ปชน. ชี้ รบ.อิ๊งค์ ไม่ผ่านเกณฑ์ แถลงนโยบายมากกว่าโชว์ผลงาน ยัน พร้อมหนุน ทลายทุนผูกขาด.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4950669
เท้ง ชี้ อิ๊งค์ ผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ ติงมาตอบกระทู้ในสภาฯ น่าจะดีกว่านี้ ศิริกัญญา แซะรบ.ทำงานมาครึ่งเทอมแล้วไม่ใช่ 90 วัน ย้ำซักฟอก Q1 ปี 68 แน่
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 ธันวาคม ที่รัฐสภา นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ พร้อมด้วย น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวกรณี น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงผลงาน 90 วันของรัฐบาล
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลจัดแถลงผลงานช่วง 90 วัน ในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ทำให้ประชาชนคาดหวังว่านี่จะเป็นการแถลงผลงานของรัฐบาล แต่กลับมีปัญหา 2 เรื่องคือ เรื่องแรก รัฐบาลนี้ไม่ได้เพิ่งมา 90 วัน แต่ได้ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินมารวมแล้ว 1 ปี 4 เดือน ดังนั้นการที่จะบอกว่ามาแถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน เป็นเพียงแค่การแถลงนโยบายของนายกฯ คนใหม่ใช่หรือไม่ เพราะรัฐมนตรีมีแต่หน้าเดิม ฉะนั้นจึงต้องเป็นการแถลงนโยบายที่ผ่านมากว่า 1 ปีไม่ใช่ 90 วัน ข้อที่ 2 แม้จะใช้ชื่องานว่าแถลงนโยบาย 90 วัน แต่สิ่งที่ได้ยินจากนายกฯ คือการแถลงฝากงานรัฐมนตรีที่ไปร่วมงานรวมทั้งสิ้น 11 ครั้ง โดยไม่ได้สรุปผลงานที่เคยผ่านมาว่ามีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ยอมรับว่ารัฐบาลนี้ ไม่ใช่ไม่มีผลงาน แต่กลับไม่มีการออกมาพูดเรื่องผลงานอย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะมีผลงานบางอย่างที่เป็นผลงานได้
”
สิ่งที่นายกฯ พูดวันนี้ กลับพูดโดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก จึงเป็นเหมือนการแถลงนโยบายภาคสอง พูดแค่หัวข้อ และการพูดในแต่ละหัวข้ออาจจะยังคิดไม่ครบทุกระบบ แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่เราเห็นด้วย และพร้อมที่จะสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการทลายทุนผูกขาด การปรับโครงสร้างหนี้ บ้านเพื่อคนไทย หรือการลดค่าไฟ แต่ย้ำว่าปัญหาคือการไม่ลงในรายละเอียด อีกทั้งไม่ได้มีการพูดถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมออนไลน์“ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า สิ่งที่เห็นว่าเป็นผลงานจริงๆ คือการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่นายกฯ นำตัวเลขออกมาโชว์ให้เห็น แต่หากยังจำกันได้ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เคยบอกไว้ตัวเลขฝุ่นพีเอ็มในแต่ละพื้นที่จะลดลงเท่าไหร่บ้าง แต่ตัวเลขที่น.ส.แพทองธารนำมาแถลง เมื่อเทียบแล้วจะเห็นว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงมาจากเป้าหมาย ขณะที่โครงการซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ ก็มีการพูดแตะนิดหน่อยว่าจะทำต่อ แต่ต้องขอทวงถามว่าโครงการที่ผ่านมาแล้วตั้งแต่สมัยที่ น.ส.แพทองธารนั่งเป็นประธานอยู่นั้น ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร แม้กระทั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีการบอกแค่ว่าปีหน้าแจกแน่ แต่ไม่ได้บอกว่าแจกเมื่อไหร่ รวมถึงเงินที่จะแจกผู้สูงอายุปีหน้า ก็ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากที่ถอนเรื่องไป
ด้าน นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การแถลงของนายกฯ เป็นการฝากงานมากกว่า สิ่งที่อยากเห็นจากรัฐบาล คือการทำให้คนไทยเชื่อมั่นได้ว่าในปี 2568 ภายใต้บริบทโลกใหม่ นโบายของรัฐบาลจะเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนอย่างแท้จริง สิ่งที่ตนอยากเห็นจากการแถลงของนายกฯ คือการปฏิรูประบบราชการ นายกฯ พูดถึงเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล แต่กลับไม่พูดถึงปัญหาการต่อต้านคอร์รัปชั่น รวมทั้งเรื่องการกระจายอำนาจที่กลับไปพูดถึงการกระจายอำนาจด้วยกองทุนเอสเอ็มแอล ทั้งที่การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องให้ท้องถิ่นมีอำนาจแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้โดยตรง ทั้งปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งอปท.ถือเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหา
