง อย่าง ป้าอร เจ้าของร้านทอดกล้วยทอด ซึ่งขายมานานกว่า 20 ปี ที่บริเวณปากทางเข้าสวนสัตว์สงขลา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปกติน้ำมันปาล์มขนาดบรรจุ 17 กิโลกรัม มีราคา 330 บาท แต่ทุกวันนี้ราคาพุ่งขึ้นไปถึง 970 บาท เมื่อรวมกับต้นทุนอื่น ๆ ที่ปรับขึ้นยกแผง หักแล้วเหลือทุน วันละ 200 บาทเท่านั้น

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า วันนี้ในบางพื้นที่ ราคาน้ำมันปาล์มขวด เมื่อรวมค่าขนส่งแล้ว ราคาแตะอยู่ที่ 70 บาท สูงกว่าราคาที่ขอให้ตรึงไว้ 65-68 บาท และมีแนวโน้มปรับขึ้นได้อีก ซึ่งในวันที่ 23 พ.ค.นี้ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ จะหารือแนวทางการควบคุมราคาเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนมาก ขณะเดียวกันชาวสวนปาล์ม และผู้ประกอบการก็ต้องอยู่ได้ด้วย

ในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) กระทรวงการคลัง จะเสนอ ครม. ให้ขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซล ซึ่งรอบแรกจะหมดอายุในวันที่ 20 พ.ค.นี้ โดยเสนอ 2 แนวทาง คือแนวทางแรก ลดในอัตราลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนแนวทางที่สองคือ ลดลิตร 5 บาท ซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่า 3 เดือน แต่ทั้ง 2 แนวทาง จะใช้งบไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลา 16.30 น วันพรุ่งนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.นัดแถลงผลการพิจารณาราคาดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีรายงานว่า จะปรับเพิ่มราคาดีเซล ครั้งที่ 2 ขึ้นอีก 1 บาทต่อลิตร จากปัจจุบัน 32 บาท เป็น 33 บาทต่อลิตร เนื่องจากต้นทุนตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ตามแนวทางการขึ้นตามขั้นบันได ในเพดานไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร
 

 
ถึงคิว ‘แชมพู-สบู่สมุนไพร’ ขึ้นราคา เปิดเทอม-สต๊อกป่วน ‘น้ำมันพืช’ เริ่มไม่มีวางจำหน่าย
https://www.matichon.co.th/economy/news_3347265

ถึงคิว ‘แชมพู-สบู่สมุนไพร’ ขึ้นราคา เปิดเทอม-สต๊อกป่วน ‘น้ำมันพืช’ เริ่มไม่มีวางจำหน่าย
 
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม แหล่งข่าวจากค้าปลีกและค้าส่ง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ได้รับแจ้งจากผู้ผลิตแชมพูและสบู่สมุนไพรยี่ห้อหนึ่งขอขึ้นราคาขายส่งและขายปลีกในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตและการขนส่งปรับตัวสูงขึ้น
 
‘น้ำมันพืช’ สต๊อกเริ่มขาด
 
สำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภคหลังผู้ผลิตแจ้งการขึ้นราคาสินค้าไปหลายรายการตั้งแต่เดือนเมษายนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ทำให้ช่วงนี้ไม่มีการแจ้งขึ้นราคาเพิ่ม โดยเฉพาะราคาน้ำมันพืชขวด 1 ลิตร ทั้งน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองที่ผู้ผลิตไม่มีแจ้งปรับราคาใหม่เพิ่ม จึงดูเหมือนราคาเริ่มนิ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเพราะสต๊อกเริ่มไม่มีวางจำหน่ายในตลาด โดยเฉพาะยี่ห้อยอดนิยมที่ผู้ผลิตชะลอการผลิตสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด เพราะต้องการรอให้ต้นทุนการผลิตที่สะวิงในขณะนี้เริ่มนิ่งก่อน
 
