อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ! "สุธรรม" สวน "สุเทพ" หลังออกมาโจมตี"อุ๊งอิ๊ง"
https://www.posttoday.com/politic/news/681758
  
 
"สุธรรม" สวน "สุเทพ" ประชาชนรู้เช่นเห็นชาติ พวกสุมหัวทหารยึดอำนาจ ทำประเทศวิกฤต-ชาวบ้านอดอยาก สอนให้รู้จักสู้ตามกติกาประชาธิปไตย เลิกคิดสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน
 
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 65 นายสุธรรม แสงประทุม แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.ออกมาโจมตีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย โดยยกเรื่องระบอบทักษิณขึ้นมาปลุกระดมผู้คนว่า สาเหตุที่ประเทศไทยต้องแตกแยกยับเยินในปัจจุบัน มาจนถึงทุกวันนี้ จึงอยากจะทบทวนต้นสายปลายเหตุความขัดแย้งแตกแยกและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นฝีมือของคนกลุ่มไหนและมันผู้ใดเป็นต้นเหตุ
 
นายสุธรรมก่อนปี 2549 ขณะที่พรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล บ้านเมืองสงบ ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุข ถึงขนาดที่ประเทศนอร์เวย์ ได้มาขอใช้พื้นที่ประเทศไทยเจรจายุติความขัดแย้งในศรีลังกา จนกระทั่งกลุ่มของนายสุเทพกับพรรคพวกทนไม่ได้ที่แพ้เลือกตั้งต่อเนื่องหลายครั้ง จนบางคนต้องอดอยาก ปากแห้ง หน้าดำมาตลอด จึงมีกลุ่มคนไปร่วมกันวางอุบายเพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในหลายครั้งและหลายรูปแบบแล้วก็นำมาซึ่งเ----การ--ารมายึดอำนาจ สร้างความแตกแยก แล้วก็ประชุมสุมหัวทำกันแบบนี้ทุกครั้งที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รวมกระทั่งการรัฐประหารครั้งหลังสุด ในปี 2557 ก็เพราะการกระทำของคนพวกนี้
 
“อยากถามว่านายสุเทพ ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรือ เพราะคนทั้งโลกรู้เช่นเห็นชาติหมดแล้วว่าเป็นเพราะฝีมือใคร ใครร่วมมือกับใคร ใครวางแผนสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายปิดประเทศ ชัตดาวน์กรุงเทพฯ แล้วไปเชื้อเชิญทหารมายึดอำนาจ พอยึดอำนาจจากพี่น้องประชาชนกันเสร็จแล้วก็พากันจัดงานเฉลิมฉลอง มีภาพปรากฎไปทั่วโลก” อดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยกล่าว
 
นายสุธรรม กล่าวว่า นายสุเทพ เคยทำอะไรสำเร็จบ้าง เรื่อง สปก.4-01 ก็คาหนังคาเขากลางสภา หรือโครงการสหกรณ์โคออฟ เอางบฯ ผู้แทนฯ ไปทำก็เจ๊ง สังกัดอยู่พรรคเก่าก็ตกต่ำแตกแยก มาตั้งพรรคเองก็ล้มเหลว สร้างโรงพักก็ได้เรือนจำ ที่ทำสำเร็จคือได้รับการสนับสนุนจากทหาร ในการขนคนมาปิดเมืองและนำทหารยึดประเทศ จนพี่น้องประชาชนต้องเดือดร้อนแสนสาหัส มองไม่เห็นอนาคต ข้าวของแพงประชาชนอดอยาก แม้กระทั่งมาม่ายังขยับขึ้นราคา สร้างผลกระทบพี่น้องประชานช ถ้าคนที่นายสุเทพเชียร์ ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป อาจถึงขั้น ‘นมแม่’ อาจต้องขึ้นราคาเป็นแน่ และด้วยความล้มเหลวของรัฐบาลคณะรัฐประหารต่อเรื่องมาจนถึงรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ นางสาวแพทองธาร ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ตัดสินใจอาสามาช่วยกอบกู้บ้านเมืองให้พี่น้องประชาชนกลับมามีโอกาสและมองเห็นอนาคตที่จะกินดีอยู่ดีอีกครั้ง
 
นายสุธรรม กล่าวว่า การที่ นายสุเทพ ยังออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องต่างๆ นาๆ ดูเหมือนไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง แต่อาจจะกลัวว่าถ้าบ้านเมืองกลับไปสงบสุข ประชาชนอยู่ดีกินดีเหมือนยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะเป็นการตัดอนาคตของพวกขายยาหมดอายุ อย่าง นายสุเทพและพรรคพวก
 