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด เราได้ยินแค่ว่านายกฯ จะทำแพลตฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนปัญหายาเสพติด ซึ่งปัญหานี้ใหญ่มาก ไทยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เลยถ้าไม่พูดถึงปัญหาชายแดน และปัญหาความขัดแย้งในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่นโยบายด้านการต่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านก็ยังไม่ชัดเจน ปัญหาการศึกษาก็ไม่มีการพูดถึง พ.ร.บ.การศึกษาฯ หรือการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่มีความสำคัญ นายกฯ ไม่พูดถึงการยกเลิกสัมปทานพลังงานหมุนเวียนไฟฟ้า 3,600 เมกกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ รมว.พลังงานได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งนายกฯ เป็นประธานด้วย แต่ก็ไม่มีการพูดถึงว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในนโยบายด้านการต่างประเทศ ว่าไทยจะจัดตนเองไปอยู่ในตำแหน่งแห่งที่อย่างไรในสงครามการค้าโลกที่เราจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนในปี 2568 ภายใต้ระเบียบโลกใหม่ที่สหรัฐฯ กำลังจะตั้งกำแพงภาษีกับประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าซึ่งรวมถึงไทยด้วย ผมอยากเห็นนายกฯ มองบริบทประเทศของเราว่าไม่ใช่ small country แบบที่นายกฯ เศรษฐาเคยพูดไว้ แต่เราคือ middle power country เราเป็นประเทศที่มีอำนาจต่อรองระดับหนึ่ง ตนอยากเห็นนายกฯ แสดงบทบาทผู้นำในเวทีอาเซียนในการเจรจาในภูมิภาค เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมกันว่าเราจะสร้างอำนาจต่อรองในสงครามการค้าโลกนี้อย่างไร
“
การแถลงผลงานของนายกฯ ยังไม่ผ่านเกณฑ์ เหมือนการฝากงานที่นายกฯ พูดไม่ครบ คิดไม่จบ เราอยากเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการนิติบัญญัติโดยเฉพาะการมาตอบกระทู้ถามสดด้วยตนเอง ส่วนการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ พรรคประชาชนยื่นร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ไปแล้วกว่า 80 ฉบับ เราอยากทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ก็อยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลที่เป็นรูปธรรม หรือร่างกฎหมายของรัฐบาลที่จะยื่นเข้าสู่สภาฯ เพื่อมาพิจารณาร่วมกัน” นาย
ณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าตลอดการบริหารที่ผ่านมาตัดเกรดรัฐบาลให้เกรดอะไร นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ได้ให้เป็นลักษณะเกรด แต่ตนคิดว่าไม่ผ่านเกณฑ์ก็คือผิดความคาดหวังของประชาชน รัฐบาลนี้ทำงานไปแล้วเกือบครึ่งเทอม ถ้ามองจากกรอบการทำงาน 1 ปี 4 เดือน ตนเชื่อว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์
เมื่อถามว่ามองนโยบายที่ผิดพลาดที่สุดของรัฐบาลคืออะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นโยบายที่โดดเด่นของพรรคเพื่อไทยที่ทุกคนมองในสมัยก่อน เป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ 1 ปี 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลประสบความล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 1 ที่แจกจ่ายไปแล้ว ภาพรวมของการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ เฟส 2 และ 3 ก็พูดออกมาชัดว่าเฉพาะเฟส 3 เท่านั้น ที่จะมีการแจกเงินดิจิทัล แบบนี้ก็ถือว่าพลาดเป้าไปหลายเป้าที่รัฐบาลเคยแถลงนโยบายไว้ตอนหาเสียง ทั้งนี้ ถ้าวันนี้นายกฯ มาตอบกระทู้สดในสภาฯ น่าจะตอบข้อซักถามได้หลายข้อ วันนี้ตนและ น.ส.
ศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตไว้ จะให้ความชัดเจนได้มากกว่านี้ รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่จะทราบถึงรายละเอียดในการดำเนินนโยบายได้ดีกว่านี้
เมื่อถามว่าการบริหารราชการทั้งหมดนี้ สามารถนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ วางกรอบไว้อย่างไร นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรามีการเตรียมตัวไว้ค่อนข้างดีแล้ว ซึ่งตอนนี้ในกรอบที่วางไว้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า ยืนยันว่ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน
กัณวีร์ ตัดเกรดผลงานรบ. 90 วัน ไม่ผ่าน ไร้เรื่องสิทธิมนุษยชน ชี้ความพยายามยังไม่มากพอ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4950002
กัณวีร์ ตัดเกรดผลงานรบ. 90 วัน ไม่ผ่าน ไร้เรื่องสิทธิมนุษยชน ชี้ความพยายามยังไม่มากพอ
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่รัฐสภา นาย
กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ประเมินคะแนนการทำงานของรัฐบาล น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นากยกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ว่า ความจริงตนอยากจะเก็บไว้พูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่ง 90 วันก็ไม่เท่าไหร่ และให้อีก 120 วัน ก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะหากให้ตัดเกรดก็คงไม่ผ่าน
นาย
กัณวีร์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชนก็ไม่ผ่านเลย เพราะเราจะเห็นเรื่องผู้ลี้ภัยในประเทศไทยที่โดนจับและผลักดันกลับไป รวมถึงผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ยังอยู่ในห้องกักของ สตม. ที่ยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งนั้น ซึ่งหากเกรดเรื่องผู้ลี้ภัย รัฐบาลสอบตกแน่นอน รวมถึงการพัฒนาในเรื่องอื่นๆ ก็ยังไม่ผ่าน การพัฒนาที่จะทำโครงการแลนด์บริดจ์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่ผ่าน ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำให้เห็นว่าความพยายามนั้นมี แต่ยังไม่ผ่าน และประชาชนต้องการมากกว่านี้
ส่วนเรื่องการเจรจาช่วยเหลือชาวไทย 4 คนที่ถูกทหารเมียนมาจับกุมตัวไว้อยู่นั้น นาย
กัณวีร์ มองว่า ทำช้าไป ยังไม่รู้เลยว่ามีการรุกล้ำเข้าไปในน้ำประเทศเมียนมาจริงหรือไม่ ดังนั้นการที่จับตัวคนไทยเข้าไปในประเทศเมียนมา โดยที่ยังไม่มีการปล่อยตัวโดยเร็ว เป็นการทำผิดกฏหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายทางทะเล และมองว่าเราไม่ควรที่จะรอนานขนาดนั้น ควรเร่งให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว ซึ่งจะต้องเรียกร้องทุกวิถีทาง จึงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลไทย ต้องรอเวลาหลังปีใหม่ที่เหลือเวลาอีกกว่า 20 วัน แล้วพี่น้องของคนไทยทั้ง 4 คนจะทำอย่างไร รัฐบาลควรต้องทำเร็วกว่านี้
แค่ขายฝัน! สมชัย ติงผลงาน 3 เดือนรัฐบาลอิ๊งค์ ข้องใจไร้เรื่องค่าแรง400-แก้รธน.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9545669
สมชัย คอมเมนต์ฉ่ำ นายกฯแพทองธาร แถลงผลงานครบ 3 เดือน ขายฝัน ยื้อประชาชนรออีกรอบ ไร้ปมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ400-แก้รธน.-จัดการปัญหาทุจริต
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
ไม่ใช่แถลงผลงาน 90 วัน ไม่ใช่มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ แต่เป็นขายฝันให้ประชาชนรอคอยอีกรอบเท่านั้น
หนึ่งชั่วโมงของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่โปรยไว้ว่าจะเป็นการแถลงผลงาน และมอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการ จึงไม่ตรงปกอย่างยิ่ง ยิ่งบุคลิกในช่วงต้นที่แฝงความไม่มั่นใจ สายตาต้องเหลือบดูบทในจอมอนิเตอร์ข้างหน้าอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งนึกถึง นศ.ปริญญาโท ที่ต้องมานำเสนองานวิจัยที่ตนไม่เชี่ยวชาญหรือไม่รู้จริง
