คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
เช็กเลย! เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด โอนเข้าบัญชีผู้ปกครองวันนี้ 8 เม.ย.65
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แจ้งโอนเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดวันนี้ 8 เมษายน 2565 จำนวน 600 บาทต่อเดือน เข้าบัญชีผู้ปกครองทั่วประเทศกว่า 2,352,925 คน รวมเป็นเงินกว่า 1,482 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะของผู้ลงทะเบียนได้ด้วยตนเองที่ http://csgcheck.dcy.go.th
สอบถามเพิ่มเติมศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.facebook.com/Rachadaspoke/posts/399405685522820
ก.แรงงาน เตรียมส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุฯ ภายใน 3 เดือน หลังลงนาม MOU สนใจลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ toea.doe.go.th
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน และกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้าน จำนวน 2 ฉบับ ประกอบด้วย 1. ข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงาน และ 2. ข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานในบ้าน แรงงาน
เพื่อเร่งดำเนินการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม เตรียมความพร้อมพัฒนากำลังแรงงานมีทักษะฝีมือให้ตรงกับความต้องการของนายจ้างและสถานประกอบการของซาอุฯ เบื้องต้นตั้งเป้าจัดส่งแรงงานไทยภาคการบริการสุขภาพ ที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย เนื่องจากมีความคล้ายคลึงทางศาสนา และวัฒนธรรม และเป็นประเภทแรงงานที่ทางซาอุฯมีความต้องการมากที่สุด โดยจะดำเนินการประกาศรับสมัครต่อไป และเร่งส่งแรงงานกลุ่มแรกภายใน 3 เดือนหลังการลงนาม MOU
กรมการจัดหางาน เตรียมความพร้อมด้านการจัดหาแรงงานไทย ในภาคบริการสุขภาพ งานดูแลผู้ป่วย และงานดูแลผู้สูงอายุ ภาคอุสาหกรรม งานช่าง วิศวกร ภาคท่องเที่ยว โรงแรม นวดสปา และเชฟ จะมีการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อหารือข้อราชการเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุฯ
เบื้องต้นคนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ toea.doe.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางาน
มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน กรณีจัดส่งโดยรัฐ ประมาณ 32,800 บาท ประกอบด้วย ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไปซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 20,000 บาท ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าแบบเข้า - ออกครั้งเดียว 6,000 บาท ค่าหนังสือเดินทาง 1,500 บาท ค่าตรวจสุขภาพ 2,300 บาท ค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ประมาณ 1,000 บาท ค่าประกันสุขภาพโรคติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ 1,000 บาท ค่าทดสอบฝีมือแรงงาน 500 บาท ค่าตรวจสอบประวัติอาชญากรรม 100 บาท ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 400 บาท
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/344587517703592
รมว.แรงงาน ส่ง ‘ทีมโฆษก’ หารือ ศอ.บต. จัดส่งแรงงานฝีมือชายแดนใต้ไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ลงพื้นที่หารือร่วมกับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อเตรียมจัดส่งแรงงานไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ทางซาอุฯ มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะฝีมือในสาขาช่างฝีมือในอุตสาหกรรมก่อสร้าง พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ
คนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องลงทะเบียนกับศูนย์ทะเบียนคนหางาน ไปทำงานต่างประเทศ โดยคนหางานต้องแจ้งข้อมูลที่สำคัญ เช่น ประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปทำงาน ตำแหน่งงานที่ต้องการทำ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ เป็นต้น
ผู้ที่ประสงค์จะไปทำงาน หากทักษะฝีมือไม่ตรงกับความต้องการก็จะมีการ Up - Skill/Re - Skill ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้เตรียมการด้านหลักสูตรฝึกอบรม สถานที่เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์การฝึกอบรม โดยเฉพาะหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือภาษาอาหรับ นวดแผนไทย นวดสปา การประกอบอาหาร ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อม การฝึกอบรมจะเน้นเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ตลอดจนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ก่อนไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้ได้รับค่าจ้าง ค่าตอบแทนที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม
ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความสนใจไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย พบว่า มีกลุ่มแรงงานไทยที่เคยอาศัยหรือทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบียและได้เดินทางกลับภูมิลำเนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 899 คน กลุ่มนักศึกษาที่จบการศึกษาจากประเทศแถบตะวันออกลาง 70 คน กลุ่มนักศึกษาที่จบการศึกษาสาขาภาษาอาหรับในประเทศไทย 1,375 คน กลุ่มแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย 12,605 คน กลุ่มนักศึกษาที่ผ่านการฝึกทักษะอาชีพจากศูนย์ฝึกอาชีพพระราชทานจังหวัดชายแดนภาคใต้ 65 คน และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์ไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย 37 คน
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/344758024353208
“จุรินทร์” เป็นประธานฉลองครบรอบวันสถาปนาองค์การคลังสินค้าครบรอบ 67 ปี สั่งลุยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้บริหารจัดการองค์กร เพื่อดูแลเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก ย้ำ อคส. ยุคใหม่ ต้องไร้โกง “เกรียงศักดิ์”รับลูก ชูนโยบาย “แก้มลิง++” เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้า ช่วยเกษตรกรแปรรูปข้าว มะพร้าว ประสานพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์ ช่วยขาย พร้อมเร่งสะสางโครงการจำนำข้าว คดีทุจริตถุงมือยาง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานในพิธีงานวันคล้ายวันสถาปนาองค์การคลังสินค้า ครบรอบ 67 ปี ว่า อคส. กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 68 มีบทบาทสำคัญทั้งทางด้านการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการภาคการเกษตร โดยเฉพาะการสนองนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งถือว่าเป็นการเดินหน้าการเกษตรยุคใหม่ที่มีเป้าหมายเป็นรูปธรรมชัดเจนอย่างยิ่ง ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” และองค์การคลังสินค้ายุคใหม่ สิ่งที่จะต้องเดินหน้าเพิ่มเติม คือ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้บริหารจัดการที่เป็นรูปธรรมให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีศักยภาพในการเข้าไปดูแลเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
อ่านเพิ่มเติมคลิก>>>https://www.commercenewsagency.com/news/4966
https://www.facebook.com/commercenewsagency/posts/5536891159674308
“พาณิชย์” เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว ปีการผลิต 2564/65 งวดที่ 26 ชดเชย 3 ชนิด เหตุข้าวเปลือกหอมมะลิสิ้นสุดฤดูกาล ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาทะลุเพดานประกัน เผย “ข้าวเปลือกเหนียว” ได้รับชดเชยสูงสุด ตามด้วย “ข้าวเปลือกข้าว”
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า วันที่ 8 เม.ย.2565 ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 26 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย.2565 จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว โดยการจ่ายส่วนต่างน้อยลง เพราะราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่ต้องจ่ายชดเชยแล้ว เพราะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ก็ไม่ต้องจ่ายชดเชย เนื่องจากราคาสูงกว่าราคาเป้าหมายประกันรายได้
อ่านเพิ่มเติมคลิก>>>https://www.commercenewsagency.com/news/4968
https://www.facebook.com/commercenewsagency/posts/5537034122993345
ผลจาก RCEP ดันยอดส่งออกไทย 2 เดือนแรกพุ่ง 2.35 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.1%
กระทรวงพาณิชย์ รายงานยอดส่งออกไทยไปประเทศสมาชิก RCEP (ม.ค.-ก.พ.2565) มีมูลค่า 23,501 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 52.5 ของการส่งออกไทยไปตลาดโลก ซึ่งขยายตัวร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมากที่สุด (ร้อยละ 24.8) รองลงมาคือ จีน (ร้อยละ 11.5) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 9.4) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 3.9) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 2.3) และนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 0.6) ขณะที่ไทยนำเข้าจากกลุ่มประเทศ RCEP มูลค่า 28,890.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 16.6 จากปีก่อน โดยนำเข้าจากจีนมากที่สุด (ร้อยละ 25.4) รองลงมาคือ อาเซียน (ร้อยละ 17.2) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 11.8) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 3.6) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 2.9) และนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 0.3)
