.
พิธาตื่นแต่เช้ารีบแต่งตัวเสริมหล่อให้ตนเองเป็นพิเศษ ฉีดน้ำหอมฟุ้งตามตัว ก่อนจะรีบขับรถไปรับอัญชลีกับลูกชาย นี่เป็นครั้งแรกที่พิธาได้รับอภิสิทธิ์ให้ไปรับออกไปข้างนอก ปกติเพียงนัดเจอกันแล้วขับรถไปคนละคัน ดังนั้นตนเองต้องไม่ทำอะไรผิดพลาด อยากทำให้สาวเจ้ากับลูกชายประทับใจที่สุด
นึกไปนึกมาตลกตนเองเหมือนกัน แค้นเสียงหัวเราะเบา ๆ ให้กับการกระทำของตนหน้ากระจกแต่งตัว อินเลิฟอีกแล้วเหรอ ลงทุนทำขนาดนี้เพราะความรักว่างั้น ! เถอะน่าพิธา คุณอัญชลีคือคนที่หัวใจบอกว่ารอบนี้ใช่ชัวร์ ใช่แน่นอน พูดกับตนเองในกระจก
พอสำรวจตนเองเสร็จก็รีบขับรถไปยังบ้านของอัญชลีทันที วันนี้พวกเขาจะไปทำบุญที่วัดกับหลวงลุง จากนั้นก็พาอคิณไปเล่นเครื่องเล่นตามที่ได้สัญญากันเอาไว้
“มาแล้วครับอคิณ รอครูนานมั้ย” จอดรถที่หน้าบ้านของสาวเจ้า พูดกับเด็กชายที่ยืนอยู่กับคนเป็นแม่ บ้านของอัญชลีก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรลักษณะแบบทาวน์เฮ้าส์
“ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ตื่นอาบน้ำแต่งตัวรอตั้งแต่เช้านู่น” คนเป็นแม่อดแซวลูกชายไม่ได้ หมั่นไส้ลูกตนเองนัก พิธาหัวเราะพร้อมลูบศีรษะของลูกศิษย์เบา ๆ
“รอไม่นานเลยครับ” เด็กชายตอบ ในมือกอดรูปอัดกรอบของคนเป็นพ่อเอาไว้ เพราะเด็กชายจะเอาไปด้วยเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ไปเที่ยวกับคนเป็นแม่
พิธามองกรอบรูปในอ้อมแขนลูกศิษย์ ทว่ายิ้มให้เข้าใจการกระทำนั้นดี “อ้อ อคิณชอบให้พ่อไปเที่ยวด้วยเสมอค่ะ ลีห้ามแล้วไม่ฟังก็เลยตามใจกันเลย คุณพิธาไม่ขัดอะไรใช่มั้ยคะ” อัญชลีถามหยั่งเชิง ถือเป็นการลองใจครูหนุ่มคนนี้ไปในตัวด้วย ตนเองทราบนั่นแหละว่าครูหนุ่มคนนี้คิดเช่นไรด้วย ไม่เปิดโอกาสให้ทว่าก็ไม่ได้ปิดโอกาสซะทีเดียว
“ครูพิธาให้พ่อ ๆ ของอคิณไปด้วยนะครับ อคิณอยากให้พ่อ ๆ ไปด้วย” เด็กชายพูด ทำสายตาเว้าวอนให้กับครูประจำชั้น อีกทั้งหันไปมองคนเป็นแม่ด้วยอีกคน
“โถอคิณได้สิครับ ไม่ขัดข้องอะไรเลยครับคุณลี” ตอบกลั้วยิ้ม ไม่ขัดข้องอะไรจริง ๆ อย่างที่พูด ไม่ได้แกล้งทำเพื่อเอาใจหากแต่เป็นความรู้สึกจริง ๆ เขาเข้าใจความรู้สึกลูกศิษย์ตัวน้อยคนนี้ดี เพราะก็ไม่ต่างไปจากเขาเท่าไหร่นัก จะต่างก็เพียงแค่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ทว่าไม่ค่อยได้รับความอบอุ่นเท่าที่ควร นอกจากหลวงลุงที่มอบความเมตตาให้เขากับน้องชายมา
“คุณลีสบายใจเถอะนะครับ” ยิ้มให้สาวเจ้าด้วยความจริงใจ
อัญชลียิ้มตอบ นึกว่าจะขัดใจเสียอีก ถือเป็นอีกข้อพิสูจน์ไปในตัว “งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ นี่ก็สายแล้ว”
“โอเค… ทุกคนขึ้นรถเลยครับ อคิณพาพ่อ ๆ ขึ้นรถเลย “ พิธาเปิดประตูเบาะหลังให้เด็กชาย ก่อนจะเดินมาเปิดประตูให้กับอัญชลีที่เบาะข้างคนขับอีกคน “ทุกคนพร้อมนา เราจะไปทำบุญกันแล้วต่อด้วยเล่นเกมเนอะ” หันมาพูดกับลูกศิษย์ ส่วนเจ้าตัวยิ้มพยักหน้าหงึก ๆ ตกลง จากนั้นทั้งสามคนก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังวัดทันที
รถเก๋งเลี้ยวเข้ามาจอดภายในบริเวณวัด บรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น ทั้งสามคนกุลีกุจอขนของที่นำมาถวายลงจากรถช่วยกัน โดยมีเจ้าอาวาทวัดยืนมองอยู่ที่ศาลา กระตุกยิ้มให้กับหลานชาย
ทั้งสามคนเดินเข้ามาภายในศาลาวัด เจ้าอาวาทนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “นมัสการครับหลวงลุง” พิธาเอ่ยกับเจ้าอาวาทวัด อีกทั้งอัญชลีด้วยที่พูดตามหลัง
“ไหว้เพราะเถอะลูก ไปยังไงมายังไงล่ะสองคน” เจ้าอาวาทวัดถาม ปรายตามองหลานชาย แม้รู้ความนัยแล้วก็ตาม
“อ้อ ลีเป็นคนชวนคุณครูเขามาเองค่ะหลวงตา คุณพิธาเขาช่วยดูแลอคิณให้ลีตลอดเลยที่ลีไปรับลูกช้า ก็เลยอยากขอบคุณชวนมาทำบุญด้วยกันในวันนี้ค่ะ” อัญชลีเป็นคนตอบ เจ้าอาวาทพยักหน้ารับรู้
“ผมก็ถือโอกาสมาเยี่ยมหลวงลุงด้วยครับ ช่วงนี้งานที่โรงเรียนค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยได้มาหาหลวงลุง และก็จัดการอาสาเป็นคนขับรถให้คุณอัญชลีด้วยเลย ไหน ๆ เราก็มาวัดที่เดียวกันอยู่แล้ว” พิธาตอบ แอบเขินหลวงลุงของตนเองอยู่ในที เพราะหลวงลุงทราบเรื่องหัวใจของตนเองแล้ว
“อันไหนปล่อยวางได้ก็ยอมปล่อยวางเถอะนะโยม ยึดถือไว้ก็เป็นทุกข์เปล่า ๆ เขาเองก็พลานจะทุกข์ไปด้วย” เจ้าอาวาทพูด
“ลีทราบค่ะหลวงตา” อัญชลีตอบ เข้าใจที่เจ้าอาวาทพูดว่าสื่อถึงอะไร
“มาถวายสังฆทานรับพรกันก่อน เอ้าเจ้าตัวเล็กพาพ่อมาด้วยเหรอ ขยับเข้ามาใกล้หลวงตานี่มา” เจ้าอาวาทหันมาคุยกับอคิณด้วยความเอ็นดู เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่พ่อเสียคนเป็นแม่ก็พามาทำบุญด้วยเรื่อยมา
“ครับหลวงตา อคิณอยากให้พ่อ ๆ มาทำบุญด้วยครับ” เด็กชายตอบเสียงใสแจ๋ว ไร้เดียงสาเหลือเกิน
“อ่ะพร้อมกันนะ บอกพ่อ ๆ มารับบุญที่อคิณทำให้วันนี้นะ” หลวงตาพูดปนยิ้มให้กับเด็กชาย ทั้งอัญชลี และ พิธาต่างหันมายิ้มให้ เด็กชายตอบฉะฉาน เรียกรอยยิ้มให้ทุกคนได้เป็นอย่างดี
หลังจากทำบุญอยู่สนทนากับเจ้าอาวาทสักพัก ทั้งสามก็ขอตัวกลับ เพราะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กชาย อีกอย่างเจ้าตัวก็เริ่มงอแงคนเป็นแม่แล้วด้วย พิธากับอัญชลีจึงขอลากลับ พาเด็กชายไปเล่นเครื่องเล่นสมใจ
พิธาขับรถพาสองแม่ลูกมายังห้างสรรพสินค้าที่เดิม เพื่อมาเล่นเครื่องเล่นอันเดิม มาถึงเด็กชายก็วิ่งปราดเข้าไปหาเครื่องเล่นกันเลย อัญชลีส่ายหัวให้กับลูกชายค่อนขอดให้เบา ๆ ทั้งสองคนนั่งรอที่เก้าอี้ใกล้ ๆ เครื่องเล่นนั้น
“ดูท่าจะมีความสุขนะครับน่ะ” พิธาชวนคุย ระหว่างนั่งรอ
“ลีขอบคุณ ๆ พิธานะคะ ที่ชวนมา อคิณคงมีความสุขมาก ลีเป็นแม่ที่แย่อีกเรื่องแล้ว แค่สัปดาห์ละครั้งยังให้ลูกไม่ได้” เธอพูดเบา ๆ ขณะจ้องมองลูกชายเล่นเครื่องเล่นอยู่
