สดๆ เพิ่งเจอมาเมื่อไม่กี่ ชม. มานี้ ครับ

ผมพึ่งเขียนกระทู้เป็นครั้งแรก ผิดถูกยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ
   ..สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนครับ ผมได้เห็นและได้อ่านหลายๆกระทู้มาบ้าง จึงอยากแบ่งปันกระสบการณ์ที่พึ่งเจอมาเมื่อไม่กี่ ชม. นี้นะครับ
  จากเรื่องเล่าหลายๆเรื่องที่ผมได้อ่าน ทำให้ผมรู้ว่า คนที่มีสัมผัสแบบนี้ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว เพราะผมก็เจอมาตั้งแต่เด็กๆ เลยชินกับเรื่องแบบนี้พอสมควร
และเริ่มจากวันนี้ คือวันที่ผมมาเป็นเจ้าภาพทำพิธีสวดเพื่ออุทิศแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ (ในหลวงของเรานี่แหละครับ) ผมมากันเพื่อนสนิทของผมคนนึง มันชื่อกอล์ฟ  พอมาถึงวัด ผมกับเพื่อนก็ขึ้นไปบนพระวิหาร ก็คุยกับกรรมการของทางวัดและคนในชุมชนแถวๆนั้น แล้วก็เริ่มทำพิธี..
พอทำพิธีได้ซักพัก เพื่อนของผมมันก็ปวดฉี่ (คือทางวัดและคนในชุมชนบริการดีมากๆเลย ทั้งสถานที่ น้ำ น้ำชา เสิร์ฟให้ตลอดไม่มีขาดเลย แถมยังคุยแบบสนิทสนมเป็นกันเองสุดๆ) มันเลยชวนผมไปห้องน้ำ ผมเลยรีบไปส่ง เพราะกลัวมาไม่ทันทอดผ้าบังสกุล(เรียกงี้ปะเนี่ย) พอไปถึงห้องน้ำ(อยู่หลังวัดไกล้ๆที่รอดรถของทางวัด) เพื่อผมมันก็รีบไปเข้าไปฉี่ ผมเลยยืนสูบบุหรี่หน้าห้องน้ำ(ผมพกที่เก็บก้นบุหรี่ครับ ไม่ทำให้วัดสกปรกแน่นอน) และจากนี้แหละคือสิ่งที่ผมเจอ
(ผมเป็นคนเหนือครับ จึงขอใช้ภาษาเหนือ จะแปลไว้ให้ในวงเล็บครับ)
ผม: คิงเยี่ยวหยังเมินบะนิ เดี๋ยวไปบะตันทอดผ้าหนาบะ (ทำไมมืงฉี่นานวะ เดี๋ยวไปทอดผ้าไม่ทันนะ)
กอล์ฟ: รอฮากำ ตะกี้คนใหญ่เขาเอาน้ำนั่นน้ำนี้หื้อกิ๋นติ๊กๆบะ (รอกุแปป เมื่อกี้ผู้ใหญ่เขาน้ำนั่นน้ำนี้ให้กินเรื่อยๆ)
ผม: เออๆ ขะใจ๋หน๋าบะ (เออๆ รีบๆนะเว้ย)
จากนั้นผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ไม่ห่างจากหน้าห้องน้ำซักเท่าไหร่ สวยแบบไทยๆ (ที่ไม่ได้แต่งหน้าแบบป้าที่ข้างบ้านด้วย) ไม่ใส่เสื้อผ้า แถมยังนั่งเล่นและทำตัวเหมือนเด็กๆอีก ผมเลยมองไปเรื่อยๆ แล้วผมก็คิดในใจ "คนบ้าหรอ.. เล่นเหมือนเด็กๆ เสื้อผ้าก็ไม่ใส่ แล้วเมื่อกี้ไม่มีใครนี่หว่า" แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หันมามองผม ผมก็ยิ้มให้(ตามมารยาทปกติเนอะ) แล้วเธอก็ลุกขึ้นมองผม มองซักแปปนึงเธอก็เดินไป แล้วเพื่อผมก็พูด
