“เรื่องนี้ช่วยไม่ได้ที่จะเข้าใจผิด นางไม่ใช่ผู้หญิงของข้า เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสัญญาเท่านั้น” ท่านผู้นั้นกล่าวอย่างเคร่งขรึมรอยคอยการปะทะกันระหว่างเซธกับเจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรก
เซธเหลือบมองท่านผู้นั้นราวรู้ว่า ‘สัญญา’ ที่กำลังพูดถึงนั้นพิเศษกว่าปกติ แค่เสี้ยวของวินาทีที่ละไปสนใจอย่างอื่นกระสุนลูกปรายนับสิบเม็ดก็พุ่งเข้ากระแทกร่างสูงจนลงไปทรุดกับพื้น
“อย่างนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าหนุ่มอมตะนั่นหมดสภาพสู้ก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าเจ้าต้องการผู้หญิงคนนี้จริงหรือไม่ จากนั้นข้าค่อยเอาลักซูเรียไปจากที่นี่ ข้ารู้ว่าคนสร้างอาณาเขตนี่ไม่ใช่เจ้าหรือคนข้างหลังนั่น มันบางยิ่งกว่าเปลือกขนมปังอีก” เจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรกหัวเราะเยาะ ยังคงไม่เห็นเซธอยู่ในสายตาวันยันค่ำ
เซธมองเห็นท่านผู้นั้นที่แสดงอาการเหนื่อยหน่ายออกหน้าออกตา พอเห็นเซธหันมามองก็เร่งเขาให้ไปทำงานต่อให้สำเร็จ เจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรกหัวเราะขันที่เซธพุ่งเข้าไปหาพร้อมแส้ไม้ในมือ เสียงปืนลูกซองดังขึ้นอีกครั้ง ร่างอมตะทรุดฮวบกับพื้นเพราะแรงปะทะ
“ข้าแปลกใจที่เจ้ายอมเสียเวลาช่วยเหลือเจ้ากระจอกนี่ มนุษย์ธรรมดาที่กลายเป็นอมตะก็ไม่ผิดอะไรกับแมลงสาบที่ทำได้แค่บินวนน่ารำคาญ แต่ข้าอยากเห็นสีหน้าเจ้าตอนลูกน้องถูกทรมานในการต่อสู้ที่ไม่มีหวังชนะ...อีกอย่าง ข้าอยากเห็นปฏิกิริยาของเจ้าที่มีต่อหญิงผู้นี้”
ปิศาจในผ้าคลุมสกปรกโบกมือ ลักซูเรียที่ถูกควบคุมเบ็ดเสร็จคำรามพร้อมกับพุ่งเข้ามา เซธจะป้องกันตัวทว่าสายเกินไป กรงเล็บแหลมดำสนิทพุ่งเข้าปะทะร่างของเขาราวพายุถล่ม ความเจ็บปวดรุมล้อมผู้เป็นอมตะเมื่อร่างปลิวไปอัดกับตัวบ้านเสียงดังสนั่น เลือดของเขากระจายเต็มผนังด้วยความร้ายแรงของการจู่โจม!
