คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539058541045808
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 9 เม.ย. 2565)
รวม 131,154,980 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 9 เมษายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 291,290 โดส
เข็มที่ 1 : 58,868 ราย
เข็มที่ 2 : 64,475 ราย
เข็มที่ 3 : 167,947 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 55,910,538 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 50,577,061 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 24,667,381 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539057034379292
มท. เน้นมาตรการ 3 ระดับ ดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ครอบครัว ตำบล/หมู่บ้าน และจังหวัด
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการสำหรับสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงมหาดไทย กำชับทางจังหวัด ว่าสามารถจัดงานได้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนมีความสุขกับเทศกาลสงกรานต์ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องไปกำกับดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อให้มีความสุขกับมาตรการช่วงสงกรานต์ โดยไม่ละเลยการป้องกันตนเอง
กระทรวงมหาดไทย มีมาตรการป้องกันใน 3 ระดับ เริ่มจากครอบครัว จะทำอย่างไรให้เกิดประเพณีที่ปลอดภัย ระดับตำบล หมู่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามและโรคภัยไข้เจ็บไม่มาเยือน ส่วนระดับจังหวัด จะมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้ามาดูแลให้คำแนะนำ ว่าจะทำกิจกรรมอย่างไรจึงจะเหมาะสม โดยจะสำรวจว่าจุดไหนที่จะมีการจัดงานขนาดใหญ่ จากนั้นก็จะมีการกำหนดมาตรการ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เชื่อว่า ถ้าเตรียมความพร้อมดีและได้รับความร่วมมือจากประชาชน จะทำให้ประชาชนมีความสุขกับเทศกาลสงกรานต์และมีความปลอดภัยจากโรค
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539048837713445
สปสช.ยัน "เจอ แจก จบ" ผ่าน "ร้านยา" โปร่งใส ผู้ติดเชื้อโควิดต้องลงทะเบียน เบิกจ่ายตรงไม่ผ่านคนกลาง
สปสช. ชี้แจง “บริการ เจอ แจก จบ ที่ร้านยา” ความร่วมมือ สภาเภสัชกรรม ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เพิ่มความสะดวกเข้ารับการรักษา กรณีการจ่ายชดเชยค่าบริการมีระบบพิสูจน์ตัวตนผู้เข้ารับบริการ การบันทึกผลผ่านระบบ AMED พร้อมใช้วิธีจ่ายตรงร้านยาตามบัญชีที่ลงทะเบียน ไม่มีจ่ายผ่านคนกลาง ขอความร่วมมือร้านยา หากพบกรณีทุจริตแจ้งตรงที่ “เลขาธิการ สปสช.” จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด พร้อมยืนยัน สปสช.เป็นหน่วยงานแห่งความโปร่งใส
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่ได้มีวิเคราะห์ข่าวในประเด็น “สปสช.ดึง ร้านขายยา 700 แห่ง ดูแลผู้ป่วยโควิด” ทางสื่อออนไลน์ (ฐานเศรษฐกิจออนไลน์) นั้น สปสช.ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการในนโยบายนี้และถูกพาดพิงขอชี้แจงว่า นโยบายในการดึงร้านยา 700 แห่ง ร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการให้บริการแบบผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน หรือ “เจอ แจก จบ” เนื่องด้วยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มสูงอย่างมาก และส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก สปสช. ได้ร่วมมือกับสภาเภสัชกรรม เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้าถึงระบบบริการรักษาโดยสะดวก ขณะเดียวกันยังลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการรักษาให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการมากทั้งกลุ่มสีเหลืองและสีแดง และผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีร้านยาทยอยขึ้นทะเบียนในระบบกับ สปสช.แล้ว 500 แห่ง
สำหรับร้านยาที่เข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ตามนโยบายนี้ มีหลักเกณฑ์ระบุชัดเจนต้องเป็นร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ โดยได้รับการเชิญชวนและคำแนะนำจากสภาเภสัชกรรมในการเข้าร่วมให้บริการ ซึ่งขณะนี้มีร้านยาที่สนใจและสมัครเข้ามาประมาณ 700 แห่ง ขึ้นทะเบียนในระบบแล้ว 500 แห่ง
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ขั้นตอนการเข้ารับริการเจอ แจก จบ ที่ร้านยานั้น เช่นเดียวกับการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการอื่นๆ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยก่อนให้บริการจะมีการพิสูจน์ตัวตนของผู้รับบริการเพื่อยืนยันการเข้ารับบริการโดยใช้บัตรประชาชน และบันทึกข้อมูลการให้บริการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth ระบบบริการการแพทย์ทางไกล ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการบันทึกข้อมูลเพื่อส่งเบิกกับ สปสช.