กอล์ฟ: เห้ย ฮาขอเบ้เบ้าเลาะ เจ็บต๊องบะ (เห้ย กุขอบุหรี่มวลดิ ปวดท้องวะ)
ผมก็เดินเอาไปให้  แล้วผมก็เดินมาหน้าห้องน้ำ พอผมมาหน้าห้องน้ำ ผมก็มองที่ผู้หญิงคนนั้น เห็นเธอเด็ดใบไม้ แล้วเดินมาหาผม พอเดินมาถึง ก็ยื่นใบไม้ให้ ผมยิ้มแล้วส่ายหัวไปมาเบาๆ เธอก็มองหน้าผม ทำหน้างงๆแล้วเอียงคอไปทางขวานิดๆ (ห้องน้ำหันหน้าไปทิศตะวันตก) เธอก็ทิ้งใบไม้แล้วเดินไปไกล้ๆกับที่เธอนั่งเล่นเมื่อกี้ เธอเหมือนจะมองหาอะไรซักอย่าง ผมก็มองเธอ(สูบบุหรี่ไปด้วย) แล้วลุงกรรมการวัดก็เดินมาที่ห้องน้ำเพื่อมาเรียกผมกับเพื่อน เพราะเดี๋ยวจะทอดผ้าบังสกุลแล้ว ผมยิ้มแล้วก้มหัวให้ลุงแกนิดหน่อย แล้วมองที่ผู้หญิงคนนั้นต่อ ลุงแกก็มองตาม แล้วหันมามองหน้าผม ผมเลยถามลุงแก
ผม: มีอะหยั๋งก่อคับลุง (มีอะไรรึเปล่าครับลุง)
ลุง: บ่อมีหยังๆ ขะใจ๋ไปบนวิหารเน้อ (ไม่มีอะไรๆ รีบๆไปบนพระวิหารนะ)
แล้วลุงแกก็รีบเดินกลับไป ผมเลยคิดในใจว่า "ทำไมถึงรีบไป ทำไมไม่เดินไปพร้อมกัน.." แล้วเพื่อนผมก็ออกจากห้องน้ำพอดีแล้วชวนกลับไปบนพระวิหาร ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี(ปลื้มมากครับ เพราะทุกคนตั้งใจทำพิธีแบบสุดๆ)
พอเสร็จจากการทำพิธี กรรมการวัดก็ชวนคุยรายละเอียดครั้งต่อไป แต่ผมบอกให้เพื่อนฟังรายละเอียดให้หน่อย เพราะผมจะลงไปคุยกับพระในสิ่งที่ผมได้เจอเมื่อซักครู่
พอไปถึงหน้ากุฏิ เจอหลวงพี่พอดี เลยนมัสการหลวงพี่แล้วถามท่าน
ผม: นมัสการคับตุ๊ปี่ (นมัสการครับหลวงพี่)
หลวงพี่: เจริญพรเน้อโยม มีหยังก่อโยม (เจริญพรนะโยม มีอะไรหรือเปล่า)
ผม: ตุ๊ปี่ ตี่วัดนี้มีผีบ้าแม่ยิงอยู่หลังวัดตวยก่ะคับ (หลวงพี่ ที่วัดมีคนบ้าผู้หญิงอยู่หลังวัดด้วยหรอครับ)
หลวงพี่: (ยิ้ม)ไปมีหยังโยม โยมหันก๊ะ (ไม่มีหรอกโยม โยมเห็นหรอ)
ผม: คับตุ๊ปี่ ผมป๊ะตะกี้นิ (ครับหลวงพี่ ผมเจอเมื่อกี้)
หลวงพี่: แล้วเป๋นหยังผ่องก่อ (แล้วเป็นอะไรบ้างไหม)
ผม: (งงนิดๆ) บ่อเป็นหยังลุ๊คับ มีหยั๋งแน๊ะคับ (ไม่เป็นอะไรครับ มีอะไรหรอครับ)
หลวงพี่: โจ๊คดีละโยมเหย กู่เตื่อไผ๋ตี่โดนนิ๊หน๋า เจ๊บหนักกู่ราย (โชคดีละโยมเอ้ย ปกติใครที่โดนนะ เจ็บหนักทุกราย)