เซธใช้เวลาหาที่หลบรอร่างกายคืนสภาพ เขารีบร้องบอกลักซูเรียให้เรียกสติกลับมาให้ได้ เมื่อเห็นว่าไร้ประโยชน์ผู้เป็นอมตะก็เตรียมเรียกวิหคแห่งพิณขึ้นมาสู้ ตอนนั้นมีเสียงร้องเตือนดังมาจากท่านผู้นั้น ฝ่ายที่ถูกเตือนไม่ใช่เขาแต่เป็นเจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรก
“ถ้าเป็นข้าจะรีบปล่อยมือ! มีแค่คนเดียวที่ ‘ เขา’ ยอมให้แตะต้องนางแบบนั้นได้ ต่อให้เป็นหุ่นก็ไม่เว้น ฟังดูบ้าแต่ ‘เขา’ เป็นคนแบบนั้นล่ะ”
เซธไม่ใส่ใจอะไรนอกจากคำสั่งที่ได้รับ ลักซูเรียคำรามอย่างเศร้าโศกอยู่ตรงหน้าพร้อมใช้เขาเป็นกระสอบทรายตามคำสั่งของเจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรก พอจะกรีดนิ้วลงบนพิณรอบด้านก็เกิดความสับสนวุ่นวายในบัดดล กลิ่นดอกไม้ป่าเข้มข้นไหลทะลักเหมือนกระแสน้ำหมุนวนรอบพื้นที่อีกครั้ง เขาแทบไม่สามารถหายใจได้ประหนึ่งเวทมนตร์ไหลเข้าไปสะสมในปอดจนเต็ม ลมหมุนขนาดใหญ่พัดแรงราวต้องการกรีดทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นเศษเสี้ยว พื้นดินสะเทือนเลือนลั่นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เปลวไฟปะทุขึ้นจากพื้นดินเหมือนไฟนรก
ดูจากสถานการณ์แล้วผู้ที่ทำแบบนี้ได้มีเพียงท่านผู้นั้น ทว่าฝ่าบาทของเซธกลับกำลังโคลงหัวบ่นว่าสายเกินไปแล้ว
ไม่ทันให้เซธซักถามความเกรี้ยวกราดระลอกใหม่ก็เริ่มขึ้น ความมืดลึกล้ำแผ่ออกมาทางด้านหลังของท่านผู้นั้นเหมือนหนวดปลาหมึกหลายสิบเส้น! ทุกสิ่งที่มันสัมผัสต่างก็หายไปราวถูกลบออก ไม่ว่าจะเป็นเหล่าหุ่นรักษาความปลอดภัย สวนโดยรอบ แม้แต่บ้านของลักซูเรียก็แหว่งวิ่นเป็นจุด ๆ ด้วยสัมผัสจากความมืดดังกล่าว!
เซธไม่เคยเจอเวทมนตร์แรงกล้าขนาดนี้จึงหยุดนิ่งและคิดหาทางแก้ไข ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นกลุ่มก้อนความมืดก็พุ่งมาทางเขาด้วยความบ้าคลั่งไร้การควบคุม ร่างของผู้เป็นอมตะสลายไปในพริบตาเหลือไว้แต่อนุสติเพียงน้อยนิด ก่อนเขาจะหลับไปเพื่อรอให้ร่างคืนชีพใหม่เสียงบ่นของท่านผู้นั้นก็ลอยขึ้นมา
“ถ้าไม่ได้ท่านเป็นข้ออ้างข้าคงหยุดไม่ได้หรอก” ท่านผู้นั้นถอนหายใจเฮือก
แล้วความรู้สึกทุกอย่างของเซธก็ดับวูบเหมือนเทียนต้องลม...