ครึ่งหลังดูผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อกล่าวถึงฝันในปี 2568 ว่าจะเกิดอะไรกับคนไทย แต่สาระยังดูจูงใจ และสร้างความเชื่อมั่นไม่ได้ เงินหมื่นเฟสสาม บอกได้แน่ในปี 2568 แต่ไม่บอกจำนวนคนและกำหนดการที่แน่ชัด
บ้านเพื่อคนไทย ฟังไปฟังมาก็เป็นการสร้างคอนโดให้เช่าเพื่อคนกรุงตามแนวรถไฟฟ้า และปีหน้าได้เห็นแบบห้องตัวอย่างและมีแบบฟอร์มให้สั่งจองเท่านั้น
ต้านทุนผูกขาด พอยกรูปธรรมก็กลายเป็นประเด็นเพิ่มโอกาสการส่งข้าวออกนอกแก่ผู้ค้ารายย่อย SME เท่านั้น ไม่มีประเด็นอื่น
หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา (ODOS) ที่ฟื้นคืนมาใหม่ ก็เอาไปผูกกับสลากกินแบ่ง และการนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน จนทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่า อยากทำหวยบนดิน คาสิโน หรืออยากให้ทุนมากกว่ากัน
ค่าไฟต้องถูกลง แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่ อย่าให้เหมือนที่ว่า ถูกลง 6 สตางค์เป็นของขวัญปีใหม่ที่เป็นรูปธรรม แต่คนทำก็พยักหน้ารับ
โดยไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริง คือ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกสายในปี 2568 ที่ไม่ได้พูดเลยคือ ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท แก้รัฐธรรมนูญไปถึงไหน จะจัดการกับทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไร MOU 44 จะเดินหน้าต่อหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาภาคใต้ และชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร
ดูหนังตัวอย่างที่โปรยและสร้างความคาดหวัง แต่พอเสียตังค์มาดูหนังฉายจริง แบบนี้ถ้าเป็นเว็บมะเขือให้ มะเขือเน่า
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02AQ75QiMkbp5Gy8tmaTJLhxMgCPnvytd6nySKPCQaPXTcV93uf4oyUFMvfkDijcWGl
JJNY : 5in1 ปชน.ชี้ไม่ผ่านเกณฑ์│กัณวีร์ตัดเกรดไร้เรื่องสิทธิ│สมชัยติงผลงาน│โรมปูดกลางสภา│ท่องเที่ยวเกาหลีใต้เสี่ยงทรุด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4950669
เท้ง ชี้ อิ๊งค์ ผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ ติงมาตอบกระทู้ในสภาฯ น่าจะดีกว่านี้ ศิริกัญญา แซะรบ.ทำงานมาครึ่งเทอมแล้วไม่ใช่ 90 วัน ย้ำซักฟอก Q1 ปี 68 แน่
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงผลงาน 90 วันของรัฐบาล
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลจัดแถลงผลงานช่วง 90 วัน ในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ทำให้ประชาชนคาดหวังว่านี่จะเป็นการแถลงผลงานของรัฐบาล แต่กลับมีปัญหา 2 เรื่องคือ เรื่องแรก รัฐบาลนี้ไม่ได้เพิ่งมา 90 วัน แต่ได้ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินมารวมแล้ว 1 ปี 4 เดือน ดังนั้นการที่จะบอกว่ามาแถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน เป็นเพียงแค่การแถลงนโยบายของนายกฯ คนใหม่ใช่หรือไม่ เพราะรัฐมนตรีมีแต่หน้าเดิม ฉะนั้นจึงต้องเป็นการแถลงนโยบายที่ผ่านมากว่า 1 ปีไม่ใช่ 90 วัน ข้อที่ 2 แม้จะใช้ชื่องานว่าแถลงนโยบาย 90 วัน แต่สิ่งที่ได้ยินจากนายกฯ คือการแถลงฝากงานรัฐมนตรีที่ไปร่วมงานรวมทั้งสิ้น 11 ครั้ง โดยไม่ได้สรุปผลงานที่เคยผ่านมาว่ามีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ยอมรับว่ารัฐบาลนี้ ไม่ใช่ไม่มีผลงาน แต่กลับไม่มีการออกมาพูดเรื่องผลงานอย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะมีผลงานบางอย่างที่เป็นผลงานได้
