อยากตัดสินใจตั้งกระทู้นี้เพื่อเตือนใจตัวเองครั้งสุดท้าย เราอายุ 17 ลดน้ำหนักมาตลอดชีวิต น้ำหนักอยู่เลข6ตั้งแต่ประถม จนม.3 หนักสุดคือ 68 ด้วยเพราะเริ่มเสพโซเชียล ไปเจอยาลด ตัดสินใจอยู่3เดือน ก็ลองจนได้ ภายใน1เดือนน่ำหนักลงมา 64 แต่โทรมแบบคนใกล้ตาย ทรมารมากๆ อ้วก นอนไม่หลับ เหม็นอาหาร จริงๆมาคิดตอนนี้ คือเราคงลดเพราะกินอะไรไม่ได้แหละ เราหยุดยาเพราะคนที่บ้านจับได้ โยโย่ทันที แบบพุ่งขึ้นไป 75 ตอนนั้นคือตั้งปณิธานแล้วว่า กูจะเป็นคนอ้วน ไม่ลดแล้วไม่ว่าวิธีใดในโลก เดินสายกินอย่างเต็มตัว บุฟเฟ่ต์ไปมาทุกร้านในจังหวัด มีร้านปิ้งย่างเกาหลีที่ไปทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ2-3วันด้วยซ้ำ ไปจนรู้จักกับพนังงานอ่ะ แบบสุดๆ สัดส่วนอยู่ที่ 40/35/40 สูง 155
ช่วงสอบเข้าม.4 ติวหนัก กินน้อยลง น้ำหนักลดมาเหลือ 69 แต่สัดส่วนเท่าเดิม งงป่ะ5555
สาเหตุที่ทำให้ลดน้ำหนักคือ ที่บ้านตรวจสุขภาพ และพบคนในบ้านเป็นเบาหวาน 3 คน มีพ่อเรา ย่า ลุง ตอนนั้นแอบกลัวแล้ว แล้วยายเป็นเบาหวาน เกือบโดนตัดขา ยิางทำให้กลัวไปอีก บวกกับคนอื่นล้อ เรียกอีช้าง อีโอ่ง เริ่มทนไม่ได้
แต่แน่นอนว่าเรามาแชร์ประสบการณ์ผิดๆ
- เริ่มลดวันแรก กินมื้อเดียวค่ะ ทำได้2วัน เป็นลม!!
- กลับมากิน 3 มื้อ ออกกำลังกาย 20 นาที ทำอยู่ 1 เดือน เริ่มมีคนทักว่าผอมลง ชั่งน้ำหนัก เหลือ 67
- เริ่มออกกำลังมากขึ้น กระโดดเชือก ออกตามยูทูป ทำได้2เดือน + คุมอาหาร
- เดือนที่ 4 ของการลดน้ำหนัก คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเรา เมื่อรู้จักคำว่า โลว์คาร์บ ด้วยความที่เราไม่ศึกษา เราตัดข้าวเลย ไม่กินข้าว ทำได้1เดือน ตบะแตก ยัดคาร์บทุกอย่าง ขนมปัง เบเกอรี่ สิ่งที่ตามมาคือ ประจำเดือนหาย ผมร่วง
- เดือนที่ 5 พอเริ่มยัดอาหาร แน่นอนว่าน้ำหนักเพิ่ม เริ่มกลัวการโยโย่ เอา if มาช่วย ซึ่งแรกๆก็ดี แต่หลังๆเราเริ่มกดดันด้วยการกินแบบ เริ่ม 11:00 แล้วจบมื้อสุดท้าย 16:00 ซึ่งมันทรมานมาก แต่คือฝืน สุดท้าย ตละแตก และยัดอาหารกว่าเดิม แต่ฝืนออกกำลังกายมากขึ้นเป็น 2 ชม.