“นี่#### ท่านฟังข้าอยู่หรือเปล่า”
เซธตกอยู่ในภวังค์ฝันเช่นทุกครั้งที่ชิ้นส่วนสำคัญอย่างหัวถูกทำลายทั้งชิ้นส่วนจนต้องสร้างและปรับระบบร่างกายใหม่ทั้งหมด เขารู้ตัวเสมอเวลาฝัน คราวนี้ก็เช่นกัน ในความฝันคราวนี้เขาอยู่กับที่ราวถูกตอกตรึงอยู่เก้าอี้ข้างโต๊ะทำงานของชายคนหนึ่ง บางอย่างทำให้เซธมั่นใจว่านั่นคือท่านผู้นั้น
ท่านผู้นั้นในความฝันโยนซองเอกสารลงบนโต๊ะขัดมันหรูหราพร้อมพูดคุยกับคนที่อยู่ข้างหลังด้วย ซึ่งเซธมั่นใจว่าไม่ใช่ตัวเขาแน่นอน
“ท่านว่าข้ายังขาดอะไรอยู่อีก#### ข้ามีมือที่ทำร้ายผู้อื่น มีเท้าที่เดินไปหาอบาย มีปากที่คอยล่อลวง พยายามอย่างหนักแต่ไม่ถูกกล่าวถึงในฐานะจอมวายร้ายเลย” ท่านผู้นั้นพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ชื่อเรียกที่ท่านผู้นั้นพูดนั้นถูกปิดบังด้วยอำนาจบางอย่างจนฟังไม่รู้เรื่อง
เสียงตอบดังออกมาจากปากจุดที่เซธอยู่ในความฝัน มันเป็นเสียงของชายวัยกลางคนที่ฟังดูเคร่งเครียดตลอดเวลา
“มันเห็นได้ชัด ๆ คนที่เจ้าไปกระทืบเล่นเป็นพวกปิศาจในคราบนักบุญคอยทำร้ายผู้คน บอกว่าฉุดคร่าหญิงสาวก็ทำเพราะอยากปกป้องพวกนางจากการเอาเปรียบและการทารุณกรรม แถมยังเล่นเทพลักซ่อนแอบพาตัวครอบครัวนางกับคนรักมาอยู่กินในปราสาทอีกต่างหาก...พวกชาวบ้านข้างนอกโน่นรู้เรื่องนี้ทุกคนแต่ไม่กล้าพูด พวกเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี อยากสรรเสริญแต่เจ้าออกคำสั่งเองว่าให้พูดถึงตัวเจ้าในทางร้ายเท่านั้น เจ้าทำตัวชั่วร้ายจริง ๆ ไม่ได้หรอก รากของเจ้าคือสิ่งดี รีบทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว!”
ท่านผู้นั้นหันมามองด้านหลังอย่างกังขา ฝ่าบาทของเขาดูหนุ่มกว่าที่รู้จัก รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ดูเป็นคนละคนกับปัจจุบัน บางทีนี่อาจเป็นแค่ฝันธรรมดา เซธคิด
“ข้าเป็นมนุษย์ที่เกลียดมนุษย์ พวกเขาทำตามความโลภอย่างไร้การควบคุม เหยียบย่ำรังแกคนอ่อนแอกว่าอย่างไร้ปรานี ข้าเห็นตัวเองอยู่ในบรรดาผู้ต่ำต้อยเหล่านั้นก็เลยทำร้ายพวกเขาไม่ลง ดาเทียคงไม่ชอบด้วย ข้าไม่อยากเห็นนางลากสังขารพัง ๆ มาสั่งสอนข้าถึงที่นี่ แค่ลาเวนเดอร์มาคนเดียวก็ยุ่งเหยิงพออยู่แล้ว...ผ่านไปห้าสิบปีแล้วสินะตั้งแต่เดินผ่านประตูเข้ามาทางนี้ เหมือนเพิ่งเมื่อวานเอง”
เซธสะกิดใจบางอย่าง ลาเวนเดอร์คือชื่อของผู้กล้าคนที่สองคู่กับนักรบเทพอิกริดหรือท่านผู้นั้น บางทีนี่อาจเป็นเศษเสี้ยวความทรงจำจริง ๆ คงเป็นของคนด้านหลังของท่านผู้นั้นที่แทรกเข้าตัวเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง
“พูดถึงลาเวนเดอร์ ข้าแอบไปดูมา” คนข้างหลังท่านผู้นั้นในความฝันพูด