“อย่าโทษตัวเองเลยครับ คุณปวินก็คงไม่สบายใจถ้าได้ยินคุณลีพูดแบบนี้” เขาปลอบใจ อัญชลีหันมามองหน้าเขา “ถ้าคุณลีจะกรุณายอมไว้ใจผม ให้ผมดูแลอคิณ พามาแบบนี้บ่อย ๆ ก็ไดนะครับ อาทิตย์ละวัน ! คุณลีไม่ว่างมาก็ไม่เป็นไร ผมมากับอคิณได้” เขาพูดคำเดิมที่เคยขอไปก่อนหน้านั้น แม้จะดูไม่สมเหตุสมผลนักก็ตาม เพราะมันดูไม่จำเป็นเลยสำหรับคนอื่นอย่างเขา
“ลีขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ต่อไปลีจะพาลูกมาบ่อย ๆ แล้วล่ะ ถ้าคุณพิธายืนยันแบบนั้น งั้นลีก็คงไม่ขัดค่ะ ถ้าคัดค้านอคิณคงหาว่าลีเป็นแม่ ๆ ใจร้ายแน่เลย แต่ลีขอมาด้วยคนนะคะ” อัญชลีพูดกลั้วยิ้ม ความสุขของลูกชายคนเดียวทำให้ได้อยู่แล้ว
พิธาตาลุกวาว ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ดีใจอย่างบอกไม่ถูก “เอางี้ วันไหนคุณลีสะดวกบอกผมนะครับ ผมว่างเสมอ” เขาลนลานรีบตอบด้วยความดีใจ ทำเอาคนฟังจับความตื่นเต้นนั้นได้ ทำให้สาวเจ้าหัวเราะตนเองไปอีก
“ลีรักอคิณมากเลยนะคะ ใจหนึ่งก็สงสงสารลูกด้วย ที่ไม่ได้รับไออุ่นจากพ่อของตนเองเลย ปวินเสียตอนอคิณได้สามขวบพอดี แกก็เลยไม่รู้เลยว่าอ้อมกอดของพ่อเป็นเช่นไร” ทั้งสองคนนั่งพูดคุยกันรอเด็กชายเล่นเกม
“วินเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุค่ะ รถคว่ำ” เธอหันมายิ้มให้กับพิธา ยอมเล่าเรื่องพ่อของลูกให้ฟัง เพราะสนิทกันมากกว่าเดิมแล้วนั่นแหละ “เพราะฉะนั้นลีจะเสียลูกไปอีกคนไม่ได้ ลีเสียวินไปแล้วลีจะเสียอคิณไปไม่ได้ค่ะ ถ้าเกิดอคิณเป็นอะไรขึ้นมาลีคงอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้ อคิณเป็นชีวิตของลี” เธอพูดปนยิ้ม ปรายตามองไปที่ลูกชายตัวน้อย ที่มีใบหน้าคล้ายคนเป็นพ่อเหลือเกิน
“คุณลี…ไม่เป็นไรนะครับ คุณลียังมีอคิณคอยเติมเต็มชีวิต” เขาปลอบโยนเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ “ผมเองชีวิตก็ไม่ได้มีความสุขมากนัก” พอเขาพูดแบบนี้ อัญชลีเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม เขายิ้มเอ็นดูให้กับความสงสัยของสาวเจ้า ยอมเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังเช่นกัน
“ผมเคยมีแฟนครับ เราตกลงจะแต่งงานกัน ทว่าก็ดันมีเรื่องทำให้ต้องเลิกกันก่อน ผมก็เลยกลับมาอยู่กรุงเทพเหมือนเดิม และก็… ที่ผมเสียใจที่สุดคือ…” พิธาหยุดไว้เพียงเท่านี้ ยิ้มให้กับความเสียใจนั้น ทั้งที่ตนเองไม่ผิดอะไร และ ลูกก็ไม่ผิดอะไรด้วย
“และก็อะไรคะ ! เอ่อ… คุณพิธาไม่สะดวกเล่าก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ ลีเข้าใจคุณพิธานะคะ” ฉีกยิ้มให้ครูหนุ่ม
“อ้อ สะดวกเล่าสิครับ ผมสบายมาก ผมกับแฟนเรามีลูกด้วยกันครับ ทว่าเธอมีแฟนใหม่ระหว่างที่ท้องลูกผมอยู่ จากนั้นเธอก็ทำร้ายลูกของผม เพราะผู้ชายคนใหม่เขาดูดีกว่าผมที่เป็นครูกระจอก ๆ คนหนึ่งครับ “ เขารวบรัดตัดความให้กระชับที่สุด “ลำพังแค่อกหักผมทำใจได้นะครับ ทว่าเรื่องลูกผมทำใจไม่ได้จริง ๆ ก็เลยขอย้ายกลับมาสอนที่กรุงเทพนี่แหละครับ ถ้าลูกมีโอกาสได้เกิดมา คงโตพอ ๆ กับอคิณ”