- เดือนที่ 6 เริ่มสังเกตว่าน้ำหนักไม่ลง สัดส่วนไม่ลด แถมเพิ่มด้วย เพราะเรายัดอาหาร จนเริ่มศึกษาเรื่อง Binge eating และเริ่มสังเกตุตัวเอง ซึ่งเราเข้าข่าย เรายัดอาหารได้มากกว่าปกติ 6 เท่า ยัดแบบสุดๆ แต่เรายังฝืนกลับมาคุม ฝืนไม่กิน หลุดแทบทุกวัน
- จนเดือนที่ 7 เราไม่ไหวกับการฝืน เราหยุดออกกำลังกาย+ไม่คุมอาหาร กินบุฟเฟ่ต์ร้านเดิมในรอบหลายเดือน กินไอติม กินขนมที่อดมาตลอดหลายเดือน แลกกับการน้ำหนักขึ้น ไขมันเพิ่มขึ้น
ตอนนี้เราหยุดมาได้ 2 เดือนเต็มๆ น้ำหนักขึ้นมาแหละ แต่เราแลกกับที่ผ่านมาเราทำร้ายร่างกายก่อน
ซึ่งที่ตัดสินใจตั้งกระทู้เพราะที่ผ่านมาเราเคร่งจนลืมไปว่าความสุขจริงๆคืออะไร ตอนนี้คือประบมายเช็ตทุกอย่าง แล้วกลับมาดูดูแลสุขภาพแบบถูกวิธี ตั้งใจว่าจะหุ่นดีแบบสุขภาพจิตไม้เสีย
เราเริ่มกลับมาคุมอาหาร กินให้ถึงค่า Bmr เน้นโปรตีน เราไม่ตัดแป้ง ยังกินปกติ ไม่คลีน
เริ่มออกกำลังกาย คาดิโอ+เวทเทรนนิ่ง
เลิกนับเเคล ไม่ใช่มันไม่ดีนะ มันดีเพราะมันทำให้มีวินัย แต่ในมุมมองของเราคือเรายึดติดกับตัวเลขจนบ้าไปเลย
แค่โฟกัสว่ากินอิ่ม พลังงานที่กินน้อยกว่าที่ใช้ต่อวันก็โอเคแล้ว
ตอนนี้มีเป้าหมายเล็กๆคือลดเรื่อยๆ ลดไขมัน ลดสัดส่วน
แบบไม่เคร่ง และไม่กลับไปตบะแตกยับแบบเดิม
คือจริงๆการลดความอ้วน มันต้องปรับให้ได้กับการใช้ชีวิต อะไรที่ฝืน มันทำได้ไม่นานจริงๆ
เราตั้งใจจะเริ่มใหม่แบบไม่ต้องเครียดจริงๆอีกสักรอบ อะไรที่เราทำผิด แนะนำได้นะคะ เรายังต้องเรียนรู้อีกเยอะมากๆ
ย
เล่าประสบการณ์ ลดน้ำหนักแบบเคร่งเครียด ที่พังสุดๆ
ช่วงสอบเข้าม.4 ติวหนัก กินน้อยลง น้ำหนักลดมาเหลือ 69 แต่สัดส่วนเท่าเดิม งงป่ะ5555
สาเหตุที่ทำให้ลดน้ำหนักคือ ที่บ้านตรวจสุขภาพ และพบคนในบ้านเป็นเบาหวาน 3 คน มีพ่อเรา ย่า ลุง ตอนนั้นแอบกลัวแล้ว แล้วยายเป็นเบาหวาน เกือบโดนตัดขา ยิางทำให้กลัวไปอีก บวกกับคนอื่นล้อ เรียกอีช้าง อีโอ่ง เริ่มทนไม่ได้
แต่แน่นอนว่าเรามาแชร์ประสบการณ์ผิดๆ
- เริ่มลดวันแรก กินมื้อเดียวค่ะ ทำได้2วัน เป็นลม!!