ทั้งนี้ในส่วนของการจ่ายชดเชยค่าบริการให้กับร้านยารายละ 700 บาทนั้น สปสช.วางระบบเป็นการจ่ายตรงเข้าบัญชีของร้านยาตามที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่มีการจ่ายผ่านคนกลางแต่อย่างใด ซึ่งตามที่ได้เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังมีจำนวนการเบิกค่าบริการเข้ามาไม่มาก มีเพียงราว 1,200 รายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามขอเรียนไปยังร้านยาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการว่า ท่านสามารถสมัครเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงที่ สปสช. และหากพบว่ามีการทุจริตหรือมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในขั้นตอนใด ขอให้แจ้งโดยตรงที่เลขาธิการ สปสช. จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539071764377819
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565 จำนวน 108 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539063384378657
กทม. ขอความร่วมมือประชาชนเตรียมตัวให้พร้อมรับเทศกาลสงกรานต์ ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่าง และหลังเดินทางกลับ กลุ่มเสี่ยง 608 ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนควรฉีดให้ครบทุกคน
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางไปร่วมงานสงกรานต์และเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพบปะสังสรรค์ในครอบครัว และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ รวมทั้งอาจมีกิจกรรมที่อาจต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดกัน กรุงเทพมหานครจึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อความปลอดภัยของตนเองและบุคคลในครอบครัว ทั้งในช่วงก่อนเดินทาง ขณะเดินทางและหลังเดินทาง โดยก่อนการเดินทางไปร่วมงาน ประชาชนทั่วไปที่ต้องมีการเดินทาง และกลุ่ม608 (ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโรค) ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ มีการประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือตรวจ ATK ก่อนเดินทาง หรือก่อนร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง ขณะเดินทางให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ งดรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถสาธารณะ ระหว่างเข้าร่วมงาน ควรเล่นน้ำและร่วมกิจกรรมตามประเพณีเฉพาะในพื้นที่ที่มีการขออนุญาต ห้ามประแป้ง จัดปาร์ตี้โฟม และบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน สำหรับกิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัว ผู้สูงอายุในครอบครัวทุกคนควรได้รับวัคซีนให้ครบ การจัดงานควรจัดในพื้นที่เปิดโล่งที่มีการระบายอากาศได้ดี ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิด เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน และหลังกลับจากงานสงกรานต์ ให้สังเกตอาการตนเอง 7-10 วัน หากพบว่ามีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจหรือมีความเสี่ยง ให้ตรวจด้วย ATK ทันที และหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็น สำหรับหน่วยงานหรือสถานประกอบการให้พิจารณามาตรการ Work From Home ตามความเหมาะสม
ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539081154376880
ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายคนคงวางแผนเดินทางกลับบ้าน หรือไปเที่ยว อย่างไรก็ตามในภาวะที่ยังมีการระบาดของเชื้อโควิด เราควรสังเกตอาการตัวเองและคนรอบข้างก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันไม่นำพาเชื้อไปติดคนที่เรารัก การเดินทางครั้งนี้จะได้ทั้งปลอดภัยและปลอดเชื้อกันทุกคน
ที่มา : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539084114376584
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539058541045808
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 9 เม.ย. 2565)
รวม 131,154,980 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 9 เมษายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 291,290 โดส
เข็มที่ 1 : 58,868 ราย
เข็มที่ 2 : 64,475 ราย