“โถ่คุณพิธา” อัญชลีทำหน้าเศร้า สงสารครูหนุ่มคนนี้จับใจที่สุด ถึงว่าทำไมดูเอ็นดูอคิณนัก อีกทั้งเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ อีก “แล้วทำไมเธอถึง…ขอโทษที่ถามนะคะ”
พิธายิ้ม “ไม่รู้สิครับ เพราะเธอเจอคนที่เพอร์เฟคกว่าผมมั้ง” พูดปนยิ้ม แม้จะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
อัญชลีเอื้อมมือมากุมมือของเขาเบา ๆ ทำเอาหัวใจของเขาเต้นแรง ถึงจะเจ็บปวดกับเรื่องที่ฝังใจทว่าปัจจุบันสำคัญกว่าอดีต “ไม่เป็นไรนะคะ ลีเชื่อว่าสักวันคุณพิธาต้องเจอคนที่ใช่ค่ะ” อัญชลีพูดปลอบใจก่อนที่เธอจะปล่อยมือ จากนั้นก็เรียกลูกชายให้เลิกเล่นแล้วไปหาอะไรทานกันค่อยกลับบ้าน เพราะนี่ก็ออกข้างนอกมาเกือบจะทั้งวันกันแล้ว
“คุณแม่อคิณยังไม่อยากกลับเลย อคิณอยากเล่นต่ออ่ะครูพิธา” เด็กชายออกอาการงอแง
“อคิณเกรงใจคุณครูพิธาครับ แค่นี้ก็รบกวนคุณครูมาทั้งวันแล้ว” อัญชลีดุลูกชายเบา ๆ
“ไม่เป็นไรครับคุณลี ไม่รบกวนเลย เอ่อ อคิณครับวันนี้กลับบ้านก่อนเนอะ วันหลังครูสัญญาจะพามาเล่นอีก โอเคมั้ย ! ถ้างอแงกับคุณแม่ครูไม่พามาอีกนะ” พิธาพูดกับลูกศิษย์ด้วยรอยยิ้ม พูดเอาใจคนเป็นแม่สักหน่อย แม้จะอยากตามใจคนเป็นลูกมากแค่ไหนก็ตาม
“วันไหนครับครูพิธา” เด็กชายไม่ยอม ถามเอาให้ได้
“วันหยุดครับ” พิธาตอบ จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปร้านอาหาร หาอะไรทานกันก่อนกลับบ้านกัน
………………………………………….
ดึกดื่นค่อนคืนพิธานอนไม่หลับ เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องวันนี้เมื่อตอนกลางวัน มีความสุขที่สุดที่ได้ใช้เวลากับอัญชลี ลูบวน ๆ ที่หลังมือของตนตลอดเวลา สัมผัสนุ่ม ๆ ของมืออัญชลีเมือตอนกลางวัน ตื่นเต้นที่สุด เป็นอีกก้าวของความสัมพันธ์ของตนเองคนเดียว ส่วนอัญชลียังไม่ยอมเปิดใจให้เลย ไม่เป็นไรแค่ไม่ปิดโอกาสก็พอแล้ว
นอนพลิกไปพลิกมาอยู่อย่างนั้น “คุณวินครับ คุณคงไม่หึงผมใช่ไหม อย่าหึงผมกับคุณลีเลยนะครับ ผมสัญญานะว่าผมจะทำหน้าที่แทนคุณวินเป็นอย่างดี จะดูแลอคิณกับคุณลีเป็นอย่างดีครับ คุณวินเชื่อใจผมนะ” พูดในใจพร้อมนึกถึงผู้ชายในรูปที่ลูกศิษย์ตัวน้อยถือไปด้วยในวันนี้
“ช่วยดลบันดาลให้คุณลีเปิดใจกับผมหน่อยนะครับ ถ้าคุณจะกรุณา ผมไม่ได้จะเข้ามาเป็นมือที่สามของคุณ แต่คุณไม่อยู่แล้ว ผมขอทำหน้าที่แทนคุณนะครับ คุณคงไม่ว่าผมเนอะ” ทันใดนั้นไฟในห้องก็กะพริบ ๆ สองครั้ง ทำเอาเขาตกใจนิดหน่อย ทว่าก็ไม่ได้คิดอะไร มันคงเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ
ระหว่างนึกถึงใบหน้าของอัญชลีเพลิน ๆ โทรศัพท์ดันมีสายเข้า พิธาหยิบขึ้นมาดู เป็นเบอร์ที่คุ้นมาก ๆ วิตา ! วิตาโทรหาตนเองทำไม…
จบบท…
ขอจองได้ไหมหัวใจดวงนี้…..บทที่ 8
.
