คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 128,760,443 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,191 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,036.2 ล้านโดส
(28 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 11,191 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 559 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 217 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,036.2 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 374.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 128,760,443 โดส
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 11,191 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 128,760,443 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 55,321,487 โดส (83.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 50,247,181 โดส (75.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 23,191,775 โดส (35% ของประชากร)
2) อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 28 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 128,760,443 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 110,982 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 196,666 โดส/วัน
3) อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,915,195 โดส
- เข็มที่ 2 3,602,367 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,980,973 โดส
- เข็มที่ 2 28,548,052 โดส
- เข็มที่ 3 5,442,259 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,562,830 โดส
- เข็มที่ 2 7,255,637 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 10,090,486 โดส
- เข็มที่ 2 9,947,766 โดส
- เข็มที่ 3 14,126,392 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 772,003 โดส
- เข็มที่ 2 893,349 โดส
- เข็มที่ 3 3,623,124 โดส
4) ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,036,234,224 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 374,352,113 โดส (71%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 205,002,757 โดส (82%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 147,986,939 โดส (63.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 128,760,443 โดส (83.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 68,701,958 โดส (84.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 48,708,905 โดส (47.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 37,829,608 โดส (87.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,780,673 โดส (93%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 10,048,983 โดส (76%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 1,061,845 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
5) จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.8%
2. ยุโรป 9.93%
3. อเมริกาเหนือ 8.48%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.21%
5. แอฟริกา 3.96%
6. โอเชียเนีย 0.62%
6) ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,247.62 ล้านโดส (229.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,830.29 ล้านโดส (132.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 559.48 ล้านโดส (166.9%)
4. บราซิล จำนวน 410.86 ล้านโดส (194%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 374.35ล้านโดส (135.7%)
7) ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (311.4%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (263.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (258.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. กาตาร์ (245.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
5. มัลดีฟส์ (241.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
6. บรูไน (240.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
7. ฝรั่งเศส (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
8. เกาหลีใต้ (235.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
9. สิงคโปร์ (234.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. ภูฏาน (233.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm Pfizer/BioNTech AstraZeneca/Oxford และ Sputnik V)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/285759077078865
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 128,760,443 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,191 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,036.2 ล้านโดส
(28 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 11,191 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 559 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 217 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,036.2 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 374.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 128,760,443 โดส
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 11,191 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 128,760,443 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 55,321,487 โดส (83.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 50,247,181 โดส (75.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 23,191,775 โดส (35% ของประชากร)
2) อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 28 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 128,760,443 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 110,982 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 196,666 โดส/วัน
3) อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,915,195 โดส
