.
“อ้าวอคิณครับ คุณแม่ยังไม่มารับอีกเหรอ” พิธาเดินตรวจตราดูความเรียบร้อย พอเดินมายังหน้าชั้นที่ตนเองสอนอยู่ เห็นนักเรียนในปกครองกำลังนั่งรอใครบางคนอยู่คนเดียว จึงเดินก้าวยาว ๆ เข้าไปถาม
เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มหันมามองพร้อมยิ้มให้ ไม่ได้มีท่าทางกังวลแม้แต่น้อย “ครับ คุณแม่น่าจะยังไม่เลิกงาน” เด็กชายตอบผู้เป็นคุณครูประจำชั้น
เขาพึ่งย้ายมาเป็นครูที่นี่ได้ไม่นาน จึงยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกับผู้ปกครองของนักเรียนเท่าไหร่ มีบ้างที่รู้จักกันมาแล้ว ทว่าผู้ปกครองของเด็กชายอคิณเขายังไม่เคยเจอเลย
“โหนี่ก็เย็นมากแล้วนะครับ มีเบอร์ติดต่อคุณแม่มั้ย” ถามเด็กชายตัวน้อยด้วยความเป็นห่วง ในใจแอบบ่นให้คนเป็นแม่ว่าทิ้งลูกแบบนี้ได้อย่างไร เห็นงานสำคัญกว่าลูกหรือ “แล้วคุณพ่อล่ะครับ ทำไมไม่ให้คุณพ่อมารับ” เขาถามหาคนเป็นพ่อกับเด็กชาย
“อคิณไม่มีคุณพ่อครับ” พอได้ยินแบบนั้นครูหนุ่มขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย ทว่าก็ไม่กล้าถามอะไรมากมาย เมื่อเห็นผู้เป็นครูเงียบเด็กชายจึงพูดต่อ “คุณพ่อของอคิณเสียแล้ว อคิณอยู่กับคุณแม่สองคนครับ”
เมื่อได้ฟังดังนั้นพิธาจึงเผยยิ้ม เมื่อครู่แอบนึกไปว่าครอบครัวมีปัญหาเสียอีก นึกเอ็นดูในความเข้มแข็งของเด็กชายมาก ๆ คนเป็นแม่ยังไม่มารับก็ไม่งอแงร้องไห้ คงจะถูกสอนมาเป็นอย่างดี “งั้นครูพิธานั่งรอคุณแม่เป็นเพื่อนอคิณเองนะครับ” พูดจบก็นั่งลงที่ระเบียงหน้าห้องข้าง ๆ เด็กชาย ชวนคุยฆ่าเวลาไปเรื่อย
…………………………..
“โอ้ยอคิณเอ้ยแม่ ๆ ขอโทษนะครับ ฮือ แม่กำลังไปรับหนูเดี๋ยวนี้ครับ” อัญชลีบ่นอุบอิบให้กับตัวเอง หัวเสียกับวันนี้มาก ๆ งานวุ่นวายไม่พอ แถมรถยังมาติดแง่กแบบนี้อีก กระวนกระวายใจนั่งไม่ติด ห่วงลูกชายคนเดียวก็ห่วง ทำไมตนเองถึงเป็นแม่ไม่ได้เรื่องแบบนี้
ระหว่างนั้นก็นึกถึงใครบางคน ที่เป็นความสงบทางใจ และ ความสุขทางใจของเธอล่ะ เอื้อมมือเปิดเกะหน้าคอนโซลรถ หยิบรูปของใครบางคนขึ้นมา เวลาดูรูปนี้น้ำตาเป็นอันต้องไหลทุกทีไป เพราะนึกถึงความสุขในขณะนั้นของรูปใบนี้
“ปวินคุณช่วยดูลูกรอฉันด้วยนะคะ ฉันกำลังไปรับลูกค่ะ ฉันอธิบายได้นะคะที่ไปรับลูกช้าวันนี้ คุณเข้าใจฉันใช่มั้ย ดูลูกรอฉันด้วยนะ อย่าให้เขาเกิดอันตรายใด ๆ นะคะ” อัญชลีพูดกับรูปของสามี รถก็ขยับไปได้ทีละนิด ตอนนี้อยู่ระหว่างทาง ทว่าใจอยู่ที่โรงเรียนของลูกชายแล้ว