”สิ่งที่นายกฯ พูดวันนี้ กลับพูดโดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก จึงเป็นเหมือนการแถลงนโยบายภาคสอง พูดแค่หัวข้อ และการพูดในแต่ละหัวข้ออาจจะยังคิดไม่ครบทุกระบบ แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่เราเห็นด้วย และพร้อมที่จะสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการทลายทุนผูกขาด การปรับโครงสร้างหนี้ บ้านเพื่อคนไทย หรือการลดค่าไฟ แต่ย้ำว่าปัญหาคือการไม่ลงในรายละเอียด อีกทั้งไม่ได้มีการพูดถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมออนไลน์“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า สิ่งที่เห็นว่าเป็นผลงานจริงๆ คือการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่นายกฯ นำตัวเลขออกมาโชว์ให้เห็น แต่หากยังจำกันได้ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เคยบอกไว้ตัวเลขฝุ่นพีเอ็มในแต่ละพื้นที่จะลดลงเท่าไหร่บ้าง แต่ตัวเลขที่น.ส.แพทองธารนำมาแถลง เมื่อเทียบแล้วจะเห็นว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงมาจากเป้าหมาย ขณะที่โครงการซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ ก็มีการพูดแตะนิดหน่อยว่าจะทำต่อ แต่ต้องขอทวงถามว่าโครงการที่ผ่านมาแล้วตั้งแต่สมัยที่ น.ส.แพทองธารนั่งเป็นประธานอยู่นั้น ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร แม้กระทั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีการบอกแค่ว่าปีหน้าแจกแน่ แต่ไม่ได้บอกว่าแจกเมื่อไหร่ รวมถึงเงินที่จะแจกผู้สูงอายุปีหน้า ก็ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากที่ถอนเรื่องไป
ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การแถลงของนายกฯ เป็นการฝากงานมากกว่า สิ่งที่อยากเห็นจากรัฐบาล คือการทำให้คนไทยเชื่อมั่นได้ว่าในปี 2568 ภายใต้บริบทโลกใหม่ นโบายของรัฐบาลจะเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนอย่างแท้จริง สิ่งที่ตนอยากเห็นจากการแถลงของนายกฯ คือการปฏิรูประบบราชการ นายกฯ พูดถึงเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล แต่กลับไม่พูดถึงปัญหาการต่อต้านคอร์รัปชั่น รวมทั้งเรื่องการกระจายอำนาจที่กลับไปพูดถึงการกระจายอำนาจด้วยกองทุนเอสเอ็มแอล ทั้งที่การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องให้ท้องถิ่นมีอำนาจแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้โดยตรง ทั้งปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งอปท.ถือเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหา
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด เราได้ยินแค่ว่านายกฯ จะทำแพลตฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนปัญหายาเสพติด ซึ่งปัญหานี้ใหญ่มาก ไทยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เลยถ้าไม่พูดถึงปัญหาชายแดน และปัญหาความขัดแย้งในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่นโยบายด้านการต่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านก็ยังไม่ชัดเจน ปัญหาการศึกษาก็ไม่มีการพูดถึง พ.ร.บ.การศึกษาฯ หรือการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่มีความสำคัญ นายกฯ ไม่พูดถึงการยกเลิกสัมปทานพลังงานหมุนเวียนไฟฟ้า 3,600 เมกกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ รมว.พลังงานได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งนายกฯ เป็นประธานด้วย แต่ก็ไม่มีการพูดถึงว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในนโยบายด้านการต่างประเทศ ว่าไทยจะจัดตนเองไปอยู่ในตำแหน่งแห่งที่อย่างไรในสงครามการค้าโลกที่เราจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนในปี 2568 ภายใต้ระเบียบโลกใหม่ที่สหรัฐฯ กำลังจะตั้งกำแพงภาษีกับประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าซึ่งรวมถึงไทยด้วย ผมอยากเห็นนายกฯ มองบริบทประเทศของเราว่าไม่ใช่ small country แบบที่นายกฯ เศรษฐาเคยพูดไว้ แต่เราคือ middle power country เราเป็นประเทศที่มีอำนาจต่อรองระดับหนึ่ง ตนอยากเห็นนายกฯ แสดงบทบาทผู้นำในเวทีอาเซียนในการเจรจาในภูมิภาค เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมกันว่าเราจะสร้างอำนาจต่อรองในสงครามการค้าโลกนี้อย่างไร
