นายกฯลุงตู่ ออกนอกทำเนียบ เลาะริมคลองทักทายประชาชน
5 เม.ย.2565 - เมื่อเวลา 16.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนล่วงหน้า ทั้งนี้นายกฯ ได้เดินสำรวจพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่บริเวณลานจอดรถข้างตึกบัญชาการ 1 พร้อมระบุว่า มาเดินดูบริเวณที่เตรียมสร้างจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ซึ่งต้องดูแผนก่อน แต่ตนได้สั่งไปแล้ว โดยจะมีการติดตั้ง 2 จุด คือบริเวณลานจอดรถข้างตึกบัญชาการ 1 และบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพราะรัฐบาลส่งเสริมรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีการทยอยดำเนินการใช้ในส่วนของราชการ แต่หลายอย่างก็มีกฎระเบียบต่างๆ ทั้งนี้สำหรับรถส่วนตัวของตนนั้น เมื่อถึงเวลาก็ต้องใช้ โดยต้องดูความพร้อมก่อน
ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้สอบถามสื่อมวลชนว่า รับประทานอาหารที่ไหนในทำเนียบฯ ซึ่งสื่อมวลชนตอบว่า ที่บริเวณตึกบัญชาการ และโรงอาหารอื่นภายในทำเนียบฯ แต่มีจำนวนร้านค้าน้อยลง ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า เพราะคนน้อยลง และจะเป็นแบบนี้ไประยะหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้ก็มีปัญหาอยู่ ทุกอย่างก็ดรอปลงไป รัฐบาลก็รู้และพยายามจะแก้ทุกวัน นายกฯก็คิดแก้ปัญหาทุกวัน จึงไม่อยากให้ใครสร้างปัญหามากนัก
จากนั้นนายกฯ เดินลัดเลาะสำรวจริมคลองผดุงกรุงเกษม ที่กำลังมีการปรับภูมิทัศน์บางส่วน ก่อนจะเดินข้ามสะพานอรทัยออกไปนอกทำเนียบฯ เพื่อเยี่ยมร้านค้าบริเวณใกล้เคียง โดยได้สอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้าถึงการค้าขายในช่วงนี้ที่ยังประสบภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีบางรายระบุว่า เศรษฐกิจช่วงนี้แย่ ขณะที่นายกฯขอให้เข้าใจสถานการณ์ในช่วงนี้ พร้อมให้กำลังใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ขอให้มีสติ ใช้สตินำทาง วันนี้ทุกคนประสบปัญหาเหมือนๆ กัน แม้สถานการณ์จะไม่ค่อยดี แต่ถ้ามีกำลังใจที่ดีจะช่วยให้ผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆ ไปได้ ขออย่ายอมแพ้ต่อปัญหา ขอให้ค้าขายดียิ่งขึ้น มีกำไรมากขึ้นกว่าเดิม
นายกฯยังย้ำ รัฐบาลอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ ไม่เคยทอดทิ้ง ต่อให้มีปัญหามากแค่ไหนก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเดินหน้าไปพร้อมกับประชาชน ขอให้มั่นใจ รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาให้อย่างเต็มที่และที่สุด ขอให้อดทน ก้าวผ่านสถานการณ์ไปพร้อมๆกัน โอกาสนี้นายกฯยังได้หยุดทักทายพูดคุยกับนักศึกษาที่มานั่งทำงานภายในร้านกาแฟว่า กำลังทำอะไร ซึ่งนักศึกษาตอบกลับว่า กำลังเรียนออนไลน์ นายกฯจึงระบุว่า ขอให้เรียนจบแล้วมีงานที่ดีๆทำ ทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ก็จะต่อกัน
จากนั้นนายกฯได้แวะเยี่ยมโรงรับจำนำ โดยได้สอบถามผู้ประกอบการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผู้ประกอบการตอบว่า เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่นายกฯ มาดีแล้ว อย่างอื่นถึงจะไม่ค่อยดี แต่ก็เห็นว่าค่อยๆ เริ่มฟื้น จึงขอบคุณนายกฯ ที่ช่วยดูแล ก่อนที่นายกฯ กล่าวว่า "สงสารประชาชน"และคว้ามือมาจับเพื่อให้กำลังใจ ก่อนกล่าวอีกว่า "โรงรับจำนำคือธนาคารของคนจน"
ก่อนทักทายร้านน้ำแข็ง ร้านขายน้ำ และแวะพูดคุยกับพนักงานปั้มน้ำมัน ขณะที่พนักงานปั้ม ได้ถามนายกฯว่า ราคาน้ำมันจะแพงอีกนานหรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวตอบว่า รัฐบาลจะอุดหนุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
อย่างไรก็ตามตลอดการลงพื้นที่ นายกฯ ย้ำว่าไม่ได้มาหาเสียง และได้ถือโอกาสเดินออกกำลังกายไปด้วย