สำหรับการใช้สิทธิ RCEP ส่งออก ( ม.ค.-ก.พ.2565) มีมูลค่า 1,165.52 ล้านบาท โดยผู้ส่งออกขอใช้สิทธิ RCEP ส่งออกไปญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้มากที่สุด ขณะที่การใช้สิทธิ RCEP นำเข้า มีมูลค่า 494 ล้านบาท โดยการใช้สิทธินำเข้าจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเวียดนาม มากที่สุดตามลำดับ
ทั้งนี้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก RCEP ให้สัตยาบันความตกลง RCEP แล้ว 13 ประเทศ ได้แก่ บรูไนฯ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ส่วนอีก 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการภายในเพื่อให้สัตยาบัน
https://www.facebook.com/Rachadaspoke/posts/399380155525373
เช็กเลย! เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด โอนเข้าบัญชีผู้ปกครองวันนี้ 8 เม.ย.65
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แจ้งโอนเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดวันนี้ 8 เมษายน 2565 จำนวน 600 บาทต่อเดือน เข้าบัญชีผู้ปกครองทั่วประเทศกว่า 2,352,925 คน รวมเป็นเงินกว่า 1,482 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะของผู้ลงทะเบียนได้ด้วยตนเองที่ http://csgcheck.dcy.go.th
สอบถามเพิ่มเติมศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.facebook.com/Rachadaspoke/posts/399405685522820
ก.แรงงาน เตรียมส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุฯ ภายใน 3 เดือน หลังลงนาม MOU สนใจลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ toea.doe.go.th
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน และกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้าน จำนวน 2 ฉบับ ประกอบด้วย 1. ข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงาน และ 2. ข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานในบ้าน แรงงาน
เพื่อเร่งดำเนินการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม เตรียมความพร้อมพัฒนากำลังแรงงานมีทักษะฝีมือให้ตรงกับความต้องการของนายจ้างและสถานประกอบการของซาอุฯ เบื้องต้นตั้งเป้าจัดส่งแรงงานไทยภาคการบริการสุขภาพ ที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย เนื่องจากมีความคล้ายคลึงทางศาสนา และวัฒนธรรม และเป็นประเภทแรงงานที่ทางซาอุฯมีความต้องการมากที่สุด โดยจะดำเนินการประกาศรับสมัครต่อไป และเร่งส่งแรงงานกลุ่มแรกภายใน 3 เดือนหลังการลงนาม MOU
กรมการจัดหางาน เตรียมความพร้อมด้านการจัดหาแรงงานไทย ในภาคบริการสุขภาพ งานดูแลผู้ป่วย และงานดูแลผู้สูงอายุ ภาคอุสาหกรรม งานช่าง วิศวกร ภาคท่องเที่ยว โรงแรม นวดสปา และเชฟ จะมีการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อหารือข้อราชการเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุฯ
เบื้องต้นคนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ toea.doe.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางาน
มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน กรณีจัดส่งโดยรัฐ ประมาณ 32,800 บาท ประกอบด้วย ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไปซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 20,000 บาท ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าแบบเข้า - ออกครั้งเดียว 6,000 บาท ค่าหนังสือเดินทาง 1,500 บาท ค่าตรวจสุขภาพ 2,300 บาท ค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ประมาณ 1,000 บาท ค่าประกันสุขภาพโรคติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ 1,000 บาท ค่าทดสอบฝีมือแรงงาน 500 บาท ค่าตรวจสอบประวัติอาชญากรรม 100 บาท ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 400 บาท
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/344587517703592
รมว.แรงงาน ส่ง ‘ทีมโฆษก’ หารือ ศอ.บต. จัดส่งแรงงานฝีมือชายแดนใต้ไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ลงพื้นที่หารือร่วมกับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อเตรียมจัดส่งแรงงานไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ทางซาอุฯ มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะฝีมือในสาขาช่างฝีมือในอุตสาหกรรมก่อสร้าง พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ
คนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องลงทะเบียนกับศูนย์ทะเบียนคนหางาน ไปทำงานต่างประเทศ โดยคนหางานต้องแจ้งข้อมูลที่สำคัญ เช่น ประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปทำงาน ตำแหน่งงานที่ต้องการทำ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ เป็นต้น