“การแถลงผลงานของนายกฯ ยังไม่ผ่านเกณฑ์ เหมือนการฝากงานที่นายกฯ พูดไม่ครบ คิดไม่จบ เราอยากเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการนิติบัญญัติโดยเฉพาะการมาตอบกระทู้ถามสดด้วยตนเอง ส่วนการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ พรรคประชาชนยื่นร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ไปแล้วกว่า 80 ฉบับ เราอยากทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ก็อยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลที่เป็นรูปธรรม หรือร่างกฎหมายของรัฐบาลที่จะยื่นเข้าสู่สภาฯ เพื่อมาพิจารณาร่วมกัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าตลอดการบริหารที่ผ่านมาตัดเกรดรัฐบาลให้เกรดอะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ได้ให้เป็นลักษณะเกรด แต่ตนคิดว่าไม่ผ่านเกณฑ์ก็คือผิดความคาดหวังของประชาชน รัฐบาลนี้ทำงานไปแล้วเกือบครึ่งเทอม ถ้ามองจากกรอบการทำงาน 1 ปี 4 เดือน ตนเชื่อว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์
เมื่อถามว่ามองนโยบายที่ผิดพลาดที่สุดของรัฐบาลคืออะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นโยบายที่โดดเด่นของพรรคเพื่อไทยที่ทุกคนมองในสมัยก่อน เป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ 1 ปี 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลประสบความล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 1 ที่แจกจ่ายไปแล้ว ภาพรวมของการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ เฟส 2 และ 3 ก็พูดออกมาชัดว่าเฉพาะเฟส 3 เท่านั้น ที่จะมีการแจกเงินดิจิทัล แบบนี้ก็ถือว่าพลาดเป้าไปหลายเป้าที่รัฐบาลเคยแถลงนโยบายไว้ตอนหาเสียง ทั้งนี้ ถ้าวันนี้นายกฯ มาตอบกระทู้สดในสภาฯ น่าจะตอบข้อซักถามได้หลายข้อ วันนี้ตนและ น.ส.ศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตไว้ จะให้ความชัดเจนได้มากกว่านี้ รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่จะทราบถึงรายละเอียดในการดำเนินนโยบายได้ดีกว่านี้
เมื่อถามว่าการบริหารราชการทั้งหมดนี้ สามารถนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ วางกรอบไว้อย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรามีการเตรียมตัวไว้ค่อนข้างดีแล้ว ซึ่งตอนนี้ในกรอบที่วางไว้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า ยืนยันว่ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน
กัณวีร์ ตัดเกรดผลงานรบ. 90 วัน ไม่ผ่าน ไร้เรื่องสิทธิมนุษยชน ชี้ความพยายามยังไม่มากพอ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4950002
กัณวีร์ ตัดเกรดผลงานรบ. 90 วัน ไม่ผ่าน ไร้เรื่องสิทธิมนุษยชน ชี้ความพยายามยังไม่มากพอ
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ประเมินคะแนนการทำงานของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นากยกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ว่า ความจริงตนอยากจะเก็บไว้พูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่ง 90 วันก็ไม่เท่าไหร่ และให้อีก 120 วัน ก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะหากให้ตัดเกรดก็คงไม่ผ่าน
นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชนก็ไม่ผ่านเลย เพราะเราจะเห็นเรื่องผู้ลี้ภัยในประเทศไทยที่โดนจับและผลักดันกลับไป รวมถึงผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ยังอยู่ในห้องกักของ สตม. ที่ยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งนั้น ซึ่งหากเกรดเรื่องผู้ลี้ภัย รัฐบาลสอบตกแน่นอน รวมถึงการพัฒนาในเรื่องอื่นๆ ก็ยังไม่ผ่าน การพัฒนาที่จะทำโครงการแลนด์บริดจ์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่ผ่าน ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำให้เห็นว่าความพยายามนั้นมี แต่ยังไม่ผ่าน และประชาชนต้องการมากกว่านี้