ผู้เป็นอมตะเชื่อว่ามีสิ่งผิดปกติ การรับรู้ชัดเจนเกินกว่าจะเป็นความฝันและนี่ไม่ใช่ความทรงจำของตัวเขาเอง แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ในตำแหน่งของผู้ที่ควรเป็นเจ้าของ เขาควรอยู่ในจุดของผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ต่างหาก
“หลานของนางมีดวงตาแบบเดียวกับพวกเรา”
ท่านผู้นั้นนั่งนิ่งแล้วทำเป็นไม่ใส่ใจ
“อยู่บ้านนอกแบบนั้นคงไม่มีใครรู้เรื่องดวงตานี้กระมัง จากนี้ข้าจะจับตาดูด้วยตัวเอง” ท่านผู้นั้นซ่อนความวิตกไม่มิด “มาเข้าเรื่องกันดีว่า รายชื่อราชวงศ์ที่มีความมั่นคงทางด้านเชื้อสายและการปกครองที่ยอดเยี่ยมมาถึงแล้ว ท่านสามารถเลือกได้เลยว่าจะไปอยู่กับราชวงศ์ไหน ข้าจะส่งคนไปดูแลให้อย่างลับ ๆ จนถึงที่สุด ท่านทำงานหนักมาหลายร้อยปีก่อนมาอยู่กับข้า สิ่งนี้เป็นทั้งสัญญาของเราและของตอบแทนจากเสาค้ำจุน”
“ข้าอยากรอให้พวกเจ้าล้มเทพปิศาจให้ได้ก่อน...เหมือนจิตสำนึกของท่านพี่จะส่งผลถึงข้าด้วย ข้าทนไม่ได้ที่จะหนีไปมีความสุขอยู่ใต้การปกป้องของเจ้าในขณะที่เหล่ามนุษย์ยังมีภัยใหญ่หลวงอย่างเทพปิศาจอยู่”
“น้ำเน่าเป็นบ้า! หากไม่เลือกท่านข้าคงเน่าตายเพราะความดีงามของท่านผู้กล้าแน่” ท่านผู้นั้นหัวเราะร่าอย่างเปิดเผย ดูท่านผู้นั้นในความฝันจะจริงใจและร่าเริงกว่าปัจจุบัน “อย่างนั้นคงต้องรออย่างไม่รู้จุดจบล่ะนะ ส่วนวิญญาณของลาควีล่าก็หลับในมิติแห่งการหลับใหลต่อไป ไม่ต้องห่วงนางหรอก”
ท่านผู้นั้นหันไปมองบางอย่างบนโต๊ะ มันคือลูกแก้วขุ่นบนฐานเล็ก ๆ ประดับประดาอย่างดี เซธเชื่อว่าเคยเห็นของแบบนี้มาก่อน มันใช้บรรจุวิญญาณเอาไว้ใช้งานบางอย่าง
ระหว่างที่เซธกำลังเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คนรับใช้หญิงเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วโค้งให้ท่านผู้นั้นอย่างเคารพ
“ท่านนักรบเทพเทียซอทมาถึงแล้วฝ่าบาท” หญิงนางนั้นพูดอย่างนอบน้อม “ข้าให้ฝ่าบาทรอฝ่าบาทอยู่ในห้องรับรองพร้อมอาหารว่าง หากฝ่าบาทยังไม่พร้อมข้าจะไปบอกให้ฝ่าบาทรอก่อน”
“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” ท่านผู้นั้นรีบเก็บเอกสารเข้าซองทันที ปากก็พูดเกี่ยวกับแขกที่มาหา “อีกรายที่เข้าใจผิดแบบดิ่งลงเหว ข้าแค่ไปเยี่ยมเจ้าตัวที่แอบใช้ชื่อข้าเพื่อส่งมันลงนรกด้วยตัวเองเท่านั้น ชื่อเสียงต้องสร้างด้วยตัวเองสิจริงไหม ไม่ได้คิดจะช่วยเจ้านั่นเลย...แต่ไม่บ่นหรอกเพราะหมอนั่นคุยสนุกดี”
ท่านผู้นั้นในอดีตลุกเดินไปทางประตูห้องโดยมีจิตสำนึกของเซธตามไปด้วย ก่อนทุกอย่างจะเข้าสู่ความมืดเซธเหลือบไปเห็นรูปติดผนังขนาดเท่าตัวคน มันประดับกรอบสวยงามจนเกินพอดี คนในภาพคือสตรีผมเขียวที่เซธเห็นในฝันก่อนคำสาปทำงาน!...