เข็มที่ 3 : 167,947 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 55,910,538 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 50,577,061 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 24,667,381 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539057034379292
มท. เน้นมาตรการ 3 ระดับ ดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ครอบครัว ตำบล/หมู่บ้าน และจังหวัด
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการสำหรับสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงมหาดไทย กำชับทางจังหวัด ว่าสามารถจัดงานได้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนมีความสุขกับเทศกาลสงกรานต์ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องไปกำกับดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อให้มีความสุขกับมาตรการช่วงสงกรานต์ โดยไม่ละเลยการป้องกันตนเอง
กระทรวงมหาดไทย มีมาตรการป้องกันใน 3 ระดับ เริ่มจากครอบครัว จะทำอย่างไรให้เกิดประเพณีที่ปลอดภัย ระดับตำบล หมู่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามและโรคภัยไข้เจ็บไม่มาเยือน ส่วนระดับจังหวัด จะมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้ามาดูแลให้คำแนะนำ ว่าจะทำกิจกรรมอย่างไรจึงจะเหมาะสม โดยจะสำรวจว่าจุดไหนที่จะมีการจัดงานขนาดใหญ่ จากนั้นก็จะมีการกำหนดมาตรการ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เชื่อว่า ถ้าเตรียมความพร้อมดีและได้รับความร่วมมือจากประชาชน จะทำให้ประชาชนมีความสุขกับเทศกาลสงกรานต์และมีความปลอดภัยจากโรค
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539048837713445
สปสช.ยัน "เจอ แจก จบ" ผ่าน "ร้านยา" โปร่งใส ผู้ติดเชื้อโควิดต้องลงทะเบียน เบิกจ่ายตรงไม่ผ่านคนกลาง
สปสช. ชี้แจง “บริการ เจอ แจก จบ ที่ร้านยา” ความร่วมมือ สภาเภสัชกรรม ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เพิ่มความสะดวกเข้ารับการรักษา กรณีการจ่ายชดเชยค่าบริการมีระบบพิสูจน์ตัวตนผู้เข้ารับบริการ การบันทึกผลผ่านระบบ AMED พร้อมใช้วิธีจ่ายตรงร้านยาตามบัญชีที่ลงทะเบียน ไม่มีจ่ายผ่านคนกลาง ขอความร่วมมือร้านยา หากพบกรณีทุจริตแจ้งตรงที่ “เลขาธิการ สปสช.” จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด พร้อมยืนยัน สปสช.เป็นหน่วยงานแห่งความโปร่งใส
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่ได้มีวิเคราะห์ข่าวในประเด็น “สปสช.ดึง ร้านขายยา 700 แห่ง ดูแลผู้ป่วยโควิด” ทางสื่อออนไลน์ (ฐานเศรษฐกิจออนไลน์) นั้น สปสช.ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการในนโยบายนี้และถูกพาดพิงขอชี้แจงว่า นโยบายในการดึงร้านยา 700 แห่ง ร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการให้บริการแบบผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน หรือ “เจอ แจก จบ” เนื่องด้วยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มสูงอย่างมาก และส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก สปสช. ได้ร่วมมือกับสภาเภสัชกรรม เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้าถึงระบบบริการรักษาโดยสะดวก ขณะเดียวกันยังลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการรักษาให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการมากทั้งกลุ่มสีเหลืองและสีแดง และผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีร้านยาทยอยขึ้นทะเบียนในระบบกับ สปสช.แล้ว 500 แห่ง
สำหรับร้านยาที่เข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ตามนโยบายนี้ มีหลักเกณฑ์ระบุชัดเจนต้องเป็นร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ โดยได้รับการเชิญชวนและคำแนะนำจากสภาเภสัชกรรมในการเข้าร่วมให้บริการ ซึ่งขณะนี้มีร้านยาที่สนใจและสมัครเข้ามาประมาณ 700 แห่ง ขึ้นทะเบียนในระบบแล้ว 500 แห่ง
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ขั้นตอนการเข้ารับริการเจอ แจก จบ ที่ร้านยานั้น เช่นเดียวกับการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการอื่นๆ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยก่อนให้บริการจะมีการพิสูจน์ตัวตนของผู้รับบริการเพื่อยืนยันการเข้ารับบริการโดยใช้บัตรประชาชน และบันทึกข้อมูลการให้บริการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth ระบบบริการการแพทย์ทางไกล ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการบันทึกข้อมูลเพื่อส่งเบิกกับ สปสช.