ส่วนเรื่องการเจรจาช่วยเหลือชาวไทย 4 คนที่ถูกทหารเมียนมาจับกุมตัวไว้อยู่นั้น นายกัณวีร์ มองว่า ทำช้าไป ยังไม่รู้เลยว่ามีการรุกล้ำเข้าไปในน้ำประเทศเมียนมาจริงหรือไม่ ดังนั้นการที่จับตัวคนไทยเข้าไปในประเทศเมียนมา โดยที่ยังไม่มีการปล่อยตัวโดยเร็ว เป็นการทำผิดกฏหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายทางทะเล และมองว่าเราไม่ควรที่จะรอนานขนาดนั้น ควรเร่งให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว ซึ่งจะต้องเรียกร้องทุกวิถีทาง จึงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลไทย ต้องรอเวลาหลังปีใหม่ที่เหลือเวลาอีกกว่า 20 วัน แล้วพี่น้องของคนไทยทั้ง 4 คนจะทำอย่างไร รัฐบาลควรต้องทำเร็วกว่านี้
แค่ขายฝัน! สมชัย ติงผลงาน 3 เดือนรัฐบาลอิ๊งค์ ข้องใจไร้เรื่องค่าแรง400-แก้รธน.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9545669
สมชัย คอมเมนต์ฉ่ำ นายกฯแพทองธาร แถลงผลงานครบ 3 เดือน ขายฝัน ยื้อประชาชนรออีกรอบ ไร้ปมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ400-แก้รธน.-จัดการปัญหาทุจริต
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
ไม่ใช่แถลงผลงาน 90 วัน ไม่ใช่มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ แต่เป็นขายฝันให้ประชาชนรอคอยอีกรอบเท่านั้น
หนึ่งชั่วโมงของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่โปรยไว้ว่าจะเป็นการแถลงผลงาน และมอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการ จึงไม่ตรงปกอย่างยิ่ง ยิ่งบุคลิกในช่วงต้นที่แฝงความไม่มั่นใจ สายตาต้องเหลือบดูบทในจอมอนิเตอร์ข้างหน้าอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งนึกถึง นศ.ปริญญาโท ที่ต้องมานำเสนองานวิจัยที่ตนไม่เชี่ยวชาญหรือไม่รู้จริง
ครึ่งหลังดูผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อกล่าวถึงฝันในปี 2568 ว่าจะเกิดอะไรกับคนไทย แต่สาระยังดูจูงใจ และสร้างความเชื่อมั่นไม่ได้ เงินหมื่นเฟสสาม บอกได้แน่ในปี 2568 แต่ไม่บอกจำนวนคนและกำหนดการที่แน่ชัด
บ้านเพื่อคนไทย ฟังไปฟังมาก็เป็นการสร้างคอนโดให้เช่าเพื่อคนกรุงตามแนวรถไฟฟ้า และปีหน้าได้เห็นแบบห้องตัวอย่างและมีแบบฟอร์มให้สั่งจองเท่านั้น
ต้านทุนผูกขาด พอยกรูปธรรมก็กลายเป็นประเด็นเพิ่มโอกาสการส่งข้าวออกนอกแก่ผู้ค้ารายย่อย SME เท่านั้น ไม่มีประเด็นอื่น
หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา (ODOS) ที่ฟื้นคืนมาใหม่ ก็เอาไปผูกกับสลากกินแบ่ง และการนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน จนทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่า อยากทำหวยบนดิน คาสิโน หรืออยากให้ทุนมากกว่ากัน
ค่าไฟต้องถูกลง แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่ อย่าให้เหมือนที่ว่า ถูกลง 6 สตางค์เป็นของขวัญปีใหม่ที่เป็นรูปธรรม แต่คนทำก็พยักหน้ารับ
โดยไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริง คือ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกสายในปี 2568 ที่ไม่ได้พูดเลยคือ ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท แก้รัฐธรรมนูญไปถึงไหน จะจัดการกับทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไร MOU 44 จะเดินหน้าต่อหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาภาคใต้ และชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร
ดูหนังตัวอย่างที่โปรยและสร้างความคาดหวัง แต่พอเสียตังค์มาดูหนังฉายจริง แบบนี้ถ้าเป็นเว็บมะเขือให้ มะเขือเน่า
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02AQ75QiMkbp5Gy8tmaTJLhxMgCPnvytd6nySKPCQaPXTcV93uf4oyUFMvfkDijcWGl