สังขตธรรม ก็ อนัตตา (ไม่เป็นตัวตนของใคร ด้วยมีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา เมื่อยึดมั่นถือมั่นในสิ่งไม่เที่ยงจนเกินฐานะ ก็เกิดทุกข์เพิ่ม ในสิ่งที่เป็นทุกขังที่ตั้งอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว)
อสังขตธรรม ก็ อนัตตา (ไม่เป็นตัวตนของใคร เป็นธรรมชาติอยู่เช่นนั้น ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย สงบสันติสุขพ้นจาก สังขาร และ ภพ ทั้งหลาย)
นิพพานคือ ความสิ้นกิเลส(สิ้น ราคะ โทสะ โมหะ) เป็น อสังขตธรรม มีคุณสมบัติเป็น อนัตตา
แต่การจะพ้นจาก สังขตธรรม(ธาตุ) ที่หลงอยู่ด้วยอวิชชาที่หาเบื้องต้นไม่ได้นั้น ไม่ใช่เกิดจากการอ่าน การคิดเพียงส่วนเบื้องต้นเท่านั้น ต้องประกอบด้วยการปฏิบัติธรรม จนสมบูรณ์ จนเกิดมัคสมังคีคือ เกิดมรรคญาณ ด้วยโพธิปักขิยธรรม 37 ประการสมบูรณ์สมดุลย์ประชุมรวมกัน จึงพ้นไปจาก สังขตธรรม(ธาตุ) บรรลุถึง อสังขตธรรม(ธาตุ) เป็นเบื้องต้นก่อนในคราวแรก.
ตั้งกระทู้ธรรมที่เข้าใจยากแต่ก็ตั้ง เพื่อเมื่อศึกษาธรรมสมบูรณ์หรือปฏิบัติธรรมจนปฏิเวธก็จะแจ้งชัดขึ้นคือ นิพพาน ก็ อนัตตา
อสังขตธรรม ก็ อนัตตา (ไม่เป็นตัวตนของใคร เป็นธรรมชาติอยู่เช่นนั้น ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย สงบสันติสุขพ้นจาก สังขาร และ ภพ ทั้งหลาย)
นิพพานคือ ความสิ้นกิเลส(สิ้น ราคะ โทสะ โมหะ) เป็น อสังขตธรรม มีคุณสมบัติเป็น อนัตตา
แต่การจะพ้นจาก สังขตธรรม(ธาตุ) ที่หลงอยู่ด้วยอวิชชาที่หาเบื้องต้นไม่ได้นั้น ไม่ใช่เกิดจากการอ่าน การคิดเพียงส่วนเบื้องต้นเท่านั้น ต้องประกอบด้วยการปฏิบัติธรรม จนสมบูรณ์ จนเกิดมัคสมังคีคือ เกิดมรรคญาณ ด้วยโพธิปักขิยธรรม 37 ประการสมบูรณ์สมดุลย์ประชุมรวมกัน จึงพ้นไปจาก สังขตธรรม(ธาตุ) บรรลุถึง อสังขตธรรม(ธาตุ) เป็นเบื้องต้นก่อนในคราวแรก.