ผู้ที่ประสงค์จะไปทำงาน หากทักษะฝีมือไม่ตรงกับความต้องการก็จะมีการ Up - Skill/Re - Skill ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้เตรียมการด้านหลักสูตรฝึกอบรม สถานที่เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์การฝึกอบรม โดยเฉพาะหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือภาษาอาหรับ นวดแผนไทย นวดสปา การประกอบอาหาร ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อม การฝึกอบรมจะเน้นเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ตลอดจนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ก่อนไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้ได้รับค่าจ้าง ค่าตอบแทนที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม
ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความสนใจไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย พบว่า มีกลุ่มแรงงานไทยที่เคยอาศัยหรือทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบียและได้เดินทางกลับภูมิลำเนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 899 คน กลุ่มนักศึกษาที่จบการศึกษาจากประเทศแถบตะวันออกลาง 70 คน กลุ่มนักศึกษาที่จบการศึกษาสาขาภาษาอาหรับในประเทศไทย 1,375 คน กลุ่มแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย 12,605 คน กลุ่มนักศึกษาที่ผ่านการฝึกทักษะอาชีพจากศูนย์ฝึกอาชีพพระราชทานจังหวัดชายแดนภาคใต้ 65 คน และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์ไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย 37 คน
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/344758024353208
“จุรินทร์” เป็นประธานฉลองครบรอบวันสถาปนาองค์การคลังสินค้าครบรอบ 67 ปี สั่งลุยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้บริหารจัดการองค์กร เพื่อดูแลเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก ย้ำ อคส. ยุคใหม่ ต้องไร้โกง “เกรียงศักดิ์”รับลูก ชูนโยบาย “แก้มลิง++” เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้า ช่วยเกษตรกรแปรรูปข้าว มะพร้าว ประสานพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์ ช่วยขาย พร้อมเร่งสะสางโครงการจำนำข้าว คดีทุจริตถุงมือยาง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานในพิธีงานวันคล้ายวันสถาปนาองค์การคลังสินค้า ครบรอบ 67 ปี ว่า อคส. กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 68 มีบทบาทสำคัญทั้งทางด้านการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการภาคการเกษตร โดยเฉพาะการสนองนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งถือว่าเป็นการเดินหน้าการเกษตรยุคใหม่ที่มีเป้าหมายเป็นรูปธรรมชัดเจนอย่างยิ่ง ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” และองค์การคลังสินค้ายุคใหม่ สิ่งที่จะต้องเดินหน้าเพิ่มเติม คือ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้บริหารจัดการที่เป็นรูปธรรมให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีศักยภาพในการเข้าไปดูแลเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
อ่านเพิ่มเติมคลิก>>>https://www.commercenewsagency.com/news/4966
https://www.facebook.com/commercenewsagency/posts/5536891159674308
“พาณิชย์” เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว ปีการผลิต 2564/65 งวดที่ 26 ชดเชย 3 ชนิด เหตุข้าวเปลือกหอมมะลิสิ้นสุดฤดูกาล ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาทะลุเพดานประกัน เผย “ข้าวเปลือกเหนียว” ได้รับชดเชยสูงสุด ตามด้วย “ข้าวเปลือกข้าว”
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า วันที่ 8 เม.ย.2565 ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 26 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย.2565 จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว โดยการจ่ายส่วนต่างน้อยลง เพราะราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่ต้องจ่ายชดเชยแล้ว เพราะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ก็ไม่ต้องจ่ายชดเชย เนื่องจากราคาสูงกว่าราคาเป้าหมายประกันรายได้
อ่านเพิ่มเติมคลิก>>>https://www.commercenewsagency.com/news/4968
https://www.facebook.com/commercenewsagency/posts/5537034122993345
ผลจาก RCEP ดันยอดส่งออกไทย 2 เดือนแรกพุ่ง 2.35 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.1%