ผม: (รู้แล้วว่าเจออะไร แต่ยังงงว่าทำไมถึงเจ็บหนัก) แล้วเป๋นหยั๋งถึงเจ็บหนักคับตุ๊ปี่ (แล้วทำไมถึงเจ็บหนักครับหลวงพี่)
หลวงพี่: ผี๋ตะเคียนตี่อยู่วัดนี้นะก่ะโยม คนเฒ้าเปิ้นเล่ากั๋นมา สมัยตุ๊ลุงยังอยู่ปุ้นละ (ผีตะเคียนที่อยู่วัดนี้นี่แหละโยม คนเฒ้าคนแก่เขาเล่ากันมา สมัยหลวงตาท่านยังอยู่โน่นแหละ)
ผม: เล่าหื้อฟังจิ่มได้ก่อคับตุ๊ปี่ (เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับหลวงพี่)
หลวงพี่: ได้ก่ะโยม.. สมัยตะก่อนตี่ตุ๊ลุงยังอยู่ ต๋อนนั้นตุ๊ปี่ยังเป๋นเณรอยู่ แกกะบอกหื้อเณรกู่คนฮู้ ว่า "เณร บะค่ำบะคืน สู๋บะดีไปหลังวัดหน๋า ถ้าสู๋จะไปกะไปกั๋นหลายๆคน บะอั้นกะมาบอกตุ๊ลุงตวย บะอั้นฮาจ่วยหยังสูบะได้หน๋า มันมีตะเคียนอยู่"  เพราะว่า ตะเมินสมัยตุ๊ปี่ยังละอ่อน แม่ตุ๊ปี่เกยเล่าหื้อฟังว่า มีคนต๋ามบ้านตุ๊ปี่เนี่ย เป้นจื่อลุงแหว่ง แกเป็นคนขี้ลักขี้จก ลักสตางไปเล่นพ๊าย แกลักของลักสตางเปิ้นไปโข่ย คนเปิ้นบอล่ำปอลือ ละกำนั้น แกท่าจะไปลักสตางวัดนิ ผี๋บะปั๋นบะโผดก่ะ มาลักตู้สตางวัดนิ ท่าจะโดนตะเคียนบีบคอกะ คอมีก่าฮอยม๊านมือ ต๋ายข้างๆตู้สตางตี่หลังวัดนิ กำแรกบะใจ่มีไผ๋ฮู้ ตอนนั้นตุ๊ลุงแกบ่อสบายนอนอยู่โฮงยา เณรตี่วัดกะไปเผ้ากั๋นหมดกั๋นเซี้ยง ซักตี๋2ตี๋3นิก้า ตุ๊ลุงแกกะบอกเณรหื้อไปบอกกรรมการวัด ว่ามีคนต๋ายหลังวัดหน๋า หื้อไปผ่อกำ กำนั้นเณรเข๋าก่ะไปบอกก่ะ ซักบะเจ๊าเนี๊ยะ กรรมการวัดเข๋ากะไปผ่อหลังวัด ก่ะป๊ะลุงแหว่งตายหลังวัด ข้างๆตู้สตางวัด คอม๊านฮอยมือเต๋มคอเลย คนเฒ่าเปิ้นว่าฮอยมือใหญ่ขนาด ฮอยม๊านมือเดียวเต๋มคอเลย กำนั้นหลังจากญาติปี่น้องลุงแหว่งเอาศพแกไปทำพิธี ต๋อนที่ศพแกทำพิธีจ๋นถึงวันเผ๋า ป่อแม่ตุ๊ปี่บะใจ่หื้อไปงานศพเลยหนา  จ๋นเผ๋าแล้วแล้ว กรรมการกับคนบ้านเปิ้นกะมาถามตุ๊ลุงว่าเป็นหยังตุ๊ลุงฮู้ว่าลุงแหว่งต๋ายหลังวัด ตุ๊ลุงแกก่ะบอกว่า "คืนตี่นอนโฮงยา ตุ๊ลุงแกหั๋นลุงแหว่งเข้าไปโย่งตู้สตางวัด ละอิ่เคียนมันหั๋น มันโขดเลยบีบคอลุงแหว่งต๋ายคาตี่เลย" ละตุ๊ลุงแกกะบอกแห๋มว่า "กำนี้บะค่ำบะคืนสู๋บะดีเข้าวัดถ้ามันบ่าจ๋ำเป๋นแต้ๆเน้อ อิ่เคียนมันบะใจ่ฮู้หน๋าไผ๋มาดีไผ๋มาฮ้าย" กำนั้นคนเปิ้นกะเล่ากั๋นมา บะแหน๋มขนาดวันงานของวัดแต๊ๆ ยังมีคนโดน ตึงละอ่อนตึงคนเฒ้า เมื่อยกันเป๋นติ๊ด แต่ตุ๊ปี่กะบ่าเกยโดนหนา ท่าจะย๊อนตุ๊ปี่อยู่ในศิลในธรรม เปิ้นเลยบะย๊ะหยั๋งตุ๊ปี่