พิธาตื่นแต่เช้ารีบแต่งตัวเสริมหล่อให้ตนเองเป็นพิเศษ ฉีดน้ำหอมฟุ้งตามตัว ก่อนจะรีบขับรถไปรับอัญชลีกับลูกชาย นี่เป็นครั้งแรกที่พิธาได้รับอภิสิทธิ์ให้ไปรับออกไปข้างนอก ปกติเพียงนัดเจอกันแล้วขับรถไปคนละคัน ดังนั้นตนเองต้องไม่ทำอะไรผิดพลาด อยากทำให้สาวเจ้ากับลูกชายประทับใจที่สุด
นึกไปนึกมาตลกตนเองเหมือนกัน แค้นเสียงหัวเราะเบา ๆ ให้กับการกระทำของตนหน้ากระจกแต่งตัว อินเลิฟอีกแล้วเหรอ ลงทุนทำขนาดนี้เพราะความรักว่างั้น ! เถอะน่าพิธา คุณอัญชลีคือคนที่หัวใจบอกว่ารอบนี้ใช่ชัวร์ ใช่แน่นอน พูดกับตนเองในกระจก
พอสำรวจตนเองเสร็จก็รีบขับรถไปยังบ้านของอัญชลีทันที วันนี้พวกเขาจะไปทำบุญที่วัดกับหลวงลุง จากนั้นก็พาอคิณไปเล่นเครื่องเล่นตามที่ได้สัญญากันเอาไว้
“มาแล้วครับอคิณ รอครูนานมั้ย” จอดรถที่หน้าบ้านของสาวเจ้า พูดกับเด็กชายที่ยืนอยู่กับคนเป็นแม่ บ้านของอัญชลีก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรลักษณะแบบทาวน์เฮ้าส์
“ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ตื่นอาบน้ำแต่งตัวรอตั้งแต่เช้านู่น” คนเป็นแม่อดแซวลูกชายไม่ได้ หมั่นไส้ลูกตนเองนัก พิธาหัวเราะพร้อมลูบศีรษะของลูกศิษย์เบา ๆ
“รอไม่นานเลยครับ” เด็กชายตอบ ในมือกอดรูปอัดกรอบของคนเป็นพ่อเอาไว้ เพราะเด็กชายจะเอาไปด้วยเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ไปเที่ยวกับคนเป็นแม่
พิธามองกรอบรูปในอ้อมแขนลูกศิษย์ ทว่ายิ้มให้เข้าใจการกระทำนั้นดี “อ้อ อคิณชอบให้พ่อไปเที่ยวด้วยเสมอค่ะ ลีห้ามแล้วไม่ฟังก็เลยตามใจกันเลย คุณพิธาไม่ขัดอะไรใช่มั้ยคะ” อัญชลีถามหยั่งเชิง ถือเป็นการลองใจครูหนุ่มคนนี้ไปในตัวด้วย ตนเองทราบนั่นแหละว่าครูหนุ่มคนนี้คิดเช่นไรด้วย ไม่เปิดโอกาสให้ทว่าก็ไม่ได้ปิดโอกาสซะทีเดียว
“ครูพิธาให้พ่อ ๆ ของอคิณไปด้วยนะครับ อคิณอยากให้พ่อ ๆ ไปด้วย” เด็กชายพูด ทำสายตาเว้าวอนให้กับครูประจำชั้น อีกทั้งหันไปมองคนเป็นแม่ด้วยอีกคน
“โถอคิณได้สิครับ ไม่ขัดข้องอะไรเลยครับคุณลี” ตอบกลั้วยิ้ม ไม่ขัดข้องอะไรจริง ๆ อย่างที่พูด ไม่ได้แกล้งทำเพื่อเอาใจหากแต่เป็นความรู้สึกจริง ๆ เขาเข้าใจความรู้สึกลูกศิษย์ตัวน้อยคนนี้ดี เพราะก็ไม่ต่างไปจากเขาเท่าไหร่นัก จะต่างก็เพียงแค่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ทว่าไม่ค่อยได้รับความอบอุ่นเท่าที่ควร นอกจากหลวงลุงที่มอบความเมตตาให้เขากับน้องชายมา
“คุณลีสบายใจเถอะนะครับ” ยิ้มให้สาวเจ้าด้วยความจริงใจ
อัญชลียิ้มตอบ นึกว่าจะขัดใจเสียอีก ถือเป็นอีกข้อพิสูจน์ไปในตัว “งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ นี่ก็สายแล้ว”
“โอเค… ทุกคนขึ้นรถเลยครับ อคิณพาพ่อ ๆ ขึ้นรถเลย “ พิธาเปิดประตูเบาะหลังให้เด็กชาย ก่อนจะเดินมาเปิดประตูให้กับอัญชลีที่เบาะข้างคนขับอีกคน “ทุกคนพร้อมนา เราจะไปทำบุญกันแล้วต่อด้วยเล่นเกมเนอะ” หันมาพูดกับลูกศิษย์ ส่วนเจ้าตัวยิ้มพยักหน้าหงึก ๆ ตกลง จากนั้นทั้งสามคนก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังวัดทันที
รถเก๋งเลี้ยวเข้ามาจอดภายในบริเวณวัด บรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น ทั้งสามคนกุลีกุจอขนของที่นำมาถวายลงจากรถช่วยกัน โดยมีเจ้าอาวาทวัดยืนมองอยู่ที่ศาลา กระตุกยิ้มให้กับหลานชาย
ทั้งสามคนเดินเข้ามาภายในศาลาวัด เจ้าอาวาทนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “นมัสการครับหลวงลุง” พิธาเอ่ยกับเจ้าอาวาทวัด อีกทั้งอัญชลีด้วยที่พูดตามหลัง
“ไหว้เพราะเถอะลูก ไปยังไงมายังไงล่ะสองคน” เจ้าอาวาทวัดถาม ปรายตามองหลานชาย แม้รู้ความนัยแล้วก็ตาม
“อ้อ ลีเป็นคนชวนคุณครูเขามาเองค่ะหลวงตา คุณพิธาเขาช่วยดูแลอคิณให้ลีตลอดเลยที่ลีไปรับลูกช้า ก็เลยอยากขอบคุณชวนมาทำบุญด้วยกันในวันนี้ค่ะ” อัญชลีเป็นคนตอบ เจ้าอาวาทพยักหน้ารับรู้
“ผมก็ถือโอกาสมาเยี่ยมหลวงลุงด้วยครับ ช่วงนี้งานที่โรงเรียนค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยได้มาหาหลวงลุง และก็จัดการอาสาเป็นคนขับรถให้คุณอัญชลีด้วยเลย ไหน ๆ เราก็มาวัดที่เดียวกันอยู่แล้ว” พิธาตอบ แอบเขินหลวงลุงของตนเองอยู่ในที เพราะหลวงลุงทราบเรื่องหัวใจของตนเองแล้ว
“อันไหนปล่อยวางได้ก็ยอมปล่อยวางเถอะนะโยม ยึดถือไว้ก็เป็นทุกข์เปล่า ๆ เขาเองก็พลานจะทุกข์ไปด้วย” เจ้าอาวาทพูด
“ลีทราบค่ะหลวงตา” อัญชลีตอบ เข้าใจที่เจ้าอาวาทพูดว่าสื่อถึงอะไร
“มาถวายสังฆทานรับพรกันก่อน เอ้าเจ้าตัวเล็กพาพ่อมาด้วยเหรอ ขยับเข้ามาใกล้หลวงตานี่มา” เจ้าอาวาทหันมาคุยกับอคิณด้วยความเอ็นดู เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่พ่อเสียคนเป็นแม่ก็พามาทำบุญด้วยเรื่อยมา
“ครับหลวงตา อคิณอยากให้พ่อ ๆ มาทำบุญด้วยครับ” เด็กชายตอบเสียงใสแจ๋ว ไร้เดียงสาเหลือเกิน
“อ่ะพร้อมกันนะ บอกพ่อ ๆ มารับบุญที่อคิณทำให้วันนี้นะ” หลวงตาพูดปนยิ้มให้กับเด็กชาย ทั้งอัญชลี และ พิธาต่างหันมายิ้มให้ เด็กชายตอบฉะฉาน เรียกรอยยิ้มให้ทุกคนได้เป็นอย่างดี
หลังจากทำบุญอยู่สนทนากับเจ้าอาวาทสักพัก ทั้งสามก็ขอตัวกลับ เพราะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กชาย อีกอย่างเจ้าตัวก็เริ่มงอแงคนเป็นแม่แล้วด้วย พิธากับอัญชลีจึงขอลากลับ พาเด็กชายไปเล่นเครื่องเล่นสมใจ
พิธาขับรถพาสองแม่ลูกมายังห้างสรรพสินค้าที่เดิม เพื่อมาเล่นเครื่องเล่นอันเดิม มาถึงเด็กชายก็วิ่งปราดเข้าไปหาเครื่องเล่นกันเลย อัญชลีส่ายหัวให้กับลูกชายค่อนขอดให้เบา ๆ ทั้งสองคนนั่งรอที่เก้าอี้ใกล้ ๆ เครื่องเล่นนั้น
“ดูท่าจะมีความสุขนะครับน่ะ” พิธาชวนคุย ระหว่างนั่งรอ
“ลีขอบคุณ ๆ พิธานะคะ ที่ชวนมา อคิณคงมีความสุขมาก ลีเป็นแม่ที่แย่อีกเรื่องแล้ว แค่สัปดาห์ละครั้งยังให้ลูกไม่ได้” เธอพูดเบา ๆ ขณะจ้องมองลูกชายเล่นเครื่องเล่นอยู่
