JJNY : ปาย ฝุ่นยังสูง│'เศรษฐา'ลุยหาเสียง ฝรั่งรุมขอถ่ายรูป│'พิธา' ซัด รบ.ซื้อเรือดำน้ำ│นักปั่นยูเครนเสียชีวิตที่บาคมุต

ปายแม่ฮ่องสอน ปริมาณฝุ่นยังสูง หนักสุดในประเทศ 256 ไมโครกรัม
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3919955
 
 
ปายแม่ฮ่องสอน ปริมาณฝุ่นยังสูง หนักสุดในประเทศ 256 ไมโครกรัม
 
วันที่ 10 เมษายน ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ
สรุปดังนี้ ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.สิงห์บุรี จ.หนองคาย จ.เลย และ จ. อุบลราชธานี

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 40 – 256 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 33 – 67 มคก./ลบ.ม.
ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 14 – 51 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 8 – 30 มคก./ลบ.ม.
ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 11 – 21 มคก./ลบ.ม.
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10 – 37 มคก./ลบ.ม.
 
วันเดียวกัน กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ขอรายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2566 ดังนี้
 
วันที่ 11 – 13 เมษายน 66 สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่อย่างไรก็ตามวันที่ 14-17 เมษายน 2566 อาจมีสภาพอากาศที่ปิดได้ในบางพื้นที่ จึงควคเพิ่มการเฝ้าระวัง
 
พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 11- 17 เม.ย. 66 ซึ่งจังหวัดที่ควรเน้นการเฝ้าระวังได้แก่จังหวัดเชียงราย และน่าน
 

 
วันเดียว 4 จว. 'เศรษฐา' ลุยหาเสียง ชาวบ้านปรบมือรับ ฝรั่งรุมขอถ่ายรูป ถามใช่นายกฯ คนต่อไปมั้ย
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7605290

วันเดียว 4 จว. ‘เศรษฐา’ ลุยหาเสียง พ่อค้าแม่ค้า-ชาวบ้าน ปรบมือรับ ตะโกนลั่น ว่าที่นายกฯ ฝรั่งรุมขอถ่ายรูป ถามใช่นายกฯ คนต่อไปมั้ย
 
เมื่อเวลา 21.25 น. วันที่ 9 เม.ย.66 ที่ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 เบอร์ 1 นายโกวิทย์ พิริยะอานันท์ เขต 2 เบอร์ 10 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เบอร์ 7 เดินถนนคนเดินประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ทักทายพ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเดินเที่ยวถนนคนเดิน
 
ก่อนแวะนั่งล้อมวงทานอาหารเหนือริมทาง โดยระหว่างทางพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณถนนคนเดินกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นปรบมือ พร้อมตะโกน “ว่าที่นายกฯ ” ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างรุมขอถ่ายภาพคู่กับ นายเศรษฐา พร้อมกับถาม นายเศรษฐา ว่าใช่นายกฯ คนต่อไปหรือไม่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายเศรษฐาได้ใช้เวลาลงพื้นที่หาเสียงรวมทั้งสิ้น 4 จังหวัด คือช่วงเช้าที่ จ.น่าน ช่วงบ่ายที่ จ.แพร่ ช่วงเย็นที่ จ.ลำปาง และช่วงค่ำที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีภารกิจตั้งแต่การแวะชมแหล่งผลิตเสื้อม่อฮ่อม รับฟังปัญหาจากกลุ่มเกษตรกร ปราศรัยย่อย ขึ้นรถแห่หาเสียง ขึ้นปราศรัยใหญ่ และเดินถนนคนเดินท่าแพ



'พิธา' ปัดแซะ พท. แจกเงินดิจิทัล 10,000 ซัด รบ.ซื้อเรือดำน้ำ ไม่เห็นถามเอางบจากไหน
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7605140

‘พิธา’ ปัดแซะ พท. แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท หวังได้นั่งคุย ‘เศรษฐา’ ที่ทำเนียบฯ ซัดรัฐบาลซื้อเรือดำน้ำ ไม่เห็นถามเอางบจากไหน
 
วันที่ 9 เม.ย. 2566 ที่ตลาดนัดหน้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ บางแค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประกาศบนเวทีปราศรัยว่ามีพรรคอื่นค่อนแคะนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า การค่อนแคะไม่ใช่เจตนาของพรรคก้าวไกล ตนหวังว่าวันหนึ่งคงจะได้นั่งกับนายเศรษฐาในทำเนียบรัฐบาล และพูดคุยเรื่องรายละเอียดการทำนโยบายนี้ ซึ่งในรายละเอียดหากจะดำเนินการได้ต้องมีการแก้กฎหมายก่อนตาม พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล
 
เราเห็นด้วยเรื่องที่จะเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะเราก็มีนโยบายหวยใบเสร็จที่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นในการทำเหมือนกัน เราสนับสนุนในการที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในรายละเอียดยังมีอะไรที่ต้องมาพูดคุยกัน และเรื่องกฎหมายที่ต้องแก้ก็ต้องใช้เวลา” นายพิธากล่าว
 
เมื่อถามว่ามีการมองว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นทุนนิยม แต่ของพรรคก้าวไกลเป็นรัฐสวัสดิการ เมื่อจับมือร่วมรัฐบาลแล้วจะเกิดปัญหาหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า หากเราเอาประชาชนเป็นที่ตั้งและไม่ให้นามสกุลกับนโยบายของแต่ละพรรค จนกีดกันทำให้กลายเป็นสองขั้ว ตนมองว่าทั้ง 2 แบบ เป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมายาวนาน ขณะเดียวกันบริบทที่เกิดขึ้นโควิด-19 ที่สมัยก่อนคนจะปฏิเสธรัฐสวัสดิการ ตอนนี้ทำให้เห็นภาพว่ารัฐมีหน้าที่ดูแลประชาชนและเป็นเรื่องปกติในการหางบประมาณมาดำเนินการ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเป็นขั้วรัฐบาลที่ดีที่สุด
 
ในอดีตเวลาซื้อเรือดำน้ำ ไม่เห็นมีใครถามเลยว่าเอางบมาจากไหน เวลาทำรัฐสวัสดิการ ถามกันจังเลยว่าเอางบมาจากไหน เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าบางสิ่งก็สามารถพูดคุยกันและหาทางออกโดยที่ไม่ได้ติดอยู่ที่นามสกุล” นายพิธากล่าว

เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/
#โหวตอนาคต
#โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์
#เลือกตั้ง66
#มติชนเลือกตั้ง66
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่