.
เช้าวันนี้อัญชลีกับลูกชายชวนกันไปทำบุญที่วัดให้กับปวินผู้เป็นคุณพ่อ วันนี้เป็นวันเสาร์ และ เป็นวันเกิดของสามีพอดี จึงชวนลูกชายไปทำบุญ สำหรับปีนี้ก็เข้าปีที่สี่แล้วกับการจากไปของปวิน ทุก ๆ ปีอัญชลีกับลูกชายต้องชวนกันไปทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เสมอ ด้วยความรัก และ ความคิดถึงที่ไม่เคยจางหาย
“อคิณปะสายแล้วลูก” เมื่อดูเวลาจวนจะเก้าโมงเช้าแล้วยังไม่ได้ออกจากบ้านกันเลย เพราะมัวแต่ปลุกกันให้ตื่นในตอนเช้า ยื่นมือไปจูงแขนลูกชาย
“คุณแม่เดี๋ยว ! “ เด็กชายหยุดกึกเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“ครับ ! ทำไมเหรอ ลืมอะไรเหรอลูก” เลิกคิ้วถามลูกชาย งงว่าลูกชายตัวน้อยลืมอะไรหรือ
“ลืมคุณพ่อ ให้คุณพ่อไปด้วยนะ” เมื่อได้ฟังดังนั้นก็เผยยิ้มกึ่งหัวเราะ พยักหน้าให้ ก่อนที่เด็กชายจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อไปหยิบรูปถ่ายของคนเป็นพ่อไปด้วย ไม่นานก็วิ่งกลับออกมา
“ปะพร้อมกันแล้วใช่มั้ยสองคนพ่อลูก งั้นขึ้นรถเลย เราจะไปทำบุญกัน คุณแม่เป็นคนขับรถเอง” พร้อมเดินไปเปิดประตูรถให้ลูกชาย เจ้าตัวถือรูปคุณพ่อไม่เอาไว้ไม่ยอมวาง ตนเองก็เดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับพร้อมขับออกไปวัดที่ไปเป็นประจำ
ในส่วนของพิธาวันนี้ เมื่อไม่มีการบ้านต้องตรวจ หรือ งานค้างอะไร ถ้าเป็นวันหยุดแบบนี้จะต้องไปหาหลวงลุงที่วัดเสมอ วัดเป็นเสมือนบ้านเลยก็ว่าได้ พิธาโตมากับวัดนี้ หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน ตนเองก็มาอยู่ที่วัดกับหลวงลุง อาศัยข้าววัดประทังจนมีทุกวันนี้
เขารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาหลวงลุงที่วัดเช่นทุกครั้ง กะว่าจะนอนค้างที่นั่นด้วย ตื่นเช้าจะได้ช่วยหลวงลุงเดินบิณฑบาต หนุ่มโสดอย่างเขาจะนอนที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรือกังวลเรื่องอะไร พอแต่งตัวเสร็จจึงรีบบึ่งรถมาที่วัดเลย
…………………………………..
ภายในบริเวณวัดร่มรื่น พิธามองเห็นรถเก๋งสีดำวิ่งเข้ามาจอดหน้ากุฏิ ขณะยืนกวาดใบไม้ที่ลานวัด จ้องมองด้วยแววตาเป็นมิตร คงจะเป็นคนที่มาทำบุญในวันนี้นั่นแหละ จะมีอะไรให้ช่วยยกช่วยถือหรือเปล่านะ นึกในใจจึงหยุดกวาดใบไม้ และ ยืนมองท่าทีของเจ้าของรถคันนั้น
ในส่วนของอัญชลีกับลูกชาย ขับรถเข้ามาจอดภายในวัดอย่างคุ้นชิน ก่อนจะหันไปมองลูกชายแล้วยิ้มให้ “ปะลูก ทำบุญให้คุณพ่อกัน คืนนี้หนูต้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้คุณพ่อด้วยนะครับ” พูดปนยิ้มก่อนจะชวนลูกชายเปิดประตูลงจากรถไป
เธอกับลูกชายเปิดประตูรถ พร้อมเดินไปเปิดหลังรถเพื่อจะนำข้าวของที่มาทำบุญในวันนี้ ไปถวายหลวงตา พิธาเห็นดังนั้นก็ตกใจนิดหน่อยที่บังเอิญมาก เด็กชายอคิณกับคุณแม่นั่นเอง จึงรีบวางไม้กวาดกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปทักทาย และ อาสาช่วยถือข้าวของที่นำมาด้วย