เธอรีบขับไปให้ถึงโรงเรียนโดยเร็ว สักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาจอดภายในบริเวณโรงเรียน พบว่ารอบ ๆ บริเวณเงียบสงัดยิ่งรู้สึกผิดไปอีก เธอรีบเปิดประตูลงจากรถ รีบวิ่งไปหาลูกชายทันที
“อคิณคุณแม่มาแล้วครับ !” ร้องเรียกพร้อมเดินเข้าไปกอดลูกชายด้วยความรู้สึกผิด ไม่ทันสนใจครูหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วย “คุณแม่ขอโทษนะครับ รอคุณแม่นานมั้ย”
“ไม่ครับ ครูพิธารอเป็นเพื่อนอคิณ” เมื่อเด็กชายพูดถึงคุณครู เธอจึงรู้สึกตัวว่ามีอีกคนอยู่ตรงนี้
“เอ่อ ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนอคิณ คือ ดิฉันมีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ค่ะ วันนี้จึงมารับช้า ปกติก็มารับเร็วค่ะ” ยิ้มแหย ๆ ให้คุณครูด้วยความรู้สึกผิด กลัวโดนต่อว่าด้วย
“ไม่เป็นไรครับ หน้าที่ของผมอยู่แล้ว เอ่อ คุณแม่คงยังไม่รู้จัก ผมพิธาเป็นครูประจำชั้นของอคิณนะครับ” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง เพราะเห็นเป็นผู้ปกครองของเด็กในปกครองของตน “ผมว่าซื้อโทรศัพท์ให้เขาพกติดตัวก็ดีนะครับ เวลามีอะไรจะได้ติดต่อสื่อสารได้”
“ ดิฉันอัญชลีนะคะ เรียกลีเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ แต่ พอคิด ๆ ดูแล้วเขายังเด็กเกินไป” เธอตอบ เพราะลูกชายอยู่เพียงชั้น ป.1 เอง เธอมั่นใจว่าดูแลลูกได้ ทว่าวันนี้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเสียก่อน งานของเธอมีปัญหาจึงได้มารับช้า “ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนอคิณ ยังไงไม่มีอะไรแล้วดิฉันกับลูกขอตัวกลับก่อนนะคะ” เมื่อคุยกันพอสมควรแล้วจึงขอตัวกลับ
“คุณลีครับ เอ่อ คุณอัญชลีไม่เป็นไรนะครับ ถ้าวันไหนงานยุ่งมารับช้า เดี๋ยวผมดูแลอคิณให้เอง”
“ขอบคุณค่ะคุณครูพิธา แต่ฉันว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอกล่าวลา
“คุณครูครับ อคิณกลับแล้วนะครับ”
“ครับ เจอกันวันจันทร์นะครับ” ยืนมองสองแม่ลูกขับรถออกจากโรงเรียน พิธารู้สึกถูกชะตากับสองแม่ลูกนี้แปลก ๆ พึ่งจะได้เจอกันก็ตาม ตนเองคงไม่หลงถูกใจคุณแม่ลูกติดคนนี้หรอกนะ พอคิดแบบนี้ก็หัวเราะคนเดียวเบา ๆ เพราะตั้งแต่อกหักมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนเลย จนกระทั่งมาถึงวันนี้ เขาสลัดความคิดนั้นทิ้ง ก่อนจะเดินไปที่รถเพื่อกลับบ้านเช่นกัน
จบบท…
ขอจองได้ไหมหัวใจดวงนี้ บทที่ 1
.