“อย่าโทษตัวเองเลยครับ คุณปวินก็คงไม่สบายใจถ้าได้ยินคุณลีพูดแบบนี้” เขาปลอบใจ อัญชลีหันมามองหน้าเขา “ถ้าคุณลีจะกรุณายอมไว้ใจผม ให้ผมดูแลอคิณ พามาแบบนี้บ่อย ๆ ก็ไดนะครับ อาทิตย์ละวัน ! คุณลีไม่ว่างมาก็ไม่เป็นไร ผมมากับอคิณได้” เขาพูดคำเดิมที่เคยขอไปก่อนหน้านั้น แม้จะดูไม่สมเหตุสมผลนักก็ตาม เพราะมันดูไม่จำเป็นเลยสำหรับคนอื่นอย่างเขา
“ลีขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ต่อไปลีจะพาลูกมาบ่อย ๆ แล้วล่ะ ถ้าคุณพิธายืนยันแบบนั้น งั้นลีก็คงไม่ขัดค่ะ ถ้าคัดค้านอคิณคงหาว่าลีเป็นแม่ ๆ ใจร้ายแน่เลย แต่ลีขอมาด้วยคนนะคะ” อัญชลีพูดกลั้วยิ้ม ความสุขของลูกชายคนเดียวทำให้ได้อยู่แล้ว
พิธาตาลุกวาว ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ดีใจอย่างบอกไม่ถูก “เอางี้ วันไหนคุณลีสะดวกบอกผมนะครับ ผมว่างเสมอ” เขาลนลานรีบตอบด้วยความดีใจ ทำเอาคนฟังจับความตื่นเต้นนั้นได้ ทำให้สาวเจ้าหัวเราะตนเองไปอีก
“ลีรักอคิณมากเลยนะคะ ใจหนึ่งก็สงสงสารลูกด้วย ที่ไม่ได้รับไออุ่นจากพ่อของตนเองเลย ปวินเสียตอนอคิณได้สามขวบพอดี แกก็เลยไม่รู้เลยว่าอ้อมกอดของพ่อเป็นเช่นไร” ทั้งสองคนนั่งพูดคุยกันรอเด็กชายเล่นเกม
“วินเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุค่ะ รถคว่ำ” เธอหันมายิ้มให้กับพิธา ยอมเล่าเรื่องพ่อของลูกให้ฟัง เพราะสนิทกันมากกว่าเดิมแล้วนั่นแหละ “เพราะฉะนั้นลีจะเสียลูกไปอีกคนไม่ได้ ลีเสียวินไปแล้วลีจะเสียอคิณไปไม่ได้ค่ะ ถ้าเกิดอคิณเป็นอะไรขึ้นมาลีคงอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้ อคิณเป็นชีวิตของลี” เธอพูดปนยิ้ม ปรายตามองไปที่ลูกชายตัวน้อย ที่มีใบหน้าคล้ายคนเป็นพ่อเหลือเกิน
“คุณลี…ไม่เป็นไรนะครับ คุณลียังมีอคิณคอยเติมเต็มชีวิต” เขาปลอบโยนเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ “ผมเองชีวิตก็ไม่ได้มีความสุขมากนัก” พอเขาพูดแบบนี้ อัญชลีเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม เขายิ้มเอ็นดูให้กับความสงสัยของสาวเจ้า ยอมเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังเช่นกัน
“ผมเคยมีแฟนครับ เราตกลงจะแต่งงานกัน ทว่าก็ดันมีเรื่องทำให้ต้องเลิกกันก่อน ผมก็เลยกลับมาอยู่กรุงเทพเหมือนเดิม และก็… ที่ผมเสียใจที่สุดคือ…” พิธาหยุดไว้เพียงเท่านี้ ยิ้มให้กับความเสียใจนั้น ทั้งที่ตนเองไม่ผิดอะไร และ ลูกก็ไม่ผิดอะไรด้วย
“และก็อะไรคะ ! เอ่อ… คุณพิธาไม่สะดวกเล่าก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ ลีเข้าใจคุณพิธานะคะ” ฉีกยิ้มให้ครูหนุ่ม
“อ้อ สะดวกเล่าสิครับ ผมสบายมาก ผมกับแฟนเรามีลูกด้วยกันครับ ทว่าเธอมีแฟนใหม่ระหว่างที่ท้องลูกผมอยู่ จากนั้นเธอก็ทำร้ายลูกของผม เพราะผู้ชายคนใหม่เขาดูดีกว่าผมที่เป็นครูกระจอก ๆ คนหนึ่งครับ “ เขารวบรัดตัดความให้กระชับที่สุด “ลำพังแค่อกหักผมทำใจได้นะครับ ทว่าเรื่องลูกผมทำใจไม่ได้จริง ๆ ก็เลยขอย้ายกลับมาสอนที่กรุงเทพนี่แหละครับ ถ้าลูกมีโอกาสได้เกิดมา คงโตพอ ๆ กับอคิณ”