“อคิณสวัสดีครับ เอ่อ คุณอัญชลีสวัสดีครับ บังเอิญจริง ๆ เลยนะครับ” เขาเดินมาถึงก็กล่าวทักทายก่อนเลย ที่จำชื่อของเธอได้เพราะพึ่งเจอกันไปเมื่อวานนี้
“อ้าวคุณครูพิธาสวัสดีครับ อคิณกับคุณแม่มาทำบุญวันเกิดให้คุณพ่อ คุณครูก็มาทำบุญเหรอครับ” เด็กชายทักทาย ทั้งคนเป็นแม่อีกทั้งคนเป็นครูยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู
“สวัสดีค่ะคุณครู ดิฉันกับลูกมาทำบุญให้กับสามีค่ะ อคิณคงยังไม่ได้บอกคุณเรื่องคุณพ่อของเขาสินะคะ” อัญชลีพูดปนยิ้ม เขาแอบพินิจดูดี ๆ แม่หม้ายลูกติดคนนี้ก็ดูน่ารักอ่อนหวานละมุนเหมือนกัน สาวโสดบางคนที่เขาเคยเจอมายังไม่ได้เท่านี้เลย “คุณครูก็มาทำบุญเหมือนกันเหรอคะ”
“อ่อเปล่าครับ ผมอยู่ที่นี่” เขาตอบยิ้ม ๆ รู้สึกเขินอยู่เหมือนกันที่ต้องบอกว่าตนเองเป็นเด็กวัด ส่วนเธอทำหน้าสงสัยปนทึ่งมากกว่าจะหยามเหยียด
“คุณครูเป็นเด็กวัดเหรอครับ” เด็กชายถามขึ้นทันที
“อคิณ ! ขอโทษคุณครูเดี๋ยวนี้เลยครับ ถามอะไรแบบนั้น” เมื่อได้ฟังที่ลูกชายถามจึงปรามเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“ไม่… ไม่เป็นไรครับ !” เขารีบห้าม พร้อมเอื้อมมือไปลูบผมลูกศิษย์ตัวน้อยและยิ้มให้ “ใช่ครับคุณครูเป็นเด็กวัด ครูโตมากับวัดนี้จนกลายมาเป็นคุณครูสอนอคิณไง” พูดกับเด็กชายพร้อมปรายตามามองคนเป็นแม่ รู้สึกถูกชะตาถูกใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “เสียเวลามากแล้ว มาเดี๋ยวผมพาไปหาหลวงลุงกัน มีอะไรให้ผมช่วยถือมั้ยครับ” เขาถาม
“ก็นิดหน่อยค่ะ สังฆทาน และ ข้าวของเครื่องใช้ของสามีดิฉัน คุณครูช่วยถือสังฆทานก็ได้ค่ะ” เธอพูดพร้อมหยิบสังฆทานให้เขาช่วยถือ ส่วนตนเองถือข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของสามี ส่วนอคิณลูกชายถือเค้กวันเกิดเดินตามเขาไปที่กุฏิ
“นมัสการค่ะหลวงตา” พอมาถึงเธอกล่าวกับเจ้าอาวาส นำข้าวของที่นำมาทำบุญวันนี้วางไว้ด้านหน้า สองคนแม่ลูกนั่งเรียงกัน ส่วนพิธานั่งด้านหลัง พอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงขอตัวลงไปกวาดลานวัดต่อ
“วันเกิดเขาเหรอ เห็นมีเค้กมาด้วย” เพราะมาทำบุญที่วัดนี้บ่อย ๆ จึงพอให้เจ้าอาวาสจำพวกเธอสองคนแม่ลูกได้บ้าง
“ค่ะหลวงตา พอดีว่าลูกชายเขาอยากนำเค้กมาให้พ่อด้วย” เธอพนมมือตอบ ส่วนเด็กชายเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ทำก็ทำตามบ้าง
“หลวงตาครับ อคิณนำเค้กมาให้คุณพ่อ คุณพ่อเขาจะได้กินมั้ยครับ” เด็กน้อยถามตามที่ตนสงสัย คนเป็นแม่หันมายิ้มให้ หลวงตาเองก็ขำกับสิ่งที่เด็กชายพูด
“ได้กินสิโยม อะไรที่ทำบุญไปให้ในวันนี้พ่อเขาได้รับหมดนั่นแหละ” หลวงตาตอบ “มางั้นเรามาอุทิศส่วนกุศลให้พ่อกันเถอะ พนมมือนะ” หลวงตาพูดต่อ จากนั้นก็สวดมนต์ตามขั้นตอนในการทำบุญจนจบ
เมื่อทำบุญกรวดน้ำจนเสร็จแล้วสองแม่ลูกเดินมาที่รถเพื่อกลับบ้าน เห็นพิธายังง่วนอยู่กับการกวดลานวัดไม่เสร็จ จึงกะว่าจะเดินเข้าไปล่ำลาสักหน่อย “คุณครูคะ ฉันกับลูกขอตัวกลับแล้วนะคะ” เธอกล่าวเมื่อเดินมาถึง
“เรียกผมพิธาเฉย ๆ ก็ได้ครับ “ เขาพูดปนยิ้ม
