JNY : ถ่ายทอดสดแล้ว วันที่ 3│'หมอหม่อง'ไม่เห็นด้วยสธ.โต้ปมว่าโ-่│ทร.สอบปืนสหรัฐอายุกว่า 50 ปีหาย│‘โรงงานดัง’ปิดเพิ่มอีก1

ถ่ายทอดสดแล้ว วันที่ 3 จับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 5 รัฐมนตรี (คลิป)
https://www.thairath.co.th/news/politic/2183028
 

 
ชมการถ่ายทอดสด ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และ 5 รัฐมนตรี เป็นวันที่ 3 ใช้เวลาในการอภิปรายไปแล้ว 25.47 ชม. ท่ามกลางกระแสข่าว เตรียมโหวตคว่ำนายกฯ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 2564 ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ณ ห้องประชุมพระสุริยัน ชั้น 2 ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. และลงมติในวันที่ 4 ก.ย. 2564 โดยวันนี้เป็นการประชุมวันที่ 3 แล้ว เหลือเวลาในการอภิปราย 22 ชั่วโมง
 
ซึ่งบุคคลที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจประกอบด้วย
 
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม
2. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข
3. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน
4. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม
5. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์
6. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
 
อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีการกำหนดเวลาในการอภิปรายทั้งหมด 58 ชั่วโมง 30 นาที
 
ฝ่ายค้านจะใช้ผู้อภิปรายทั้งหมด 34 คน เป็น พรรคเพื่อไทย 19 คน, พรรคก้าวไกล 6 คน, พรรคเสรีรวมไทย 3 คน, พรรคประชาชาติ 2 คน, พรรคเพื่อชาติ 1 คน , พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน รวมถึงมี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมด้วย ใช้เวลาทั้งหมด 40 ชั่วโมง
 
ส่วนของฝ่ายรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี 18 ชั่วโมง 30 นาที.


 
'หมอหม่อง' ไม่เห็นด้วย สธ.โต้ฝ่ายค้าน ปมฉีดวัคซีนไขว้ ว่าโ-่ แนะควรอธิบายด้วยเหตุผล
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6597184

‘หมอหม่อง’ ไม่เห็นด้วย สธ.โต้ฝ่ายค้าน กรณีฉีดวัคซีนไขว้ ว่าโ-่ แนะควรอธิบายเหตุผลหลักที่แท้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
 
กรณี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่ง ตอบโต้ฝ่ายค้านที่มีความกังวลในการฉีดวัคซีนไขว้ ตอนหนึ่งระบุว่า ที่อภิปรายว่าการไขว้วัคซีน คือเข็มที่ 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนกา งานวิจัยยังไม่ได้ตีพิมพ์ แต่กำลังส่งตีพิมพ์ ฉะนั้นการบริหารในสถานการณ์เช่นนี้ หากรอให้มีการตีพิมพ์งานวิจัยก่อน แล้วถึงนำมาบริหารจัดการถือว่าโ-่มาก
 
ต่อเรื่องดังกล่าว นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นผ่านทาง Rungsrit Kanjanavanit ความว่า 
 
กรณีนโยบาย วัคซีนไขว้ ผมไม่เห็นด้วยกับการต่อว่า คนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ว่า เป็นคนโ-่
 
รัฐบาลมองว่า หากจะออกนโยบายใหญ่เร่งด่วน โดยมานั่งรอหลักฐานงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ย่อมช้า ไม่ทันการ ถึงแม้ผมจะเชื่อว่า วิธีนี้ (วัคซีนไขว้) มีเหตุผล มีที่มาที่น่ารับฟังทางวิทยาศาสตร์ และ ผมสนับสนุนให้ประชาชนทุกคน รับวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้โดยไม่รีรอ เพราะสถานการณ์มันวิกฤตเกินกว่าที่คิดไปเป็นอย่างอื่น (ข้อความนี้ ขีดเส้นใต้ 3 เส้น)
 
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ แพทย์ นักวิชาการหลายคนกังวลคือ เราได้ตัดสินใจ เดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยงบประมาณหลายพันล้านและชีวิตของผู้คน ตลอดจนโอกาส ในการเปิดเศรษฐกิจของประเทศ
 
บนฐานข้อมูล ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คน และเป็นข้อมูลจากห้องปฏิบัติการ ดูระดับภูมิต้านทาน เป็น surrogate ของประสิทธิภาพวัคซีน
มันไม่ใช่การศึกษา randomized control trial เพื่อดูประสิทธิภาพของ วิธีฉีดไขว้แบบนี้ เทียบกับวิธีปกติ เป็นแบบ phase 3 clinical study ในประชากร
ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติที่ ยา หรือวิธีการรักษาใหม่ (แม้จะเป็นยาเก่า) ทุกอันต้องผ่าน ก่อนนำมาใช้จริง
 