(มีต่อ)
สัญญาอมตะ ตอนที่ 4
เซธเหลือบมองท่านผู้นั้นราวรู้ว่า ‘สัญญา’ ที่กำลังพูดถึงนั้นพิเศษกว่าปกติ แค่เสี้ยวของวินาทีที่ละไปสนใจอย่างอื่นกระสุนลูกปรายนับสิบเม็ดก็พุ่งเข้ากระแทกร่างสูงจนลงไปทรุดกับพื้น
“อย่างนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าหนุ่มอมตะนั่นหมดสภาพสู้ก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าเจ้าต้องการผู้หญิงคนนี้จริงหรือไม่ จากนั้นข้าค่อยเอาลักซูเรียไปจากที่นี่ ข้ารู้ว่าคนสร้างอาณาเขตนี่ไม่ใช่เจ้าหรือคนข้างหลังนั่น มันบางยิ่งกว่าเปลือกขนมปังอีก” เจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรกหัวเราะเยาะ ยังคงไม่เห็นเซธอยู่ในสายตาวันยันค่ำ
เซธมองเห็นท่านผู้นั้นที่แสดงอาการเหนื่อยหน่ายออกหน้าออกตา พอเห็นเซธหันมามองก็เร่งเขาให้ไปทำงานต่อให้สำเร็จ เจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรกหัวเราะขันที่เซธพุ่งเข้าไปหาพร้อมแส้ไม้ในมือ เสียงปืนลูกซองดังขึ้นอีกครั้ง ร่างอมตะทรุดฮวบกับพื้นเพราะแรงปะทะ
“ข้าแปลกใจที่เจ้ายอมเสียเวลาช่วยเหลือเจ้ากระจอกนี่ มนุษย์ธรรมดาที่กลายเป็นอมตะก็ไม่ผิดอะไรกับแมลงสาบที่ทำได้แค่บินวนน่ารำคาญ แต่ข้าอยากเห็นสีหน้าเจ้าตอนลูกน้องถูกทรมานในการต่อสู้ที่ไม่มีหวังชนะ...อีกอย่าง ข้าอยากเห็นปฏิกิริยาของเจ้าที่มีต่อหญิงผู้นี้”
ปิศาจในผ้าคลุมสกปรกโบกมือ ลักซูเรียที่ถูกควบคุมเบ็ดเสร็จคำรามพร้อมกับพุ่งเข้ามา เซธจะป้องกันตัวทว่าสายเกินไป กรงเล็บแหลมดำสนิทพุ่งเข้าปะทะร่างของเขาราวพายุถล่ม ความเจ็บปวดรุมล้อมผู้เป็นอมตะเมื่อร่างปลิวไปอัดกับตัวบ้านเสียงดังสนั่น เลือดของเขากระจายเต็มผนังด้วยความร้ายแรงของการจู่โจม!