ทั้งนี้ภายหลังลงพื้นที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นการรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ตนไม่มาก็ได้ยินอยู่แล้ว คิดแทนเขาอยู่แล้ว และอยากมาให้กำลังใจด้วย ไม่ได้มาหาเสียง อย่าไปยุ่งกับเขามาก ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับใคร เดี๋ยวหาว่านายกฯมาเดินหาเสียง ไม่ใช่ บางทีอยู่ทำเนียบรัฐบาลก็คิดอะไรไม่ออก เพราะเรื่องเยอะ เอกสารก็เยอะ อะไรก็เยอะ เราก็ต้องปรึกษาหารือกับคณะทำงานตลอดเวลา ปัญหาเข้ามาหลายเรื่องบางทีซับซ้อน ซึ่งการแก้ไม่ใช่แก้ปุ๊บสั่งปุ๊บแล้วทำได้ ก็ต้องเอากลับมาพิจารณาดูหลายอย่าง อะไรทำได้ก็ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ก็รอเวลานิดนึง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถ้าทำไม่ดีมันก็สุ่มเสียงว่าจะแย่ในอนาคตถ้าเราแก้ไม่ถูกจุด แต่จะให้พอใจร้อยเปอร์เซ็นมันก็ยาก วันนี้ก็ต้องดูต่างประเทศด้วยเขาเดือดร้อนหรือเปล่า ทุกประเทศเดือดร้อน เดือดร้อนหมดทั้งโลก แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ก็หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเราก็เจอโควิดเข้าไป เจอสถานการณ์ความสู้รบรัสเซีย-ยูเครน มันก็ลำบากเหมือนกัน แต่จะทำให้
เมื่อถามว่าการมาลงพื้นที่ด้วยตัวเองทำให้ได้รับกำลังใจทั้งตัวนายกฯและประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ เอามือตบที่อกข้างซ้าย2ครั้ง พร้อมกล่าวว่า กำลังใจผมมีให้กับตัวเอง และขอกำลังใจจากสื่อ
https://www.thaipost.net/hi-light/118505/
นายกฯลงไปพบประชาชนวานนี้ ได้สนทนาเรื่องการทำมาหากินในระยะนี้ ที่อาจซบเซาเพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดโควิด-19หลายปี ในปีนี้ก็เกิดสงครามซ้ำเติมไปอีก
นายกฯให้กำลังใจประชาชน ประชาชนก็มีความหวังว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้ เป็นการพูดคุยที่มีเหตุผลและความเข้าใจกัน เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล
อยากให้นายกฯลงไปคุยกับประชาชนบ่อยๆนะคะ ท่านลงไป ประชาชนก็ดีใจที่ได้บอกกับตัวท่านเอง มีอะไรท่านก็ชี้แจงสาเหตุต่างๆ
นายกฯพบประชาชนน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีค่ะ....
💚มาลาริน/สัญญาณดี..วานนี้ลุงตู่ ออกนอกทำเนียบ เลาะริมคลองทักทายประชาชน
5 เม.ย.2565 - เมื่อเวลา 16.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนล่วงหน้า ทั้งนี้นายกฯ ได้เดินสำรวจพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่บริเวณลานจอดรถข้างตึกบัญชาการ 1 พร้อมระบุว่า มาเดินดูบริเวณที่เตรียมสร้างจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ซึ่งต้องดูแผนก่อน แต่ตนได้สั่งไปแล้ว โดยจะมีการติดตั้ง 2 จุด คือบริเวณลานจอดรถข้างตึกบัญชาการ 1 และบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพราะรัฐบาลส่งเสริมรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีการทยอยดำเนินการใช้ในส่วนของราชการ แต่หลายอย่างก็มีกฎระเบียบต่างๆ ทั้งนี้สำหรับรถส่วนตัวของตนนั้น เมื่อถึงเวลาก็ต้องใช้ โดยต้องดูความพร้อมก่อน
ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้สอบถามสื่อมวลชนว่า รับประทานอาหารที่ไหนในทำเนียบฯ ซึ่งสื่อมวลชนตอบว่า ที่บริเวณตึกบัญชาการ และโรงอาหารอื่นภายในทำเนียบฯ แต่มีจำนวนร้านค้าน้อยลง ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า เพราะคนน้อยลง และจะเป็นแบบนี้ไประยะหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้ก็มีปัญหาอยู่ ทุกอย่างก็ดรอปลงไป รัฐบาลก็รู้และพยายามจะแก้ทุกวัน นายกฯก็คิดแก้ปัญหาทุกวัน จึงไม่อยากให้ใครสร้างปัญหามากนัก
จากนั้นนายกฯ เดินลัดเลาะสำรวจริมคลองผดุงกรุงเกษม ที่กำลังมีการปรับภูมิทัศน์บางส่วน ก่อนจะเดินข้ามสะพานอรทัยออกไปนอกทำเนียบฯ เพื่อเยี่ยมร้านค้าบริเวณใกล้เคียง โดยได้สอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้าถึงการค้าขายในช่วงนี้ที่ยังประสบภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีบางรายระบุว่า เศรษฐกิจช่วงนี้แย่ ขณะที่นายกฯขอให้เข้าใจสถานการณ์ในช่วงนี้ พร้อมให้กำลังใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ขอให้มีสติ ใช้สตินำทาง วันนี้ทุกคนประสบปัญหาเหมือนๆ กัน แม้สถานการณ์จะไม่ค่อยดี แต่ถ้ามีกำลังใจที่ดีจะช่วยให้ผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆ ไปได้ ขออย่ายอมแพ้ต่อปัญหา ขอให้ค้าขายดียิ่งขึ้น มีกำไรมากขึ้นกว่าเดิม
