พระท่านก็พูดไว้ชัดเจนแล้ว แต่คนเราสับสนกันไปเอง
ธรรมทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ (รวมถึงภพสามด้วย) และธรรมที่อยู่พ้นโลกคือนิพพาน
สังขตธรรม = ธรรมที่ยังมีการปรุงแต่ง (มีกิเลส) คือธรรมทั้งหลายที่อยู่ในภพสาม ต้องกลับมาเกิดอีกเพราะยังมีการปรุงแต่ง ยังมีกิเลส ไม่เที่ยง แปรผัน เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน คือธรรมทั้งหลายทั้งปวงในภพสาม....เป็นอนัตตาทั้งหมด
อสังขตธรรม = ธรรมที่ปราศจากการปรุงแต่ง เป็นธาตุล้วนธรรมล้วน ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ไม่มีกิเลส เที่ยง ไม่แปรผัน เป็นสุขอย่างยิ่ง เป็นธาตุธรรมบริสุทธิ์ คือพระนิพพาน.....เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ (เพราะมีคนไม่ยอมเรียกว่าอัตตา) แต่ไม่ใช่อนัตตาแน่...เพราะเป็นธรรมที่อยู่ตรงกันข้าม
อย่าเรียกพระนิพพานว่าเป็นอนัตตาอีกเลยครับ
พระนิพพาน คืออัตตา หรือชื่ออื่นที่มีความหมายว่าบริสุทธิ์ปราศจากการปรุงแต่งและคงที่
ธรรมทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ (รวมถึงภพสามด้วย) และธรรมที่อยู่พ้นโลกคือนิพพาน
สังขตธรรม = ธรรมที่ยังมีการปรุงแต่ง (มีกิเลส) คือธรรมทั้งหลายที่อยู่ในภพสาม ต้องกลับมาเกิดอีกเพราะยังมีการปรุงแต่ง ยังมีกิเลส ไม่เที่ยง แปรผัน เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน คือธรรมทั้งหลายทั้งปวงในภพสาม....เป็นอนัตตาทั้งหมด
อสังขตธรรม = ธรรมที่ปราศจากการปรุงแต่ง เป็นธาตุล้วนธรรมล้วน ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ไม่มีกิเลส เที่ยง ไม่แปรผัน เป็นสุขอย่างยิ่ง เป็นธาตุธรรมบริสุทธิ์ คือพระนิพพาน.....เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ (เพราะมีคนไม่ยอมเรียกว่าอัตตา) แต่ไม่ใช่อนัตตาแน่...เพราะเป็นธรรมที่อยู่ตรงกันข้าม
อย่าเรียกพระนิพพานว่าเป็นอนัตตาอีกเลยครับ