(ได้สิโยม.. สมัยก่อนที่หลวงตายังอยู่ ตอนนั้นหลวงพี่ยังเป็นเณรอยู่ ท่านก็บอกให้เณรทุกคนว่า “เณร กลางค่ำกลางคืน อย่าไปหลังวัดนะ ถ้าจะไปก็ไปกันหลายๆคน ไม่งั้นก็บอกหลวงตาด้วย ไม่งั้นก็ช่วยพวกเณรไม่ได้นะ มันมีตะเคียนอยู่” เพราะเมื่อก่อน ตอนหลวงพี่ยังเด็กๆ แม่ของหลวงพี่เคยเล่าให้ฟังว่า มีคนแถวบ้านหลวงพี่คนหนึ่ง แกชื่อลุงแหว่ง แกเป็นคนมือไวติ่นไว ขโมยเงินไปเล่นไพ่ แกขโมยเงินไปทั่ว จนคนเขาล่ำลือ พอคราวนั้น แกคงจะไปขโมยเงินวัดเนี่ยแหละ ผีซ้ำกรรมซัด มาขโมย คงจะโดนตะเคียนบีบคอนั่นแหละ คอมีแต่รอยมือ ตายข้างๆตู้บริจาคที่หลังวัดเนี่ยแหละ ทีแรกคงไม่มีใครรู้ ตอนนั้นหลวงตาท่านไม่สบายนอนอยู่ที่ รพ. เณรที่วัดก็พากันไปเฝ้าทุกคน ประมาณตี2ตี3เนี่ยแหละ หลวงตาท่านก็บอกเณรให้ไปบอกกรรมการวัดว่า”มีคนตายหลังวัดนะ ให้ไปดูหน่อย”เณรก็ไปบอก ประมาณตอนเช้า กรรมการวัดก็เข้าไปดูหลังวัด ก็เจอลุงแหว่งหลังวัด ข้างๆตู้บริจาคของวัด คอมีรอยช้ำมือเต็มคอเลยคนเฒ้าคนแก่ท่านว่ารอยมือใหญ่มากรอยช้ำจากมือข้างเดียวเต็มคอเลย จากนั้นญาติพี่น้องลุงแหว่งก็เอาศพไปทำพิธีที่บ้าน ตอนศพแกทำพิธีอยู่บ้านจนถึงวันเผา พ่อแม่หลวงพี่ไม่ให้ไปงานศพเลยนะ จนเผาเสร็จแล้ว กรรมการวัดและคนคนในชุมชนก็พากันมาถามหลวงตาว่า “ทำไมหลวงตารู้ว่าลุงแหว่งตายหลังวัด” หลวงตาท่านตอบว่า “คืนที่นอน รพ. หลวงตาท่านเห็นลุงแหว่งเข้าไปยกตู้บริจาคของวัด แล้วตะเคียนเห็น มันโกรธมากเลยบีบคอลุงแหว่งตายคาที่เลย”แล้วหลวงตาท่านก็บอกอีกว่า “คราวนี้กลางค่ำกลางคืนอย่าเข้าวัดถ้าไม่จำเป็นจริงๆนะ ตะเคียนมันไม่รู้ว่าใครมาดีมาร้าย” จากนั้นแล้วก็เล่ากันมา แม้แต่งานวัด ยังมีคนที่โดน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่สบายกันเป็นอาทิตย์ๆ แต่หลวงพี่ไม่เคยโดนนะ อาจจะเพราะหลวงพี่อยู่ในศิลในธรรม เขาเลยไม่ทำอะไรหลวงพี่)
ผม: เปิ้นท่าจะฮู้ว่าผมมาดีก้าคับเลยบะเป๋นหยั๋ง (เขาอาจจะรู้ว่าผมมาดีมั้งครับเลยไม่เป็นอะไร)
หลวงพี่: จะแต้ก่อหา ทะแล้วเจ้าภาพงานทำบุญหื้อตุ๊ลุงยังโดน เมื่อยไปจ๊าดหลายวันเลยนั่น (จะจริงหรอ คราวที่แล้วเจ้าภาพทำบุญอุทิศให้หลวงพ่อยังโดน ไม่สบายไปตั้งหลายวันเลยนะ)
