1.หุ้นที่ควรพิจารณาขาย:
หุ้นในอุตสาหกรรมน้ำมันที่มีต้นทุนการผลิตสูง:
เหตุผลในการขาย:
แม้ว่าทรัมป์จะสนับสนุนการผลิตน้ำมันและก๊าซ
แต่ราคาน้ำมันที่สูงในปัจจุบัน
อาจทำให้บริษัทน้ำมันที่มีต้นทุนการผลิตสูง
ไม่สามารถแข่งขันได้และอาจไม่ได้รับผลดีจากนโยบายนี้.
.........
2.
หุ้นที่ควรซื้อ:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตในประเทศ
และการส่งออกในอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกกระทบจากสงครามการค้า:
2.1หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม:
เนื่องจากความต้องการบริโภคอาหาร
และเครื่องดื่มมักมีความคงที่
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการค้าเช่น
: CP All (CPALL), Thai Union Group (TU),
Charoen Pokphand Foods (CPF)
2.2หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ:
แม้ว่าการท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ อาจลดลง
แต่การท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ
ยังคงมีความสำคัญเช่น
: Bangkok Airways (BA),
Minor International (MINT), Airports of Thailand (AOT)
2.3 หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร:
การเติบโตของการใช้เทคโนโลยี
และการสื่อสารยังคงมีแนวโน้มที่ดีเช่น:
Advanced Info Service (ADVANC),
True Corporation (TRUE)
3.
หุ้นที่ควรพิจารณาขาย:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ
อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและนโยบายภาษีเช่น:
กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความไม่แน่นอนสูง:
หุ้นในกลุ่มที่มีความไม่แน่นอนสูง
และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการค้าเช่น:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีสินค้านำเข้า
ข้อแนะนำสำคัญ
ไม่ควรเชื่อข้อมูลในทันที ควรศึกษาข้อมูลหลายๆแหล่ง
ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง:
เพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม
กระจายความเสี่ยง:
ลงทุน แบบไหน หุ้นจะเป็นยังไง เมื่อมี ประธานาธิบดีทรัมป์
หุ้นในอุตสาหกรรมน้ำมันที่มีต้นทุนการผลิตสูง:
เหตุผลในการขาย:
แม้ว่าทรัมป์จะสนับสนุนการผลิตน้ำมันและก๊าซ
แต่ราคาน้ำมันที่สูงในปัจจุบัน
อาจทำให้บริษัทน้ำมันที่มีต้นทุนการผลิตสูง
ไม่สามารถแข่งขันได้และอาจไม่ได้รับผลดีจากนโยบายนี้.
.........
2.
หุ้นที่ควรซื้อ:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตในประเทศ
และการส่งออกในอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกกระทบจากสงครามการค้า:
2.1หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม:
เนื่องจากความต้องการบริโภคอาหาร
และเครื่องดื่มมักมีความคงที่
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการค้าเช่น
: CP All (CPALL), Thai Union Group (TU),
Charoen Pokphand Foods (CPF)
2.2หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ:
แม้ว่าการท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ อาจลดลง
แต่การท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ
ยังคงมีความสำคัญเช่น
: Bangkok Airways (BA),
Minor International (MINT), Airports of Thailand (AOT)
2.3 หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร:
การเติบโตของการใช้เทคโนโลยี
และการสื่อสารยังคงมีแนวโน้มที่ดีเช่น:
Advanced Info Service (ADVANC),
True Corporation (TRUE)
3.
หุ้นที่ควรพิจารณาขาย:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ
อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและนโยบายภาษีเช่น:
กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความไม่แน่นอนสูง:
หุ้นในกลุ่มที่มีความไม่แน่นอนสูง
และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการค้าเช่น:
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีสินค้านำเข้า
ข้อแนะนำสำคัญ
ไม่ควรเชื่อข้อมูลในทันที ควรศึกษาข้อมูลหลายๆแหล่ง
ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง:
เพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม
กระจายความเสี่ยง: