รองโฆษกปชน. ข้องใจ ทำไมฝ่ายค้านแสดงความเห็นไม่ได้ ย้อน พท. ผลงานแค่นี้พอใจหรือ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4951677
ลิซ่า ย้อนถาม ส.ส.เพื่อไทย หาก นายกฯอิ๊งค์ ไม่ได้เป็นทายาทเจ้าของพรรค จะพอใจผลงานหรือไม่ งง ฝ่ายค้านแสดงความเห็นก็ถูกโต้กลับ
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นางสาว
ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาตอบโต้การแถลงวิจารณ์ผลงานรัฐบาลของนาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ว่าฝ่ายค้านแสดงความเห็นต่อการแถลงผลงาน 90 วัน ก็ออกมาโต้หาว่าให้ดูผลงานตัวเอง แต่คำถามคือ รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีแถลงผลงาน เหตุใดผู้แทนราษฎรถึงจะแสดงความเห็นไม่ได้ ถ้าตั้งหลักแบบนี้ หมายความว่าห้ามสาธารณะและประชาชนตั้งคำถามต่อรัฐบาลด้วยหรือไม่
ส่วนที่ระบุว่าหากผู้นำฝ่ายค้านชอบประเมิน ให้ประเมินตัวเองก่อน เริ่มจากถามคนในพรรคตัวเองดูก็ได้ ตนถามกลับว่าหากนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ทายาทเจ้าของพรรค ผลงานแค่นี้ บทบาทเท่าที่เป็นคนในพรรคพอใจจริงๆหรือไม่
ผิดหวัง! “กต.” ไม่แอ็คทีฟปมพม่ายิงเรือประมงไทย -จับลูกเรือ 4 คน จี้ “นายกฯ” สั่งการเชิงรุก
https://siamrath.co.th/n/587235
วันที่ 13 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา นาย
จุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.)ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ฯได้พิจารณากรณีเมียนมายิงเรือประมงไทย ตรงบริเวณน่านน้ำทะเลอันดามัน จังหวัดระนอง รอยต่อของคืนวันที่ 19-20 พ.ย. โดยเชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศและสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มาชี้แจงและรายงานสถานการณ์ ซึ่งตนขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประประสิทธิภาพในการตอบสนองเหตุการณ์ของหน่วยงานของไทยในเหตุการณ์ครั้งนี้ และเชื่อว่ากมธ.ฯหลายคนที่อยู่ในที่ประชุมคงผิดหวังเช่นกัน
นาย
จุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจากสองหน่วยงานนี้ยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้วจุดที่เกิดเหตุเกิดขึ้นตรงไหนหมายความว่าไม่รู้ว่าเกิดในน่านน้ำไทยหรือในน่านน้ำของเมียนมา หมายความว่า ตอนนี้ไทยเองยังไม่รู้ว่าเรือประมงไทยที่มีทั้งหมด 5 ลำ และถูกทหารเรือเมียนมาจับไปหนึ่งลำนั้น ลำรุกล้ำน่านน้ำของเมียนมาหรือไม่ หรือตอนถูกยิง เรือประมงไทยอยู่ในน่านน้ำไทย แล้วเราจะไปประท้วงเมียนมาว่าอย่างไร ร้ายไปกว่านั้นคือทางการไทยได้ขอให้เมียนมาสอบสวนเรื่องนี้ แต่จนถึงบัดนี้ทางการไทยยังไม่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนว่าจริงๆแล้วเรือประมงไทยที่ถูกหารเรือเมียนมายิงและถูกจับไปนั้นมีการรุกล้ำน่านน้ำของเมียนมาจริงหรือไม่ หรือเหตุเกิดในน้ำไทย
"
หากเราไม่ตั้งคณะสอบสวนของเราเองขึ้นมาและรอฟังผลการสอบสวนของฝ่ายพม่า แน่นอนว่าผลการสอบสวนของพม่าย่อมต้องบอกว่าเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำของพม่าเขา ใครเขาจะมาบอกว่าเรือไทยที่ถูกยิงขณะอยู่ในเขตน่านน้ำไทย การตั้งคณะสอบสวนฝ่ายไทยก็ไม่ได้กระทบกับความปลอดภัยของลูกเรือประมงไทย 4คนที่ยังถูกทหารพม่าจับไว้ เพราะเป็นเรื่องภายในของไทยที่เราสอบหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ทำไมเราไม่ค้นหาข้อเท็จจริงตอนนี้ จะรออะไร เรือประมงไทยที่ถูกทหารเรือพม่ายิงมีทั้งหมด 5 ลำ ถูกจับไป 1 ลำ หนีรอดมาได้4ลำ ท่านได้สอบหาข้อได้จริงจากเรือประมงสีดำที่รอดมาได้หรือยัง คณะผู้ที่มาชี้แจงก็ตอบไม่ได้ ผมจึงขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลชุดนี้ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นการรุกล้ำอธิปไตยในน่านน้ำไทย หลังเหตุการณ์ผ่านมา 3 สัปดาห์ แต่ทางการไทยยังไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงไหน เรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำพม่าหรือไม่ หรือในทางกลับกันเรือรบพม่ารุกล้ำน่านน้ำไทยเข้ามายิงเรือไทยจนมีคนไทยเสียชีวิตและคนไทยถูกจับไปในขณะอยู่บนน่านน้ำไทยหรือไม่" นาย
จุลพงษ์ กล่าว
นาย
จุลพงศ์ กล่าวอีกว่า อยากตั้งคำถามไปยัง รมว.ต่างประเทศว่าทำได้แค่ลงบันทึก ช่วยจำให้เมียนมาสอบสวนเรื่องนี้ และรอให้เมียนมาปล่อยคนไทยเท่านั้นหรือ จะทำอะไรในเชิงรุกที่แสดงว่ากระทรวงการต่างประเทศใช้วิธีทางการทูตที่แสดงความแข็งกร้าวที่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดน่านน้ำไทยหรือไม่ หากทำได้แค่นี้ นายกฯควรต้องลงมาสั่งการเอง ให้หน่วยงานไทย ภายใต้บังคับบัญชาทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการให้ใช้กำลังทหาร แต่การกำหนดท่าทีและนโยบายต่างประเทศของไทย ที่ไม่ชัดเจนจะก่อให้เกิดปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้ยังมองว่าการกลัวเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นข้ออ้างที่ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มที่มีกับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่
ส.ส.เชียงใหม่ ปชน. ชี้ผลงาน 90 วันนายกอิ๊งค์ ละเลยปัญหาฝุ่น แนะมาตอบกระทู้ เปิดใจรับฟังสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4951628
ภัทรพงษ์ ชี้ ‘รบ.แพทองธาร’ แถลงผลงาน 90 วัน ไร้การเตรียมการรับมือฝุ่น PM2.5 แนะ เปิดใจรับฟังมากกว่านี้ เริ่มที่มาตอบกระทู้สดย้ำปัญหานี้รอไม่ได้
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นาย
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการแถลงผลงานในรอบ 90 วันของรัฐบาล น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร ในประเด็นการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ว่า เป็นอีกครั้งที่นายกฯ แสดงถึงความไม่เข้าใจในปัญหา PM2.5 เพราะช่วงเวลาที่ต้องทำงานหนักอย่างเข้มข้นที่สุดคือการเตรียมการรับมือล่วงหน้า ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ให้ความชัดเจนกับหน่วยงานของรัฐ ประชาชน
เกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการ ให้ได้วางแผนล่วงหน้าตามมาตรการที่ชัดเจนของรัฐบาล แต่ผ่านมา 90 วัน กลับไม่มีมาตรการใดๆ เลย และยังเลือกที่จะนำเสนอข้อมูลในมุมเดียวที่ว่า สามารถลดพื้นที่เผาไหม้ในจังหวัดเชียงใหม่ลงได้ โดยไม่พูดความจริงที่ว่า พื้นที่การเผาไหม้ในปี 2567 ของทั้งประเทศนั้นเพิ่มขึ้นจากปี 2566 และเป็นพื้นที่เผาไหม้การเกษตรที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านไร่
นาย
ภัทรพงษ์ กล่าวว่า หากนายกฯให้ความสำคัญกับสภาฯ และรับฟังมากกว่านี้ 90 วันที่ผ่านมาไม่มีทางสูญเปล่า เพราะในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล
แพทองธาร ตนได้อภิปรายแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างชัดเจนทุกๆ ด้าน เป็นแผนปฏิบัติการอย่างชัดเจนว่าแต่ละเดือนต้องดำเนินการอะไรบ้าง นำเสนอภาพปัญหาการเผาไหม้ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในปี 2567 ของพืชที่มีการเผาไหม้หลักๆ 3 ชนิด คือ ข้าว อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ต้องมีการประกาศมาตรการล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้วางแผนปรับตัวได้ทัน แต่รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการใด ๆ เลย
JJNY : ย้อน พท. ผลงานแค่นี้พอใจหรือ│ผิดหวัง!“กต.”ไม่แอ็คทีฟ│ส.ส.เชียงใหม่ ปชน. ชี้ละเลยปัญหาฝุ่น│มาเลเซียผุดสำนักงานเอไอ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4951677
ลิซ่า ย้อนถาม ส.ส.เพื่อไทย หาก นายกฯอิ๊งค์ ไม่ได้เป็นทายาทเจ้าของพรรค จะพอใจผลงานหรือไม่ งง ฝ่ายค้านแสดงความเห็นก็ถูกโต้กลับ
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นางสาวภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาตอบโต้การแถลงวิจารณ์ผลงานรัฐบาลของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ว่าฝ่ายค้านแสดงความเห็นต่อการแถลงผลงาน 90 วัน ก็ออกมาโต้หาว่าให้ดูผลงานตัวเอง แต่คำถามคือ รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีแถลงผลงาน เหตุใดผู้แทนราษฎรถึงจะแสดงความเห็นไม่ได้ ถ้าตั้งหลักแบบนี้ หมายความว่าห้ามสาธารณะและประชาชนตั้งคำถามต่อรัฐบาลด้วยหรือไม่
ส่วนที่ระบุว่าหากผู้นำฝ่ายค้านชอบประเมิน ให้ประเมินตัวเองก่อน เริ่มจากถามคนในพรรคตัวเองดูก็ได้ ตนถามกลับว่าหากนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ทายาทเจ้าของพรรค ผลงานแค่นี้ บทบาทเท่าที่เป็นคนในพรรคพอใจจริงๆหรือไม่
ผิดหวัง! “กต.” ไม่แอ็คทีฟปมพม่ายิงเรือประมงไทย -จับลูกเรือ 4 คน จี้ “นายกฯ” สั่งการเชิงรุก
https://siamrath.co.th/n/587235
วันที่ 13 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.)ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ฯได้พิจารณากรณีเมียนมายิงเรือประมงไทย ตรงบริเวณน่านน้ำทะเลอันดามัน จังหวัดระนอง รอยต่อของคืนวันที่ 19-20 พ.ย. โดยเชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศและสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มาชี้แจงและรายงานสถานการณ์ ซึ่งตนขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประประสิทธิภาพในการตอบสนองเหตุการณ์ของหน่วยงานของไทยในเหตุการณ์ครั้งนี้ และเชื่อว่ากมธ.ฯหลายคนที่อยู่ในที่ประชุมคงผิดหวังเช่นกัน
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจากสองหน่วยงานนี้ยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้วจุดที่เกิดเหตุเกิดขึ้นตรงไหนหมายความว่าไม่รู้ว่าเกิดในน่านน้ำไทยหรือในน่านน้ำของเมียนมา หมายความว่า ตอนนี้ไทยเองยังไม่รู้ว่าเรือประมงไทยที่มีทั้งหมด 5 ลำ และถูกทหารเรือเมียนมาจับไปหนึ่งลำนั้น ลำรุกล้ำน่านน้ำของเมียนมาหรือไม่ หรือตอนถูกยิง เรือประมงไทยอยู่ในน่านน้ำไทย แล้วเราจะไปประท้วงเมียนมาว่าอย่างไร ร้ายไปกว่านั้นคือทางการไทยได้ขอให้เมียนมาสอบสวนเรื่องนี้ แต่จนถึงบัดนี้ทางการไทยยังไม่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนว่าจริงๆแล้วเรือประมงไทยที่ถูกหารเรือเมียนมายิงและถูกจับไปนั้นมีการรุกล้ำน่านน้ำของเมียนมาจริงหรือไม่ หรือเหตุเกิดในน้ำไทย
"หากเราไม่ตั้งคณะสอบสวนของเราเองขึ้นมาและรอฟังผลการสอบสวนของฝ่ายพม่า แน่นอนว่าผลการสอบสวนของพม่าย่อมต้องบอกว่าเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำของพม่าเขา ใครเขาจะมาบอกว่าเรือไทยที่ถูกยิงขณะอยู่ในเขตน่านน้ำไทย การตั้งคณะสอบสวนฝ่ายไทยก็ไม่ได้กระทบกับความปลอดภัยของลูกเรือประมงไทย 4คนที่ยังถูกทหารพม่าจับไว้ เพราะเป็นเรื่องภายในของไทยที่เราสอบหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ทำไมเราไม่ค้นหาข้อเท็จจริงตอนนี้ จะรออะไร เรือประมงไทยที่ถูกทหารเรือพม่ายิงมีทั้งหมด 5 ลำ ถูกจับไป 1 ลำ หนีรอดมาได้4ลำ ท่านได้สอบหาข้อได้จริงจากเรือประมงสีดำที่รอดมาได้หรือยัง คณะผู้ที่มาชี้แจงก็ตอบไม่ได้ ผมจึงขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลชุดนี้ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นการรุกล้ำอธิปไตยในน่านน้ำไทย หลังเหตุการณ์ผ่านมา 3 สัปดาห์ แต่ทางการไทยยังไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงไหน เรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำพม่าหรือไม่ หรือในทางกลับกันเรือรบพม่ารุกล้ำน่านน้ำไทยเข้ามายิงเรือไทยจนมีคนไทยเสียชีวิตและคนไทยถูกจับไปในขณะอยู่บนน่านน้ำไทยหรือไม่" นายจุลพงษ์ กล่าว