“ราคาน้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองไม่ขยับมากช่วงนี้ เพราะก่อนหน้านี้ผู้ผลิตแจ้งปรับราคาขึ้นสูงไปมากแล้ว โดยราคาต้นทุนอยู่ที่ 68-69 บาทต่อขวด ส่วนราคาขายปลีกก็ขายเกิน 70 บาทต่อขวดไปแล้ว รอดูภายในอาทิตย์นี้จะมีการแจ้งปรับราคาใหม่อีกหรือไม่ เพราะเป็นช่วงเปิดเทอม จะมีความต้องการบริโภคสูงกว่าปกติ” แหล่งข่าวกล่าว
 
‘ปุ๋ย’ จ่อปรับราคา เคาะ ‘มาม่าสูตรใหม่’ ขาย 9 บ.
 
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นสินค้าจำเป็น 18 หมวดเป็นสินค้าควบคุม กรมจะพิจารณาเป็นรายกรณี ซึ่งขณะนี้ยังไม่อนุมัติให้ขึ้นราคาแต่อย่างใด ยกเว้นปุ๋ยที่ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้นมาก หลังมีผู้ผลิต 5-6 รายขอขึ้นราคา ล่าสุด กรมอยู่ระหว่างพิจารณาเป็นรายกรณี แต่ยังไม่มีอนุมัติให้ขึ้นราคา ซึ่งการปรับราคาขึ้นของปุ๋ยจะไม่ส่งผลต่อราคาขายในตลาดสูงขึ้น แต่เป็นการปรับเพื่อไม่ให้สินค้าขาดตลาด
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อยังไม่มีปรับราคายังคงขายปลีก 6 บาทต่อซอง กรณีของมาม่าที่ขอปรับราคา ทางกรมให้ปรับเฉพาะสินค้าเป็นสูตรและขนาดใหม่ จาก 8 บาท เป็น 9 บาทต่อซองเท่านั้น” ร.ต.จักรากล่าว
 
รับ ‘น้ำมันพืชแพง’ ตามค่าขนส่ง
 
ร.ต.จักรากล่าวว่า สำหรับน้ำมันพืชขวด 1 ลิตร น้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองเป็นสินค้าที่ไม่ต้องขออนุญาตปรับราคา โดยกรมใช้มาตรการบริหารให้ผู้ผลิตและโรงกลั่นตรึงราคาขาย ตอนนี้ราคาขายอยู่ที่ 68-69 บาทต่อขวด หรือบางพื้นที่จะพบว่าขาย 70 บาทต่อขวด โดยราคาขายที่สูงขึ้นเกิดจาก 2 สาเหตุ 1.ร้านค้ารับของหลายทอด และ 2.ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 32 บาทต่อลิตร
 
“น้ำมันพืชเป็นสินค้าควบคุมแต่เราไม่ใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมราคา เราใช้มาตรการบริหาร และติดตามอย่างใกล้ชิดให้ราคาขายสอดคล้องตามต้นทุน ยอมรับว่าบางพื้นที่ บางตลาด และร้านค้าย่อย มีค่าขนส่งระยะไกล เลยทำให้ราคาขายอาจจะเกิน 66-68 บาทต่อขวด ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ยังไม่พบโรงงานหยุดผลิตหรือสต๊อกขาด อาจจะมีบ้างที่ขาดช่วงในการนำสินค้ามาวางบนชั้นวางจำหน่าย และหากพบมีการฉวยโอกาสจังหวะของแพงปรับราคาขายเกินสมควร ถือว่าเข้าขายกระทำผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ร.ต.จักรากล่าว