“นายสุเทพ ไม่ต้องไปวิตกจริตจนเกินเหตุ เพราะถ้าประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ก็จะเป็นการเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองและนำพาพี่น้องประชาชนออกจากวิกฤตที่คณะรัฐประหารและเครือข่ายสร้างเอาไว้ และจะเป็นการเข้ามาบริหารประเทศตามครรลองประชาธิปไตย โดยการเลือกตั้งอย่างสุจริตของประชาชน ไม่ใช่การร่วมมือกับทหารสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย สร้างสถานการณ์เปิดทางให้ทหารยึดอำนาจ เหมือนที่บางคนเคยทำ ทางที่ดี นายสุเทพ ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจคนไทยที่เดือดร้อนทุกวันนี้ ปัดฝุ่นพรรคเก่ามาต่อสู้ทางการเมืองตามกติกาประชาธิปไตย เลิกคิดปลุกระดมสร้างความเกลียดชังให้คนในสังคมได้แล้ว และเมื่อไร ที่บ้านเมืองสงบสุข เราจะเชิญ พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ ที่ต้องลี้ภัยอยู่ในขณะนี้กลับมารับราชการรับใช้บ้านเมือง ” นายสุธรรม กล่าว
 

---

"เพื่อไทย" จี้ "ประยุทธ์" เพิ่มค่าแรงให้กรรมกรเป็นของขวัญวันแรงงาน
https://siamrath.co.th/n/343849
 
"เพื่อไทย" จี้ "ประยุทธ์" เพิ่มค่าแรงให้กรรมกรเป็นของขวัญวันแรงงาน เร่งเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ชี้เงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพเพิ่มมาก แต่รายได้ไม่เพิ่ม แนะ กระทรวงเกษตรฯ และ กระทรวงพาณิชย์ต้องทำงานหนักกว่านี้ อย่ามัวยุ่งแต่ข่าวฉาวของพรรคจนลืมเกษตรกร
 
วันที่ 29 เม.บ.65 นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์จะปล่อยราคาน้ำมันดีเซลให้ราคาเกิน 30 บาทในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ต้อนรับวันแรงงานสากล ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลพุ่งเป็นลิตรละ 32 บาทและจะขึ้นไปถึงลิตรละ 35 บาทในอีกไม่นานนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นตาม เงินเฟ้อจะยิ่งพุ่งสูง ค่าครองชีพของ ชาวนา  เกษตรกร กรรมกร และ ผู้มีรายได้น้อยจะต้องสูงขึ้นมากตามไปด้วย และจะสร้างความลำบากให้กับ ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และผู้มีรายได้น้อยอย่างมาก
 
ดังนั้น คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจึงอยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ได้เร่งเพิ่มรายได้ให้กับ ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และ ผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้มีค่าใช้จ่ายเพียงพอตามทันค่าครองชีพที่พุ่งสูง โดยพลเอกประยุทธ์ ต้องเร่งเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำเพื่อให้ผู้ใช้แรงงานอยู่ได้หลังจากที่ค่าแรงขั้นต่ำไม่ขึ้นมานานแล้ว ค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพได้ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้เร่งดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญแก่ผู้ใช้แรงงานในวันแรงงานสากลนี้
อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ จะต้องให้ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีราคาสูงกว่านี้ ในภาวะที่สงครามรัสเซียยูเครน ทำให้มีความขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะข้าวสาลี ซึ่งน่าจะต้องทำให้ราคาข้าวไทยมีราคาสูงขึ้น ส่งออกได้มากขึ้นกว่านี้มาก ไม่ใช่ ชาวนาและ เกษตรกรต้องมาเจอ น้ำมันแพง ข้าวของแพง ค่าครองชีพสูง ปุ๋ยแพง อาหารสัตว์แพง แต่ผลผลิตทางการเกษตรราคากลับไม่ขึ้น หรือ ขึ้นเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ ชาวนา และ เกษตรกรจะอยู่กันไม่ได้ และจะเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นอย่างมาก อีกทั้งพลเอกประยุทธ์จะต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจไทยเพื่อให้มีเงินไหลเวียนในระบบมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ ผู้มีรายได้น้อย และ คนหาเช้ากินค่ำให้เพียงพอกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงมาก
 
