JJNY : พรรค ปชน. ยันไม่ใช่ผอ.ประจำจว.│กมธ.ทหารจี้เคลียร์ 3 ประเด็น│เตือนอากาศวันนี้ │ปูตินลั่นรบ.ซีเรียล้ม ไม่ใช่พ่ายแพ้

พรรคประชาชน ยัน ผู้ถูกดำเนินคดีครอบครองอาวุธปืน ไม่ใช่ผอ.ประจำจังหวัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4962829
 
“พรรคประชาชน” ยัน ผู้ถูกดำเนินคดีครอบครองอาวุธปืน จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช่ผอ.ประจำจังหวัด ยัน ปืนทุกกระบอกมีทะเบียน แค่ครอบครองผิดมือ
 
เมิ่อวันที่ 20 ธันวาคม พรรคประชาชนชี้แจงกรณีที่มีการแพร่ข่าวสมาชิกพรรคประชาชน จ.ปราจีนบุรี ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน
โดยขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ บุคคลที่ถูกดำเนินคดี เป็นสมาชิกพรรคประชาชน แต่ไม่ใช่ผู้อำนวยการพรรคประจำจังหวัด ตามที่มีการเผยแพร่ข่าว เนื่องจากพรรคไม่มีตำแหน่งดังกล่าวตามโครงสร้างพรรค

บุคคลดังกล่าว ไม่มีสถานะเป็นผู้ช่วย ส.ส. ตามที่มีการเผยแพร่ข่าว และไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่น จ.ปราจีนบุรี ตามที่มีการเผยแพร่ข่าว
 
กรณีที่บุคคลดังกล่าวมีข้อพิพาทกับนายวุฒิพงษ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา โดยถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โรงงานกำจัดขยะนั้น ขณะนี้คดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยนายวุฒิพงษ์ กล่าวขอโทษต่อบุคคลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย

และการตรวจสอบอาวุธปืนที่พบนั้น ได้มีการนำหลักฐานทางทะเบียนชี้แจงต่อตำรวจเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นปืนมีทะเบียนทุกกระบอก แต่มี 3 กระบอกที่เป็นการครอบครองผิดมือ ซึ่งเป็นปืนที่มีทะเบียนของพ่อ พี่ชาย และเพื่อน



กมธ.ทหาร จี้นายกฯ เคลียร์ 3 ประเด็น ปม 4 ลูกเรือไทย ยกทีมลงเกาะสอง12-14 ม.ค.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4962854

กมธ.ทหาร จี้นายกฯ เคลียร์ 3 ประเด็น ปม 4 ลูกเรือไทย ยกทีมลงเกาะสอง12-14 ม.ค. 
 
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงกรณีศาลเมียนมาสั่งจำคุก 4 ลูกเรือประมงชาวไทย และจะมีการปล่อยตัวหลังปีใหม่ ว่า จากที่ประชุม กมธ.ทหาร กรณีลูกเรือประมงไทยที่ถูกเรือรบเมียนมายิง จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่พิเศษที่ยังไม่มีการอ้างสิทธิ จึงไม่มีฐานอ้างอิงสากลใด ที่เราต้องยอมรับว่า เรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา

กรมสนธิสัญญา แจ้งกับ กมธ.ทหาร ว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทย ประสานเพื่อขอให้เมียนมาปล่อยตัวลูกเรือประมงไทยอย่างต่อเนื่อง แต่กรณีที่อยู่ดีๆ ศาลเมียนมาก็พิพากษาจำคุกลูกเรือประมงไทย แล้วอ้างว่า เป็นกระบวนการที่ต้องทำ เป็นการดำเนินการที่เมียนมาไม่เคยแจ้งให้ทางการไทยทราบมาก่อน
 
กรมสนธิสัญญา ยืนยันว่า คำพิพากษาที่ระบุว่า “ลูกเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา โดยลูกเรือประมงไทยรับสารภาพ” นั้นไม่ได้ผูกพันรัฐไทย และหลังจากที่มีการปล่อยตัวลูกเรือประมงไทย กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือสงวนความเห็นต่อคำพิพากษานี้ โดยทันที
กมธ.ทหาร มีมติทำหนังสือถึง รมว.ตปท. และนายกฯ 3 ประเด็น
 
1. ให้แสดงท่าทีต่อเมียนมาอย่างจริงจังว่าเราต้องการให้ลูกเรือไทยกลับบ้าน โดยมีกำหนดที่ชัดเจน และไม่ควรมีการเลื่อน ครม.ควรมีมติ ในการเตรียมความพร้อม ทั้ง ก.กลาโหม และความร่วมมือระหว่างรัฐ อย่างได้สัดส่วนกับท่าทีของเมียนมา
 
2. ทบทวนคำพิพากษาของศาลเมียนมาอย่างละเอียด และทำหนังสือสงวนความเห็น ต่อประเด็นที่เมียนมาอ้างว่าลูกเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา เพื่อยืนยันว่าคำพิพากษานี้ไม่ผูกพันรัฐไทย เพราะที่ผ่านมาเราทำหนังสือประท้วงเพียงแค่การใช้กำลังเกินกว่าเหตุ แต่ยังไม่เคยโต้แย้งในเรื่องเขตแดน
 
3. ต้องพิจารณาถ้อยคำในหนังสือขออภัยโทษของลูกเรือไทยทั้ง 4 คนอย่างรอบคอบแบบยิ่งยวด โดยจะต้องไม่มีถ้อยคำใด ที่ทางการไทยยอมรับว่า จุดเกิดเหตุเป็นเขตแดนของเมียนมา
 
มติ กมธ.ทหาร จะขอเดินทางไปเยือนเกาะสอง อย่างเป็นทางการในวันที่ 12-14 ม.ค. 68 โดยให้เร่งรัดการขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ระหว่างสมัยประชุม เป็นการด่วนที่สุด หากได้รับข่าวดีว่าลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัวก่อน ก็ให้พิจารณาปรับกำหนดการไปหารือกับหน่วยราชการในพื้นที่แทน
 
การคลี่คลายข้อพิพาทกรณีลูกเรือประมงไทย ผมยืนยันว่าต้องใช้กลไกทางการทูต และการเจรจา แต่รัฐบาลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงภาวะผู้นำ ว่าเราจริงจัง และใส่ใจในเรื่องนี้อย่างยิ่งยวด และแสดงให้รู้ว่ารัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างได้สัดส่วน ต่อท่าทีของเมียนมาในทุกรูปแบบ
ศร.ชล. ได้แจ้งต่อ กมธ.ทหารว่า “เส้นปฏิบัติการ” เป็นเส้นที่กำหนดขึ้นเพื่อกำหนดภารกิจทางการทหาร ไม่ใช่เส้นแบ่งเขตแดน และปกติจุดที่เรือประมงไทยถูกยิง ก็มีกิจกรรมอื่นๆ เช่น เรือขนถ่ายสินค้า เรือท่องเที่ยว เกิดขึ้นอยู่เป็นปกติ ต่อให้มีการล้ำเส้นปฏิบัติการ ก็ไม่ใช่การล้ำเขตแดน



กรมอุตุฯ เตือน สภาพอากาศวันนี้ หนาวถึงหนาวจัด ภาคใต้ เจอมรสุม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9555997

กรมอุตุฯ เตือน สภาพอากาศวันนี้ อุณหภูมิลดลงอีก อากาศหนาวถึงหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง เผย ภาคใต้ มรสุม ฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
 
วันที่ 19 ธ.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
 
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า
 
สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
 
ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มของการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวและการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้
 
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส โดยมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลา ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่