เรา เดิมพันว่ามันจะดี จากหลักฐานเท่าที่มี โดยเฝ้ารอดู “real world effectiveness” แทนข้อมูล phase 3
 
หากเราสำเร็จ เราจะสร้างแนวทางใหม่ ที่นานาชาติ ต้องหันมามองชื่นชม และอาจพิจารณาทำตาม
 
แต่หากเราล้มเหลว แพ้การเดิมพันครั้งนี้ เราจะถูกทอดทิ้งอย่างโดดเดียว เพราะไม่มีใครคิดจะทำแบบเรา คนที่กังวลเรื่องนี้ ไม่น่าถูกประนามว่า เป็นคนโ-่ นะครับ
 
รัฐควรอธิบายเหตุผลหลักที่แท้จริง ที่เราไม่สามารถดำเนินการตามแผนเดิมที่จะให้ Astra Zeneca ปกติ 2 เข็ม เป็นวัคซีนหลักได้นั้น ก็เพราะ โรงงานในไทย ที่เราหวังพึ่งพา ไม่อาจผลิตวัคซีนได้พอ ได้ทันตามเป้าหมาย
 
อีกทั้งสัญญาที่เราทำไว้กับบริษัท AZ นั้น เราไม่อาจไปเร่งรัด เอาความใดๆกับเขาได้ ผมเองขอสงวนสิทธิ์ไม่ตอบโต้ ต่อว่า คนออกนโยบายนี้ว่า โ-่
เพราะในสถานการณ์เร่งด่วนและทรัพยากรจำกัดแบบนี้ ผู้บริหารจำเป็นต้องหาทางออกที่คิดว่าดีที่สุด
 
แต่ผมอาจเรียกว่า ความประมาท
 
ผมเชื่อว่า หากรัฐบาล อธิบายตามเหตุผลตรงๆ น่าจะเป็นสร้างความเชื่อมั่นที่แท้จริงให้กับประชาชนได้มากกว่าครับ
 
https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10209283781087965
 


ทร.ตั้งกรรมการสอบ ปืนสหรัฐอายุกว่า 50 ปีหายจากคลัง
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/957904

'กองทัพเรือ' แจง อาวุธปืนสำรองคลังของสหรัฐ มีอายุกว่า 50 ปี สูญหาย พร้อมตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง ลงโทษวินัย-อาญา ผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
 
2 ก.ย. 2564 พลเรือเอก เชษฐา  ใจเปี่ยม  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า เกิดเหตุอาวุธปืนกลขนาด 40 มิลลิเมตร ที่สหรัฐอเมริกามอบให้กองทัพเรือสูญหายไปจากคลังปืนใหญ่ กรมสรรพาวุธทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 กระบอก มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท นั้น  จากการตรวจสอบ พบว่าอาวุธปืนที่สูญหายดังกล่าวเป็น อาวุธปืนประเภท ปืนยิงลูกระเบิดกล ขนาด 40  มิลลิเมตร รุ่น มาร์ค 20 ม็อด 0 ซึ่งเป็นอาวุธประจำเรือที่ติดตั้งกับเรือตรวจการณ์ลำน้ำของกองทัพเรือ โดยกองทัพเรือได้รับการช่วยเหลือทางทหารจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตามโครงการความช่วยเหลือทางทหารเมื่อปี พ.ศ.2514 ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวได้ใช้ราชการมานานถึง 50 ปี  
  
ทั้งนี้ อาวุธปืนดังกล่าวข้างต้นทั้ง 2 กระบอก ได้ถูกถอดถอนมาเก็บรักษาไว้ที่คลังของ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ตั้งแต่ปี 2530 และ 2552 ตามลำดับเนื่องจากเรือตรวจการณ์ลำน้ำที่ติดตั้งอาวุธปืนดังกล่าวปลดระวางประจำการ  โดยอาวุธปืนดังกล่าวมีราคากระบอกละ 1,600 บาท (ราคาในปีที่กองทัพเรือได้รับมอบจากสหรัฐฯ)   
    
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า กองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน แม้ว่าอาวุธปืนที่สูญหายจะไม่ได้ใช้ในราชการแล้ว  แต่หากพบว่ามีข้าราชการนายใดที่เกี่ยวข้องกับการสูญหายของอาวุธปืน กองทัพเรือจะดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่