ผม: ก่ะว่าหนาคับตุ๊ปี่ อั้นผมไปก่อนหนาคับ เปื่อนผมลงมาแล้วจะกลับละคับ เดี๋ยววันพูกผมมาตานขั๋นข้าวหื้อเปิ้นละกั๋นคับ กราบลาคับตุ๊ปี่ (ก็ว่าแบบนั้นแหละครับหลวงพี่ งั้นผมไปก่อนนะครับ เพื่อนผมลงมาแล้วจะกลับแล้วครับ เดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมจะมาถวายกับข้าวอุทิศให้เขาละกันครับ กราบลาครับหลวงพี่)
หลวงพี่: เจริญพรโยม อายุวรรณโณสุขังพลัง(เขียนผิดขออภัยครับ)เน้อ
ผม: สาธุ
   เพราะคุยเสร็จเพื่อนผมก็ลงมาหาผมพอดี ผมเลยชวนกลับ เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องเป็นเข้าภาพครั้งหน้า เพราะมันเริ่มดึกมากแล้ว..
พอผมกับเพื่อนไหว้หลวงพี่แล้วเดินกลับมาที่รถ ก็นึกได้ว่าเมื่อกี้ที่เจอก็ไกล้ๆที่จอดรถหลังวัด ถึงได้ไปถามหลวงพี่ ผมอยากบอกให้เพื่อนฟังนะแต่เพื่อนผมมันกลัวผีขึ้นสมองเลย เนื่องจากมันเคยเจอมาก่อน แต่ก็ไม่เจออะไรนะเว้นแต่ตอนกลับรถเพื่อจะออก หลังวัดมันค่อนข้างมืด ผมเลยต้องเปิดกระจกแล้วมองเพื่อถอยรถจะออก พอถอยรถเสร็จ ผมก็หันไปมันข้างหลังอีกที(ไม่รู้ทำไมถึงอยากหันไปมองนะ) ก็เห็นผู้หญิงคนเดิม เพิ่มเติมคือยืนยิ้มแล้วโบกมือบ๊ายบายใส่ ผมก็ยิ้มตอบแล้วพยักหน้านิดหน่อย พอเอาหัวเข้ามาในรถแล้วขับรถออกจากวัด เพื่อนผมก็ถาม มืงพยักหัวให้ใคร ผมหันมาดูมัน มันนี่เหมือนจะรู้เลยว่าผมไม่ได้พยักหน้าให้คน ดูมันกลัวมากเลย (มันรู้ว่าผมเจอผมเห็นอะไรแบบนี้บ่อยมาก) มันหน้าซีดเลย 5555 ผมเลยบอกมันไปว่า กุก็ก้มๆไปงั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก มืงไม่ต้องกลัว (ก็เพราะรู้ว่ามันกลัวนี่แหละเลยโกหกมัน) มันบอก โวบ๊ะะะะะะะ(ลากเสียง) (โกหกกกกกกก) แล้วผมก็ชวนมันเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วก็แวะกินข้าวร้านอาหารในตัวเมืองก่อนกลับ กลับมาแล้วผมก็มาเขียนกระทู้นี่แหละครับ (ลืมบอก ที่วัดมีไม้ตะเคียนอยู่2ท่อนนะครับ อยู่ในศาลาเปรียญตรงกันข้ามกับพระวิหาร)

จบแล้วครับ พรุ่งนี้จะไปทำบุญให้เขาซักหน่อย สงสัยหรืออยากถามอะไรก็ถามได้นะครับ ยกเว้นเรื่องสถานที่ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาหรืออะไรกับทางวัดครับ ยาวหน่อยขอโทษนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่