เซธใช้เวลาหาที่หลบรอร่างกายคืนสภาพ เขารีบร้องบอกลักซูเรียให้เรียกสติกลับมาให้ได้ เมื่อเห็นว่าไร้ประโยชน์ผู้เป็นอมตะก็เตรียมเรียกวิหคแห่งพิณขึ้นมาสู้ ตอนนั้นมีเสียงร้องเตือนดังมาจากท่านผู้นั้น ฝ่ายที่ถูกเตือนไม่ใช่เขาแต่เป็นเจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรก
“ถ้าเป็นข้าจะรีบปล่อยมือ! มีแค่คนเดียวที่ ‘ เขา’ ยอมให้แตะต้องนางแบบนั้นได้ ต่อให้เป็นหุ่นก็ไม่เว้น ฟังดูบ้าแต่ ‘เขา’ เป็นคนแบบนั้นล่ะ”
เซธไม่ใส่ใจอะไรนอกจากคำสั่งที่ได้รับ ลักซูเรียคำรามอย่างเศร้าโศกอยู่ตรงหน้าพร้อมใช้เขาเป็นกระสอบทรายตามคำสั่งของเจ้าปิศาจในผ้าคลุมสกปรก พอจะกรีดนิ้วลงบนพิณรอบด้านก็เกิดความสับสนวุ่นวายในบัดดล กลิ่นดอกไม้ป่าเข้มข้นไหลทะลักเหมือนกระแสน้ำหมุนวนรอบพื้นที่อีกครั้ง เขาแทบไม่สามารถหายใจได้ประหนึ่งเวทมนตร์ไหลเข้าไปสะสมในปอดจนเต็ม ลมหมุนขนาดใหญ่พัดแรงราวต้องการกรีดทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นเศษเสี้ยว พื้นดินสะเทือนเลือนลั่นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เปลวไฟปะทุขึ้นจากพื้นดินเหมือนไฟนรก
ดูจากสถานการณ์แล้วผู้ที่ทำแบบนี้ได้มีเพียงท่านผู้นั้น ทว่าฝ่าบาทของเซธกลับกำลังโคลงหัวบ่นว่าสายเกินไปแล้ว
ไม่ทันให้เซธซักถามความเกรี้ยวกราดระลอกใหม่ก็เริ่มขึ้น ความมืดลึกล้ำแผ่ออกมาทางด้านหลังของท่านผู้นั้นเหมือนหนวดปลาหมึกหลายสิบเส้น! ทุกสิ่งที่มันสัมผัสต่างก็หายไปราวถูกลบออก ไม่ว่าจะเป็นเหล่าหุ่นรักษาความปลอดภัย สวนโดยรอบ แม้แต่บ้านของลักซูเรียก็แหว่งวิ่นเป็นจุด ๆ ด้วยสัมผัสจากความมืดดังกล่าว!
เซธไม่เคยเจอเวทมนตร์แรงกล้าขนาดนี้จึงหยุดนิ่งและคิดหาทางแก้ไข ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นกลุ่มก้อนความมืดก็พุ่งมาทางเขาด้วยความบ้าคลั่งไร้การควบคุม ร่างของผู้เป็นอมตะสลายไปในพริบตาเหลือไว้แต่อนุสติเพียงน้อยนิด ก่อนเขาจะหลับไปเพื่อรอให้ร่างคืนชีพใหม่เสียงบ่นของท่านผู้นั้นก็ลอยขึ้นมา
“ถ้าไม่ได้ท่านเป็นข้ออ้างข้าคงหยุดไม่ได้หรอก” ท่านผู้นั้นถอนหายใจเฮือก
แล้วความรู้สึกทุกอย่างของเซธก็ดับวูบเหมือนเทียนต้องลม...
“นี่#### ท่านฟังข้าอยู่หรือเปล่า”
เซธตกอยู่ในภวังค์ฝันเช่นทุกครั้งที่ชิ้นส่วนสำคัญอย่างหัวถูกทำลายทั้งชิ้นส่วนจนต้องสร้างและปรับระบบร่างกายใหม่ทั้งหมด เขารู้ตัวเสมอเวลาฝัน คราวนี้ก็เช่นกัน ในความฝันคราวนี้เขาอยู่กับที่ราวถูกตอกตรึงอยู่เก้าอี้ข้างโต๊ะทำงานของชายคนหนึ่ง บางอย่างทำให้เซธมั่นใจว่านั่นคือท่านผู้นั้น