ทั้งนี้ในส่วนของการจ่ายชดเชยค่าบริการให้กับร้านยารายละ 700 บาทนั้น สปสช.วางระบบเป็นการจ่ายตรงเข้าบัญชีของร้านยาตามที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่มีการจ่ายผ่านคนกลางแต่อย่างใด ซึ่งตามที่ได้เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังมีจำนวนการเบิกค่าบริการเข้ามาไม่มาก มีเพียงราว 1,200 รายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามขอเรียนไปยังร้านยาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการว่า ท่านสามารถสมัครเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงที่ สปสช. และหากพบว่ามีการทุจริตหรือมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในขั้นตอนใด ขอให้แจ้งโดยตรงที่เลขาธิการ สปสช. จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539071764377819
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565 จำนวน 108 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539063384378657
กทม. ขอความร่วมมือประชาชนเตรียมตัวให้พร้อมรับเทศกาลสงกรานต์ ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่าง และหลังเดินทางกลับ กลุ่มเสี่ยง 608 ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนควรฉีดให้ครบทุกคน
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางไปร่วมงานสงกรานต์และเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพบปะสังสรรค์ในครอบครัว และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ รวมทั้งอาจมีกิจกรรมที่อาจต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดกัน กรุงเทพมหานครจึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อความปลอดภัยของตนเองและบุคคลในครอบครัว ทั้งในช่วงก่อนเดินทาง ขณะเดินทางและหลังเดินทาง โดยก่อนการเดินทางไปร่วมงาน ประชาชนทั่วไปที่ต้องมีการเดินทาง และกลุ่ม608 (ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโรค) ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ มีการประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือตรวจ ATK ก่อนเดินทาง หรือก่อนร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง ขณะเดินทางให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ งดรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถสาธารณะ ระหว่างเข้าร่วมงาน ควรเล่นน้ำและร่วมกิจกรรมตามประเพณีเฉพาะในพื้นที่ที่มีการขออนุญาต ห้ามประแป้ง จัดปาร์ตี้โฟม และบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน สำหรับกิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัว ผู้สูงอายุในครอบครัวทุกคนควรได้รับวัคซีนให้ครบ การจัดงานควรจัดในพื้นที่เปิดโล่งที่มีการระบายอากาศได้ดี ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิด เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน และหลังกลับจากงานสงกรานต์ ให้สังเกตอาการตนเอง 7-10 วัน หากพบว่ามีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจหรือมีความเสี่ยง ให้ตรวจด้วย ATK ทันที และหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็น สำหรับหน่วยงานหรือสถานประกอบการให้พิจารณามาตรการ Work From Home ตามความเหมาะสม
ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539081154376880
ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายคนคงวางแผนเดินทางกลับบ้าน หรือไปเที่ยว อย่างไรก็ตามในภาวะที่ยังมีการระบาดของเชื้อโควิด เราควรสังเกตอาการตัวเองและคนรอบข้างก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันไม่นำพาเชื้อไปติดคนที่เรารัก การเดินทางครั้งนี้จะได้ทั้งปลอดภัยและปลอดเชื้อกันทุกคน
ที่มา : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/539084114376584