“อ้าวอคิณครับ คุณแม่ยังไม่มารับอีกเหรอ” พิธาเดินตรวจตราดูความเรียบร้อย พอเดินมายังหน้าชั้นที่ตนเองสอนอยู่ เห็นนักเรียนในปกครองกำลังนั่งรอใครบางคนอยู่คนเดียว จึงเดินก้าวยาว ๆ เข้าไปถาม
เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มหันมามองพร้อมยิ้มให้ ไม่ได้มีท่าทางกังวลแม้แต่น้อย “ครับ คุณแม่น่าจะยังไม่เลิกงาน” เด็กชายตอบผู้เป็นคุณครูประจำชั้น
เขาพึ่งย้ายมาเป็นครูที่นี่ได้ไม่นาน จึงยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกับผู้ปกครองของนักเรียนเท่าไหร่ มีบ้างที่รู้จักกันมาแล้ว ทว่าผู้ปกครองของเด็กชายอคิณเขายังไม่เคยเจอเลย
“โหนี่ก็เย็นมากแล้วนะครับ มีเบอร์ติดต่อคุณแม่มั้ย” ถามเด็กชายตัวน้อยด้วยความเป็นห่วง ในใจแอบบ่นให้คนเป็นแม่ว่าทิ้งลูกแบบนี้ได้อย่างไร เห็นงานสำคัญกว่าลูกหรือ “แล้วคุณพ่อล่ะครับ ทำไมไม่ให้คุณพ่อมารับ” เขาถามหาคนเป็นพ่อกับเด็กชาย
“อคิณไม่มีคุณพ่อครับ” พอได้ยินแบบนั้นครูหนุ่มขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย ทว่าก็ไม่กล้าถามอะไรมากมาย เมื่อเห็นผู้เป็นครูเงียบเด็กชายจึงพูดต่อ “คุณพ่อของอคิณเสียแล้ว อคิณอยู่กับคุณแม่สองคนครับ”
เมื่อได้ฟังดังนั้นพิธาจึงเผยยิ้ม เมื่อครู่แอบนึกไปว่าครอบครัวมีปัญหาเสียอีก นึกเอ็นดูในความเข้มแข็งของเด็กชายมาก ๆ คนเป็นแม่ยังไม่มารับก็ไม่งอแงร้องไห้ คงจะถูกสอนมาเป็นอย่างดี “งั้นครูพิธานั่งรอคุณแม่เป็นเพื่อนอคิณเองนะครับ” พูดจบก็นั่งลงที่ระเบียงหน้าห้องข้าง ๆ เด็กชาย ชวนคุยฆ่าเวลาไปเรื่อย
…………………………..
“โอ้ยอคิณเอ้ยแม่ ๆ ขอโทษนะครับ ฮือ แม่กำลังไปรับหนูเดี๋ยวนี้ครับ” อัญชลีบ่นอุบอิบให้กับตัวเอง หัวเสียกับวันนี้มาก ๆ งานวุ่นวายไม่พอ แถมรถยังมาติดแง่กแบบนี้อีก กระวนกระวายใจนั่งไม่ติด ห่วงลูกชายคนเดียวก็ห่วง ทำไมตนเองถึงเป็นแม่ไม่ได้เรื่องแบบนี้
ระหว่างนั้นก็นึกถึงใครบางคน ที่เป็นความสงบทางใจ และ ความสุขทางใจของเธอล่ะ เอื้อมมือเปิดเกะหน้าคอนโซลรถ หยิบรูปของใครบางคนขึ้นมา เวลาดูรูปนี้น้ำตาเป็นอันต้องไหลทุกทีไป เพราะนึกถึงความสุขในขณะนั้นของรูปใบนี้
“ปวินคุณช่วยดูลูกรอฉันด้วยนะคะ ฉันกำลังไปรับลูกค่ะ ฉันอธิบายได้นะคะที่ไปรับลูกช้าวันนี้ คุณเข้าใจฉันใช่มั้ย ดูลูกรอฉันด้วยนะ อย่าให้เขาเกิดอันตรายใด ๆ นะคะ” อัญชลีพูดกับรูปของสามี รถก็ขยับไปได้ทีละนิด ตอนนี้อยู่ระหว่างทาง ทว่าใจอยู่ที่โรงเรียนของลูกชายแล้ว