ท่านผู้นั้นในความฝันโยนซองเอกสารลงบนโต๊ะขัดมันหรูหราพร้อมพูดคุยกับคนที่อยู่ข้างหลังด้วย ซึ่งเซธมั่นใจว่าไม่ใช่ตัวเขาแน่นอน
“ท่านว่าข้ายังขาดอะไรอยู่อีก#### ข้ามีมือที่ทำร้ายผู้อื่น มีเท้าที่เดินไปหาอบาย มีปากที่คอยล่อลวง พยายามอย่างหนักแต่ไม่ถูกกล่าวถึงในฐานะจอมวายร้ายเลย” ท่านผู้นั้นพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ชื่อเรียกที่ท่านผู้นั้นพูดนั้นถูกปิดบังด้วยอำนาจบางอย่างจนฟังไม่รู้เรื่อง
เสียงตอบดังออกมาจากปากจุดที่เซธอยู่ในความฝัน มันเป็นเสียงของชายวัยกลางคนที่ฟังดูเคร่งเครียดตลอดเวลา
“มันเห็นได้ชัด ๆ คนที่เจ้าไปกระทืบเล่นเป็นพวกปิศาจในคราบนักบุญคอยทำร้ายผู้คน บอกว่าฉุดคร่าหญิงสาวก็ทำเพราะอยากปกป้องพวกนางจากการเอาเปรียบและการทารุณกรรม แถมยังเล่นเทพลักซ่อนแอบพาตัวครอบครัวนางกับคนรักมาอยู่กินในปราสาทอีกต่างหาก...พวกชาวบ้านข้างนอกโน่นรู้เรื่องนี้ทุกคนแต่ไม่กล้าพูด พวกเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี อยากสรรเสริญแต่เจ้าออกคำสั่งเองว่าให้พูดถึงตัวเจ้าในทางร้ายเท่านั้น เจ้าทำตัวชั่วร้ายจริง ๆ ไม่ได้หรอก รากของเจ้าคือสิ่งดี รีบทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว!”
ท่านผู้นั้นหันมามองด้านหลังอย่างกังขา ฝ่าบาทของเขาดูหนุ่มกว่าที่รู้จัก รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ดูเป็นคนละคนกับปัจจุบัน บางทีนี่อาจเป็นแค่ฝันธรรมดา เซธคิด
“ข้าเป็นมนุษย์ที่เกลียดมนุษย์ พวกเขาทำตามความโลภอย่างไร้การควบคุม เหยียบย่ำรังแกคนอ่อนแอกว่าอย่างไร้ปรานี ข้าเห็นตัวเองอยู่ในบรรดาผู้ต่ำต้อยเหล่านั้นก็เลยทำร้ายพวกเขาไม่ลง ดาเทียคงไม่ชอบด้วย ข้าไม่อยากเห็นนางลากสังขารพัง ๆ มาสั่งสอนข้าถึงที่นี่ แค่ลาเวนเดอร์มาคนเดียวก็ยุ่งเหยิงพออยู่แล้ว...ผ่านไปห้าสิบปีแล้วสินะตั้งแต่เดินผ่านประตูเข้ามาทางนี้ เหมือนเพิ่งเมื่อวานเอง”
เซธสะกิดใจบางอย่าง ลาเวนเดอร์คือชื่อของผู้กล้าคนที่สองคู่กับนักรบเทพอิกริดหรือท่านผู้นั้น บางทีนี่อาจเป็นเศษเสี้ยวความทรงจำจริง ๆ คงเป็นของคนด้านหลังของท่านผู้นั้นที่แทรกเข้าตัวเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง
“พูดถึงลาเวนเดอร์ ข้าแอบไปดูมา” คนข้างหลังท่านผู้นั้นในความฝันพูด
ผู้เป็นอมตะเชื่อว่ามีสิ่งผิดปกติ การรับรู้ชัดเจนเกินกว่าจะเป็นความฝันและนี่ไม่ใช่ความทรงจำของตัวเขาเอง แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ในตำแหน่งของผู้ที่ควรเป็นเจ้าของ เขาควรอยู่ในจุดของผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ต่างหาก