‘เนื้อหมู’ ขยับเล็กน้อย ‘ไก่-ไข่’ ยังทรงๆ

ร.ต.จักรากล่าวถึงราคาเนื้อหมูว่า ขณะนี้มีปรับสูงขึ้นบ้างบางพื้นที่ เกิดจากต้นทุนขนส่งและสภาพอากาศแปรปรวนทำให้ผลิตออกสู่ตลาดน้อย แต่ยังไม่ผันผวนจนทำให้ราคาสูงเกิน 200 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เหมือนก่อนหน้านี้ ขณะนี้ราคาหมูเนื้อแดงพื้นที่กรุงเทพฯอยู่ที่ 180-185 บาทต่อ กก. ห้างสรรพสินค้าอยู่ที่ 160-170 บาทต่อ กก. ด้านราคาไข่ไก่ยังทรงตัว ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศยังไม่เกิน 4 บาทต่อฟอง ส่วนราคาเนื้อไก่ยังทรงตัว เช่น เนื้ออก 90-95 บาทต่อ กก. ขณะที่ราคาผักขึ้นๆ ลงๆ มีปรับราคาขึ้นเล็กน้อย เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง เพราะอากาศแปรปรวนร้อนสลับฝนส่งผลต่อการผลิต ส่วนมะนาวราคาเริ่มลงแล้วอยู่ที่ 4-5 บาทต่อลูก
 

 
ดับฝันส.ว. สาธิต ย้ำสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ผิดหลักรธน. เชื่อรัฐบาลยึดตามกมธ.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7052622

สาธิต ย้ำ 24 พ.ค. ชงกฎหมายลูก 2 ฉบับให้‘ชวน’ บรรจุในวาระ เชื่อรัฐบาลไฟเขียวสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ หารด้วย 100 เมินวิจารณ์‘อุ๊งอิ๊ง’ชวนเสื้อแดงกลับบ้าน
 
เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 17 พ.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมครม. ถึงการเสนอกฎหมายลูก 2 ฉบับ เข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาว่า ในวันที่ 18 พ.ค. จะทบทวนและให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจง และวันที่ 19 พ.ค.จะทบทวนเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้ง จากนั้นจะนำร่างที่แก้ไขและตรวจคำผิดแล้ว เสนอต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในวันที่ 24 พ.ค. และจะแถลงชี้แจงรายละเอียดของร่างที่ทำเสร็จแล้ว
 
ส่วนจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภาเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับนายชวน คิดว่าน่าจะบรรจุญัตติโดยเร็ว เพราะเป็นกฎหมายสำคัญ ทั้งนี้ คิดว่าร่างที่ตั้งต้นเป็นของฝ่ายรัฐบาล จึงคิดว่าสมาชิกรัฐสภาจะให้ความเห็นชอบ เพื่อดำเนินการให้มีกฎหมายใช้ให้ได้
 
นายสาธิต กล่าวว่า ภาพรวมร่างแก้ไขทั้ง 2 ฉบับ ถูกปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น ร่างกฎหมายเลือกตั้ง ระบุว่าเมื่อนับคะแนนแล้ว ต้องกรอกข้อมูลลงไปในระบบกลางทันที เพื่อให้ตรวจสอบได้ และหลังปิดหีบเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในหน่วยเลือกตั้งต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการถ่ายรูปหรือบันทึกการนับคะแนน และเรื่องส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะนำคะแนนเป็นสัดส่วนสัมพันธ์กันหารด้วย 100 คน โดยจะนำเกณฑ์เฉลี่ยคะแนนที่พรรคการเมืองนั้นได้มาหาอัตราเฉลี่ย แล้วดูจำนวนคน
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว.บางส่วนประกาศว่าจะใช้สูตรหาร 500 นายสาธิต กล่าวว่า เราพิจารณาแล้ว และส.ว. ที่มีมติกับเราเห็นตรงกันว่า การใช้สูตรคำนวณด้วย 500 ผิดหลักรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไปแล้ว และจะเป็นปัญหา เกิดการตีความว่าหาร 500 ได้หรือไม่ ซึ่งคิดว่าการพิจารณาร่วมกันของทั้งส.สและส.ว.ในชั้นกมธ. ถือว่าชัดเจนแล้ว
 
เมื่อถามถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศเชิญชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน เพื่อให้เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์นั้น นายสาธิต กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นทางการเมือง แต่อย่าไปเพิ่มความขัดแย้งให้กับบ้านเมือง และให้ประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่