เธอรีบขับไปให้ถึงโรงเรียนโดยเร็ว สักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาจอดภายในบริเวณโรงเรียน พบว่ารอบ ๆ บริเวณเงียบสงัดยิ่งรู้สึกผิดไปอีก เธอรีบเปิดประตูลงจากรถ รีบวิ่งไปหาลูกชายทันที
“อคิณคุณแม่มาแล้วครับ !” ร้องเรียกพร้อมเดินเข้าไปกอดลูกชายด้วยความรู้สึกผิด ไม่ทันสนใจครูหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วย “คุณแม่ขอโทษนะครับ รอคุณแม่นานมั้ย”
“ไม่ครับ ครูพิธารอเป็นเพื่อนอคิณ” เมื่อเด็กชายพูดถึงคุณครู เธอจึงรู้สึกตัวว่ามีอีกคนอยู่ตรงนี้
“เอ่อ ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนอคิณ คือ ดิฉันมีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ค่ะ วันนี้จึงมารับช้า ปกติก็มารับเร็วค่ะ” ยิ้มแหย ๆ ให้คุณครูด้วยความรู้สึกผิด กลัวโดนต่อว่าด้วย
“ไม่เป็นไรครับ หน้าที่ของผมอยู่แล้ว เอ่อ คุณแม่คงยังไม่รู้จัก ผมพิธาเป็นครูประจำชั้นของอคิณนะครับ” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง เพราะเห็นเป็นผู้ปกครองของเด็กในปกครองของตน “ผมว่าซื้อโทรศัพท์ให้เขาพกติดตัวก็ดีนะครับ เวลามีอะไรจะได้ติดต่อสื่อสารได้”
“ ดิฉันอัญชลีนะคะ เรียกลีเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ แต่ พอคิด ๆ ดูแล้วเขายังเด็กเกินไป” เธอตอบ เพราะลูกชายอยู่เพียงชั้น ป.1 เอง เธอมั่นใจว่าดูแลลูกได้ ทว่าวันนี้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเสียก่อน งานของเธอมีปัญหาจึงได้มารับช้า “ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนอคิณ ยังไงไม่มีอะไรแล้วดิฉันกับลูกขอตัวกลับก่อนนะคะ” เมื่อคุยกันพอสมควรแล้วจึงขอตัวกลับ
“คุณลีครับ เอ่อ คุณอัญชลีไม่เป็นไรนะครับ ถ้าวันไหนงานยุ่งมารับช้า เดี๋ยวผมดูแลอคิณให้เอง”
“ขอบคุณค่ะคุณครูพิธา แต่ฉันว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอกล่าวลา
“คุณครูครับ อคิณกลับแล้วนะครับ”
“ครับ เจอกันวันจันทร์นะครับ” ยืนมองสองแม่ลูกขับรถออกจากโรงเรียน พิธารู้สึกถูกชะตากับสองแม่ลูกนี้แปลก ๆ พึ่งจะได้เจอกันก็ตาม ตนเองคงไม่หลงถูกใจคุณแม่ลูกติดคนนี้หรอกนะ พอคิดแบบนี้ก็หัวเราะคนเดียวเบา ๆ เพราะตั้งแต่อกหักมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนเลย จนกระทั่งมาถึงวันนี้ เขาสลัดความคิดนั้นทิ้ง ก่อนจะเดินไปที่รถเพื่อกลับบ้านเช่นกัน
จบบท…