“จะดีเหรอคะ คุณเป็นครูของอคิณนะคะ” เธอถามพร้อมทำหน้าสงสัย กระนั้นก็ยังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ละมุน
“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมไม่ได้อยู่ที่โรงเรียน ถึงอยู่ไม่เรียกก็ได้”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นครูของอคิณ ดิฉันก็ต้องให้เกียรติ อคิณครับลาคุณครูเร็ว เราจะกลับบ้านกันแล้ว” สิ้นคำสั่งของผู้เป็นแม่ เด็กชายจึงยกมือไหว้แล้วเอ่ยคำลา
“เจอกันวันจันทร์ครับอคิณ” เขาเอ่ยลาเช่นกัน พร้อมยืนมองสองแม่ลูกขับรถออกไปจนสุดสายตา ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย พึ่งจะเจอกันแค่สองครั้งเอง อย่าบอกว่าถูกใจแม่หม้ายลูกติดเข้าให้แล้วนะ ถามกับตนเอง แล้วก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตั้งใจทำความสะอาดวัดให้หลวงลุงต่อด้วยหัวใจระส่ำระสาย…
จบบท…
https://ppantip.com/topic/40937616…..บทที่ 1
ขอจองได้ไหมหัวใจดวงนี้…..บทที่ 2
.
เช้าวันนี้อัญชลีกับลูกชายชวนกันไปทำบุญที่วัดให้กับปวินผู้เป็นคุณพ่อ วันนี้เป็นวันเสาร์ และ เป็นวันเกิดของสามีพอดี จึงชวนลูกชายไปทำบุญ สำหรับปีนี้ก็เข้าปีที่สี่แล้วกับการจากไปของปวิน ทุก ๆ ปีอัญชลีกับลูกชายต้องชวนกันไปทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เสมอ ด้วยความรัก และ ความคิดถึงที่ไม่เคยจางหาย
“อคิณปะสายแล้วลูก” เมื่อดูเวลาจวนจะเก้าโมงเช้าแล้วยังไม่ได้ออกจากบ้านกันเลย เพราะมัวแต่ปลุกกันให้ตื่นในตอนเช้า ยื่นมือไปจูงแขนลูกชาย
“คุณแม่เดี๋ยว ! “ เด็กชายหยุดกึกเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“ครับ ! ทำไมเหรอ ลืมอะไรเหรอลูก” เลิกคิ้วถามลูกชาย งงว่าลูกชายตัวน้อยลืมอะไรหรือ
“ลืมคุณพ่อ ให้คุณพ่อไปด้วยนะ” เมื่อได้ฟังดังนั้นก็เผยยิ้มกึ่งหัวเราะ พยักหน้าให้ ก่อนที่เด็กชายจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อไปหยิบรูปถ่ายของคนเป็นพ่อไปด้วย ไม่นานก็วิ่งกลับออกมา
“ปะพร้อมกันแล้วใช่มั้ยสองคนพ่อลูก งั้นขึ้นรถเลย เราจะไปทำบุญกัน คุณแม่เป็นคนขับรถเอง” พร้อมเดินไปเปิดประตูรถให้ลูกชาย เจ้าตัวถือรูปคุณพ่อไม่เอาไว้ไม่ยอมวาง ตนเองก็เดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับพร้อมขับออกไปวัดที่ไปเป็นประจำ
ในส่วนของพิธาวันนี้ เมื่อไม่มีการบ้านต้องตรวจ หรือ งานค้างอะไร ถ้าเป็นวันหยุดแบบนี้จะต้องไปหาหลวงลุงที่วัดเสมอ วัดเป็นเสมือนบ้านเลยก็ว่าได้ พิธาโตมากับวัดนี้ หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน ตนเองก็มาอยู่ที่วัดกับหลวงลุง อาศัยข้าววัดประทังจนมีทุกวันนี้
เขารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาหลวงลุงที่วัดเช่นทุกครั้ง กะว่าจะนอนค้างที่นั่นด้วย ตื่นเช้าจะได้ช่วยหลวงลุงเดินบิณฑบาต หนุ่มโสดอย่างเขาจะนอนที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรือกังวลเรื่องอะไร พอแต่งตัวเสร็จจึงรีบบึ่งรถมาที่วัดเลย
…………………………………..
