ศาลรธน.วินิจฉัย 5 แกนนำกปปส. สิ้นสภาพส.ส. ตั้งแต่ 7 เม.ย.64
https://www.matichon.co.th/politics/news_3078090
ศาลรธน. วินิจฉัย 5 แกนนำกปปส. สิ้นสภาพส.ส. ตั้งแต่ 7 เม.ย.64
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณี นาย
ชุมพล จุลใส นาย
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นาย
อิสระ สมชัย นาย
ถาวร เสนเนียม และ นาย
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรณีถูกศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.317/2564 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง นาย
ชุมพล นาย
อิสสระ และนาย
ณัฏฐพล 5 ปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษา เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องทั้ง 5 สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 ( 6 ) ประกอบมาตรา 98 ( 4 ) (6) และมาตรา 96 (2) หรือไม่
จากนั้นในเวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยว่า ตามรัฐธรรมนูญ 98 (6) เมื่อมีคำพิพากษาของศาล ทำให้สมาชิกภาพส.ส.ต้องสิ้นสุดลง โดยไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุดเสียก่อนนั้น กรณีผู้ร้องทั้ง 5 ยื่นข้อโต้แย้งนั้น ข้อโต้แย้งนั้น ฟังไม่ขึ้น
ส่วนประเด็นเรื่อง สมาชิกภาพส.ส. สิ้นสุดลงเมื่อใดนั้น ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วว่า นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส. คือ
วันที่ 7 เมษายน 2564 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82(2)
‘ชัยธวัช’ เผย ‘ก้าวไกล’ ทำ กม.ลูก 2 ฉบับเสร็จสัปดาห์หน้า พร้อมยื่นต่อสภาทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_3077770
‘ชัยธวัช’ เผย ‘ก้าวไกล’ ทำ กม.ลูก 2 ฉบับเสร็จสัปดาห์หน้า พร้อมยื่นต่อสภาทันที
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม นาย
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ของพรรค ก.ก.ว่า ในการประชุม ส.ส.ของพรรค เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ได้มีการนำร่างฉบับล่าสุดเข้าสู่การพิจารณา โดยที่ประชุมมีความเห็นให้กลับไปแก้ไขเนื้อหาบางส่วน คาดว่าจะจัดทำเสร็จภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะแถลงรายละเอียด และสามารถยื่นต่อรัฐสภาได้ทันที หรือภายในเดือนธันวาคมนี้
เมื่อถามถึงว่า ประเด็นไพรมารีโหวตและวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง น่าจะตกผลึกกันแล้ว โดยในสัปดาห์นี้ พรรค ก.ก.จะนัดประชุม ส.ส.เพิ่ม เพื่อพิจารณารายละเอียด ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง เพื่อให้กฎหมายมีรูปแบบที่ส่งเสริมพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง ทำให้ระบบการเลือกตั้งมีความยุติธรรมมากขึ้น รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการจัดการเลือกตั้งมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ สูตรการคำนวณระบบการจัดสรรปันส่วนผสม หรือ MMP ไม่ใช่สาระหลักของร่างกฎหมายลูกของพรรค ก.ก.แล้ว
กรุงศรี จับตา “โอไมครอน-เงินเฟ้อ” ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจ
https://www.prachachat.net/finance/news-817503
วิจัยกรุงศรี ชี้ไวรัสโอไมครอนสร้างความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ระบุเศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบางท่ามกลางเงินเฟ้อที่อาจเร่งขึ้นแตะ 3% ต้นปีหน้าชั่วคราว คาด กนง. คงดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง
วันที่ 8 ธันวาคม 2564 วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัว ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศที่บรรเทาลง การฉีดวัคซีนมีมากขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุม ประกอบกับผลเชิงบวกจากการเปิดประเทศ ล่าสุด จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายนรวมทั้งสิ้น 133,061 คน เร่งขึ้นจากเดือนตุลาคม 20,272 คน
นอกจากนี้ ความต่อเนื่องของมาตรการรัฐยังช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในประเทศช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงขึ้น หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนเกิดขึ้นในประเทศทางแอฟริกา
และเริ่มตรวจพบในหลายประเทศมากขึ้นรวมถึงไทยด้วย ขณะที่ปัจจุบันยังต้องติดตามรายละเอียดที่ชัดเจนถึงความรุนแรงของสายพันธุ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวในระยะข้างหน้าได้
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2565 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 2.71% YoY จาก 2.38% เดือนตุลาคม สาเหตุสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ (+37.2%) ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
และการเพิ่มขึ้นของราคาในหมวดอาหาร โดยเฉพาะผักสด (+12.7%) ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจากช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการปรับขึ้นของราคาเครื่องประกอบอาหาร (+6.2%) เนื่องจากความต้องการและต้นทุนขนส่งที่ปรับเพิ่ม
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) อยู่ที่ 0.29% เพิ่มขึ้นจาก 0.21% เดือนตุลาคม สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 1.15% และ 0.23% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะเร่งขึ้นในช่วงปลายปีนี้และมีแนวโน้มอาจแตะระดับสูงใกล้ 3% ในช่วงไตรมาส 1/2565 เนื่องจากผลของฐานที่ต่ำและการส่งผ่านของต้นทุน แต่คาดว่าจะชะลอลงและกลับมาแตะระดับใกล้ขอบล่างของกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของทางการที่ 1% ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565
ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มชะลอลง ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงเอื้อให้ กนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบางและเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าระดับศักยภาพ