- กลับมากิน 3 มื้อ ออกกำลังกาย 20 นาที ทำอยู่ 1 เดือน เริ่มมีคนทักว่าผอมลง ชั่งน้ำหนัก เหลือ 67
- เริ่มออกกำลังมากขึ้น กระโดดเชือก ออกตามยูทูป ทำได้2เดือน + คุมอาหาร
- เดือนที่ 4 ของการลดน้ำหนัก คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเรา เมื่อรู้จักคำว่า โลว์คาร์บ ด้วยความที่เราไม่ศึกษา เราตัดข้าวเลย ไม่กินข้าว ทำได้1เดือน ตบะแตก ยัดคาร์บทุกอย่าง ขนมปัง เบเกอรี่ สิ่งที่ตามมาคือ ประจำเดือนหาย ผมร่วง
- เดือนที่ 5 พอเริ่มยัดอาหาร แน่นอนว่าน้ำหนักเพิ่ม เริ่มกลัวการโยโย่ เอา if มาช่วย ซึ่งแรกๆก็ดี แต่หลังๆเราเริ่มกดดันด้วยการกินแบบ เริ่ม 11:00 แล้วจบมื้อสุดท้าย 16:00 ซึ่งมันทรมานมาก แต่คือฝืน สุดท้าย ตละแตก และยัดอาหารกว่าเดิม แต่ฝืนออกกำลังกายมากขึ้นเป็น 2 ชม.
- เดือนที่ 6 เริ่มสังเกตว่าน้ำหนักไม่ลง สัดส่วนไม่ลด แถมเพิ่มด้วย เพราะเรายัดอาหาร จนเริ่มศึกษาเรื่อง Binge eating และเริ่มสังเกตุตัวเอง ซึ่งเราเข้าข่าย เรายัดอาหารได้มากกว่าปกติ 6 เท่า ยัดแบบสุดๆ แต่เรายังฝืนกลับมาคุม ฝืนไม่กิน หลุดแทบทุกวัน
- จนเดือนที่ 7 เราไม่ไหวกับการฝืน เราหยุดออกกำลังกาย+ไม่คุมอาหาร กินบุฟเฟ่ต์ร้านเดิมในรอบหลายเดือน กินไอติม กินขนมที่อดมาตลอดหลายเดือน แลกกับการน้ำหนักขึ้น ไขมันเพิ่มขึ้น
ตอนนี้เราหยุดมาได้ 2 เดือนเต็มๆ น้ำหนักขึ้นมาแหละ แต่เราแลกกับที่ผ่านมาเราทำร้ายร่างกายก่อน
ซึ่งที่ตัดสินใจตั้งกระทู้เพราะที่ผ่านมาเราเคร่งจนลืมไปว่าความสุขจริงๆคืออะไร ตอนนี้คือประบมายเช็ตทุกอย่าง แล้วกลับมาดูดูแลสุขภาพแบบถูกวิธี ตั้งใจว่าจะหุ่นดีแบบสุขภาพจิตไม้เสีย
เราเริ่มกลับมาคุมอาหาร กินให้ถึงค่า Bmr เน้นโปรตีน เราไม่ตัดแป้ง ยังกินปกติ ไม่คลีน
เริ่มออกกำลังกาย คาดิโอ+เวทเทรนนิ่ง
เลิกนับเเคล ไม่ใช่มันไม่ดีนะ มันดีเพราะมันทำให้มีวินัย แต่ในมุมมองของเราคือเรายึดติดกับตัวเลขจนบ้าไปเลย
แค่โฟกัสว่ากินอิ่ม พลังงานที่กินน้อยกว่าที่ใช้ต่อวันก็โอเคแล้ว
ตอนนี้มีเป้าหมายเล็กๆคือลดเรื่อยๆ ลดไขมัน ลดสัดส่วน
แบบไม่เคร่ง และไม่กลับไปตบะแตกยับแบบเดิม
คือจริงๆการลดความอ้วน มันต้องปรับให้ได้กับการใช้ชีวิต อะไรที่ฝืน มันทำได้ไม่นานจริงๆ
เราตั้งใจจะเริ่มใหม่แบบไม่ต้องเครียดจริงๆอีกสักรอบ อะไรที่เราทำผิด แนะนำได้นะคะ เรายังต้องเรียนรู้อีกเยอะมากๆ
ย