เช่น..
(1) สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
ก็ยังสุดโต่งไปจนได้ว่า รวมนิพพานด้วย...
(2) สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา..
ก็ยังสุดโต่งไปว่า นิพพานเป็นอนัตตา ทั้งๆที่รู้ว่า
นิพพานเที่ยง และเป็นสุข...
สายกลางเป็นไฉน...
(1) ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา หมายถึงสังขตธรรมเท่านั้น ไม่รวมอสังขตธรรม
ถ้ารวม นั่นแหละ นั่นแหละสุดโต่ง และเป็นอสัทธรรม
(2) อัตตามีอยู่ แต่ไม่ใช่ขันธ์ 5 ถ้าอัตตาไม่มีอยู่เลยนั่นแหละสุดโต่ง
การไม่เหมารวม การรู้จักแยะแยะและวางไว้ให้ถูกส่วน
นั่นแหละ คือทางสายกลาง
สิ่งที่ใช่ และไม่ใช่ทางสายกลางเป็นไฉน ?
(1) สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
ก็ยังสุดโต่งไปจนได้ว่า รวมนิพพานด้วย...
(2) สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา..
ก็ยังสุดโต่งไปว่า นิพพานเป็นอนัตตา ทั้งๆที่รู้ว่า
นิพพานเที่ยง และเป็นสุข...
สายกลางเป็นไฉน...
(1) ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา หมายถึงสังขตธรรมเท่านั้น ไม่รวมอสังขตธรรม
ถ้ารวม นั่นแหละ นั่นแหละสุดโต่ง และเป็นอสัทธรรม
(2) อัตตามีอยู่ แต่ไม่ใช่ขันธ์ 5 ถ้าอัตตาไม่มีอยู่เลยนั่นแหละสุดโต่ง
การไม่เหมารวม การรู้จักแยะแยะและวางไว้ให้ถูกส่วน
นั่นแหละ คือทางสายกลาง