JJNY : 5 กปปส.สิ้นสภาพส.ส.│‘กก.’ทำกม.ลูก2ฉบับเสร็จสัปดาห์หน้า│กรุงศรีจับตา“โอไมครอน-เงินเฟ้อ”│ทหารเมียนมาเผา-ข่มขืน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3078090
ศาลรธน. วินิจฉัย 5 แกนนำกปปส. สิ้นสภาพส.ส. ตั้งแต่ 7 เม.ย.64
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณี นายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายอิสระ สมชัย นายถาวร เสนเนียม และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรณีถูกศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.317/2564 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง นายชุมพล นายอิสสระ และนายณัฏฐพล 5 ปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษา เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องทั้ง 5 สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 ( 6 ) ประกอบมาตรา 98 ( 4 ) (6) และมาตรา 96 (2) หรือไม่
จากนั้นในเวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยว่า ตามรัฐธรรมนูญ 98 (6) เมื่อมีคำพิพากษาของศาล ทำให้สมาชิกภาพส.ส.ต้องสิ้นสุดลง โดยไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุดเสียก่อนนั้น กรณีผู้ร้องทั้ง 5 ยื่นข้อโต้แย้งนั้น ข้อโต้แย้งนั้น ฟังไม่ขึ้น
ส่วนประเด็นเรื่อง สมาชิกภาพส.ส. สิ้นสุดลงเมื่อใดนั้น ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วว่า นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส. คือ
วันที่ 7 เมษายน 2564 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82(2)
‘ชัยธวัช’ เผย ‘ก้าวไกล’ ทำ กม.ลูก 2 ฉบับเสร็จสัปดาห์หน้า พร้อมยื่นต่อสภาทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_3077770
‘ชัยธวัช’ เผย ‘ก้าวไกล’ ทำ กม.ลูก 2 ฉบับเสร็จสัปดาห์หน้า พร้อมยื่นต่อสภาทันที
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ของพรรค ก.ก.ว่า ในการประชุม ส.ส.ของพรรค เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ได้มีการนำร่างฉบับล่าสุดเข้าสู่การพิจารณา โดยที่ประชุมมีความเห็นให้กลับไปแก้ไขเนื้อหาบางส่วน คาดว่าจะจัดทำเสร็จภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะแถลงรายละเอียด และสามารถยื่นต่อรัฐสภาได้ทันที หรือภายในเดือนธันวาคมนี้
เมื่อถามถึงว่า ประเด็นไพรมารีโหวตและวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง น่าจะตกผลึกกันแล้ว โดยในสัปดาห์นี้ พรรค ก.ก.จะนัดประชุม ส.ส.เพิ่ม เพื่อพิจารณารายละเอียด ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง เพื่อให้กฎหมายมีรูปแบบที่ส่งเสริมพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง ทำให้ระบบการเลือกตั้งมีความยุติธรรมมากขึ้น รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการจัดการเลือกตั้งมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ สูตรการคำนวณระบบการจัดสรรปันส่วนผสม หรือ MMP ไม่ใช่สาระหลักของร่างกฎหมายลูกของพรรค ก.ก.แล้ว
กรุงศรี จับตา “โอไมครอน-เงินเฟ้อ” ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจ
https://www.prachachat.net/finance/news-817503
วิจัยกรุงศรี ชี้ไวรัสโอไมครอนสร้างความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ระบุเศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบางท่ามกลางเงินเฟ้อที่อาจเร่งขึ้นแตะ 3% ต้นปีหน้าชั่วคราว คาด กนง. คงดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง
วันที่ 8 ธันวาคม 2564 วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัว ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศที่บรรเทาลง การฉีดวัคซีนมีมากขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุม ประกอบกับผลเชิงบวกจากการเปิดประเทศ ล่าสุด จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายนรวมทั้งสิ้น 133,061 คน เร่งขึ้นจากเดือนตุลาคม 20,272 คน
นอกจากนี้ ความต่อเนื่องของมาตรการรัฐยังช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในประเทศช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงขึ้น หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนเกิดขึ้นในประเทศทางแอฟริกา
และเริ่มตรวจพบในหลายประเทศมากขึ้นรวมถึงไทยด้วย ขณะที่ปัจจุบันยังต้องติดตามรายละเอียดที่ชัดเจนถึงความรุนแรงของสายพันธุ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวในระยะข้างหน้าได้
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2565 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 2.71% YoY จาก 2.38% เดือนตุลาคม สาเหตุสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ (+37.2%) ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
และการเพิ่มขึ้นของราคาในหมวดอาหาร โดยเฉพาะผักสด (+12.7%) ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจากช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการปรับขึ้นของราคาเครื่องประกอบอาหาร (+6.2%) เนื่องจากความต้องการและต้นทุนขนส่งที่ปรับเพิ่ม
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) อยู่ที่ 0.29% เพิ่มขึ้นจาก 0.21% เดือนตุลาคม สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 1.15% และ 0.23% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะเร่งขึ้นในช่วงปลายปีนี้และมีแนวโน้มอาจแตะระดับสูงใกล้ 3% ในช่วงไตรมาส 1/2565 เนื่องจากผลของฐานที่ต่ำและการส่งผ่านของต้นทุน แต่คาดว่าจะชะลอลงและกลับมาแตะระดับใกล้ขอบล่างของกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของทางการที่ 1% ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565
ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มชะลอลง ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงเอื้อให้ กนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบางและเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าระดับศักยภาพ