“หลานของนางมีดวงตาแบบเดียวกับพวกเรา”
ท่านผู้นั้นนั่งนิ่งแล้วทำเป็นไม่ใส่ใจ
“อยู่บ้านนอกแบบนั้นคงไม่มีใครรู้เรื่องดวงตานี้กระมัง จากนี้ข้าจะจับตาดูด้วยตัวเอง” ท่านผู้นั้นซ่อนความวิตกไม่มิด “มาเข้าเรื่องกันดีว่า รายชื่อราชวงศ์ที่มีความมั่นคงทางด้านเชื้อสายและการปกครองที่ยอดเยี่ยมมาถึงแล้ว ท่านสามารถเลือกได้เลยว่าจะไปอยู่กับราชวงศ์ไหน ข้าจะส่งคนไปดูแลให้อย่างลับ ๆ จนถึงที่สุด ท่านทำงานหนักมาหลายร้อยปีก่อนมาอยู่กับข้า สิ่งนี้เป็นทั้งสัญญาของเราและของตอบแทนจากเสาค้ำจุน”
“ข้าอยากรอให้พวกเจ้าล้มเทพปิศาจให้ได้ก่อน...เหมือนจิตสำนึกของท่านพี่จะส่งผลถึงข้าด้วย ข้าทนไม่ได้ที่จะหนีไปมีความสุขอยู่ใต้การปกป้องของเจ้าในขณะที่เหล่ามนุษย์ยังมีภัยใหญ่หลวงอย่างเทพปิศาจอยู่”
“น้ำเน่าเป็นบ้า! หากไม่เลือกท่านข้าคงเน่าตายเพราะความดีงามของท่านผู้กล้าแน่” ท่านผู้นั้นหัวเราะร่าอย่างเปิดเผย ดูท่านผู้นั้นในความฝันจะจริงใจและร่าเริงกว่าปัจจุบัน “อย่างนั้นคงต้องรออย่างไม่รู้จุดจบล่ะนะ ส่วนวิญญาณของลาควีล่าก็หลับในมิติแห่งการหลับใหลต่อไป ไม่ต้องห่วงนางหรอก”
ท่านผู้นั้นหันไปมองบางอย่างบนโต๊ะ มันคือลูกแก้วขุ่นบนฐานเล็ก ๆ ประดับประดาอย่างดี เซธเชื่อว่าเคยเห็นของแบบนี้มาก่อน มันใช้บรรจุวิญญาณเอาไว้ใช้งานบางอย่าง
ระหว่างที่เซธกำลังเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คนรับใช้หญิงเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วโค้งให้ท่านผู้นั้นอย่างเคารพ
“ท่านนักรบเทพเทียซอทมาถึงแล้วฝ่าบาท” หญิงนางนั้นพูดอย่างนอบน้อม “ข้าให้ฝ่าบาทรอฝ่าบาทอยู่ในห้องรับรองพร้อมอาหารว่าง หากฝ่าบาทยังไม่พร้อมข้าจะไปบอกให้ฝ่าบาทรอก่อน”
“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” ท่านผู้นั้นรีบเก็บเอกสารเข้าซองทันที ปากก็พูดเกี่ยวกับแขกที่มาหา “อีกรายที่เข้าใจผิดแบบดิ่งลงเหว ข้าแค่ไปเยี่ยมเจ้าตัวที่แอบใช้ชื่อข้าเพื่อส่งมันลงนรกด้วยตัวเองเท่านั้น ชื่อเสียงต้องสร้างด้วยตัวเองสิจริงไหม ไม่ได้คิดจะช่วยเจ้านั่นเลย...แต่ไม่บ่นหรอกเพราะหมอนั่นคุยสนุกดี”
ท่านผู้นั้นในอดีตลุกเดินไปทางประตูห้องโดยมีจิตสำนึกของเซธตามไปด้วย ก่อนทุกอย่างจะเข้าสู่ความมืดเซธเหลือบไปเห็นรูปติดผนังขนาดเท่าตัวคน มันประดับกรอบสวยงามจนเกินพอดี คนในภาพคือสตรีผมเขียวที่เซธเห็นในฝันก่อนคำสาปทำงาน!...
(มีต่อ)