JJNY : ชี้เชื่อไม่ไว้วางใจ อิ้งค์ยังอยู่เหมือนเดิม│วิโรจน์ลั่นจุดใต้ตำตอ│เผยไทยตอนบนฝนลดลง│รัสเซียถล่มดุโดเนตสก์-คาร์คิฟ

นิด้าโพล ชี้ ปชช.เชื่อผลอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกอิ้งค์ ยังอยู่ในตำแหน่งเหมือนเดิม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5083194
 
 
นิด้าโพล ชี้ ปชช.เชื่อผลอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกอิ้งค์ ยังอยู่ในตำแหน่งเหมือนเดิม
 
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “ไม่ไว้วางใจ แค่นายกรัฐมนตรี!” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-4 มีนาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเฉพาะนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
 
จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเฉพาะนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.49 ระบุว่า ควรขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ และคณะรัฐมนตรีทั้งหมด รองลงมา ร้อยละ 31.83 ระบุว่า เห็นด้วยกับการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ แค่เพียงคนเดียว ร้อยละ 17.63 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลยกับการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ และ/หรือ รัฐมนตรีคนใด ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ควรขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีบางคน และร้อยละ 2.14 ระบุว่า ควรขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเฉพาะรัฐมนตรี ไม่รวมนายกรัฐมนตรี
 
ด้านระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 37.25 ระบุว่า จำนวน 3 วัน รองลงมา ร้อยละ 24.89 ระบุว่า จำนวน 2 วัน ร้อยละ 21.30 ระบุว่า จำนวน 5 วัน ร้อยละ 11.68 ระบุว่า จำนวน 1 วัน ร้อยละ 4.35 ระบุว่า จำนวน 4 วัน และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงหลังจากทราบผลการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 53.44 ระบุว่า นายกฯ แพทองธาร ยังคงอยู่ในตำแหน่งเหมือนเดิม รองลงมา ร้อยละ 31.22 ระบุว่า จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ร้อยละ 28.17 ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม ร้อยละ 21.15 ระบุว่า คณะรัฐมนตรีจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 11.76 ระบุว่า จะมียุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 6.64 ระบุว่า จะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ คนใหม่จะมาจากพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ร้อยละ 6.11 ระบุว่า จะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่นายกฯ คนใหม่จะยังคงมาจากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 5.95 ระบุว่า จะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ คนใหม่จะมาจากพรรคฝ่ายค้าน ร้อยละ 5.80 ระบุว่า จำนวนพรรคร่วมรัฐบาลจะลดลง ร้อยละ 5.11 ระบุว่า จะมีการสลับขั้วทางการเมือง เปลี่ยนรัฐบาล ร้อยละ 4.43 ระบุว่า จำนวนพรรคร่วมรัฐบาลจะเพิ่มขึ้น และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.63 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.35 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 12.37 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.24 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 24.81 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 96.18 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.75 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 1.07 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่นๆ
ตัวอย่าง ร้อยละ 36.87 สถานภาพโสด ร้อยละ 60.92 สมรส และร้อยละ 2.21 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.31 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 19.39 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 39.31 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 26.79 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.73 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 9.47 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 16.26 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.36 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 11.68 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 16.10 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 17.63 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.50 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 19.62 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 3.51 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 16.34 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 33.74 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 8.94 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.58 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 2.44 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.37 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.15 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.23 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.61 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.47 ไม่ระบุรายได้
 


วิโรจน์ ลั่นจุดใต้ตำตอ เคยเป็นวิศวกรที่อีซูซุ ยันรถทหารปลอมขนไอซ์ เช็กไม่ยากใครเจ้าของ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5083158

วิโรจน์ ชี้จุดใต้ตำตอ เผยเคยเป็นวิศวกรรถยี่ห้อดัง ยันรถทหารปลอมขนไอซ์ เช็กไม่ยากใครเจ้าของ
 
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ตามระบบการผลิตของบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบได้ไม่ยากนะครับ”
ระบุว่า 

“จากกรณีที่กองกำลังผาเมืองร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 1,400 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถบรรทุก 6 ล้อที่ถูกดัดแปลงให้มีลักษณะคล้ายรถทหาร ส่วนป้ายกงจักรหมายเลข 15875 ตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนของรถทหารที่ถูกจำหน่ายออกจากระบบไปแล้ว
 
จากข่าวที่บอกว่า ไม่พบชื่อผู้ครอบครอง และไม่มีข้อมูลอยู่ในระบบของกรมการขนส่งทางบก เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก ปกติแล้วเป็นไปไม่ได้นะครับ ที่จะสอบกลับอะไรไม่ได้เลย
 
เรื่องนี้จุดใต้ตำตอมากครับ เนื่องจากผมเคยทำงานเป็นวิศวกรควบคุมคุณภาพที่บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ IMCT มาก่อน เข้าใจว่ากระบวนการตรวจสอบที่โรงงานผลิต และระบบการขาย น่าจะสามารถตรวจสอบข้อมูลของรถคันนี้ได้นะครับ อย่างน้อยก็จะรู้ว่ารถคันนี้มีการดัดแปลง ตัดต่อตัวถังจริงหรือไม่ และแรกเริ่มเดิมทีขายไปให้กับใคร

เดี๋ยว กมธ.ทหาร จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ เป็นการ Cross Check ต่อไปนะครับ โดยมีกระบวนการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้
 
1. กมธ.ทหาร จะขอเลขตัวถัง หรือ Vehicle Identification Number (VIN) 17 หลัก และเลขเครื่องยนต์ของรถคันดังกล่าว และทำหนังสือสอบถามไปยังบริษัทตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อตรวจสอบว่ารถของกลางคันนี้มีการดัดแปลงตัดต่อตัวถัง หรือไม่ และขายรถคันนี้ไปให้กับใคร
 
2. กมธ.ทหาร จะทำหนังสือขอให้กรมขนส่งทางบกตัวจสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งว่ารถคันดังกล่าวนี้ ไม่มีในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกจริงๆ หรือ เพราะปกติแล้วถ้าเป็นรถยนต์ที่วิ่งบนถนนหลวงได้ ก็ต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ยกเว้นเฉพาะรถของทหาร เท่านั้น
 
3. กมธ.ทหาร จะทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี เพื่อสอบถามถึงเพลาของตัวรถ ว่าเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือขับเคลื่อน 2 ล้อ เพราะปกติถ้าเป็นรถที่ใช้ในกิจการของพลเรือน หรือเอกชน รถรุ่นนี้มักจะเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็มีข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นรถที่ใช้ในภารกิจทางการทหาร
 
เดี๋ยวผมจะขอให้ กมธ.ทหาร ตรวจสอบยืนยันโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งครับ” นายวิโรจน์ ระบุ
 
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/pfbid035YpzsTpjEjeYxoAReHuwnaNFfzoAaN36EqgyTjFvGD8tsCidwKgAquDvCEQmMQ8Bl
 


กรมอุตุ เผยไทยตอนบนฝนลดลง ภาคใต้มีฝนถล่มหนัก กทม.ฝนเล็กน้อย
https://www.matichon.co.th/local/news_5083179

กรมอุตุ เผยไทยตอนบนฝนลดลง ภาคใต้มีฝนถล่มหนัก กทม.ฝนเล็กน้อย
 
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
 
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
 
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือตอนบนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากมีการระบายอากาศที่ดี

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร และพิจิตร
อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม
ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครราชสีมา และบุรีรัมย์
อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่