นายกฯยังย้ำ รัฐบาลอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ ไม่เคยทอดทิ้ง ต่อให้มีปัญหามากแค่ไหนก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเดินหน้าไปพร้อมกับประชาชน ขอให้มั่นใจ รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาให้อย่างเต็มที่และที่สุด ขอให้อดทน ก้าวผ่านสถานการณ์ไปพร้อมๆกัน โอกาสนี้นายกฯยังได้หยุดทักทายพูดคุยกับนักศึกษาที่มานั่งทำงานภายในร้านกาแฟว่า กำลังทำอะไร ซึ่งนักศึกษาตอบกลับว่า กำลังเรียนออนไลน์ นายกฯจึงระบุว่า ขอให้เรียนจบแล้วมีงานที่ดีๆทำ ทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ก็จะต่อกัน
จากนั้นนายกฯได้แวะเยี่ยมโรงรับจำนำ โดยได้สอบถามผู้ประกอบการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผู้ประกอบการตอบว่า เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่นายกฯ มาดีแล้ว อย่างอื่นถึงจะไม่ค่อยดี แต่ก็เห็นว่าค่อยๆ เริ่มฟื้น จึงขอบคุณนายกฯ ที่ช่วยดูแล ก่อนที่นายกฯ กล่าวว่า "สงสารประชาชน"และคว้ามือมาจับเพื่อให้กำลังใจ ก่อนกล่าวอีกว่า "โรงรับจำนำคือธนาคารของคนจน"
ก่อนทักทายร้านน้ำแข็ง ร้านขายน้ำ และแวะพูดคุยกับพนักงานปั้มน้ำมัน ขณะที่พนักงานปั้ม ได้ถามนายกฯว่า ราคาน้ำมันจะแพงอีกนานหรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวตอบว่า รัฐบาลจะอุดหนุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
อย่างไรก็ตามตลอดการลงพื้นที่ นายกฯ ย้ำว่าไม่ได้มาหาเสียง และได้ถือโอกาสเดินออกกำลังกายไปด้วย
ทั้งนี้ภายหลังลงพื้นที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นการรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ตนไม่มาก็ได้ยินอยู่แล้ว คิดแทนเขาอยู่แล้ว และอยากมาให้กำลังใจด้วย ไม่ได้มาหาเสียง อย่าไปยุ่งกับเขามาก ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับใคร เดี๋ยวหาว่านายกฯมาเดินหาเสียง ไม่ใช่ บางทีอยู่ทำเนียบรัฐบาลก็คิดอะไรไม่ออก เพราะเรื่องเยอะ เอกสารก็เยอะ อะไรก็เยอะ เราก็ต้องปรึกษาหารือกับคณะทำงานตลอดเวลา ปัญหาเข้ามาหลายเรื่องบางทีซับซ้อน ซึ่งการแก้ไม่ใช่แก้ปุ๊บสั่งปุ๊บแล้วทำได้ ก็ต้องเอากลับมาพิจารณาดูหลายอย่าง อะไรทำได้ก็ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ก็รอเวลานิดนึง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถ้าทำไม่ดีมันก็สุ่มเสียงว่าจะแย่ในอนาคตถ้าเราแก้ไม่ถูกจุด แต่จะให้พอใจร้อยเปอร์เซ็นมันก็ยาก วันนี้ก็ต้องดูต่างประเทศด้วยเขาเดือดร้อนหรือเปล่า ทุกประเทศเดือดร้อน เดือดร้อนหมดทั้งโลก แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ก็หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเราก็เจอโควิดเข้าไป เจอสถานการณ์ความสู้รบรัสเซีย-ยูเครน มันก็ลำบากเหมือนกัน แต่จะทำให้
เมื่อถามว่าการมาลงพื้นที่ด้วยตัวเองทำให้ได้รับกำลังใจทั้งตัวนายกฯและประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ เอามือตบที่อกข้างซ้าย2ครั้ง พร้อมกล่าวว่า กำลังใจผมมีให้กับตัวเอง และขอกำลังใจจากสื่อ
https://www.thaipost.net/hi-light/118505/
นายกฯให้กำลังใจประชาชน ประชาชนก็มีความหวังว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้ เป็นการพูดคุยที่มีเหตุผลและความเข้าใจกัน เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล
อยากให้นายกฯลงไปคุยกับประชาชนบ่อยๆนะคะ ท่านลงไป ประชาชนก็ดีใจที่ได้บอกกับตัวท่านเอง มีอะไรท่านก็ชี้แจงสาเหตุต่างๆ
นายกฯพบประชาชนน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีค่ะ....