ไอกรนระบาด! ปกป้องคนที่คุณรักด้วยวัคซีน

ไอกรน 🦠 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ กลับมาระบาด! อย่าชะล่าใจ! โรคนี้ไม่ได้มีแค่ในเด็ก ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แถมยังแพร่เชื้อได้ง่ายอีกด้วย! โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม ห่วงใยคุณและคนที่คุณรัก จึงอยากแนะนำวัคซีนป้องกันโรคไอกรน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ลดความรุนแรงของโรค และป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างได้
.
ใครบ้าง? ที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรน
-ทารกและเด็กเล็ก  : เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับวัคซีน DTaP ครบ 5 เข็ม ตามกำหนด
-เด็กโต วัยรุ่น และผู้ใหญ่  : ถึงแม้จะเคยฉีดวัคซีนตอนเด็ก แต่ภูมิคุ้มกันอาจลดลง ควรฉีดวัคซีน Tdap เป็นเข็มกระตุ้น
-หญิงตั้งครรภ์  : การฉีดวัคซีน Tdap ในช่วงไตรมาสที่ 3 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ทั้งแม่และลูกในครรภ์
-ผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับเด็กเล็ก  : เช่น ครู บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ดูแลเด็ก
-ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว  : เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อน
.
วิธีการฉีด
-ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
-สำหรับเด็กเล็ก มักฉีดที่ต้นขา
-สำหรับเด็กโต และผู้ใหญ่ มักฉีดที่ต้นแขน
.
ตารางการฉีด
สำหรับเด็ก
3 เข็มแรก: อายุ 2, 4, 6 เดือน
เข็มที่ 4: อายุ 18 เดือน
เข็มที่ 5: อายุ 4-6 ปี
.
สำหรับผู้ใหญ่
ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน: ควรฉีด Tdap อย่างน้อย 3 เข็ม โดยมีระยะห่าง ดังนี้เข็มที่ 1 ห่างจาก เข็มที่ 2 อย่างน้อย 1 เดือน
เข็มที่ 2 ห่างจาก เข็มที่ 3 อย่างน้อย 6 เดือน
ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนครบแล้ว: ควรฉีดกระตุ้น Tdap หรือ Td (คอตีบ-บาดทะยัก) ทุก 10 ปี
.
หญิงตั้งครรภ์: ควรฉีด Tdap 1 เข็ม ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ ทุกครั้งที่ตั้งครรภ์
หมายเหตุ:
ตารางการฉีด อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ คำแนะนำของแพทย์
.
วัคซีนป้องกันโรคไอกรน ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
อย่ารอให้สายเกินไป! ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนนะคะ

lovelovelove
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่