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า อยากตั้งคำถามไปยัง รมว.ต่างประเทศว่าทำได้แค่ลงบันทึก ช่วยจำให้เมียนมาสอบสวนเรื่องนี้ และรอให้เมียนมาปล่อยคนไทยเท่านั้นหรือ จะทำอะไรในเชิงรุกที่แสดงว่ากระทรวงการต่างประเทศใช้วิธีทางการทูตที่แสดงความแข็งกร้าวที่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดน่านน้ำไทยหรือไม่ หากทำได้แค่นี้ นายกฯควรต้องลงมาสั่งการเอง ให้หน่วยงานไทย ภายใต้บังคับบัญชาทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการให้ใช้กำลังทหาร แต่การกำหนดท่าทีและนโยบายต่างประเทศของไทย ที่ไม่ชัดเจนจะก่อให้เกิดปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้ยังมองว่าการกลัวเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นข้ออ้างที่ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มที่มีกับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่
ส.ส.เชียงใหม่ ปชน. ชี้ผลงาน 90 วันนายกอิ๊งค์ ละเลยปัญหาฝุ่น แนะมาตอบกระทู้ เปิดใจรับฟังสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4951628
ภัทรพงษ์ ชี้ ‘รบ.แพทองธาร’ แถลงผลงาน 90 วัน ไร้การเตรียมการรับมือฝุ่น PM2.5 แนะ เปิดใจรับฟังมากกว่านี้ เริ่มที่มาตอบกระทู้สดย้ำปัญหานี้รอไม่ได้
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการแถลงผลงานในรอบ 90 วันของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในประเด็นการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ว่า เป็นอีกครั้งที่นายกฯ แสดงถึงความไม่เข้าใจในปัญหา PM2.5 เพราะช่วงเวลาที่ต้องทำงานหนักอย่างเข้มข้นที่สุดคือการเตรียมการรับมือล่วงหน้า ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ให้ความชัดเจนกับหน่วยงานของรัฐ ประชาชน
เกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการ ให้ได้วางแผนล่วงหน้าตามมาตรการที่ชัดเจนของรัฐบาล แต่ผ่านมา 90 วัน กลับไม่มีมาตรการใดๆ เลย และยังเลือกที่จะนำเสนอข้อมูลในมุมเดียวที่ว่า สามารถลดพื้นที่เผาไหม้ในจังหวัดเชียงใหม่ลงได้ โดยไม่พูดความจริงที่ว่า พื้นที่การเผาไหม้ในปี 2567 ของทั้งประเทศนั้นเพิ่มขึ้นจากปี 2566 และเป็นพื้นที่เผาไหม้การเกษตรที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านไร่
นายภัทรพงษ์ กล่าวว่า หากนายกฯให้ความสำคัญกับสภาฯ และรับฟังมากกว่านี้ 90 วันที่ผ่านมาไม่มีทางสูญเปล่า เพราะในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลแพทองธาร ตนได้อภิปรายแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างชัดเจนทุกๆ ด้าน เป็นแผนปฏิบัติการอย่างชัดเจนว่าแต่ละเดือนต้องดำเนินการอะไรบ้าง นำเสนอภาพปัญหาการเผาไหม้ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในปี 2567 ของพืชที่มีการเผาไหม้หลักๆ 3 ชนิด คือ ข้าว อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ต้องมีการประกาศมาตรการล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้วางแผนปรับตัวได้ทัน แต่รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการใด ๆ เลย