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ และ กระทรวงพาณิชย์ จะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ในการเพิ่มรายได้ให้กับ ชาวนา และ เกษตรกร ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้มีผลผลิตต่อไร่มากขึ้น เพิ่มพื้นที่ชลประทาน การบริหารจัดการน้ำ และ ต้องทำการตลาดเพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยขายได้ในราคาที่ดีกว่านี้ อย่ามัวแต่ยุ่งกับปัญหาข่าวฉาวของพรรค และทะเลาะกันหนักในพรรค โดยละเลยหน้าที่ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการบริหารที่ต่ำอยู่แล้ว ยิ่งต่ำลงไปอีก ชาวนา และ เกษตรกรจะเดือดร้อนกันหนัก เพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แทบจะไม่ได้ดูแลชาวนาและเกษตรกรเลยตั้งแต่ 8 ปีหลังการปฏิวัติ ทำให้ชาวนาและเกษตรกรคิดถึงพรรคเพื่อไทยที่ดูแลชาวนาและเกษตรกรอย่างดีมาโดยตลอด และ อยากให้ชาวนาและเกษตรกรฝากความหวังกับพรรคเพื่อไทยได้อย่างเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่นานนี้

---

 
ประมง ส่อเลิกกิจการจากวิกฤตน้ำมันแพง ดันปลาทะเลราคาพุ่ง
https://www.prachachat.net/local-economy/news-920326

จากกระแสร้านลูกชิ้นปลาบรรทัดทอง โพสต์ประกาศหยุดกิจการชั่วคราวทุกสาขา เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาปลาได้ปรับขึ้นเป็น 100% โดยทางร้านได้คำนวณต้นทุนแล้วพบว่าไม่สามารถเปิดให้บริการได้
 
“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “จุมพล ฆนวารี ” ประธานชมรมผู้ขายปลาสมุทรสาคร ถึงสถานการณ์ราคาปลาในปัจจุบัน

“จุมพล” เล่าว่า ตอนนี้ภาพรวมสถานการณ์ราคาปลาทะเลเกือบทุกชนิดปรับตัวราคาขึ้นมาสูงมาก ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน เป็นต้นมา โดยเฉพาะปลาที่นำไปทำลูกชิ้น เช่น ปลาตอง จากปกติราคา 100-200บาท/กิโลกรัม แต่ปัจจุบันขึ้นมาประมาณ 400-500 บาท/กิโลกรัม รวมถึง ปลาเก๋า ปลาหางเหลือง ราคาพุ่งขึ้นสูง 100% เท่าตัวจากราคาปกติ
 
ปัจจัยหลัก คือราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เรือประมงหยุดลากไปกว่า 60-70% ส่งผลให้มีจำนวนปลาที่เข้ามาในแต่ละวันลดน้อยลงไปด้วย

โดยปกติจะมีปลาทะเลเข้ามาประมาณ 100 ตู้/วัน แต่ตอนนี้เหลือประมาณ 50-60 ตู้/วัน จากการประเมินสถานการณ์ทั่วประเทศคาดว่ารายได้หายไปกว่า 1,000 ล้านบาท
 
ซึ่งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 จะมีการปรับราคาน้ำมันขึ้นเป็น 35 บาท/ลิตร และวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 จะปรับราคาขึ้นเป็น 38 บาท/ลิตร ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์ว่าเรือจะไปต่อได้ขนาดไหน ตอนนี้อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องค่าน้ำมัน เพราะถ้ามีการปรับตัวลดลงชาวประมงก็ไปต่อได้
 
“ตอนนี้มีชาวประมงส่อแววเลิกกิจการเยอะมากเพราะราคาน้ำมันขึ้น ทำให้ธุรกิจขาดทุน สุดท้ายเรือก็ต้องหยุดลากแม้ตอนนี้เหมือนสินค้าขึ้นราคาภาพรวมดูเหมือนชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงชาวประมงหายไปเยอะมากเพราะสู้ราคาน้ำมันไม่ไหว
   
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังส่งผลต่อพ่อค้า แม่ค้าขายผัก ผลไม้ และสินค้าตัวอื่น ๆ อีกด้วยที่ขายได้น้อยลงเพราะชาวประมงหยุดลากเรือชั่วคราว คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบทั่วประเทศ จากเรือที่อยู่ประมาณ 10,000 ลำ หยุดไปแล้วกว่า 6,000-7,000 ลำ”