ภายในบริเวณวัดร่มรื่น พิธามองเห็นรถเก๋งสีดำวิ่งเข้ามาจอดหน้ากุฏิ ขณะยืนกวาดใบไม้ที่ลานวัด จ้องมองด้วยแววตาเป็นมิตร คงจะเป็นคนที่มาทำบุญในวันนี้นั่นแหละ จะมีอะไรให้ช่วยยกช่วยถือหรือเปล่านะ นึกในใจจึงหยุดกวาดใบไม้ และ ยืนมองท่าทีของเจ้าของรถคันนั้น
ในส่วนของอัญชลีกับลูกชาย ขับรถเข้ามาจอดภายในวัดอย่างคุ้นชิน ก่อนจะหันไปมองลูกชายแล้วยิ้มให้ “ปะลูก ทำบุญให้คุณพ่อกัน คืนนี้หนูต้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้คุณพ่อด้วยนะครับ” พูดปนยิ้มก่อนจะชวนลูกชายเปิดประตูลงจากรถไป
เธอกับลูกชายเปิดประตูรถ พร้อมเดินไปเปิดหลังรถเพื่อจะนำข้าวของที่มาทำบุญในวันนี้ ไปถวายหลวงตา พิธาเห็นดังนั้นก็ตกใจนิดหน่อยที่บังเอิญมาก เด็กชายอคิณกับคุณแม่นั่นเอง จึงรีบวางไม้กวาดกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปทักทาย และ อาสาช่วยถือข้าวของที่นำมาด้วย
“อคิณสวัสดีครับ เอ่อ คุณอัญชลีสวัสดีครับ บังเอิญจริง ๆ เลยนะครับ” เขาเดินมาถึงก็กล่าวทักทายก่อนเลย ที่จำชื่อของเธอได้เพราะพึ่งเจอกันไปเมื่อวานนี้
“อ้าวคุณครูพิธาสวัสดีครับ อคิณกับคุณแม่มาทำบุญวันเกิดให้คุณพ่อ คุณครูก็มาทำบุญเหรอครับ” เด็กชายทักทาย ทั้งคนเป็นแม่อีกทั้งคนเป็นครูยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู
“สวัสดีค่ะคุณครู ดิฉันกับลูกมาทำบุญให้กับสามีค่ะ อคิณคงยังไม่ได้บอกคุณเรื่องคุณพ่อของเขาสินะคะ” อัญชลีพูดปนยิ้ม เขาแอบพินิจดูดี ๆ แม่หม้ายลูกติดคนนี้ก็ดูน่ารักอ่อนหวานละมุนเหมือนกัน สาวโสดบางคนที่เขาเคยเจอมายังไม่ได้เท่านี้เลย “คุณครูก็มาทำบุญเหมือนกันเหรอคะ”
“อ่อเปล่าครับ ผมอยู่ที่นี่” เขาตอบยิ้ม ๆ รู้สึกเขินอยู่เหมือนกันที่ต้องบอกว่าตนเองเป็นเด็กวัด ส่วนเธอทำหน้าสงสัยปนทึ่งมากกว่าจะหยามเหยียด
“คุณครูเป็นเด็กวัดเหรอครับ” เด็กชายถามขึ้นทันที
“อคิณ ! ขอโทษคุณครูเดี๋ยวนี้เลยครับ ถามอะไรแบบนั้น” เมื่อได้ฟังที่ลูกชายถามจึงปรามเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“ไม่… ไม่เป็นไรครับ !” เขารีบห้าม พร้อมเอื้อมมือไปลูบผมลูกศิษย์ตัวน้อยและยิ้มให้ “ใช่ครับคุณครูเป็นเด็กวัด ครูโตมากับวัดนี้จนกลายมาเป็นคุณครูสอนอคิณไง” พูดกับเด็กชายพร้อมปรายตามามองคนเป็นแม่ รู้สึกถูกชะตาถูกใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “เสียเวลามากแล้ว มาเดี๋ยวผมพาไปหาหลวงลุงกัน มีอะไรให้ผมช่วยถือมั้ยครับ” เขาถาม