“โถ่คุณพิธา” อัญชลีทำหน้าเศร้า สงสารครูหนุ่มคนนี้จับใจที่สุด ถึงว่าทำไมดูเอ็นดูอคิณนัก อีกทั้งเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ อีก “แล้วทำไมเธอถึง…ขอโทษที่ถามนะคะ”
พิธายิ้ม “ไม่รู้สิครับ เพราะเธอเจอคนที่เพอร์เฟคกว่าผมมั้ง” พูดปนยิ้ม แม้จะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
อัญชลีเอื้อมมือมากุมมือของเขาเบา ๆ ทำเอาหัวใจของเขาเต้นแรง ถึงจะเจ็บปวดกับเรื่องที่ฝังใจทว่าปัจจุบันสำคัญกว่าอดีต “ไม่เป็นไรนะคะ ลีเชื่อว่าสักวันคุณพิธาต้องเจอคนที่ใช่ค่ะ” อัญชลีพูดปลอบใจก่อนที่เธอจะปล่อยมือ จากนั้นก็เรียกลูกชายให้เลิกเล่นแล้วไปหาอะไรทานกันค่อยกลับบ้าน เพราะนี่ก็ออกข้างนอกมาเกือบจะทั้งวันกันแล้ว
“คุณแม่อคิณยังไม่อยากกลับเลย อคิณอยากเล่นต่ออ่ะครูพิธา” เด็กชายออกอาการงอแง
“อคิณเกรงใจคุณครูพิธาครับ แค่นี้ก็รบกวนคุณครูมาทั้งวันแล้ว” อัญชลีดุลูกชายเบา ๆ
“ไม่เป็นไรครับคุณลี ไม่รบกวนเลย เอ่อ อคิณครับวันนี้กลับบ้านก่อนเนอะ วันหลังครูสัญญาจะพามาเล่นอีก โอเคมั้ย ! ถ้างอแงกับคุณแม่ครูไม่พามาอีกนะ” พิธาพูดกับลูกศิษย์ด้วยรอยยิ้ม พูดเอาใจคนเป็นแม่สักหน่อย แม้จะอยากตามใจคนเป็นลูกมากแค่ไหนก็ตาม
“วันไหนครับครูพิธา” เด็กชายไม่ยอม ถามเอาให้ได้
“วันหยุดครับ” พิธาตอบ จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปร้านอาหาร หาอะไรทานกันก่อนกลับบ้านกัน
………………………………………….
ดึกดื่นค่อนคืนพิธานอนไม่หลับ เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องวันนี้เมื่อตอนกลางวัน มีความสุขที่สุดที่ได้ใช้เวลากับอัญชลี ลูบวน ๆ ที่หลังมือของตนตลอดเวลา สัมผัสนุ่ม ๆ ของมืออัญชลีเมือตอนกลางวัน ตื่นเต้นที่สุด เป็นอีกก้าวของความสัมพันธ์ของตนเองคนเดียว ส่วนอัญชลียังไม่ยอมเปิดใจให้เลย ไม่เป็นไรแค่ไม่ปิดโอกาสก็พอแล้ว
นอนพลิกไปพลิกมาอยู่อย่างนั้น “คุณวินครับ คุณคงไม่หึงผมใช่ไหม อย่าหึงผมกับคุณลีเลยนะครับ ผมสัญญานะว่าผมจะทำหน้าที่แทนคุณวินเป็นอย่างดี จะดูแลอคิณกับคุณลีเป็นอย่างดีครับ คุณวินเชื่อใจผมนะ” พูดในใจพร้อมนึกถึงผู้ชายในรูปที่ลูกศิษย์ตัวน้อยถือไปด้วยในวันนี้
“ช่วยดลบันดาลให้คุณลีเปิดใจกับผมหน่อยนะครับ ถ้าคุณจะกรุณา ผมไม่ได้จะเข้ามาเป็นมือที่สามของคุณ แต่คุณไม่อยู่แล้ว ผมขอทำหน้าที่แทนคุณนะครับ คุณคงไม่ว่าผมเนอะ” ทันใดนั้นไฟในห้องก็กะพริบ ๆ สองครั้ง ทำเอาเขาตกใจนิดหน่อย ทว่าก็ไม่ได้คิดอะไร มันคงเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ
ระหว่างนึกถึงใบหน้าของอัญชลีเพลิน ๆ โทรศัพท์ดันมีสายเข้า พิธาหยิบขึ้นมาดู เป็นเบอร์ที่คุ้นมาก ๆ วิตา ! วิตาโทรหาตนเองทำไม…
จบบท…