กระทรวงพาณิชย์ รายงานยอดส่งออกไทยไปประเทศสมาชิก RCEP (ม.ค.-ก.พ.2565) มีมูลค่า 23,501 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 52.5 ของการส่งออกไทยไปตลาดโลก ซึ่งขยายตัวร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมากที่สุด (ร้อยละ 24.8) รองลงมาคือ จีน (ร้อยละ 11.5) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 9.4) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 3.9) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 2.3) และนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 0.6) ขณะที่ไทยนำเข้าจากกลุ่มประเทศ RCEP มูลค่า 28,890.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 16.6 จากปีก่อน โดยนำเข้าจากจีนมากที่สุด (ร้อยละ 25.4) รองลงมาคือ อาเซียน (ร้อยละ 17.2) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 11.8) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 3.6) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 2.9) และนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 0.3)
สำหรับการใช้สิทธิ RCEP ส่งออก ( ม.ค.-ก.พ.2565) มีมูลค่า 1,165.52 ล้านบาท โดยผู้ส่งออกขอใช้สิทธิ RCEP ส่งออกไปญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้มากที่สุด ขณะที่การใช้สิทธิ RCEP นำเข้า มีมูลค่า 494 ล้านบาท โดยการใช้สิทธินำเข้าจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเวียดนาม มากที่สุดตามลำดับ
ทั้งนี้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก RCEP ให้สัตยาบันความตกลง RCEP แล้ว 13 ประเทศ ได้แก่ บรูไนฯ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ส่วนอีก 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการภายในเพื่อให้สัตยาบัน
https://www.facebook.com/Rachadaspoke/posts/399380155525373
แสดงความคิดเห็น
💙มาลาริน/ข่าวที่ต้องยินดีค่ะ...นายกฯ พอใจ 'มูดี้ส์' คงอันดับความน่าเชื่อถือไทย มองเศรษฐกิจแกร่ง คาดปีนี้โต 3.4%
8 เมษายน 2565 เวลา 16:45 น.
นายกฯ พอใจมูดี้ส์คงอันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทย ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญเต็มที่ทั้งการดูแลประชาชนในช่วงเกิดวิกฤติโควิด บริหารฐานะการคลังให้มั่นคง พร้อมกับเดินหน้าเพิ่มพัฒนาศักยภาพประเทศ
8 เม.ย.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานจากกระทรวงการคลังถึงกรณีที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service หรือ มูดี้ส์ ได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ(Stable Outlook) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพอใจกับที่ประเทศไทยได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งมูดี้ส์มีมุมมองค่อนข้างเป็นบวกต่อสถานะของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิผลของนโยบายเศรษฐกิจ มาตรการเยียวยาดูแลประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด19 ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ประเมินว่าโครงการอีอีซีจะสนับสนุนการลงทุนและการเติบโตของประเทศไทยในระยะยาวอย่างแข็งแกร่ง และยังมองว่าใน 2-3 ปี เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยมูดี้ส์ได้คาดว่าจีดีพีของไทยปี 2565-66 จะเติบโต 3.4% และ 4.8% ตามลำดับ
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกระดับของทั้งภาครัฐ ธุรกิจเอกชน ประชาสังคม ประชาชน ที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักตามภารกิจของตนเองและที่เกี่ยวกับการสนับสนุนหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งสามารถรวมกันขับเคลื่อนประเทศจนนักลงทุน นักท่องเที่ยวรวมถึงบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย โดยระยะต่อไปรัฐจะมุ่งมั่นดำเนินงานตามแผนงาน ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทในระดับต่างๆ เพื่อให้การเพิ่มศักยภาพของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆให้เป็นไปตามเป้าหมาย
“นายกรัฐมนตรีพอใจกับผลการประเมินประเทศไทยที่ออกมาล่าสุด เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด19 เช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่รัฐบาลก็ได้ใช้ความพยายามเต็มที่ในการดูแลชีวิต ความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะเดียวกันก็ได้บริหารฐานะการเงิน การคลังของประเทศให้มั่นคงเนื่องจากเป็นภาคที่มีผลอย่างสำคัญต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและการลงทุนในระยะยาว ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลจะยังคงนโยบายการดูแลประชาชนไปพร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น ทั้งการรักษาฐานะการเงินการคลัง และการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มศักยภาพประเทศ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
https://www.thaipost.net/general-news/120535/
นายกฯพอใจเพราะท่านทำงานเต็มที่เพื่อทำให้ประเทศเดินหน้า ใช้เงินอย่างระมัดระวังในยามวิกฤต
ทำให้ประเทศไทยมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับของสถาบันต่างประเทศ
ปลื้มนายกฯลุงตู่ค่ะ.....