“ก็นิดหน่อยค่ะ สังฆทาน และ ข้าวของเครื่องใช้ของสามีดิฉัน คุณครูช่วยถือสังฆทานก็ได้ค่ะ” เธอพูดพร้อมหยิบสังฆทานให้เขาช่วยถือ ส่วนตนเองถือข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของสามี ส่วนอคิณลูกชายถือเค้กวันเกิดเดินตามเขาไปที่กุฏิ
“นมัสการค่ะหลวงตา” พอมาถึงเธอกล่าวกับเจ้าอาวาส นำข้าวของที่นำมาทำบุญวันนี้วางไว้ด้านหน้า สองคนแม่ลูกนั่งเรียงกัน ส่วนพิธานั่งด้านหลัง พอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงขอตัวลงไปกวาดลานวัดต่อ
“วันเกิดเขาเหรอ เห็นมีเค้กมาด้วย” เพราะมาทำบุญที่วัดนี้บ่อย ๆ จึงพอให้เจ้าอาวาสจำพวกเธอสองคนแม่ลูกได้บ้าง
“ค่ะหลวงตา พอดีว่าลูกชายเขาอยากนำเค้กมาให้พ่อด้วย” เธอพนมมือตอบ ส่วนเด็กชายเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ทำก็ทำตามบ้าง
“หลวงตาครับ อคิณนำเค้กมาให้คุณพ่อ คุณพ่อเขาจะได้กินมั้ยครับ” เด็กน้อยถามตามที่ตนสงสัย คนเป็นแม่หันมายิ้มให้ หลวงตาเองก็ขำกับสิ่งที่เด็กชายพูด
“ได้กินสิโยม อะไรที่ทำบุญไปให้ในวันนี้พ่อเขาได้รับหมดนั่นแหละ” หลวงตาตอบ “มางั้นเรามาอุทิศส่วนกุศลให้พ่อกันเถอะ พนมมือนะ” หลวงตาพูดต่อ จากนั้นก็สวดมนต์ตามขั้นตอนในการทำบุญจนจบ
เมื่อทำบุญกรวดน้ำจนเสร็จแล้วสองแม่ลูกเดินมาที่รถเพื่อกลับบ้าน เห็นพิธายังง่วนอยู่กับการกวดลานวัดไม่เสร็จ จึงกะว่าจะเดินเข้าไปล่ำลาสักหน่อย “คุณครูคะ ฉันกับลูกขอตัวกลับแล้วนะคะ” เธอกล่าวเมื่อเดินมาถึง
“เรียกผมพิธาเฉย ๆ ก็ได้ครับ “ เขาพูดปนยิ้ม
“จะดีเหรอคะ คุณเป็นครูของอคิณนะคะ” เธอถามพร้อมทำหน้าสงสัย กระนั้นก็ยังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ละมุน
“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมไม่ได้อยู่ที่โรงเรียน ถึงอยู่ไม่เรียกก็ได้”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นครูของอคิณ ดิฉันก็ต้องให้เกียรติ อคิณครับลาคุณครูเร็ว เราจะกลับบ้านกันแล้ว” สิ้นคำสั่งของผู้เป็นแม่ เด็กชายจึงยกมือไหว้แล้วเอ่ยคำลา
“เจอกันวันจันทร์ครับอคิณ” เขาเอ่ยลาเช่นกัน พร้อมยืนมองสองแม่ลูกขับรถออกไปจนสุดสายตา ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย พึ่งจะเจอกันแค่สองครั้งเอง อย่าบอกว่าถูกใจแม่หม้ายลูกติดเข้าให้แล้วนะ ถามกับตนเอง แล้วก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตั้งใจทำความสะอาดวัดให้หลวงลุงต่อด้วยหัวใจระส่ำระสาย…
จบบท…
https://ppantip.com/topic/40937616…..บทที่ 1