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน❤10เม.ย.ติดเชื้อใหม่Top10โลก/ป่วย25,139คน หาย25,509คน ตาย108คน/หวังวัคซีนสูงวัยลดรุนแรงช่วงสงกรานต์/นายกฯแนะ
https://www.sanook.com/news/8544958/
https://www.bangkokbiznews.com/news/998506
สูงวัยฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 แล้วกว่า 3 ล้านคน หลังส่ง อสม.ไปชวนฉีดได้อีกกว่า 5 แสนคน หวังลดรุนแรงช่วงสงกรานต์
สบส.เผยผล อสม.ชวนสูงวัยฉีดวัคซีนโควิดก่อนสงกรานต์ 15 มี.ค.- 6 เม.ย. มีสูงอายุฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกว่า 5 แสนคน ภาพรวมทั่วประเทศสูงอายุฉีดเข็ม 3 แล้วกว่า 3 ล้านคน เดินหน้าชวนฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ลดแพร่เชื้อ ป่วยรุนแรง เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 กลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อให้เกิดความปลอดภัยช่วงกลับบ้านสงกรานต์นี้ ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด การป่วยรุนแรง และการเสียชีวิต ซึ่ง สบส.ได้ให้ อสม.และเครือข่ายสุขภาพทุกจังหวัด ร่วมกันเชิญชวนกลุ่มเป้าหมาย 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ไปรับเข็มที่ 1 และ 2 รวมทั้งเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 และ 4 ซึ่งจากการดำเนินงานระหว่างวันที่ 15 มี.ค.- 6 เม.ย. 2565 พบว่า มียอดผู้สูงอายุเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 กว่า 500,000 คน และวัคซีนเข็มที่ 4 กว่า 21,000 คน ทำให้ภาพรวมของทั่วประเทศมีผู้สูงอายุได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากกว่า 3 ล้านคน ซึ่ง สบส.ยังคงมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ฉีดวัคซีนร่วมกับ อสม.อย่างต่อเนื่อง จนกว่าผู้สูงอายุที่มีกว่า 11 ล้านคนทั่วประเทศจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเป้าหมาย และเน้นย้ำให้ อสม.ให้คำแนะนำมาตรการป้องกันเข้มข้นสูงสุด ในช่วงที่ลูกหลานเดินทางมาเยี่ยมช่วงเทศกาล
https://mgronline.com/qol/detail/9650000034677
“บิ๊กตู่” แนะเตรียมพร้อมก่อนเดินทางเทศกาล เน้นมาตรการ Self Clean Up เช็กอาการสม่ำเสมอ
วันนี้ (10 เม.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แนะประชาชนที่จะเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เตรียมพร้อมก่อนเดินทางเน้นมาตรการ Self Clean Up เพื่อให้มั่นใจว่าตนเองปลอดจากเชื้อโควิด-19 ตรวจ ATK คัดกรองตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อและเมื่อถึงภูมิลำเนาควรออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น ไม่ไปในสถานที่เสี่ยง แออัด พร้อมสำรวจอาการตนเองเข้าข่ายได้รับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ อาทิ อาการไอ น้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยเนื้อตัว
มาตรการเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง Self Clean Up มีดังนี้ 1) ขอให้บุตรหลานพาพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ โดยฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ไปฉีดวัคซีน หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น 2) ให้ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention เน้นการสวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้า 3) หลังกลับจากสงกรานต์ ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน ตรวจ ATK เมื่อมีอาการสงสัยติดเชื้อ และ WFH ตามความเหมาะสม
https://mgronline.com/politics/detail/9650000034604
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
ไทยติดเชื้อใหม่ติดTop10โลก แต่อยู่ในระดับทรงตัว
เสียชีวิตเพิ่ม
ในขณะที่ต่างประเทศติดเชื้อลดลง
.....🤟💕🤟