- เข็มที่ 2 3,602,367 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,980,973 โดส
- เข็มที่ 2 28,548,052 โดส
- เข็มที่ 3 5,442,259 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,562,830 โดส
- เข็มที่ 2 7,255,637 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 10,090,486 โดส
- เข็มที่ 2 9,947,766 โดส
- เข็มที่ 3 14,126,392 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 772,003 โดส
- เข็มที่ 2 893,349 โดส
- เข็มที่ 3 3,623,124 โดส
4) ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,036,234,224 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 374,352,113 โดส (71%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 205,002,757 โดส (82%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 147,986,939 โดส (63.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 128,760,443 โดส (83.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 68,701,958 โดส (84.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 48,708,905 โดส (47.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 37,829,608 โดส (87.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,780,673 โดส (93%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 10,048,983 โดส (76%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 1,061,845 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
5) จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.8%
2. ยุโรป 9.93%
3. อเมริกาเหนือ 8.48%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.21%
5. แอฟริกา 3.96%
6. โอเชียเนีย 0.62%
6) ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,247.62 ล้านโดส (229.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,830.29 ล้านโดส (132.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 559.48 ล้านโดส (166.9%)
4. บราซิล จำนวน 410.86 ล้านโดส (194%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 374.35ล้านโดส (135.7%)
7) ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (311.4%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (263.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (258.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. กาตาร์ (245.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
5. มัลดีฟส์ (241.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
6. บรูไน (240.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
7. ฝรั่งเศส (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
8. เกาหลีใต้ (235.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
9. สิงคโปร์ (234.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. ภูฏาน (233.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm Pfizer/BioNTech AstraZeneca/Oxford และ Sputnik V)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/285759077078865
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน💗29มี.ค.ไม่ติดTop10โลก/ป่วย21,678คน หาย27,183คน ตาย78คน/อย.แนะวิธีใช้สิ่งฆ่าเชื้อโรค/อภ.ทยอยส่งยารักษาโควิด
https://www.bangkokbiznews.com/social/996274
https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/covid-19/838229/
อภ.ทยอยส่ง "ฟาวิพิราเวียร์" 30 ล้านเม็ดในกลางเม.ย. จัดหาเพิ่มร่วม "โมลนูพิราเวียร์" อีก 75 ล้านเม็ดรองรับสงกรานต์
อภ.เผยเตรียมทยอยส่ง "ยาฟาวิพิราเวียร์" ให้ รพ.ต่างๆ ตามแผนของ สธ.อีก 30 ล้านเม็ดในช่วงกลาง เม.ย.นี้ พร้อมเร่งจัดหายาฟาวพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์รวมอีก 75 ล้านเม็ด เบื้องต้นเป้นฟาวิพิราเวียร์ 50 ล้านเม็ด กระจายส่งในช่วง เม.ย. ส่วนโมลนูพิราเวียร์กำลังต่อรองราคาเพื่อกำหนดจำนวน หากชัดเจนลงนามแล้ว บริษัทพร้อมส่ง 10 ล้านเม็ดใน 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ว่า ช่วงปลาย ก.พ. 2565 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แจ้งให้ อภ.สำรองยาฟาวิพิราเวียร์ 110 ล้านเม็ด ซึ่งขณะนี้เราทยอยส่งมอบไปแล้ว 80 ล้านเม็ด เหลืออีก 30 ล้านเม็ด ซึ่งจะทยอยส่งอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงกลาง เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่อาจจะมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น เพื่อให้มียาสำรองอย่างเพียงพอ เมื่อช่วงปลาย มี.ค. 2565 สธ.จึงแจ้งแผนความต้องการยาฟาวิพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์รวม 75 ล้านเม็ด โดยเบื้องต้นจะเป็นยาฟาวิพิราเวียร์ 50 ล้านเม็ด ทยอยส่งในช่วงกลาง เม.ย.นี้ 30 ล้านเม็ด และช่วงปลายเม.ย.อีก 20 ล้านเม็ด ถือว่ามีจำนวนมากเพียงพอที่จะใช้ในการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งสำหรับยาฟาวิพิราเวียร์มีทั้งส่วน อภ.ผลิตได้เองและนำเข้า กระจายยาไปหน่วยงานต่างๆ ตามที่รับแจ้งจากทาง สธ. ขอให้สบายใจได้ว่าเรามีการสำรองและติดตามอย่างใกล้ชิด
"ส่วนอีก 25 ล้านเม็ดที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นยาโมลนูพิราเวียร์งหมดหรือไม่ ขณะนี้อยู่หารือและต่อรองราคากับบริษัทในจีนและอินเดีย ซึ่งยังไม่ได้ลงนามจัดซื้อ โดยจะต้องรอดูเรื่องของราคาก่อน เพราะหากราคาแพงก็จะได้จำนวนเม็ดลดลง แต่คิดว่าอีกไม่นานจะทราบในเรื่องของราคา และจะแจ้งแก่ สธ.เพื่อพิจารณาว่าจะจัดซื้อจำนวนเท่าใด ซึ่งเมื่อลงนามในสัญญาแล้วทางบริษัทยืนยันว่าสามารถจัดส่งให้ได้จำนวน 10 ล้านเม็ดใน 2 สัปดาห์หลังลงนาม แต่จำนวนที่เราจะสั่งซื้อจริงๆ อยู่ที่ว่าราคาเท่าใด" ภญ.ศิริกุล กล่าว
https://mgronline.com/qol/detail/9650000030358
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
วันนี้ไทยไม่ติดTop10โลก.....
หายป่วยมากกว่าป่วยใหม่จำนวนมาก....
วันนี้มีข่าวยารักษาโควิดเตรียมพร้อมรับมือเทศกาลสงกรานต์.....
ติดง่ายหายเร็ว แต่ไม่อยากติดเชื้อโควิด ดูแลตัวเองด้วยนะคะ
ใครติดเชื้อก็ไม่ต้องตกใจค่ะ รักษาตัวด้วย
มาลารินขอรอดปลอดภัย ดูแลตัวเองอย่างสุดๆค่ะ
.....💕💕